[ MOVIE REVIEW ] Fantastic Beasts: The Crimes of Grindelwald ส่วนต่อขยายของโลกเวทมนตร์
Cindie 25 8ฮาโหลว สวัสดีวันจันทร์นะคะเพื่อนๆ พบกับซินเด้แสนซนและวุ่นวายคนเดิม วันนี้ซินไม่ได้มารีวิวเมคอัพสกินแคร์ใดๆ(อีกแล้ว 555) แต่จะมาเม้ามอยหอยสังข์เกี่ยวกับหนังที่เพิ่งไปดูมา ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นหนังยักษ์ประจำเดือนพฤศจิกานี้เลยก็ว่าได้ นั่นก็คือ... Fantastic Beasts: The Crimes of Grindelwald
ขอออกตัวก่อนว่าเป็นคนหนึ่งที่เคยติ่ง Harry Potter มากๆ มากกว่าปัจจุบันที่หายใจเข้าออกเป็น Marvel หนังสือเล่มหนึ่งเนี่ยอ่านหลายรอบมาก ภาพยนตร์ภาคหนึ่งก็ดูวนหลายรอบเช่นกัน แต่รีวิวทั้งหมดที่เพื่อนๆกำลังจะได้อ่านนี้ ซินจะเขียนขึ้นมาในฐานะของคนที่ชอบดูหนัง พูดในมุมมองของผู้ชมทั่วไปคนหนึ่ง ถ้าพร้อมแล้วเพื่อนๆก็เลื่อนลงมาด้านล่างได้เลย
Fantastic Beasts: The Crimes of Grindelwald
Fantastic Beasts: The Crimes of Grindelwald เป็นภาพยนตร์ลำดับที่ 2 ในเฟรนไชส์ชุด Fantastic Beasts และอยู่ในจักรวาล Wizarding World เดียวกันกับภาพยนตร์ชุด Harry Potter ทั้ง 8 ภาค โดยมีผู้เขียนคนเดิมคือ J.K. Rowling ซึ่งเนื้อเรื่องของชุดสัตว์มหัศจรรย์เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนเหตุการณ์ทั้งหมดใน Harry Potter หลายสิบปี
(เรื่องราวใน Fantastic Beasts เริ่มขึ้นในปี 1927 และจบลงในปี 1945 เป็นปีที่ดัมเบิลดอร์เอาชนะกรินเดลวัลด์ได้ ส่วนเรื่องราวใน Harry Potter เริ่มขึ้นในปี 1981 แฮร์รี่ในวัยทารกล้มจอมมารโวลเดอมอร์ได้ครั้งแรก จนเกิดเป็นเรื่องราวทั้งหมดในหนังสือทั้ง 7 ภาค)
The Crimes of Grindelwald เป็นภาคต่อของ Fantastic Beasts and Where to find them เล่าเรื่องของนิวท์ สคามันเดอร์ นักสัตว์วิเศษวิทยาผู้แต่งและเรียบเรียงตำราสัตว์มหัศจรรย์และถิ่นที่อยู่อาศัย ซึ่งแฮร์รี่และเพื่อนๆใช้เป็นหนังสือเรียนขณะที่ศึกษาอยู่ที่ฮอกวอตส์
โดยในภาคแรกนั้น นิวท์ได้เดินทางไปยังอเมริกาพร้อมกับกระเป๋าสัมภาระใบใหญ่ ภายในกระเป๋าเต็มไปด้วยสัตว์วิเศษตั่งต่างมากมาย อาทิ โบลทรัคเกิล เจ้าตัวจิ๋วที่หน้าตาคล้ายกิ่งไม้, นิฟเฟลอร์ น้องขนปุยผู้ชอบพุ่งเข้าใส่สิ่งของแวววาว เป็นต้น และเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันมากมายจนได้เข้าไปพัวพันกับเรื่องราวของเกลเลิร์ต กรินเดลวัลด์ อาชญากรที่กำลังหลบหนี กรินเดลวัลด์ที่ ณ ขณะนั้นปลอมเป็นมือปราบมารก็ถูกจับและเปิดเผยตัวในตอนจบ
เหตุการณ์ในภาคอาชญากรรมของกรินเดลวัลด์ดำเนินเรื่องต่อจากตอนจบของภาคแรก โดยทิ้งระยะเวลาห่างกันเพียงแค่ไม่กี่เดือน กรินเดลวัลด์ถูกจับอยู่ในคุกของผู้วิเศษที่อเมริกา ดังจะเห็นจากในเทรลเลอร์ กรินเดลวัลด์หลุดรอดไปได้ และอัลบัส ดัมเบิลดอร์ร้องขอนิวท์ สคามันเดอร์ ซึ่งเป็นคนที่เคยจับกุมกรินเดลวัลด์ได้ ให้ช่วยไปหยุดยั้งเขาที
นั่นก็เพราะ ดัมเบิลดอร์ไม่สามารถต่อต้านกรินเดลวัลด์ด้วยตัวเองได้
สถานที่เกิดเหตุคือแพรีส มหานครแห่งฝรั่งเศส นิวท์พระเอกของเราต้องเดินทางไปที่นั่นเพื่อพบเจอเหตุการณ์มากมาย มีฉากหลังสวยงามสไตล์วินเทจ พร้อมการปรากฎบนจออีกครั้งของปราสาทฮอกวอตส์ที่แฟนๆหลายคนต่างคิดถึง
ขอบอกเลยว่าถ้าคุณเป็นแฟนแฮร์รี่พลาดไม่ได้เลย เพราะว่ามีตัวละครสำคัญที่มีบทบาทหรือมีชื่อเสียงในหนัง/หนังสือชุดแฮร์รี่ พอตเตอร์ออกมาให้เห็นกันเป็นระยะๆ รวมถึงตัวละครที่มีความเกี่ยวโยงกันกับตัวละครในชุดของแฮร์รี่ มี Easter Egg คอยหยอดให้เราตื่นเต้นกันเป็นระยะๆ มีความเชื่อมกันระหว่างสองเฟรนไชส์ และดึงให้ติดตามเรื่องราวในภาคต่อไป แม้ว่าแฟนๆจะทราบดีอยู่แล้วว่าสุดท้ายดัมเบิลดอร์ก็ดวลคาถาชนะกรินเดลวัลด์ได้ในที่สุด
ตัวหนังทั้งหมดโฟกัสไปที่กรินเดลวัลด์ การกระทำของเขา ซึ่งมันเป็นสิ่งที่เลวร้าย จนเราต้องยอมรับว่ามันเป็นอาชญากรรม นด้านของการสร้างคาแร็คเตอร์ต้องขอชื่นชมว่ามีพัฒนาการ ตัวร้ายในภาพยนตร์ชุดนี้อย่างกรินเดลวัลด์มีมิติขึ้น(จากโวลดี้) ใช้ลูกล่อลูกชนกับผู้คน มีความใกล้เคียงกับมนุษย์ในชีวิตจริงมากๆ และดันเป็นมนุษย์ที่เต็มไปด้วยอุดมการณ์อันแรงกล้าซะด้วยสิ
นิวท์ผู้มีเครดิตเป็นพระเอก ทว่าเรากลับไม่ได้รู้สึกเช่นนั้น อาจเป็นเพราะการเกลี่ยบทของตัวละคร มีดราม่าหลายอย่างที่ดูเหมือนจะปุดๆอยู่ในระหว่างการเดินเรื่อง แต่กลับไม่ได้รับการขยี้เท่าที่ควร (และสายเสพย์ดราม่าเช่นเรารู้สึกเหมือนคันแต่ไม่ได้รับการเกา)
และหากว่าทำการขยี้หรือดึงดราม่ากว่านี้ รับรองว่าฉากในตอนท้ายเรื่องมันจะต้องพีคสุดๆไปเลย แต่นี่.. ในฐานะผู้ชมยังรู้สึกว่าเขาพาอารมณ์ร่วมของเราไปไม่ถึง
ความสนุกโดยรวมประกอบกันแล้วอยู่ในระดับแค่พอผ่าน ถ้าคุณเป็นแฟนแฮร์รี่จะรู้สึกฟิน อยากกดว้าวให้เป็นระยะๆ แต่ถ้าคุณคือผู้ชมทั่วไปก็จะรู้สึกเฉยๆ กลางเรื่องมีเอื่อยๆเนือยๆบ้าง ใส่ดีเทลมาเยอะจนถ้าคุณไม่ได้จดจำทุกสิ่งทุกอย่างใน Wizarding World ได้ คุณก็แค่จะปล่อยให้บางพอยท์ผ่านมาแล้วก็จากไปเท่านั้น
ส่วนตัวเรามีความรู้สึกที่ก่ำกึ่งระหว่างชอบ กับเฉยชา จากประสบการณ์การอ่าน The Cursed Child (บทละครเวทีซึ่งเป็นเรื่องราวต่อจาก 19 ปีในแฮร์รี่ภาค 7) ทำให้เรารู้สึกกังวลกับการลงรายละเอียดต่างๆซึ่งมันอาจไปกระทบกับความแข็งแรงและมั่นคงของหนังสือชุดแฮร์รี่ พอตเตอร์ได้
อย่างไรก็ตาม เหตุผลที่กล่าวมาข้างต้นไม่ใช่สิ่งที่ทำให้แฟนแทสติกบีสต์เป็นหนังที่คุณจะสามารถปล่อยให้ผ่านเลยไป เพราะหลายเสียงบอกว่ามันไม่ค่อยสนุก ใช่ มันอาจจะเนือยนาดไม่เร้าใจ แต่อย่าลืมว่านี่คือภาพยนตร์ปัจภาค ภาคนี้อาจทำมาเพื่อเป็นสะพานสำคัญที่จะเชื่อมชุดแฟนแทสติกบีสต์เข้าด้วยกันอย่างแข็งแรง รอให้จบทั้งเซ็ตก่อน ถึงเวลานั้นเราค่อยมาตัดสินกันดีกว่าไหมว่า The Crimes of Grindelwald เป็นหนังที่ดีหรือแย่กันแน่
ก่อนจากกันไป ซินอยากชวนเพื่อนๆที่ชมแล้วหรือยังไม่ชมเม้าท์กัน ใครที่ดูมาแล้วรบกวนพิมพ์แจ้งเตือนสปอยล์ไว้ก่อนเพื่อให้เพื่อนๆที่ยังไม่ได้ดูอ่านข้ามคอมเมนท์นี้ไป แล้วมาพบกันใหม่ในกระทู้หน้า สำหรับวันนี้ สวัสดีค่ะ