[How to] แต่งหน้ารับปริญญาโทนส้มสายเกา เน้นคุมมัน ติดทน ไม่เยิ้ม
iamsomsom
17
5
สวัสดีค่ะกลับมาพบกับส้มอีกแล้วค่ะ หลายมหาลัยตอนนี้อยู่ในช่วงรับปริญญากันอยู่ ต้องมีการเตรียมตัวเสียตังค์หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นค่าตัดชุด แต่งหน้า ทำผม รวมถึงดอกไม้และของขวัญต่างๆ หมดไปหลายแสน ถึงส้มจะไม่ได้รับปริญญาในช่วงนี้ แต่ส้มจะมาสอนแต่งหน้ารับปริญญา ที่เน้นคุมมัน ติดทน และไม่เยิ้ม เพราะต้องเดินตากแดดเป็นเวลานาน ไม่งั้นเครื่องสำอางไหลเยิ้มไม่น่าดูเลยจ้า อยากรู้ว่าส้มจะแต่งออกมาเป็นแบบไหน ถ้าไม่รอช้า เราจะพาไปดูขั้นตอนการแต่งกันเลย
1.Skincare
ขั้นตอนแรกเริ่มจากการลงสกินแคร์กันก่อน ส้มจะลงเซรั่มช่วยให้ผิวดูกระจ่างใส จากนั้นส้มใช้เจลว่านหางจระเข้ ตบเบาๆ บนใบหน้า ย้ำตบเบาๆ นะคะ เพราะเจลว่านหางจระเข้สามารถทาก่อนแต่งหน้าช่วยให้เมคอัพติดทนนานอีกด้วยค่ะ
2. Sunscreen
จากนั้นลงครีมกันแดด เพราะครีมกันแดดสำคัญกับผิวเรามาก ยิ่งเดินกลางแจ้งบ่อย ยิ่งต้องทาครีมกันแดดทุกครั้ง ส้มเลือกเป็นครีมกันแดดซับมันล็อคเมคอัพไม่ให้ไหลเยิ้ม จะเดินตากแดด กลางแจ้งทั้งที หน้าไม่มีเยิ้ม เพิ่มความมั่นใจได้เลยค่ะ
3. Makeup Base
หลังจากลงบำรุงและกันแดดเรียบร้อยแล้ว มาเริ่มขั้นตอนการแต่งหน้ากันเถอะ ส้มจะเริ่มด้วยลงเบสเขียวกันก่อน เพราะเบสเมคอัพเสมือนไพร์เมอร์ ช่วยปรับผิว ซ่อมแซมผิวให้ขาวกระจ่างใส กลบรูขุมขน และยังล็อคเครื่องสำอางให้ติดทนนาน งานสำคัญๆแบบนี้ห้ามลืมลงเบสเด็ดขาด
4. Foundation
การลงรองพื้น ควรเลือกรองพื้นที่มีคุณสมบัติในการปกปิดขั้นสูงสุด ติดทน ไม่เยิ้ม เพราะฉะนั้นส้มจะใช้รองพื้นซองแดง ใช้คู่กับฟองน้ำไข่ชุบน้ำหมาดๆ เพราะรองพื้นตัวนี้ช่วยให้ปกปิดทุกปัญหารอยต่างๆ กลบมิดจุดด่างดำได้ดีเยี่ยม ติดทน คุมมัน กันน้ำได้ด้วย เหมาะกับวันสำคัญๆ ที่ต้องการปกปิดเป็นพิเศษ
5. Concealer
คอนซีลเลอร์เป็นตัวช่วยให้ปกปิดริ้วรอยต่างๆ ให้เนียนกริบมากขึ้น ต่อให้นอนน้อยแค่ไหน แค่ใช้รองพื้นสูตรปกปิดขั้นสูงยังไม่พอ ต้องใช้คอนซีลเลอร์ด้วย ส้มเลือกคอนซีลเลอร์แบบ 2in1 ที่มีทั้งคอร์เรกเตอร์และคอนซีลเลอร์ในแท่งเดียว ส้มเอาด้านสีชมพูที่เป็นคอร์เรกเตอร์มาทาบริเวณใต้ตาช่วยให้ตาดูไบรท์ขึ้น และใช้ด้านคอนซีลเลอร์มาป้ายทั้งใต้ตา รอยสิว รอยดำรอยแดงต่างๆ จากนั้นส้มใช้นิ้วเกลี่ย แต่ควรระวังอย่าให้เป็นปื้น ไม่งั้นจะโป๊ะแตก
6.Contour Stick
วันสำคัญๆทั้งที โครงหน้าต้องเป๊ะ ส้มจะลงคอนทัวร์สติ๊กก่อน เหมือนเป็นการร่างโครงหน้า ร่างบริเวณโหนกแก้ม กราม กรอบหน้า ข้างสันจมูก และเบ้าตา และใช้ด้านไฮไลท์ร่างบริเวณสันจมูก โหนกแก้ม และริมฝีปาก จากนั้นใช้มือหรือฟองน้ำเกลี่ยให้หน้าดูมีมิติ
7. Blush Cream
งานแก้มที่ต้องการติดทน ส้มจะทาบลัชครีมก่อน เพราะบลัชครีมจะติดทนกว่าแบบฝุ่น งานรับปริญญาทั้งทีขอให้ติดทนไว้ก่อน งานแก้มแค่ลงแบบฝุ่นไม่พอ ต้องลงแบบครีมด้วย นอกจากนี้ยังทำให้พวงแก้มดูเปล่งปลั่ง สุขภาพดีแบบโกลว์ๆสไต์สายเกา
8. Powder
ต่อมาเราจะมาลงแป้งกันเถอะ ส้มเลือกเป็นแป้งโปร่งแสงคุมมัน ใช้คู่กับแปรง ทาให้ทั่วใบหน้า เป็นแป้งที่ใช้แล้วดี ส้มชอบตรงที่ใช้งานสะดวก คุมมันดีมาก และนานทั้งวัน ดีงามขนาดนี้ยัง dupe กับ Laura Mercier ได้เลยค่ะ
9. Eyebrow
เขียนคิ้วควรเลือกเป็นดินสอเขียนคิ้วมากกว่าที่เขียนคิ้วแบบฝุ่น และเลือกสีที่ใกล้เคียงกับสีผมมากที่สุด ส้มเลือกดินสอเขียนคิ้วโทนสีสุภาพและธรรมชาติ ส้มใช้สีเบอร์ #3 Brown เป็นสีน้ำตาลที่ไม่เข้มเกินไปและไม่อ่อนจนเกินไป เนื้อนุ่ม เขียนง่าย ส้มเอาด้านแปรงมาหวีขนคิ้ว หวีให้เส้นตั้งขึ้น และใช้ดินสอร่างบริเวณหางคิ้วตามรูปคิ้วของตัวเอง และเขียนโดยเน้นบริเวณหางคิ้วจนถึงช่วงกลางคิ้ว
10. Contour and Hilight
จากนั้นทำการเฉดดิ้งกรอบหน้าอีกครั้งด้วยคอนทัวร์แบบฝุ่น ช่วยให้หน้าดูมีมิติมากขึ้นจากเดิม ใช้ช่องคอนทัวร์ ปัดบริเวณกรอบหน้า โหนกแก้ม กราม ข้างสันจมูก และกระบอกตา
และใช้ช่องสีขาวมุก มาไฮไลท์บริเวณสันจมูก โหนกแก้ม และริมฝีปาก ให้หน้าดูพุ่งมากขึ้น
11. Eyeshadow
มาถึงขั้นตอนการแต่งตากันแล้ว ส้มเลือกเป็นพาเลตนี้นะคะ เริ่มที่ใช้สีน้ำตาลอ่อนสุดในพาเลตทาให้ทั่วเปลือกตาก่อนค่ะ
ใช้สีน้ำตาลอมแดงทาบริเวณชั้นพับตา โดยเว้นบริเวณกลางตาไว้
ใช้สีส้มอมแดงมาคัดเบ้าไปจนถึงหางตาล่าง
ใช้นิ้วมือแตะสีชมพูอมส้มเนื้อชิมเมอร์เอามาทาบริเวณกลางตา
ใช้แปรงตัดเฉียงจิ้มสีน้ำตาลเข้ม เอามาทาให้ชิดขอบตาเป็นอายไลเนอร์บางๆ และทาบริเวณหางตาบนจนถึงหางตาล่าง
ใช้สีส้มชิมเมอร์อ่อนๆ มาทำเป็นดอลลี่อายให้ตาดูกลมโตแบ๊วๆ
12. Eyeliner
อายไลเนอร์ไม่ควรเลือกเป็นเนื้อดินสอ เพราะมันจะเลืองลาง กับเนื้อเจลที่ทำให้ไหลเยิ้มเป็นแพนด้า ควรเลือกเป็นแบบเมจิกหรือแบบลิควิค ที่สำคัญต้องกันน้ำและไม่แพนด้าด้วย ส้มจะกรีดให้ชิดขอบตามากที่สุดและมีวิงหางตาเล็กน้อยก็พอ
13. Mascara
ต่อไปจะมาดัดขนตาและปัดมาสคาร่า ดัดตั้งแต่โคน กลางและปลาย โดยเน้นให้งอนมากที่สุด ปัดมาสคาร่าเน้นหนาๆและยาวๆ ปัดแบบหลายรอบ เพื่อให้ขนตาดูหนายาวราวกับติดขนตาปลอม ควรเลือกเป็นมาสคาร่าที่กันน้ำและไม่เป็นแพนด้า เช่นเดียวกันกับอายไลเนอร์ แต่ถ้าเพื่อนๆ อยากได้แบบปัดครั้งเดียว แนะนำเป็นมาสคาร่ารุ่นขนตาปลอมแท่งสีม่วงแบรนด์เดียวกันกับตัวนี้เลยจ้า
14. Cheek
ใช้บลัชออนแบบฝุ่นโทนสีชมพูตุ่นๆ อย่างสี 01 Honeymoon มาปัดบริเวณตั้งแต่โหนกแก้มจนถึงหน้าแก้ม เพื่อให้พวงแก้มดูมีสีสันอีกนิดๆๆๆๆ แต่ส้มจะไม่ใช้บลัชสีที่เข้มๆ สดๆ แทนที่จะเป็นธรรมชาติกลายเป็นเล่นงิ้วไปเลย ตามีสีสดอยู่แล้วด้วย
15. Lips
ขั้นตอนสุดท้ายคือการทาลิป ไม่ควรใช้ลิปกลอสเหนียวๆ เพราะมีคุณสมบัติติดทนน้อยมาก และเหนอะปากด้วย ควรเลือกลิปสติกเนื้อครีมมี่แมท ส้มเอา cute press ทาให้ทั่วปาก สีที่ใช้คือ สีเบอร์ 03 และใช้ Mille สี Cordia ทาข้างในปากและเม้มปาก ถ้าต้องการให้ลิปสติกติดทนมากขึ้น แนะนำให้ใช้ทิชชู่เม้มปากและทาซ้ำอีกรอบ
About This Look!
ลุคนี้จะเน้นความติดทนเป็นพิเศษ เพราะต้องเดินกลางแจ้งทั้งวัน ที่ต้องเจอทั้งแดด อากาศร้อน จะเหงื่อออกแค่ไหนเมคอัพก็ไม่ไหล ไม่เยิ้ม บวกกับโทนสีสดใสสายเกา สวยท้าแดดไม่ต้องกลัวหลุดระหว่างวัน
เป็นอย่างไรบ้างค่ะกับฟินิชลุคของส้มออกมาจะมีความโกลว์ๆ กับโทนสีส้มสดใส ท้าแดดร้อน กลางแจ้ง จะร้อนแค่ไหนก็ไม่กลัวเยิ้ม เดินนานแค่ไหนก็มั่น ถ้าเลือกไอเทมดีๆ แบบที่ส้มใช้อยู่และใช้จริง ที่สำคัญไอเทมแต่ละชิ้นราคาไม่แพง เพื่อนๆ สามารถหาซื้อได้ โดยไม่ต้องง้อเคาน์เตอร์แบรนด์และช่างให้เสียตังค์เป็นหลายๆบาท ทีาสำคัญประหยัดกว่าอีกด้วย และบทความนี้ขอจบเพียงเท่านี้ ส้มขอแสดงความยินดีกับเพื่อนๆน้องๆทุกคนที่กำลังจะรับปริญญาช่วงนี้ด้วยนะคะ ส้มไปแล้ว บ๊าย บายจ้าา