ผิวแบบเรา ต้องใช้อะไรล้างหน้า I Beauty 101
natiprada 71 17
"อยากซื้อโฟมล้างหน้า คลีนซิ่งสักอัน ทำไมมันยากจัง" มีตั้งหลายแบบหลายชนิด ไหนจะเนื้อเจล เนื้อโฟม แล้วถ้าผิวแห้ง ,ผิวมันใช้แบบไหนดีนะ เลือกไม่ถูก!
สาวๆ ไม่ต้อง งง ไปนะคะ การเลือกโฟมและคลีนซิ่ง ไม่ได้ยุ่งยากอย่างที่คิด เพราะเราได้สอบถามจากอาจารย์ที่ สำนักวิชาวิทยาศาสตร์เครื่องสำอาง มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง มาแล้วเลยมีข้อมูลเด็ดๆ มาแชร์กัน แค่อ่านกระทู้นี้ สาวๆ ก็เข้าใจเรื่องนี้ได้แบบง่ายๆ เลยล่ะค่ะ
สาวๆ ไม่ต้อง งง ไปนะคะ การเลือกโฟมและคลีนซิ่ง ไม่ได้ยุ่งยากอย่างที่คิด เพราะเราได้สอบถามจากอาจารย์ที่ สำนักวิชาวิทยาศาสตร์เครื่องสำอาง มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง มาแล้วเลยมีข้อมูลเด็ดๆ มาแชร์กัน แค่อ่านกระทู้นี้ สาวๆ ก็เข้าใจเรื่องนี้ได้แบบง่ายๆ เลยล่ะค่ะ
การล้างหน้าหลักๆ มี 2 ขั้นตอน คือ ล้างเครื่องสำอาง (Cleansing) และ โฟมล้างหน้า (Cleanser) ทั้ง 2 อย่างมีหลายสูตร หลายเนื้อ เราจะอธิบายแยกให้สาวๆ เข้าใจง่ายนะคะ
Cleansing คือ ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเครื่องสำอาง สำหรับสาวๆ ที่แต่ง ลงรองพื้น บีบีครีม ปัดแก้ม ทาลิปสติก หรือใช้เช็ค สิ่งสกปรก ความมัน ก็ได้ มีทั้งหมด 8 ชนิดด้วยกันคือ
1. Water (น้ำ) : คลีนซิ่งเนื้อน้ำ ที่เห็นสีใส คล้ายน้ำเปล่าแต่มีความเข้มข้นกว่า ใช้คู่กับสำลี แล้วเช็ดจนกว่าสำลีจะสะอาด
2. Gel (เจล) : เจลสีขุ่นหรือใส ที่ไม่มีฟอง บางแบรนด์เมื่อโดนน้ำเปลี่ยนเป็นน้ำนม
3. Oil (ออย) : เนื้อน้ำมันใสๆ มีสีต่างกันไปแล้วแต่แบรนด์ เช่น เหลือง หรือ ไม่มีสี เมื่อโดนน้ำจะเปลี่ยนเป็นน้ำนม
4. Milk (นม) : เนื้อเหมือนโลชั่นเหลว ใช้วิธีการนวดและเช็ดตามด้วยสำลีหมาดๆ
5. Cream (ครีม) : เนื้อครีมเข้มข้น ที่ทำความสะอาดได้ดี ใช้วิธีนวดและล้างออกด้วยน้ำเปล่า ส่วนใหญ่แพคเกจจะเป็นกระปุก
6. Wipe (กระดาษทิชชู่) : เป็นซองเหมือนทิชชู่เปียก แต่มีคลีนซิ่งผสมอยู่ เป็นชนิดที่ใช้สะดวกที่สุด
7. Remover : คลีนซิ่งที่แยกชั้นระหว่างน้ำกับน้ำมัน ใช้สำหรับเช็ดตาและปาก เครื่องสำอางกันน้ำ
8. Balm บาล์ม : เนื้อแวกซ์ ที่ช่วยละลายเครื่องสำอาง โดยใช้การนวด และเปลี่ยนเป็นน้ำนมเมื่อโดนน้ำ
1. Water (น้ำ) : คลีนซิ่งเนื้อน้ำ ที่เห็นสีใส คล้ายน้ำเปล่าแต่มีความเข้มข้นกว่า ใช้คู่กับสำลี แล้วเช็ดจนกว่าสำลีจะสะอาด
2. Gel (เจล) : เจลสีขุ่นหรือใส ที่ไม่มีฟอง บางแบรนด์เมื่อโดนน้ำเปลี่ยนเป็นน้ำนม
3. Oil (ออย) : เนื้อน้ำมันใสๆ มีสีต่างกันไปแล้วแต่แบรนด์ เช่น เหลือง หรือ ไม่มีสี เมื่อโดนน้ำจะเปลี่ยนเป็นน้ำนม
4. Milk (นม) : เนื้อเหมือนโลชั่นเหลว ใช้วิธีการนวดและเช็ดตามด้วยสำลีหมาดๆ
5. Cream (ครีม) : เนื้อครีมเข้มข้น ที่ทำความสะอาดได้ดี ใช้วิธีนวดและล้างออกด้วยน้ำเปล่า ส่วนใหญ่แพคเกจจะเป็นกระปุก
6. Wipe (กระดาษทิชชู่) : เป็นซองเหมือนทิชชู่เปียก แต่มีคลีนซิ่งผสมอยู่ เป็นชนิดที่ใช้สะดวกที่สุด
7. Remover : คลีนซิ่งที่แยกชั้นระหว่างน้ำกับน้ำมัน ใช้สำหรับเช็ดตาและปาก เครื่องสำอางกันน้ำ
8. Balm บาล์ม : เนื้อแวกซ์ ที่ช่วยละลายเครื่องสำอาง โดยใช้การนวด และเปลี่ยนเป็นน้ำนมเมื่อโดนน้ำ
Cleanser คือ ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดหน้า "โฟมล้างหน้า" ถึงชื่อเรียกคือโฟม แต่ก็ไม่ได้มีแต่โฟม เพราะ Cleanser มีทั้งหมด 5 ชนิด และแต่ละชนิดก็มีคุณสมบัติแตกต่างกัน
1. Soap (สบู่ก้อน) : สบู่ก้อนที่รูปร่างหน้าตาคล้ายกับสบู่ที่ใช้กับตัว แต่สบู่สำหรับผิวหน้านั้น ต่างกันที่ค่ากรด-ด่าง ส่วนใหญ่จะใช้กับผิวบอบบาง
2. Gel (เจล) :เจลสีใสหรือขุ่น เวลาถูบนหน้าจะไม่มีฟอง ซึ่งบางแบรนด์อาจมีเม็ดสครับผสมอยู่ด้วย
3. Powder (ผง) : เป็นผงสีขาว ที่นำไปเทใส่ถ้วยและใช้หน้าจุ่มลงไปตามเวลาที่กำหนดและล้างออกด้วยน้ำเปล่า
4. Cream (ครีม) : เนื้อครีมสีขาว เข้มข้น มีฟอง ส่วนใหญ่จะใช้กับผิวมัน
5. Foaming (มูส หรือ หัวปั้มฟอง) : โฟมล้างหน้าแบบน้ำที่อยู่ในขวดปั้ม เมื่อปั้มออกมาจะเป็นเนื้อมูส ฟองหนานุ่ม
1. Soap (สบู่ก้อน) : สบู่ก้อนที่รูปร่างหน้าตาคล้ายกับสบู่ที่ใช้กับตัว แต่สบู่สำหรับผิวหน้านั้น ต่างกันที่ค่ากรด-ด่าง ส่วนใหญ่จะใช้กับผิวบอบบาง
2. Gel (เจล) :เจลสีใสหรือขุ่น เวลาถูบนหน้าจะไม่มีฟอง ซึ่งบางแบรนด์อาจมีเม็ดสครับผสมอยู่ด้วย
3. Powder (ผง) : เป็นผงสีขาว ที่นำไปเทใส่ถ้วยและใช้หน้าจุ่มลงไปตามเวลาที่กำหนดและล้างออกด้วยน้ำเปล่า
4. Cream (ครีม) : เนื้อครีมสีขาว เข้มข้น มีฟอง ส่วนใหญ่จะใช้กับผิวมัน
5. Foaming (มูส หรือ หัวปั้มฟอง) : โฟมล้างหน้าแบบน้ำที่อยู่ในขวดปั้ม เมื่อปั้มออกมาจะเป็นเนื้อมูส ฟองหนานุ่ม
สิ่งแรกที่สำคัญที่สุดสำหรับการเลือกผลิตภัณฑ์ล้างหน้า คือ "สภาพผิว" ถ้าสาวๆ ไม่รู้จักผิวตัวเอง ต่อให้ซื้อโฟมล้างหน้าที่มีรีวิวบอกว่าดี มาใช้ก็อาจจะไม่ได้ผล เผลอๆ อาจจะแพ้ เป็นสิว ปัญหาผิวตามให้กังวลใจอีก
วิธีเช็คก็ไม่ยาก แค่ล้างหน้าด้วยน้ำเปล่า เช็ดให้แห้ง รอ 10 นาที แล้วสังเกตความแห้ง ความมัน
วิธีเช็คก็ไม่ยาก แค่ล้างหน้าด้วยน้ำเปล่า เช็ดให้แห้ง รอ 10 นาที แล้วสังเกตความแห้ง ความมัน
- บริเวณหน้าผาก จมูก และคาง มีความมัน และแก้มแห้ง = ผิวผสม
- หน้ามันทั่วทั้งใบหน้า เมื่อมือสัมผัสมีน้ำมันเกาะ = ผิวมัน
- รู้สึกหน้าแห้ง หยาบกร้าน เมื่อมือสัมผัสรู้สีกสาก = ผิวแห้ง
- ส่วนผิวบอบบางแพ้ง่าย ถ้าใช้อะไรก็แพ้ ผด ผื่นแดง หรือ เป็นสิวบ่อยๆ
ผิวมัน : คือผิวที่มีความเงามันวาวทั้งหน้า ไม่ว่าจะส่วนไหนก็มีความมัน รูขุมขนกว้าง เหตุที่หน้ามันเพราะผิวมีการสร้างน้ํามัน (Sebum) ออกมามากเกินไป ทำให้อาจมีสิวอุดตัน สิ้วเสี้ยน ขึ้นบ่อย แต่ข้อดีของสาวผิวมันคือผิวจะเหี่ยวช้ากว่าผิวประเภทอื่น และยิ่งถ้าเราบาลานซ์ให้ถูก จะส่งผลดีต่อผิวค่ะ
Cleansing (ล้างเครื่องสำอาง)
ควรทำความสะอาดเครื่องสำอางด้วย Cleansing แบบน้ำ เช่น Micella , Cleansing บางแบรนด์มีสูตร Oil Control ก็มีค่ะ หรือจะเป็นแบบ Wipe ที่เป็นเหมือนทิชชู่เช็ดเครื่องสำอางก็ใช้ได้เหมือนกัน เพียงแค่เช็ดให้สะอาดจนกระดาษเป็นสีขาวสะอาดก็พอค่ะ
Cleanser (ล้างหน้า)
ผิวมัน ก็ต้องควบคุมความมัน! สาวๆ ต้องมองหาคำว่า "Oil Control" , "Oil free" เป็นอย่างแรกเลยค่ะ ซึ่งสูตรนี้หาซื้อได้ง่าย ส่วนใหญ่เป็นเนื้อโฟมหรือมูส ที่มีฟอง เพราะฟองจะช่วยขจัดสิ่งสกปรกได้ล้ำลึก และถ้าใครที่หน้ามันมากๆ ให้มองหาคำว่า "Deep" เพิ่มเลยค่ะ เพราะจะทำความสะอาดได้ล้ำลึกยิ่งกว่า
Cleansing (ล้างเครื่องสำอาง)
ควรทำความสะอาดเครื่องสำอางด้วย Cleansing แบบน้ำ เช่น Micella , Cleansing บางแบรนด์มีสูตร Oil Control ก็มีค่ะ หรือจะเป็นแบบ Wipe ที่เป็นเหมือนทิชชู่เช็ดเครื่องสำอางก็ใช้ได้เหมือนกัน เพียงแค่เช็ดให้สะอาดจนกระดาษเป็นสีขาวสะอาดก็พอค่ะ
Cleanser (ล้างหน้า)
ผิวมัน ก็ต้องควบคุมความมัน! สาวๆ ต้องมองหาคำว่า "Oil Control" , "Oil free" เป็นอย่างแรกเลยค่ะ ซึ่งสูตรนี้หาซื้อได้ง่าย ส่วนใหญ่เป็นเนื้อโฟมหรือมูส ที่มีฟอง เพราะฟองจะช่วยขจัดสิ่งสกปรกได้ล้ำลึก และถ้าใครที่หน้ามันมากๆ ให้มองหาคำว่า "Deep" เพิ่มเลยค่ะ เพราะจะทำความสะอาดได้ล้ำลึกยิ่งกว่า
ผิวผสม : คือผิวที่มีการผลิตน้ำมันบริเวณ T-zone คือ หน้าผาก จมูก และ คาง และ ส่วนที่แห้งคือบริเวณโหนกแก้มและข้างแก้ม ปัญหาหลักๆ ที่ต้องรับมือคือ การดูผิวทั้งสองส่วนให้บาลานซ์กัน
Cleansing (ล้างเครื่องสำอาง)
ผิวผสมสามารถใช้คลีนซิ่งได้แบบทุกแบบขึ้นอยู่กับว่าแต่งหน้าจัดแค่ไหน แต่หลักๆ ที่เป็นที่นิยม และใช้งานสะดวกคือ Cleansing Micella , Cleansing oil , Cleansing Wipe เลือกสูตร Moisturizer ยิ่งดีค่ะ เพราะผิวชุ่มชื่นดีกว่าผิวแห้งอยู่แล้ว
Cleanser (ล้างหน้า)
ผิวผสมสามารถใช้ได้ทั้ง Cleansing Micella, Gel , Cream และ Foaming Face Wash แบบมีฟอง เพราะผิวผสมเน้นการบำรุงผิวให้สมดุลมากกว่าการล้างหน้าได้ค่ะ ขอแค่ล้างให้สะอาดก็พอ
Cleansing (ล้างเครื่องสำอาง)
ผิวผสมสามารถใช้คลีนซิ่งได้แบบทุกแบบขึ้นอยู่กับว่าแต่งหน้าจัดแค่ไหน แต่หลักๆ ที่เป็นที่นิยม และใช้งานสะดวกคือ Cleansing Micella , Cleansing oil , Cleansing Wipe เลือกสูตร Moisturizer ยิ่งดีค่ะ เพราะผิวชุ่มชื่นดีกว่าผิวแห้งอยู่แล้ว
Cleanser (ล้างหน้า)
ผิวผสมสามารถใช้ได้ทั้ง Cleansing Micella, Gel , Cream และ Foaming Face Wash แบบมีฟอง เพราะผิวผสมเน้นการบำรุงผิวให้สมดุลมากกว่าการล้างหน้าได้ค่ะ ขอแค่ล้างให้สะอาดก็พอ
ผิวแห้ง : เป็นสาวผิวแห้งคงรู้อยู่แล้วว่าปัญหาหลักๆ ของผิวคือหน้าลอก ถ้าไม่บำรุง หรือล้างหน้าด้วยโฟมจนแห้งเอี้ยด! ก็จะรู้สึกได้ทันทีว่าผิวหยาบขึ้น รู้สึกว่าผิวไม่ยืดยุ่น นั้นก็เป็นเพราะผิวผลิตน้ำมันได้น้อยและไม่เก็บกักน้ำไว้ใต้ผิว ทำให้ผิวไม่แข็งแรงค่ะ
Cleansing (ล้างเครื่องสำอาง)
ผิวแห้งควรใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่มีความชุ่มชื้นและอ่อนโยน เช่น Cleansing milk , Cleansing Cream , Cleansing Gel หลีกเหลี่ยง Cleansing ที่มีส่วนผสมของ Alcoholic เพราะสารตัวนี้จะทำร้ายผิว และทำให้ผิวแห้งไปกว่าเดิมค่ะ
Cleanser (ล้างหน้า)
ถ้าผิวแห้งอยู่แล้ว เวลาล้างหน้าก็ไม่ควรใช้อะไรที่ทำให้ผิวแห้งเพิ่มขึ้น Cleanser ควรเลือกแบบไม่มีฟอง และไม่ขัดถูหน้าแรงๆ ศัพท์ที่ต้องจำเวลาเลือกซื้อโฟมล้างหน้านั้นก็คือคำว่า "เซราไมด์ (Ceramides)" และ ไฮยาลูรอน ที่ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น และยืดยุ่น เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ชนิด Gel (เจล) จะดีที่สุดค่ะ
Cleansing (ล้างเครื่องสำอาง)
ผิวแห้งควรใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่มีความชุ่มชื้นและอ่อนโยน เช่น Cleansing milk , Cleansing Cream , Cleansing Gel หลีกเหลี่ยง Cleansing ที่มีส่วนผสมของ Alcoholic เพราะสารตัวนี้จะทำร้ายผิว และทำให้ผิวแห้งไปกว่าเดิมค่ะ
Cleanser (ล้างหน้า)
ถ้าผิวแห้งอยู่แล้ว เวลาล้างหน้าก็ไม่ควรใช้อะไรที่ทำให้ผิวแห้งเพิ่มขึ้น Cleanser ควรเลือกแบบไม่มีฟอง และไม่ขัดถูหน้าแรงๆ ศัพท์ที่ต้องจำเวลาเลือกซื้อโฟมล้างหน้านั้นก็คือคำว่า "เซราไมด์ (Ceramides)" และ ไฮยาลูรอน ที่ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น และยืดยุ่น เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ชนิด Gel (เจล) จะดีที่สุดค่ะ
ผิวบอบบางแพ้ง่าย : เป็นผิวที่ไม่ว่าอะไรๆ ก็แพ้ มีผื่นแดง มีผดขึ้นที่หน้าผาก ผิวแดงง่าย เป็นสิวบ่อย ผิวบอบบาง มีทั้งหน้ามันและหน้าแห้ง ไม่ควรซื้อใช้เอง สาวๆ ต้องปรึกษาแพทย์หรือเภสัช และควรใช้ผลิตภัณฑ์เวชสำอางเท่านั้น
Cleansing (ล้างเครื่องสำอาง)
จริงๆ แล้ว ถ้าผิวบอบบางก็ไม่ควรแต่งหน้าจัดหรือใช้เครื่องสำอางแบบสาวๆ ทั่วไป แต่ถ้าจำเป็นต้องแต่งจริงๆ ควรล้างเครื่องด้วยผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนไม่ทำร้ายผิว อย่าง Cleansing milk หรือ Cleansing Gel
Cleanser (ล้างหน้า)
ผิวบอบบางแพ้ง่าย ควรใช้ Cleanser ที่ไม่ระคายเคืองผิว เช่น Face Wash Gel ที่เป็นแบบ Alcohol-free และไม่ควรถูหรือสครับผิวหน้าบ่อยเกินไป อาจทำให้ผิวบางลง และแพ้ง่ายขึ้นด้วยค่ะ
Cleansing (ล้างเครื่องสำอาง)
จริงๆ แล้ว ถ้าผิวบอบบางก็ไม่ควรแต่งหน้าจัดหรือใช้เครื่องสำอางแบบสาวๆ ทั่วไป แต่ถ้าจำเป็นต้องแต่งจริงๆ ควรล้างเครื่องด้วยผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนไม่ทำร้ายผิว อย่าง Cleansing milk หรือ Cleansing Gel
Cleanser (ล้างหน้า)
ผิวบอบบางแพ้ง่าย ควรใช้ Cleanser ที่ไม่ระคายเคืองผิว เช่น Face Wash Gel ที่เป็นแบบ Alcohol-free และไม่ควรถูหรือสครับผิวหน้าบ่อยเกินไป อาจทำให้ผิวบางลง และแพ้ง่ายขึ้นด้วยค่ะ
ย้ำกันอีกรอบว่าการล้างหน้า มีแค่ 2 ข้อที่เราต้องจำ คือ รู้สภาพผิวตัว และ เลือกผลิตภัณฑ์ล้างหน้าให้ตรงกับผิว แค่นี้เองค่ะ สาวๆ ต้องให้เวลากับการล้างหน้าให้มากขึ้นนะ ล้างหน้าให้สะอาดและถูกวิธี ผลที่ได้คือ ผิวสวยๆ ไม่มีสิวแล้ว ง่ายขนาดนี้ใครกันจะไม่ทำ!
สนับสนุนข้อมูลโดย