❀เปิดกรุ #เครื่องสำอาง2018❀ ฉบับสาวช็อปเก่ง (อะไรขนาดนี้เนี่ย...โอ้ยยย)
KanKan 20 3และแล้วก็เดินทางเข้าสู่เดือนสุดท้ายของปี 2018 แล้ว
เวลาช่างผ่านไปอย่างรวดเร็ว พอๆกับเงินที่หมดไปอย่างรวดเร็วกับการช็อปปิ้งในปี 2018
ก็เป็นความสุขของสาวออฟฟิศคนนึงล่ะน้าา
วันนี้จะมาเปิดกรุ #เครื่องสำอาง2018 อะไรที่เราจะพาเขาไปใช้ต่อในปี 2019
และอะไรที่เราต้องขอเทไว้ที่ปี 2018
สำหรับกระทู้นี้จำนวนรูปก็จะเยอะหน่อยๆ ใช้เวลาในการเขียนนานมากก ปกติเป็นคนเขียนอธิบายอะไรละเอียดๆ แต่เรากลัวจะยาวเกินไปบางอันเราก็สรุปสั้นๆเอา
สำหรับใครที่สนใจตัวไหนเพิ่มเติมบอกให้เราเขียนรีวิวเพิ่มได้ หรือจะถามเพิ่มเติมก็ได้นะคะ
ถ้ามีตัวไหนที่เพื่อนๆใช้แล้วชอบ ไม่ชอบเหมือนกันมาแชร์กันได้เลยน้าาา อิอิ
♡ Sunscreen for protecting my skin ♡
✼ ҉ ✼ ҉ ✼ ҉ ✼ ҉ ✼ ҉ ✼
ขออนุญาตไล่ไปทีละหมวดตามขั้นตอนการแต่งหน้าของเราเลยละกันนะคะ อันดับแรกหลังจากเตรียมผิวด้วยสกินแคร์เรียบร้อยแล้วก็ต้องครีมกันแดดสิคะ กันแดด is a must ค่ะทุกคนนน ปีนี้ผลิตภัณฑ์กันแดดที่เราใช้มีทั้งหมดด้วยกัน 5 ตัว ค่ะ
✧・゚:* ANESSA Perfect UV Sunscreen aqua booster SPF 50 PA++++ ✧・゚:*
( 60 mL./ 859 THB) *ลดบ่อย รอราคาโปรฯ*
หรือ...กันแดดฝาทองในตำนานยอดฮิตนั่นเอง เห็นว่าเขาติดอันดับ Cosme มาหลายสมัยมากๆเลยน้า จริงๆแล้วตัวนี้เราซื้อมาตั้งแต่ปี 2017 แต่ใช้ยังไม่หมดเลยใช้ต่อ และน้องเขาก็ได้หมดลงในตั้งแต่ต้นปีแล้วค่าา
♥ Review ♥
ผลิตภัณฑ์เป็นเนื้อน้ำนมสีขาวที่ทาแล้วหน้าไม่วอก เราแนะนำให้พี่ที่ทำงานใช้พี่เขาผิวเข้มกว่าเราก็ใช้แล้วไม่วอก เหมาะกับคนผิวมันเพราะทาแล้วเขาแห้งไปกับผิวเลย
ประสิทธิภาพในการกันแดดที่เราวัดได้คือตอนนั้นเราทาไปโคราชและแบ่งคนอื่นๆทาด้วย ทั้งๆที่แดดแรงแต่ผิวพวกเราไม่ดำเลย นี่เลยเป็นเหตุผลที่เราประทับใจ
*ข้อควรระวัง* มีใส่น้ำหอมและแอลกอฮอล์ ใครระคายเคืองง่ายอาจต้องระวังนิดนึง แต่เราไม่มีปัญหาอะไร กลิ่นน้ำหอมเขาก็ไม่ได้แรงจนเกินไป
ไปต่อ หรือ พอแค่นี้? : สำหรับฝาทองขวดนี้เราขอพอแค่นี้เด้อออ ไม่ใช่เขาไม่ดีนะ แต่ เนื่องจากเขาเหมาะกับคนผิวมันแล้วเรามันคนผิวแห้งแต่ดันอยากลองไง สำหรับเราเราว่าแห้งไป ถ้าปีหน้าคงขอไปเริ่มใหม่กับสูตรสีเงินที่เหมาะกับผิวแห้งมากกว่าค่าา
♡━━━━━━━━━━━━━━━♡
✧・゚:* Laroche-Posay UVIDEA Aqua Fresh Gel*:・゚✧
(30 mL./ 725 THB) *ลดไม่บ่อยเท่าAnessaแต่ก็ลดให้เห็น*
ตัวนี้ซื้อตามพี่ npimmook เพราะเราเห็นหน้าพี่เขาสุขภาพดี และหน้าเด็กสุดๆเราเลยอยากซื้อมาลองใช้ตามค่ะ
♥ Review ♥
ไม่ใส่น้ำหอม ไม่มีกลิ่น เนื้อดี เกลี่ยปุ๊บกลายเป็นน้ำเลย
เนื้อดีสมคำรีวิวของพี่เขาจริงๆค่ะ สำหรับประสิทธิภาพในการกันแดดเราไม่แน่ใจเท่าไหร่เพราะช่วงนั้นไม่ได้ไปต่างจังหวัดเลย
ไปต่อหรือพอแค่นี้ : นุ้งชอบเนื้อสัมผัสของพี่เขามากๆเลยค่ะ แต่พี่เขาใช้หมดไวมากก หมดภายใน 1 เดือนกว่าๆ เทียบกับราคาแล้วนุ้งขอห่างๆกับพี่เขาซักพัก
♡━━━━━━━━━━━━━━━♡
✧・゚:* Smith Total Sunscreen SPF50+ PA+++*:・゚✧ กันแดดหมอโอ๊คที่ร๊ากกก
(30g./ 760THB) *ได้ข่าวว่าวัตสันมีโปรชิ้นที่สองลด 60%*
ตัวนี้ซื้อมาเพราะเปิดเจอทวิตพี่โอปอลกับพี่หมอโอ๊คตอนไปทะเลพอดี แล้วพี่หมอบอกว่าใช้แค่นิสสสเดียวก็กันแดดได้แล้ว แถมไม่มันอีกต่างหาก
ในบรรดา 3 ตัวที่ใช้มาตอนนี้พี่หมอมาวินค่าาา
♥Review♥
เป็นกันแดดชนิดฟิสิคอลที่มีเนื้อกึ่งๆมูสกับครีม สีออกเนื้อๆ พีชๆ แต่ทาแล้วไม่วอกนะ
เราว่าเป็นกันแดดที่ผิวมันและผิวแห้งก็จะรักเพราะไม่ทิ้งความมันบนใบหน้า แต่ก็ไม่ได้ทำให้หน้้าแห้งผาก
สำหรับประสิทธิภาพในการกันแดดในวันธรรมดาเราว่าเวิร์คเลยแหละ แต่เราเคยทาไปเที่ยวภูเก็ตแล้วทาในปริมาณน้อยแล้วก็ไม่มีการเติมเพิ่มระหว่างวัน ผลคือแม่เพื่อนทักว่าผิวดำขึ้น แต่เราไม่ได้รู้สึกว่าดำขึ้นน้า
*หมายเหตุ* กันแดดฟิสิคอลคือกันแดดที่มีส่วนผสมหลักมากจาก Titanium Dioxide และ Zinc Oxide
ข้อดีคือ เขาเป็นเหมือนเกราะป้องกันแสงแดดโดยสะท้อนรังสีออกไปจากผิว ต่างจากกันแดดแบบเคมิคอลที่มีส่วนผสมของสารที่จะคอยดูดรังสีต่างๆเข้ามาเก็บไว้ส่งผลให้ผิวเราอาจได้รับรังสีพวกนั้นเข้ามาด้วย แต่ข้อเสียของผลิตภัณฑ์แบบฟิสิคอลคือ เนื้อเขาอาจจะไม่ได้เกลี่ยง่ายเท่าเคมิคอล แต่สำหรับเนื้อของกันแดดหมอโอ๊คเกลี่ยไม่ยากเลยค่ะ มีแค่ครั้งเดียวที่ผิวเรายังไม่แห้งจากการทาสกินแคร์แล้วเราดันทากันแดดลงไปเลย ปรากฎว่ากันแดดเขาจับตัวเป็นก้อนคราบเลย
ไปต่อหรือพอแค่นี้? : ไปต่อสิคะ รออะไร มากับหนูๆ
ตัวที่ 4 สารภาพว่ามันก็มีช่วงที่เบื่อบ้างเลยแอบนอกลู่นอกทางนิดนุง
เหตุเกิดจากเราจะไปเที่ยวเชียงใหม่ ทีนี้เลยอยากทดลองกันแดดใหม่ๆดูบ้าง
ว่าถ้าไปเจอแดดแรงๆเนี่ยยย เอาอยู่ไหม
✧・゚:*SuperGoop Everyday Sunscreen *:・゚✧
(75mL./750THB)
ไม่รู้ว่าตกลงแล้วพี่คนนี้เขาได้เป็นตัวช่วยในการปกป้องแสงแดดตอนพี่ก้อย รัชวินวิ่งหรือเปล่า แต่ไหนๆก็ไหนๆ ลองซักโหน่ย
♥ Review ♥
หลังจากที่เราได้ลองใช้แล้วเราก็คิดว่าคนผิวมันไม่น่าจะชอบกันแดดตัวนี้ เนื่องจากเขายังทิ้งความมันไว้บนผิว ไม่เหมือนกัน 3 ตัวข้างบนที่ผ่านมาแต่สำหรับเราที่ผิวแห้ง เราโอเคกับการที่มีความมันอยู่บนหน้าขนาดนี้
ไปต่อหรือพอแค่นี้? ไปต่อจนกว่าจะใช้หมดเจ้าค่าาา หมดแล้วอาจไปลองอีกสูตรที่เป็นสูตร Physical ค่ะ
มาถึงตัวสุดท้ายของปีแล้วววว เขาคือ....
✧・゚:*Vilage 11 Factory Hydra Sun Fluid*:・゚✧
(50mL./650 THB.)
ตัวนี้ได้มาจากจีบันในกิจกรรม Spotlight Item นั่นเอง ขอบคุณที่ทำให้นุ้งได้รู้จักกับพี่คนนี้นะคะ
♥Review♥
เป็นกันแดดเนื้อเจลที่บางเบาทาแล้วเย็นสบายผิว ให้ความชุ่มชื้นแต่ไม่ทิ้งความมันไว้บนใบหน้า
ปกติเราไม่ชอบครีมที่มีกลิ่นน้ำหอมแต่ตัวนี้มีกลิ่นหอมๆที่ได้กลิ่นแล้วสดชื่นนน
ประสิทธิภาพในการกันแดดยังไม่แน่ใจเพราะว่ายังไม่มีโอกาสเจอแดดแรงๆเลย
แต่ถ้าทาในชีวิตประจำวันเราว่าก็โอเคนะคะ นะคะ เพราะว่าไม่ได้ดำขึ้นแต่อย่างใด
ไปต่อหรือพอแค่นี้ : พิมพ์มาขนาดนี้แล้วไปต่อไม่รอแล้วนะ 555555
สรุปผล
เรียงลำดับตามความชอบส่วนตัวที่ชอบมากที่สุด
Smith > The Village > Anessa > Supergoop > Laroche
♡ Base Make up ♡
พิมพ์มาตั้งนานเพิ่งจะเข้าสเตป 2 สเตปนี้สั้นๆค่าา ปีนี้เราซื้อ Base Make Up แค่ 2 ตัวเท่าน้านน แล้วก็ใช้อยู่แค่ 2 ตัวนี้นี่เลยย
✧・゚:*Bobbi Brown Prime Plus Radiance SPF 35 PA+++ *:・゚✧
เบสตัวนี้ซื้อเพราะเปิดเจอในไอจีเลยค่ะ คือมีคนทาบนหน้าแล้วเซลฟี่บนหน้า
คือแบบ อื้อหือออ....งานผิวววว สุดท้ายพี่คนนี้ก็ตกเป็นของเรา
♥Review♥
เป็นเบสเมคอัพที่เหมาะกับผิวแห้งแบบเราสุดๆ
เนื้อวาวมุกชมพูเป็นประกาย ทาแล้วช่วยปรับสภาพผิวให้ฉ่ำน้ำสุขภาพดี วันไหนที่ทากับไม่ทานี่เห็นความแตกต่างเลยนะ สำหรับเราเราพอใจที่พี่คนนี้
ไปต่อหรือพอแค่นี้ : เราว่าเราเกิดมาคู่กับพี่เขา
✧・゚:*Espoir Dewy Face Glow*:・゚✧
ขวดนี้เป็นขวดที่สองแล้ว ขวดเก่าใช้ไม่หมดน้า แต่หมดอายุก่อน
เนื้อสีชมพูมุก มีกลิตเตอร์เล็กๆสามารถเป็นได้ทั้งเบสและไฮไลท์ เราใช้ผสมกับรองพื้นก็ทำให้หน้าดูฉ่ำขึ้นมา หรือจะใช้ทาเป็นไฮไลท์บริเวณโหนกแก้ม โหนกคิ้ว สันจมูก กระจับปาก ก็ทำให้ผิวฉ่ำวาวสุขภาพดี
ป.ล. เวลาที่เราใส่เสื้อไม่มีแขน เราชอบเอามาทาตรงหัวไหล่ให้มันเงาๆเล่นแสงไฟ ดูผิวสุขภาพดี
ไปต่อหรือพอแค่นี้ : ไปต่อยาวๆไปจนกว่าจะหมดอายุเจ้าค่ะ แต่หลังจากขวดนี้อาจจะพอแค่นี้ก่อน อยากลองตัวอื่นบ้างค่ะ
♡ Foudation for perfect skin ♡
ปีนี้ซื้อรองพื้นมาแค่ 3 ตัวเท่าน้านนน ในส่วนของตัวแรกเราซื้อ The Balm แต่เราได้เอาไปให้เพื่อนใช้เรียบร้อยแล้วเนื่องจากพี่เขาเป็นเนื้อมูส ทาแล้วแมทไปกับผิว ไอ้เราผิวแห้งก็ดันอยากลองใช้ (อีกแล้วนะ! ) แล้วก็ไม่เวิร์คน้าา จบไป
ตัวต่อมาคือ ✧・゚:* Laniege BB Cusion Anti-Aging *:・゚✧
ก่อนอื่นเราคาดหวังกับพี่คนนี้ไว้สูงมากเพราะได้ยินเสียงลือเสียงเล่าอ้างของคูชั่นแบรนด์นี้ว่าใช้แล้วเด้ง ฉ่ำ....คุณบีเอก็เชียร์ให้เราใช้สูตรนี้ เราเลยซื้อมา
ปรากฎว่าเราใช้แล้วเราเฉยๆง่ะทุกคน ทำไมมมมม ฮือออ
มันไม่ฉ่ำ มันไม่เด้ง และที่เราไม่ชอบมากๆเลยคือกลิ่นน้ำหอม กลิ่นแรงมากๆค่ะ T _ T
ไปต่อหรือพอแค่นี้ : พอแค่นี้ T ___ T แต่ยังไม่ปิดใจ อาจจะไปลองสูตรอื่นๆดูค่ะ
✧・゚:* Jane Iradale Glow Time BB Cream*:・゚✧
เจ็บช้ำจาก Cushion มาซบลงที่ BB ตัวนี้เราซื้อตามจีน่าลูกพี่เจเจตริน
(เคยเขียนรีีวิวไว้แล้วสามารถอ่านได้ที่ https://www.jeban.com/topic/249468 )
♥Review♥
เป็น BB ที่เป็นสูตร Physical เนื้อจะคล้ายๆครีมกันแดดของหมอโอ๊คแต่ว่าแห้งกว่านิดนึง แต่เกลี่ยไม่ยาก ไม่เป็นคราบ ทาแล้วได้ลุคที่ธรรมชาติ ปรับสีผิวให้เรียบเนียนสม่ำเสมอ แต่ไม่ปกปิดรอยสิวและรอยฝ้า ที่เขาเคลมว่า Full Coverage เรารู้สึกว่ายังไม่ Full หรือเราอาจต้องลงให้หนากว่านี้ โดยรวมชอบที่สุดในผลิตภัณฑ์รองพื้นในปีนี้ เพราะสีพอดีกับผิวเรา ไม่วอก ไม่ลอย ไม่ดรอป หน้าไม่แครกระหว่างวัน
ไปต่อหรือพอแค่นี้ : ไปต่อค่ะ นี่อยากได้รองพื้นสูตรอื่นๆของเขาเพิ่มอีกนะเนี่ย อยากให้เข้านำเข้ามาในไทยจังเลยค่ะ
♡It's all about Concealer♡
✼ ҉ ✼ ҉ ✼ ҉ ✼ ҉ ✼ ҉ ✼
ปีนี้ที่ซื้อใหม่มีทั้งหมด 3 ชิ้นด้วยกันค่ะ แต่ละตัวเด็ดๆทั้งน้านน สำหรับเราเราว่าปีนี้เป็นปีที่เราสามารถปกปิดร่องรอยแพนด้าได้มากที่สุดล้าว มาดูกันเลยดีกว่า
✧・゚:* IT cosmetic BYE BYE Undereye concealer *:・゚✧
ตัวนี้ได้มาจาก Sephora ตอนแรกจะไปซื้อ Becca ที่เขาฮิตๆกัน แต่พอไปเดินดูแล้วคุณบีเอมาแนะนำตัวนี้แทน เพราะเขามองว่าใต้ตาดำคล้ำๆ ยิ่งคล้ำจากภูมิแพ้ต้องตัวนี้เลย
♥Review♥
เนื้อ : เข้มข้น ใช้ทีนึงปริมาณน้อยมากค่ะ หลอดนี้ของเราใช้ได้ไปอีกน๊านนน อายุน่าจะหมดก่อน 555
กลิ่น : ไม่มีกลิ่น (ดีใจจัง จริงๆเราเป็นคนไม่ชอบเครื่องสำอางมีกลิ่นเลย ส่วนใหญ่กลิ่นที่เขาใส่มาไม่ค่อยถูกใจเราเท่าไหร่)
ปกปิด : ซ่อนน้องด้าเกือบมิดเลยค่ะ เราได้เทคนิคมาจากบีเอที่ sephora ว่าก่อนทาคอนซีลเลอร์ต้องปัดแป้งฝุ่นไว้ก่อนชั้นนึง จากนั้นวอร์มคอลซีลเลอร์แล้วแปะทิ้งไว้ก่อนอย่าเพิ่งเบลน รอให้เขาเซตตัวซักพักแล้วค่อยเบลน จากนั้นก็ลงซ้ำอีกรอบ กริบค่ะ
✧・゚:*Bobbi Brown Instant Full Coverage Concealer *:・゚✧
(6mL./1,300 THB) *ซื้อพารากอนส.อา.ลด10%*
หรือว่าน้อง Better than slepp นั่นเองตัวนี้ซื้อตามเพราะเห็นพี่ๆบลอคเกอร์หลายคนรีวิว
แพนด้าอย่างเรามีหรือจะพลาด ต้องลอง!
♥Review♥
เนื้อ เหนียวๆหน่อย แต่มีความยืดหยุ่นสูงใช้แล้วตกร่องน้อยมากๆเลบค่ะ
กลิ่น กลิ่นแปลกๆง่าาา แต่อยู่ไม่นานก็จางหายไป
ปกปิด : ดียยยย์ ไม่ได้กลบมิดขนาดรอยดำหายมิด (ซึ่งเราคาดหวังแบบนั้นอะ ฮือ) แต่ปกปิดดีที่สุดเท่าที่เคยใช้มา นอกจากปกปิดใต้ตาได้แล้วยังปกปิดรอบสิวได้ด้วย กริบอยู่นะคะ
ติดทน : ติดทนเช้ายันเย็นค่า
ไปต่อหรือพอแค่นี้ : อืมมมม...อยากลองสีที่สว่างกว่านี้อีกซักเฉดนึงค่ะ สีที่ซื้อมาเท่ากับสีรองพื้นเลย
หัวใจเจ้ากรรมทำไมไม่รักดี...พบพี่คนใหม่ในเดือนสุดท้ายของปี
✧・゚:*Flow Fushi Area Foundy Cover *:・゚✧
ค้นพบตัวนี้ที่ Loft ลองเล่นอยู่นานมากแต่สุดท้ายก็ตัดสินใจซื้อกลับมา
♥Review♥
เนื้อ : เหลว เกลี่ยง่าย เราจุดแค่สามจุดเล็กๆก็เกลี่ยได้จนเลยขอบตา
ปกปิด : ไม่ได้ปิดมิดเท่าสองตัวบน จุดเด่นของตัวนี้คือการเล่นกับแสงค่ะ
การเล่นแสง : มันทำให้ใต้ตาของเราสว่างขึ้น เขามีแนวคิดว่าโดยปกติใต้ตาของคนเรามันจะเป็นรูปสามเหลี่ยม V V เราก็ไปเล่นแสงตรงนั้นทำให้ใต้ตาสว่างขึ้น
เรียงลำดับตามความชอบส่วนตัวที่ชอบมากที่สุด
จริงๆชอบหมดเลย แต่ถ้าต้องเลือกตัวใดตัวนึงก็เลือกตามนี้น้า
Bobbi Brown > IT Cosmetic > Flowfushi
ให้ Bobbi Brown อันดับ 1 เพราะว่าใช้งานง่ายกว่า + ตกร่องน้อยกว่า IT
ส่วน Flowfushi เราก็ชอบเพราะเขาทำให้ผิวบริเวณนั้นสว่าง เล่นแสงไฟ แต่มันปกปิดไม่หมด
ถ้าต้องเลือกแค่ตัวเดียวเราเลือก Bobbi Brown แต่ถ้าไม่ต้องเลือกเราก็เหมาหมด
มีติดบ้านไว้ อุ่นใจค่ะ! 5555
♡ Powder♡
✼ ҉ ✼ ҉ ✼ ҉ ✼ ҉ ✼ ҉ ✼
・゚:* JILL STUART airy stay flawless powder foundation*:・゚
ปีนี้ซื้อแป้งแค่ตัวเดียวค่ะ ก่อนหน้านี้ถ้าเป็นช่วงเวลาปกติจะไม่ทาแป้งเลย เพราะเราผิวแห้ง ชอบปล่อยให้ผิวมันๆมากกว่า แต่อยู่ดีๆก็มีความรู้สึกอยากหน้านวลเนียนกับเขาบ้างเราเลยได้โอกาสไปสอยน้อยเขากลับมาที่บ้าน
♥Review♥
น้องเขาคือแป้งที่เราตามหามานาน เราตามหาแป้งที่ทำให้ผิวของเรานวลเนียนแต่ในขณะเดียวกันต้องไม่ทำให้หน้าเราดูกร้าน สุขภาพไม่ดี
จนเราได้พบน้องเขาเราก็บอกเลยว่าน้องคือคนที่ใช่! คิดไม่ผิดจริงๆที่เชื่อพี่ช่างแต่งหน้า
ตอนนั้นพี่เขาแนะนำตัวนี้เพราะตัวนี้มีสารที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นอยู่ด้วย
ไปต่อหรือพอแค่นี้ : ยืนหนึ่งสวยๆเหมือนแม่แอฟในเอ็มวีเจ็บน้อยที่สุดเลยค่ะ เราจะใช้จนกว่าน้องเขาจะหมด!!!
♡ Eyebrows ♡
✼ ҉ ✼ ҉ ✼ ҉ ✼ ҉ ✼ ҉ ✼
ปีนี้มีที่เขียนคิ้ว 4 ชิ้นที่ซื้อมาใช้ในปีนี้นะคะ พบเจอที่ถูกใจมากๆ 1 ชิ้นและคิดว่าผูกปิ่นโตกันไปอีกพักใหญ่ๆเลยค่ะ
・゚:* Laneigh Eyebrow Cushion-cara Two tone*:・゚
อันนี้ซื้อมาเพราะ Anastasia ที่ใช้อยู่สีอ่อนเกินไปเลยหาที่เขียนคิ้วสีที่เข้มขึ้น อยากได้มาตั้งแต่ตอนตัวนี้ออกใหม่ๆ แต่ตอนนั้นคิดว่าแพงเลยไม่อยากซื้อ นี่ถ้าไม่ซื้อจะเสียใจมากเลยนะเนี้ยยย น่าจะเจอกันมาตั้งนาน ?
♥Review♥
เนื้อ : เป็นน้ำๆเหมือนคูชั่นเลยค่ะ แค่เปลี่ยนจากสีเนื้อเป็นสีน้ำตาล ข้อคือสีเขาไม่แน่นเว่อเหมือนที่เขียนคิ้วแบบน้ำยี่ห้ออื่นทำให้ควบคุมน้ำหนักได้ง่าย ค่อยๆวาดเส้นขนไปเรื่อยๆ ที่เขียนคิ้วแบบน้ำยี่ห้ออื่นถ้ายังไม่เซียนนี่ปลิงมาเกาะหน้าเลยนะคะ (รู้ได้ยังไง? ก็พลาดมาก่อน ก๊ากกกก)
สี : ชอบสีมากกก สีธรรมชาติสอดคล้องกับคนผมดำอย่างเรา และเราก็หากันจนเจอ....อย่าเลิกผลิตน้าา
ความติดทน : โดยปกติเราเป็นคนเหงื่อออกน้อย อาจจะตอบเรื่องนี้ไม่ค่อยได้ แต่ตอนไปออกกำลังกาย ออกเสร็จคิ้วก็ยังอยู่ดีนะคะ
ไปต่อหรือพอนี้ : ไม่ต้องถามแล้วม๊างงง แม้ว่าเราจะไม่ชอบคูชั่นสำหรับหน้าของเขาเท่าไหร่ แต่สำหรับคิ้ว ไปต่อค่ะ!
✧・゚:* Anatasia Brow Powder Duo *:・゚✧
(1000,THB)
อันนี้ซื้อมาตอนไปทำคิ้วที่ Anastasia ค่ะ สีแรกที่ซื้อมาคือสี Caramel ส่วนอีกสี คือ Dark Brown ค่ะ
♥Review♥
เนื้อ : เป็นที่เขียนคิ้วแบบฝุ่นค่ะ เม็ดสีแน่น จิ้มนิดเดียวก็ติดแล้ว แต่สามารถเบลนได้ง่ายกรณีที่มือหนักไป
ติดทน : ติดทนกว่า KATE ค่ะ เราเคยใช้ KATE เดี่ยวๆ ปรากฎว่าตกเย็นคิ้วหายง่า แต่ Anastasia ไม่หาย
ไปต่อหรือพอแค่นี้ : ไปต่อค่ะ ถ้าที่เขียนคิ้วแบบฝุ่นนี่หยุดตรงนี้ที่เธอ ไม่ไปไกลแล้วใจจจ ยกเว่นว่าเจอเฉดสีที่ไม่ติดน้ำตาลก็จะสอยมาเด้อ 5555
♡ Eye Shadow ♡
✼ ҉ ✼ ҉ ✼ ҉ ✼ ҉ ✼ ҉ ✼
ปีนี้ซื้ออายแชโดว์ทั้งหมด 3 ชิ้นค่าา
Urban Decay NAKED Palette (2,450 THB)
หลังจากที่ซื้อมาไม่นานทาง Urban Decay ก็ประกาศเลิกผลิตเลยค่ะ โอ้ววว...
ไม่รู้จะรีวิวอะไรเลยค่ะ เป็นอย่างที่ทุกคนทราบกันดีอยู่แล้วว่าเม็ดสีของเขาแน่น ชัด ติดทน สีในพาเลตต์นี้ก็เป็นสีน้ำตาลที่สามารถแต่งได้ในทุกวัน สมควรมีติดบ้านไว้ค่ะ
ไปต่อหรือพอแค่นี้ : เรื่อยๆไปจนหมดอายุค่ะ ปิดจ๊อบการซื้ออายแชโดว์โทนน้ำตาลไปอีกน๊านนน (แน่ใจ๊?)
Etude House Cherry Blossom Eye Blending
ตลับนี้เราได้มาจากเจ้ชวนแชร์หัวข้อรับปริญญาค่ะ ขอบคุณอีกครั้งนะคะ
สี : ชมพูอ่อนฟรุ้งฟริ้ง วิ้งๆน่ารักมาก แต่งได้ทุกวัน ได้สไตล์พิมฐา
ติดทน : ติดทนเลยน้า เราทาเช้าอยู่ยันเย็น
ไปต่อหรือพอแค่นี้ : ถามว่ามันจะหมดเมื่อไหร่ดีกว่าาา...หลอก ถ้าถามถึงอายแชโดว์สีชมพูตอนนี้ก็ไม่ได้อยากซื้อเพิ่มเท่าไหร่แล้วค่ะ เพราะมีตัวนี้ก็โอเคแล้ว
Feel in Eyeshadow #Fresh Love
อันนี้ซื้อมาลองเพราะว่าเป็นแบรนด์ที่เพื่อนที่มหาลัยค่ะ ซื้อมาลองใช้แล้วปรากฎว่าประทับใจอยู่น้า ช่วงนั้นดาวน์ๆไม่ค่อยอยากแต่งหน้าก็ได้เจ้าตัวนี้แหละค่ะ ทาตัวเดียวก็สวยได้ แถมยังเอามาทำเป็นไฮไลท์ตามโหนกแก้ม จมูก กระจับปากได้ด้วย เราว่าสีนี้คล้ายสี Soft and Gentle ของ Mac เลย
Shiseido Aura Dew
อันนี้ชอบที่สู๊ดดดดดในบรรดา Eye shadow ทั้งหมดทั้งมวลที่ซื้อมาในปีนี้
ซื้อมาเพราะเห็นพี่ปอยตรีชฎาเป็นพรีเซ็นเตอร์แล้วประทับใจในตัวนี้ที่สามารถทาได้ทั้งใบหน้า เราเลยโฉบไปลองป้ายที่เคาน์เตอร์แล้วก็พบว่าไม่ซื้อได้ยังไง
♥Review♥
สี : เรียกว่าชมพูแชมเปญได้มั้ยนะ พอเอามาทาที่ตาจะได้สีน้ำตาลๆธรรมชาติ
เนื้อ ไม่ครีม แต่ก็ไม่ฝุ่น ไม่รู้มันคือเนื้ออะไรน้าา แต่เม็ดสีแน่น แตะนิดเดียวก็วิ้งกระจายยย เราชอบวิ้งของเข้ามากเพราะมีวิ้งหลายสี หลายขนาดอยู่ในนั้นทำให้เล่นกับแสงไฟได้ดีมากๆเลยค่ะ
ความติดทน เราว่ามันไม่ค่อยติดทนด้วยความที่เขาเป็นวิ้งๆละเอียด ก็เลยหลุดๆไปตามการที่เราเอามือไปโดน
ไปต่อหรือพอแค่นี้ ไปต่อออออ และจะปั๊มเงินไปถอยสีอื่นมาเพิ่มด้วยค่ะ
♡ Eyelashes Curl♡
✼ ҉ ✼ ҉ ✼ ҉ ✼ ҉ ✼ ҉ ✼
ปีนี้ไม่ได้ซื้อเลยข่าาาาา...นั่นหมายความว่า ปีหน้าซื้อได้ เย้!
เดี๋ยวก่อนๆ 5555 ตั้งแต่เรียนจบมาเราใช้ที่ดัดขนตาของ Shu Uemura มาตลอดเลยค่ะ ตอนนั้นฝากเพื่อนซื้อมาจากที่ญี่ปุ่น ราคาอยู่ที่ 4 ร้อยกว่าๆ ก็ถือว่าแพงน้า
ตอนแรกๆเราไม่ประทับใจเลยเพราะยางแข็งมาก แล้วดัดยังไงก็ดัดไม่ขึ้น
แต่พอใช้ไปใข้มา ยางนิ่มลงเท่านั้นล่ะ เด้งเลยยย (แต่แอบบอกว่ายังไม่เท่า Gino Maccray นะ)
ไปต่อหรือพอแค่นี้ : ไปต่อค่าาา ปีหน้าว่ากันใหม่ อยากได้ที่ดัดขนตาจิลสจ๊วตตต
♡ Eyeliner ♡
✼ ҉ ✼ ҉ ✼ ҉ ✼ ҉ ✼ ҉ ✼
ปีนี้เป็นปีแรกที่ติดการเขียนอายไลเนอร์ เพราะรู้สึกว่าทำให้ตาคมชัดและโตมากขึ้น
เราซื้อมาทั้งหมด 3 ชิ้นในปีนี้ค่ะ
Twelve O' Clock ของ พี่ตู่ ปิยะวดี
ชอบตัวนี้ที่สู๊ดดดดดดดด แปรงแข็งเป็นทรงแต่ไม่บาดผิวทำให้เขียนเส้นได้คม ที่สำคัญคือติดทนม๊ากกก เราเคยเขียนไว้จุดนึงแล้วปล่อยไว้ ปรากฏว่าจุดนั้นอยู่กับเรายันค่ำเลยค่ะ ทนอะไรขนาดน้านนน
ไปต่อหรือพอแค่นี้ : ไปปปป อยากให้พี่ทำสีน้ำตาลออกมาด้วยค่ะ หนูรอซื้อ
น้องฉัตร
ซื้อมาเพราะน้องฉัตรนี่แหละค่ะ 555555 ตัวอายไลเนอร์เราชอบของพี่ตู่มากกว่าเพราะของน้องฉัตรสีอ่อนกว่า แล้วก็แปรงอ่อนกว่านิดนึง (จริงๆทั้ง 2 แบรนด์นี้แปรงเหมือนกันคือเป็นฟองน้ำ ไม่ใช่พู่กัน)
ตัวอินเนอร์ไลเนอร์ทำดีมากเพราะว่าแทบไม่ไหลเลยย ขนาดเขียนไปออกกำลังกายด้วยนะนั่น
Dolly Wink
ชอบเหมือนน้องฉัตรเลยเพราะว่าติดทน ไม่ไหลค่ะ แต่เราเทใจให้ Dolly Wink มากกว่านิดนึง
เนื่องจากเนื้อนิ่มกว่า และติดในอินเนอร์ง่ายกว่า
เทียบขนาดให้ดูของทั้ง 2 ยี่ห้อ อันนี้ขึ้นอยู่กับความถนัดของแต่ละคนเลยค่ะ
♡ Mascara for Blink Blink Eyes ♡
✼ ҉ ✼ ҉ ✼ ҉ ✼ ҉ ✼ ҉ ✼
เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้อีกชิ่นนึงเลยเพราะเราชอบให้ขนตางอนๆเด้งๆ มองด้านข้างมันทำให้สวยเป็นสาวกลบเกลื่อนความแมนของตัวเราเองได้ดีสุดๆ
ปีนี้ซื้อมาสคาร่ามาทั้งหมด 2 อันใช้ของปีที่แล้ว 1 อัน และได้แถมมา 1 อัน
Kiss me Heroine Make Long and Curl Mascara
ยอดฮิต และเป็นดังที่ล่ำลือจริงๆ เราชอบอันนี้มากก
แท่งนี้ซื้อมาเมื่อปี 2017 แต่ยังใช้อยู่จนถึงตอนนี้ ปีหน้าต้องทิ้งแล้วซื้ออันใหม่แล้วค่า
มันชักจะนานเกินไปแล้ว
ข้อดีคือ แปรงไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป สามารถหวีขนตาให้เรียงเส้น
เนื้อมาสคาร่าเป็นไฟเบอร์ ปัดแล้วต่อขนตาให้ยาววว ไม่เป็นก้อน
ติดทน แพนด้าน้อยมากๆ
ข้อเสีย ถ้าซื้่อตอนราคาเต็มเรารู้สึกว่าแพงไปจิ๊ดนึง ถ้าซื้อตอนลดราคาก็โอเคเลยยย
Loreal Voluminious LASH Paradise
อันนี้ก็ซื้อตามสาวๆในจีบัน มีช่วงนึงหน้าเว็บมีแต่เจ้าน้องคนนี้ เราเลยต้องซื้อมาลอง
ไม่ชอบที่หัวแปรงใหญ่เราปัดไม่ถนัด เป็นก้อนถ้าปัดไม่ดี แต่ถ้าปัดดีๆใช้เวลากับเขาหน่อยก็ได้คนตาที่งอน ยาวสวยเลยแหละ แรกๆเราก็ชอบ แต่ไปๆมาๆ...เราปัดแล้วตกระหว่างวันง่า แล้วก็ร้องไห้แล้วก็หลุดลงมากองที่ตาหมดเลย (เราขอโทษ เราผิดที่เราร้องไห้เองแหละ555)
ไปต่อหรือพอแค่นี้ : ฮืออออ..เราอาจไม่เหมาะสมกัน
Maybelline Hyper Curl Volume Express
อันนี้ซื้อตามคนอื่น ชอบที่แปรงเป็นหวีปัดง่ายไม่เป็นก้อน ข้อเสียสำหรับเราคือตกระหว่างวันและ แพนด้ากองที่หางตาในวันที่ทาคอนซีลเลอร์แล้วไม่ได้เซตด้วยแป้ง และวันที่ออกกำลังกายเหงื่อออก
ไปต่อหรือพอแค่นี้ : พอก่อนดีกว่าน้าาา
Jill Stuart Blooming Blossom Curl Lash Mascara
เหมือนมีเจ้าชายขี่ม้าขาวมาในตอนท้ายของเรื่อง
เราได้พี่คนนี้มาตอนซื้อผลิตภัณฑ์ของ Jill Stuart ครบ 1,500 บาท
เป็นมาสคาร่าที่เราปัดแล้วชอบ Finish look ของเขาที่สู้ดดดด
สารภาพว่าก่อนหน้านี้อยากไปลิฟท์ขนตา แต่พอเจอพี่คนนี้เข้าไป ไม่ต้องแล้วก็ได้
ติดทน ล้างไม่ยาก ยังไม่ได้ลองร้องไห้เลยไม่รู้ว่ากันได้ขนาดไหน แต่ตอนนี้ไปต่อกับน้องก่อนนะคะ
ผู้ที่ได้ไปต่อกับเราในปีหน้าคือออ... Heroine และ Jill Stuart แต่ถ้าจิลหมดเราอาจจะไม่ได้ซื้อต่อเพราะราคาพี่เขาแรงกว่า Heroine อี๊กกก
♡ Blush for Blush♡
✼ ҉ ✼ ҉ ✼ ҉ ✼ ҉ ✼ ҉ ✼
เป็นปีแรกที่หลงใหลในการปัดแก้ม จากเดิมไม่ค่อยให้ความสำคัญกับการปัดแก้มซักเท่าไหร่เลยมีแค่ Orgasam คู่ใจกับทินท์ Benefit มาปีนี้ค้นพบว่าการปัดแก้มนี่แหละที่ทำให้หน้ามีชีวิตชีวามากขึ้นปีนี้เลยถอยบรัชออนมาด้วยกันทั้งหมด 3 ชิ้นด้วยกันค่าา อีก 1 ชิ้นนั้นน้องที่ออฟฟิศให้มาค่ะ
Jill Staurt Mix Blush Compact N
สาเหตุที่วิ่งเข้าหาแบรนด์นี้เพราะเรื่องแพคเกจจิ้งเลยนะ แต่พอได้ลองก็ค้นพบว่าคุณภาพของเขาดีไม่แพ้แพคเกจจิ้งเลยอะ สีน่ารัก ติดทนทั้งวัน เอาใจไปเล้ยย ปีหน้ามีถอยเพิ่มอีกแน่นอนเพราะเล็งไว้แล้วแหละ 5555
♥Review♥
สั้นๆ ของดี ไม่พูดเยอะ
บรัชออนสีน่ารัก มีกลิ่นหอม ปัดได้ทุกวัน ติดทนทั้งวัน
Illamasqua
ได้ 2 ตัวนี้มาตอนที่เค้าจัดโปรโมชั่นปิดสาขาที่ Central World ตอนแรกสนใจตัวแค่ตัวเดียว แบรนด์นี้เขาดังเรื่องเม็ดสีแน่น ติดทนนาน และก็เป็นตามนั้นจริงๆค่ะ แน่นอนว่าปีหน้าถอยเพิ่มแน่นอนนน
Color Veil #Frisson
ตั้งใจไปซื้อรุ่นนี้เพราะเห็นรีวิวของพี่ทราย Feonalita ตอนแรกจะไม่ซื้อสีนี้
เพราะเห็นในกระปุกสีอ๊อนอ่อนนน ไม่น่าจะติดสี ปรากฏว่าลองที่ผิวเท่านั้นล่ะ..งามมม
♥Review♥
เนื้อ : เจลๆก้อนๆเหมือนสี ทาแล้วเย็นๆที่ผิว
สี : เม็ดสีชัดมากค่ะ แตะนิดเดียวก็ติดสีแล้ว
ติดทน : ติดทนทั้งวันค่าาา
ลุคที่ได้ : งานผิว เหมือนว่าสีนี้ออกมาจากภายในแก้มของเราเลย แตกต่างจากแบบฝุ่นที่จะดูแป้งๆ
สรุป : วันไหนอยากได้ลุคงานผิว หยิบตัวนี้เลยค่ะ
Powder Blush #Tremble
เป็นผลพวงจากการซื้อ Color veil ค่ะ ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ต้องจัดรุ่นฝุ่นเลื่องชื่อมาลองซะเลย
♥Review♥
สี : ชมพูอ่อนๆ ปัดแล้วแก้มใสๆ เหมือนปีนี้เราจะชอบบรัชสีอ่อนๆนวลๆนะเนี่ย ซื้อแนวนี้ตลอดเลย
เนื้อ : เนื้อฝุ่นละเอียด เม็ดสีชัด แตะนิดเดียวก็ติดสี เพราะฉะนั้นต้องเบามือกันหน่อยเน้อ
ติดทน : ติดทนอีกแว้วววว
สรุป : ปีหน้าถ้าอยากได้บรัชสีอื่นๆอีกก็จบที่ Illamasqua กับ Jill Stuart นี่แหละค้าาา
Tarte #Parrrty
ดูปากณัชชานะคะ...พาาาาาาร์ทียยย์
ตัวนี้ได้มาเพราะน้องที่ทำงานให้มาเนื่องจากน้องเขาได้แถมมาจากการซื้อของจาก Sephora แต่น้องเขามีสีนี้อยู่แล้ว น้องเลยเอามาให้เรา ขอบคุณนะค้าา
♥Review♥
สั้นๆไม่พูดเยอะ เม็ดสีชัด ติดทน เหมือนๆกับ Illamasqua เลยค่ะ
สีนี้เห็นว่าเป็นสียอดฮิตด้วย ทาแล้วได้ลุคนวลๆใสๆ สุขภาพดี
♡ Lip♡
✼ ҉ ✼ ҉ ✼ ҉ ✼ ҉ ✼ ҉ ✼
ปีนี้เราซื้อลิปเยอะมากกกก เยอะแบบบบบ จะซื้อเยอะอะไรขนาดนี้อะเราอะ ปากก็มีอยู่ปากเดียว ทำมายยยยยยย ปีหน้าจะตั้งสติก่อนควักสตางค์นะ ฮืออ
แต่...เราก็รู้สึกว่าเรายังไม่เจอสีที่ใช่สำหรับเราง่ะ ต้องหาต่อไป
Giorgio Armani Lip Maestro
มีอยู่ในครอบครองทังหมด 2 สีด้วยกันค่ะ คือ สี 200 และ#400 The Red #502
♥Review♥
เนื้อ : เนื้อดีสมราคา เป็นแมทท์ที่ไม่แมทท์แห้งหาก มีความครีมมี่ๆ ทาง่าย
ติดทน: ทนค่าาา แปรงฟันก็หลุดนะแต่สียังอยู่ แต่ว่าถ้าอยากเป๊ะปังทั้งวันก็ต้องเติมซักหน่อยนะคะ
กลิ่น ไม่มีกลิ่นเหม็นมากวนจมูก
ไปต่อหรือพอแค่นี้ : ของเขาดีสมราคาเลยนะคะ แต่สำหรับราคาน้านนน บอกเลยว่าแรว๊งงง นุ้งไม่สามารถซื้อเพิ่มมาได้อีกบ่อยๆ แต่ถ้ามีโอกาสก็จะไปถอยสีธรรมชาติที่สามารถทาได้ทุกวันมาติดกรุไว้ซักกะหน่อย
Innisfree
ปีนี้จัดมาทั้งหมด 2 รุ่นด้วยกันค่ะ
ซื้อมาเพราะดูคลิปพี่ดุจดาวแล้วพี่ช่างแต่งหน้าเขาใช้เราเลยลองซื้อมาใช้ตามบ้าง
ต้องบอกว่าเป็นลิปหลักร้อยที่เนื้อดีมากๆเลยค่าาา > _ < ชอบทั้งสองอันเลย
รุ่น Vivid Cotton Ink #05
เป็นเนื้อแมทท์ที่ไม่แห้ง มันดีตรงที่ว่าต่อให้เป็นแมทท์แต่เนื้อของเขาเบาทำให้สามารถเกลี่ยให้ฟุ้ง สไตล์โคเรียได้เลย ปากนัวๆน่าจุ๊บอะไรแบบนั้นย่อมทำได้ อ้อ มีกลิ่นหอมของดอกไม้ด้วยนะ
และที่สำคัญคือติดทนค่ะ สำหรับสีนี้คือสี 05 เป็นสีแดงๆ ทาเดี่ยวๆก็สวย แต่ใครกลัวแรงไปทาเป็นทินท์ด้านในก็เริ่ดอะ
รุ่น Vivid Oil Tint
รุ่นนี้เป็นทินท์ แต่ไม่ใช่ทินท์ทั่วๆไปที่ทาแล้วแห้งนะเพราะรุ่นนี้เขาเป็นออยล์แหละ
ทาแล้วปากเงางามสุขภาพดี รุ่นนี้กลิ่นหอมผลไม้ ฟรุตตี้ๆ เห็นมันๆเงาๆแบบนี้แต่ติดทนจนต้องลบด้วย Lip remover นะคะเนี่ย
✧・゚:*Nars Vinyl lip lacquer #Orgasm *:・゚✧
เหตุเกิดจากเราเห็นภาพนี้ในไอจีแล้วเราก็พบว่าไม่มีไม่ได้ล้าวววว
♥Review♥
ความเป็นจริงคือเราไม่สามารถทาตัวนี้ตัวเดียวแล้วออกมาเป็นแบบในภาพได้เลย อาจจะเป็นเพราะสีปากเดิมของเราก็เป็นได้ เราทาแล้วกลายเป็นเดอะทอยส์เลย (ฉันจะพาเธอลอยยย ล่องไปในอวกาศ...ได้ลุคท่องอวกาศเลยล่ะ55555)
วิธีแก้ของเราก็คือทาทินส์ปรับสีพื้นปากซะก่อน แล้วก็จะได้ลุคปากน่าจุ้บุแบบในรูป
ไปต่อหรือพอแค่นี้ : ไปต่อก็ได้ ฉันจะพาเธอลอย ล่องไปในอวกาศ 55555
Bobbibrown Luxe liquid lip high shine
ได้เขามาจากตอน 11.11 ปกติไม่มีลิปโทนสีนี้เลย ทาแล้วดูธรรมชาติ สวยใสดีค่ะ แต่ติดนิดนึงตรงที่ใช้แล้วไม่รู้ทำไมระหว่างวันปากลอกก็ไม่รู้ทั้งๆที่เนื้อเขาออกจะชุ่มชื้นขนาดนั้น
ไปต่อหรือพอแค่นี้ : น้องว่าน้องอาจจะมีปัญหากับพี่เขานิดหน่อย น้องขอเคลียร์กับเขาก่อนนะคะ
Bobbi Brown Luxe Lip Color
ส่วนอันนี้ไม่มีปัญหาอะ ใช้แล้วปากไม่ลอก เนื้อนุ่ม ทาง่าย ลื่นปื๊ดดด ปากชุ่มชื้น
แต่ความชุ่มชื้นแลกมาด้วยความติดไม่ทนนะคะ
น้องอยากได้สี Bosspink กับ Peach Pink เพิ่ม
Loreal Tint Careless #Sakura Blossom
ลิปรุ่นนี้เคยฮิตอยู่ช่วงนึงเมื่อ 2-3 ปีก่อน ช่วงนั้นเราก็ใช้
แต่อนิจจาเราทำหาย ปีนี้อยู่ๆคิดถึงเลยซื้อมาใช้เล่นซักหน่อย พกไว้อุ่นใจค่ะ
L'Oreal Color Riche Cannes Limited #999 Red Carpet
รุ่นนี้เป็นรุ่น Limited Edition ตอนที่แม่ชมพู่ไปเดินพรมแดงที่เมืองคานส์ ปี 2018 นี้เอง อย่างแรกคือสะดุดแพคเกจนี่แหละ ความกำมะหยี่นี้ แต่พอปาดเข้าไปก็ทำให้รู้ว่าเขาไม่ได้มีดีแค่แพคเกจอย่างเดียวนะ สำหรับเราสีสวย เนื้อดี ลื่น ทาง่าย
ไปต่อหรือพอแค่นี้ : ไปต่อค่าาา มีช่วงนึงติดทาแท่งนี้อย่างเดียวเลย แถมยังเอามาทาแก้มก็ได้ลุคบ่มแดดอีก
Mamonde Creamy Tint Colour Balm Intense No.11
ซื้อมาเพราะเห็นว่าฮิต นี่ก็เลยอยากลองบ้าง
เนื้อลิปโอเคเลยค่ะ เป็นลิปหลักร้อยที่คุณภาพดี แต่สำหรับเราสีนี้ยังไม่โดนใจเท่าไหร่
Chateau Labiotte Wine Lip Tint
ขวดนี้ซื้อตามกระแสอีกแล้วค่ะ เห็นว่าฮิต แถมแพคเกจจิ้งก็น่ารัก
(เราว่านิสัยซื้อเพราะฮิต กับซื้อเพราะแพคเกจจิ้งของเราควรหมดไปตั้งแต่ปี 2018นี้)
ใช้แล้วชอบนะคะ เป็นทินท์ที่สีชัดสุดไรสุด แดงนี่แดงแบบคนจีน คนเกาหลีที่เดินแถวสยามแล้วเราไม่รู้ว่าสีอะไร ในที่สุดก็เจอจนได้ แต่เราทาแล้วไม่สวยเท่าเขาเพราะเราไม่ได้ขาวขนาดน้านนน นอกจากนี้กลิ่นก็หอมๆ ไม่ขม ติดทน
เราใช้ตัวนี้ทาคู่กับ Nars ของเราได้ลุคแดงๆทองๆ ก็สวยไปอีกแบบค่า
Wet n' Wild #Bare it all
แท่งนี้ซื้อซ้ำเนื่องจากแท่งเดิมที่มีอยู่หมดอายุแล้วค่ะ
เราซื้อซ้ำเพราะเราชอบลิปสีนู้ดโทนนี้ รู้สึกว่าเป็นสีนู้ดสีเดียวที่เราทาแล้วรอด
สีอื่นคือทาแล้วซีดป่วย แต่สีนี้คือเข้ากะเรา
Hilight and Shading
ปีนี้ซื้อไม่เยอะค่ะ แค่ 2 ชิ้นเท่าน้านนน แบบฝุ่น และแบบครีมอย่างละ 1
Charlotte Tilbury filmstar bronze & glow
เคยเขียนรีวิวไปแว้ววว (ตามไปอ่านแบบเต็มได้ที่นีเล้ย https://www.jeban.com/topic/260437)
แต่สรุปสั้นๆก็คือเขาเป็นไฮไลท์เฉดดิ้งเวอร์ชั่นเบาๆใสๆ ตัวไฮไลท์คือวิ้งละเอียดมากกก ปัดแล้วดูมีอะไรแต่ไม่รู้สาเหตุอะ เพราะเนื้อเขาละเอียดจริง ส่วนเฉดดิ้งก็เป็นเฉดดิ้งแบบอ่อนๆ อยู่ดีๆก็หน้าคมมีมิติขึ้นมาแบบไม่รู้สาเหตุขึ้นมาซะงั้น ถ้าใครสายจัดหนักจัดเต็มเราว่าไม่ถูกใจน้า ต้องไปป้ายอื่น
ไปต่อหรือพอแค่นี้ : สายซอฟท์อย่างเรา ป้าได้ไปต่อนะค้าาา แต่บางเวลาก็อยากจัดหนักจัดเต็มกับเขาบ้าง ปีหน้าก็สอยอย่างอื่นเพิ่ม ไม่ว่ากันนะคะคุณป้า <3
Jill Stuart Twinkle Glow Multi Stick
ตัวนี้ซื้อตามพี่นีน่า จากตอนที่ได้เข้าร่วม Exclusive High Tea (ดูภาพบรรยากาศได้ที่นี่ ) ลองใช้แล้วชอบมากกกก น่าจะเป็นเครื่องสำอางอีกชิ้นที่เราจะใช้หมดยันก้นแท่ง
สรุปสั้นๆคือ หอม ติดทน วิ้งสวย ให้ลุคผิวฉ่ำน้ำ ไปต่อสวยๆเลย
สรุป My Favourite 2018
✼ ҉ ✼ ҉ ✼ ҉ ✼ ҉ ✼ ҉ ✼