รีวิว ดินเนอร์วันเกิดที่ Vertigo Too Banyan Tree Bangkok
ballyfit25 17 3
สวัสดีค่ะ วันครบรอบวันเกิดที่ผ่านมา บอลได้มีโอกาสไปดินเนอร์กับสามีที่ Vertigo Too โรงแรมบันยันทรีมาค่ะ ก็เลยจะมารีวิวให้เพื่อนๆ ชมกัน ตอนแรกตั้งใจจะดินเนอร์บน Rooftoop กัน หาดูรีวิวหลายที่ก็มาลงตัวที่นี่เพราะใกล้บ้านเดินทางสะดวกไม่อยากฝ่าการจราจรติดขัด แม้จะเป็นวันเสาร์ก็ตามไปไหนไกลๆ ที่นี่สะดวกที่สุด
เราโทรจองโต๊ะที่ Vertigo and Moon Bar ไว้ก่อนหน้า 2 วันเพราะอยากมั่นใจว่ามีโต๊ะชัวร์ๆ และรีเควสโต๊ะที่วิวสวยๆ เนื่องในโอกาสพิเศษ แจ้งทางร้านว่าไปดินเนอร์วันเกิด เจ้าหน้าที่ที่รับจองแจ้งว่ามีเค้กให้ด้วยเลือกได้ว่าจะเอาเค้กรสวนิลาหรือช็อคโกแลต เลยเลือกเค้กช็อคโกแลตไป และเจ้าหน้าที่ก็แจ้งว่ามี Dress code ด้วยผู้ชายให้สวมเสื้อแขนยาวกางเกงขาวยาวรองเท้าปิดเท้า ส่วนผู้หญิงให้สวมรองเท้ามีส้น คือต้องแต่งตัวดูดีนั้นเอง เจ้าหน้าที่ก็ให้รหัสการจองมา เราจองไว้ตอน หกโมงแต่ตั้งใจไปถึงก่อนเวลาสักครึ่งชั่วโมงเพราะอยากชมบรรยากาศพระอาทิตย์ตกบน Rooftop แต่วันนั้นฝนตกเกือบทั้งวัน ตอนเย็นก็ยังตกปรอยๆ เราคิดว่าถึงไปเร็วก็คงไม่เห็นพระอาทิตย์ตกอยู่ดีเพราะฟ้าปิด เลยออกกจากบ้านกันประมาณหกโมงครึ่ง เรียกรถ Grab Car Plus มารับเพราะสามีจะดื่มและไม่อยากยุ่งยากในการจอดรถ เรียก Grab Car Plus ได้รถ Honda Accord ใหม่และนั่งสบายดีมากค่ะ อีกทั้งยังสะดวก คนขับรถสุภาพดีมากค่ะ
พอไปถึงที่โรงแรมก็แจ้งเจ้าหน้าที่โรงแรมว่ามา Vertigo Rooftop เจ้าหน้าที่ก็แจ้งทางไปขึ้นลิฟท์ขึ้นไปชั้น 59 พอไปถึงก็มีเจ้าหน้าที่เช็คการจอง เราก็แจ้งหมายเลขการจองไปค่ะ
เราโทรจองโต๊ะที่ Vertigo and Moon Bar ไว้ก่อนหน้า 2 วันเพราะอยากมั่นใจว่ามีโต๊ะชัวร์ๆ และรีเควสโต๊ะที่วิวสวยๆ เนื่องในโอกาสพิเศษ แจ้งทางร้านว่าไปดินเนอร์วันเกิด เจ้าหน้าที่ที่รับจองแจ้งว่ามีเค้กให้ด้วยเลือกได้ว่าจะเอาเค้กรสวนิลาหรือช็อคโกแลต เลยเลือกเค้กช็อคโกแลตไป และเจ้าหน้าที่ก็แจ้งว่ามี Dress code ด้วยผู้ชายให้สวมเสื้อแขนยาวกางเกงขาวยาวรองเท้าปิดเท้า ส่วนผู้หญิงให้สวมรองเท้ามีส้น คือต้องแต่งตัวดูดีนั้นเอง เจ้าหน้าที่ก็ให้รหัสการจองมา เราจองไว้ตอน หกโมงแต่ตั้งใจไปถึงก่อนเวลาสักครึ่งชั่วโมงเพราะอยากชมบรรยากาศพระอาทิตย์ตกบน Rooftop แต่วันนั้นฝนตกเกือบทั้งวัน ตอนเย็นก็ยังตกปรอยๆ เราคิดว่าถึงไปเร็วก็คงไม่เห็นพระอาทิตย์ตกอยู่ดีเพราะฟ้าปิด เลยออกกจากบ้านกันประมาณหกโมงครึ่ง เรียกรถ Grab Car Plus มารับเพราะสามีจะดื่มและไม่อยากยุ่งยากในการจอดรถ เรียก Grab Car Plus ได้รถ Honda Accord ใหม่และนั่งสบายดีมากค่ะ อีกทั้งยังสะดวก คนขับรถสุภาพดีมากค่ะ
พอไปถึงที่โรงแรมก็แจ้งเจ้าหน้าที่โรงแรมว่ามา Vertigo Rooftop เจ้าหน้าที่ก็แจ้งทางไปขึ้นลิฟท์ขึ้นไปชั้น 59 พอไปถึงก็มีเจ้าหน้าที่เช็คการจอง เราก็แจ้งหมายเลขการจองไปค่ะ
เจ้าหน้าที่แจ้งว่า Vertigo and Moon Bar ไม่น่าจะเปิดให้บริการได้เพราะฝนยังคงตกปรอย ๆ เราก็รู้สึกผิดหวังหน่อยๆ เพราะวันนี้เป็นวันเกิดอยากฉลองวันเกิดแบบพิเศษๆ บน Rooftop Bar เพราะไม่เคยไปเลย แต่ไม่เป็นไร Rain can’t destroy my best day เจ้าหน้าที่นำเราไปที่โต๊ะในห้องอาหาร Vertigo Too แทนค่ะ ตอนแรกได้โต๊ะไม่ค่อยโอเค เราเลยงอแงขอเปลี่ยนที่ (วันเกิดขอเรื่องมากหน่อย 555) เจ้าหน้าที่ก็พาไปดูห้องอาหารชั้น 55 แทน ซึ่งเราก็ไม่ชอบ ชอบบรรยากาศของ Vertigo Too มากกว่า ก็เลยกลับไปชั้นเดิมแต่ได้โต๊ะที่ดีขึ้นซึ่งมีกระจกเห็นวิวบรรยากาศของตึกระฟ้าของกรุงเทพได้ดีกว่าโต๊ะเดิม
Vertigo Too เป็น Lounge Bar ตั้งอยู่ชั้น 59 ของโรงแรม Banyan Tree กรุงเทพ บนถนนสาทร เดินทางสะดวกมากๆ เพราะอยู่ใจกลางเมือง คืนวันเสาร์ที่เราไปคนไม่ค่อยมาก อาจจะเพราะฝนตกด้วยมั้ง บรรยากาศเลยสบายๆ ตกแต่งสวยงาม หรูหรา ไฟสลวยๆหน่อย เพดานสูง โปร่งสบาย ทำให้ไม่อึดอัด บนเพดานติดไฟระยิบระยับเป็นจุดๆ เหมือนดวงดาวบนฟ้า ไฟตกแต่งม่วง สลวยๆ โรแมนติกมากๆ มีเวทีตรงกลาง มีกระจกรูปโค้งสองฝั่งให้ชมวิวของเมือง ด้านบนมีโต๊ะให้นั่งดื่มชมบรรยากาศสำหรับใครที่ไม่ได้มาทานอาหารจริงจัง ส่วนเรานั่งด้านล่างเพราะมาเพื่อทานอาหารจริงจัง แสงไฟจะสลวยๆ หน่อยตามสไตล์ Bar แต่ละโต๊ะก็จะจุดเทียน ช่วยสร้างบรรยากาศโรแมนติก แต่ไม่มีปัญหาเวลาดูเมนูเพราะเจ้าหน้าที่นำเมนูที่มีไฟในตัวมาให้ (เก๋ป่ะหล่ะ) เมนูอาหารและเครื่องดื่มที่เจ้าหน้าที่นำมาให้เป็นเมนูเดียวกับ Vertigo and Moon Bar ไม่แน่ใจว่าปกติเขาใช้เมนูเดียวกันไหม ซึ่งสามารถสั่งเป็น Set Menu หรือเป็น A la carte ก็ได้ แต่เราเลือกสั่งเป็น Set Menu สำหรับวันเกิดโดยเฉพาะ เพราะรวมเกือบทุกอย่างแล้ว ราคาประมาณ 3,9xx บาท/คน จำราคาเป๊ะๆไม่ได้ค่ะ
ก่อนอาหารมาเราสั่งเครื่องดื่มมาเรียกน้ำย่อยกันก่อน บอลเลือกดื่ม Cocktail ชื่อว่า Moon&Mars อร่อยดีแต่หวานไปหน่อย ตามมาด้วย Sparkling Wine ตาม Set Menu อาหารเรียกน้ำย่อยเป็นสลัดอโวคาโด อร่อยและเหมาะสำหรับคนรักสุขภาพอย่างเรา
ก่อนอาหารมาเราสั่งเครื่องดื่มมาเรียกน้ำย่อยกันก่อน บอลเลือกดื่ม Cocktail ชื่อว่า Moon&Mars อร่อยดีแต่หวานไปหน่อย ตามมาด้วย Sparkling Wine ตาม Set Menu อาหารเรียกน้ำย่อยเป็นสลัดอโวคาโด อร่อยและเหมาะสำหรับคนรักสุขภาพอย่างเรา
อาหารหลักเป็นเนื้อวากิวย่างเราเลือกแบบ Rare เนื้อนุ่มลื่น อร่อย เห็นชิ้นเล็กๆ แต่ทานแล้วอิ่มมาก
ระหว่างทานอาหารก็มีดนตรีสดเล่นไป ส่วนมากจะเป็นเพลงฮิตติดหูทั้งเก่าและใหม่ ฟังสบายๆ สร้างบรรยากาศโรแมนติก
พอทานจานหลักเสร็จเจ้าหน้าที่ก็มาแจ้งว่ามีโต๊ะโซฟาใกล้เวทีว่าง เห็นวิวสวยกว่า สนใจย้ายโต๊ะไหม เราเลยตัดสินใจย้ายโต๊ะ เพราะนั่งสบายกว่าและเห็นวิวดีกว่า แต่เสียอย่างเดียวไม่สะดวกที่ต้องถอดรองเท้าเพราะเป็นโซฟาแบบยกขาขึ้นไปนั่ง
เจ้าหน้าที่ทุกคนสุภาพและดูแลดี มีบริการถ่ายรูปให้ด้วยปริ๊นให้ 1 ภาพและส่งให้ที่อีเมล์ด้วย ถูกใจตรงมีส่องไฟให้ด้วยถ้าแสงไม่พอภาพออกมาถูกใจมากค่ะ
เรามาทานของหวานกันต่อที่โต๊ะโซฟาที่ย้ายมาใหม่ ตรงนี้วิวดีขึ้นและเห็นเวทีดนตรีสด ถึงแม้จะอึกทึกขึ้นหน่อย แต่ก็ได้ดื่มด่ำเสียงเพลงแบบใกล้ชิด เพลงเพราะฟังสบายฟังได้เรื่อยๆ
ชอบเพลงนี้มากเลย Tonight I celebrate my love for you......
ประมาณสามทุ่มนิดๆ นักร้องก็ร้องเพลง Happy Birthday พนักงานก็เอาเค้กมาให้เป่า และถ่ายรูปให้เรียกว่าได้ฉลองวันเกิดอย่างประทับใจที่ Vertigo Too ในคืนนั้นค่ะถึงแม้จะไม่ได้ขึ้นไปชมวิวบน Rooftop Bar ก็ตามสามีก็ปลอบใจว่าเดี๋ยวเรากลับมาใหม่วันที่อากาศดีๆ แล้วกันนะ
วันนั้นเจอค่าเสียหายไป 12,xxx บาท เราก็บอกสามีจ๋าอย่างเกรงใจว่าไม่ต้องซื้อของขวัญวันเกิดให้นะ แค่นี้ก็ดีที่สุดแล้ว
สรุปรีวิวให้คะแนนดังนี้ คะแนนเต็ม 5
อาหาร 4/5
บริการ 4/5 หักคะแนนตรงที่เราจองโต๊ะพิเศษไว้น่าจะจองโต๊ะดีๆ ให้เราไว้แต่แรก แต่ก็เข้าใจแหละ เพราะฝนตก และ Vertigo Too อาจจะมีคนจองไว้ก่อนแล้ว เจ้าหน้าที่ก็คงพยายามบริการเราอย่างเต็มที่แล้ว
บรรยากาศ 4/5
ราคา 3/5 แพงจริงอะไรจริง นานๆ มาทีดีกว่า จะได้ไม่ล้มละลาย 5555
บริการ 4/5 หักคะแนนตรงที่เราจองโต๊ะพิเศษไว้น่าจะจองโต๊ะดีๆ ให้เราไว้แต่แรก แต่ก็เข้าใจแหละ เพราะฝนตก และ Vertigo Too อาจจะมีคนจองไว้ก่อนแล้ว เจ้าหน้าที่ก็คงพยายามบริการเราอย่างเต็มที่แล้ว
บรรยากาศ 4/5
ราคา 3/5 แพงจริงอะไรจริง นานๆ มาทีดีกว่า จะได้ไม่ล้มละลาย 5555