Gryffindor - Graduation look 👩🏻🎓
NNINI.TECHA 19 2About This Look!
ลุคนี้จริงๆเราก็ตั้งใจจะแต่งรับปริญญาปกติแหละ แต่ว่าหลังจากที่เเต่งไปแต่งมา พอเริ่มทำผมเริ่มรู้สึกว่าเหมือนท่าน เคาน์ แดร็คคูลา ก็เลยเกิดเป็นลุคนี้ขึ้นมาค่ะ 555555 เพราะจะเป็นท่านเคาน์ก็น่าจะไม่ตรงธีมไปหน่อย ขอเป็นแม่มดน้อยตัวนึงแทนแล้วกัน ☺️
สวัสดีค่ะทุกคนนนน วันนี้เรามาพร้อมกับลุครับปริญญาที่สามารถใช้ได้ในชีวิตจริงนะ 5555555 ในการแต่งหน้าครั้งนี้เราพยายามเลือกเครื่องสำอางที่ไม่แพงมาก และทุกคนสามารถเข้าถึงได้ นอกจากนั้นเรารับรองว่าเมคอัพลุคนี้กันน้ำ กันเหงื่อติดทนโอเคเลยค่ะ เราทดลองแต่งก่อนวันนี้ออกไปเดินเล่นถ่ายรูปรอบเกาะรัตนโกสินทร์มาแล้ว มันเวิร์คมากๆ แต่ๆๆ ขอบอกก่อนว่า หน้ามัน มีเหงื่อ เป็นเรื่องปกตินะคะ แต่ไม่เป็นคราบ ไม่เยิ้ม ไม่มันแน่นอน ถ้ารู้สึกว่าหน้ามันหรือเหงื่อออก ให้เอาทิชชู่ซับๆพอก็กลับมาผ่องเด้งแล้วค่ะ ลุคนี้สำหรับเราไม่หนักผิวขนาดนั้นด้วย แต่ก็ไม่ได้เบาสบายเหมอืนลุคใสๆทั่วไปอะเน๊าะ เราไปเริ่มดูเลยดีกว่าว่าแต่งยังไง ไม่ยากแน่นอนค่ะ ^^
STEP
: ทากันแดด
กันแดดสำคัญมากนะคะ สำหรับวันรับปริญญา เราต้องเลือกกันแดดที่คุมมัน ไม่ทำให้เครื่องสำอางเป็นคราบ ทาให้ทั่วหน้าเลยค่ะ บีบออกมาประมาณเหรียญ 10 แล้วก็ทาทั่วๆ หลังจากนั้นรอให้กันแดดเซตตัวแห้งไปกับผิวสักพักนะคะ แล้วค่อยไป step ต่อไป
STEP
: ทาลิปมัน
ลิปมันก็สำคัญค่ะ แน่นอนว่าบัณฑิตทั้งหลายคงอยากมีปากสวย ทาลิปสวยๆ ติดทน อย่าลืมขั้นตอนนี้นะคะ ทาไว้ตั้งแต่ก่อนเริ่มแต่งหน้าเลยค่ะ ทาไว้หนาๆเลยถ้ามันเกินไปเดี๋ยวค่อยเช็ดออกได้ แต่ถ้าปากแห้งปากลอกมันแก้ไม่ทันเด้ออออ
STEP
: ไพร์เมอร์
ลงไพร์เมอร์ที่ช่วยแก้ปัญหาต่างๆสำหรับผิวหน้าของแต่ละคนได้เลยค่ะ ถ้าใครมีรูขุมขนกว้างก็ใช้ไพร์เมอร์ที่ช่วบพรางรูขุมขน ใครหน้ามันก็ใช้แบบคุมมัน ใครหน้าแห้งก็ใช้แบบเพิ่มความชุ่มชื้นแต่ก็ต้อทำให้เครื่องสำอางติดทนด้วยนะคะ สำหรับเราใช้แบบคุมมัน ก็จะทาไปบริเวณที่หน้ามันง่ายๆเช่น T-Zone หน้าแก้ม ไม่ต้องใช้เยอะมากนะคะไม่งั้นเครื่องสำอางอาจจะไหลมากองรวมกันได้ เวลาทาเสร็จก็ให้รอให้เค้าแห้ง ซึมไปสักพักก่อนถึงไป step ต่อไปนะคะ
STEP
: รองพื้น
ลงรองพื้นค่ะ เลือกตัวที่เราเคยใช้แล้วมันติดทนคุมมัน ไม่เป็นคราบนะ เวลาลงให้ค่อยๆลงทีละน้อยๆ ไม่พอแล้วค่อยเพิ่มเอา หลังจากนั้นเกลี่ยด้วยฟองน้ำหรือแปรงแล้วแต่ถนัดได้เลยค่ะ เกลี่ยให้เนียนเรียบสม่ำเสมอกัน
STEP
: คอนทัวร์ครีม
เพื่อความแน่นไม่หลุด ติดทน เราชอบลงเนื้อครีมไว้ก่อน ก็ปาดไปเลยค่ะ แล้วก็เกลี่ยให้เนียนไม่งั้นจะเป็นขวานฟ้าหน้าดำได้
STEP
: ครีมบลัช
แล้วก็ตามด้วยครีมบลัช เราชอบใช้สีแดงเพราะดูเป็นสีธรรมชาติที่สุดแล้ว แตะไปบริเวณหน้าแก้มได้เลยค่ะ แล้วก็ใช้ฟองน้ำเกลี่ยๆ อาจจะแตะให้สีเข้มหน่อยก็ได้นะเพราะยังไงเราก็ต้องลงแป้งทับอยู่แล้ว สีมันจะอ่อนไปเองค่ะ
STEP
: คอนซิลเลอร์
จริงๆก็คือลืมลงค่ะ 55555 ควรจะลงใต้ตาตั้งแต่หลังรองพื้น แต่ไม่เป็นไรลงตอนนี้ก็ได้ แล้วก็ไฮไลท์ไปในตัวด้วยเลยล เกลี่ยด้วยฟองน้ำให้เนียนค่ะ
STEP
: แป้งฝุ่น
เราใช้แป้งฝุ่นโปร่งแสงในการเซตรองพื้นค่ะ โดยเราใช้จะฟองน้ำหมาดๆกดแป้งแล้วกดลงบริเวณที่หน้ามันง่ายและใต้ตา เป็นการ Bake หน้าเพื่อให้เครื่องสำอางติดทนและคุมความมันได้ดีมากขึ้นค่ะ ทิ้งไว้ประมาณ 5-10 นาทีแล้วก็ปัดให้ทั่วๆหน้า แล้วเราก็จะทำการ Bake ใต้ตาอีกรอบค่ะเพื่อจะแต่งตาต่อนั่นเอง
STEP
: แต่งตา
มาถึงขั้นตอนการแต่งตา ขออธิบายข้างล่างนะคะ
1.เราจะใช้สีคอนทัวร์จาก The Balm มาคัดเบ้าให้ฟุ้งๆ
2.ใช้สีที่ 4 ในพาเล็ต Holika คัดเบ้าอีกครั้งนึงแต่ไม่กว้างเท่าตอนแรก คัดแค่ครึ่งตา แล้วเกลี่ยให้ฟุ้ง
3.ใช้สีที่ 3 จาก Holika วาดให้เป็นสามเหลี่ยมตามภาพเลยค่ะ หลังจากนั้นเบลนให้เข้ากัน บริเวณที่เป็นชั้นพับตา
4.ใช้สีเบอร์ 1 จาก Holika ทำความสะอาดบริเวณใต้ท้องคิ้วและบริเวณอื่นๆที่เราเกลี่ยสีอายแชโดวฟุ้งเกินไป
5.ใช้สีที่ 2 จาก Holika ใช้นิ้วแตะแล้วทาตรงกึ่งกลางตา tap tap ให้ทั่วชั้นพับตา
6.เขียนอินไลน์เนอร์ด้วยดินสอสีดำและเขียนขอบตาล่างจากหางตามาถึงครึ่งตา
7.ดัดขนตาให้งอน เด้ง พยายามดัดตั้งแต่โคนนะคะ
8.ปัดขนตาทั้งบนล่าง ให้ยาว ฟู
9.กรีดอายไลน์เนอร์ ลุคนี้เราอยากให้วิงหายออกไปเฉี่ยวๆหน่อย แต่เพื่อนๆสามารถกรีดตามรูปตาตัวเองได้เลยค่ะ
STEP
: เขียนคิ้ว
เราเป็นคนที่มีคิ้วค่อนข้างจะเยอะมากกกก เราเลยแค่เติมหางคิ้วแต่ถมบริเวณที่แหว่งๆ แล้วก็ปัดมาสคาร่าคิ้วก็จะได้เลย แต่ถ้าใครยังเขียนคิ้วไม่เป็น แนะนำให้ไปกันคิ้วก่อนค่ะ จะได้เขียนง่ายขึ้น เขียนคิ้วก็เขียนตามทรงปกติได้เลย
STEP
: คอนทัวร์
งัดดั้ง เหลากรามกันตามอธัยาศัยได้เลยค่ะ สำหรับเราแก้มเยอะมากก เหลาไปก็ไม่หมด 555555 แต่ก็ยังดีกว่าไม่ทำอะไรเลย ส่วนใครหาโหนกแก้มตัวเองไม่เจอแบบเราก็ทำตามรูปที่ 3 เลยค่ะ ดูดเเน่นๆรับรองเจอแน่นอน 555555
STEP
: ปัดแก้ม + ไฮไลท์
ปัดแก้มทับไปตรงที่เราลงครีมบลัชไว้ได้เลยค่ะ แล้วก็ลงไฮไลท์ เราจะเน้นบริเวณปลายจมูก กระจับปาก ส่วนที่เหลือจะไม่ค่อยได้ลงค่ะ เพราะเดี๋ยวพอหน้าเราเริ่มมันระหว่างวัน ผิวก็จะดูโกลวๆขึ้นมาเอง
STEP
: ทาลิป
ขั้นตอนสุดท้ายแล้วค่ะ จากภาพแรกเราจะทาลิปสีชมพูนู้ดๆ ที่เหมือนกับสีปากเรามากที่สุด ภาพที่ 2 เราจะทาลิปที่สีแดงอมชมพูเข้มขึ้นมาหน่อยตรงกลางปากแบบภาพเลยค่ะ 555555 ภาพที่ 3 เราใช้ลิปแมทสีส้มอิฐทาขอบปากทั้งบนและล่าง และภาพที่4ก็เบลนๆทั้งหมดรวมกันโดยวิธีการเม้มปากค่ะ เม้มไปหลายๆรอบหน่อยเดี๋ยวสีมันก็จะสวยเอง 5555555 ถ้ารู้สึกลิปยังลอยๆอยู่บนปากให้เอานิ้ว Tap ให้ทั่วๆค่ะ แล้วสีก็จะเบลนๆเข้ากันเอง