พาหนุ่มฝรั่งเที่ยวกาญจนบุรี 3 วัน 3 คืน แบบชิ๊วชิว
ballyfit25 19 2
สวัสดีค่ะ สาวๆ Jeban บอลไม่ได้มาโพสนานเลยเนื่องจากงานราษฏร์ งานหลวงและทริปแน่นมาก และ วันที่ 17-21 กุมภาพันธ์ 2562 ที่ผ่านมา บอลได้มีโอกาสพาหนุ่ม(เหลือน้อย ) จากประเทศฝรั่งเศสไปเที่ยวกาญจนบุรี ในฐานะที่เราเป็นคนไทยก็อยากอวดความสวยงามของบ้านเราให้เขาเห็นว่า เมืองไทยของเรานั้นมีดีหลายอย่าง บอลก็ได้จัดตารางการเดินทางคร่าวๆ ไว้ พยายามให้ทริปไม่แน่นจนเกินไปเพื่อให้เป็นการท่องเที่ยวที่ทุกคนได้สนุก ผ่อนคลาย Slow Life ไม่ต้องเร่งรีบ ไปตามจุดต่างๆ มาก ไปดูกันค่ะว่า บอลพาหนุ่มๆ ไปเที่ยวไหนกันบ้าง
เที่ยวกาญจนบุรี วันที่ 1
จุดแรกที่เราแวะพักคือ ต้นจามจุรียักษ์ บอลมากาญจบุรีเป็นครั้งที่ 4 หรือ 5 แต่ไม่มีโอกาสเห็นสักที รอบนี้เลยอยากมาให้ได้ ต้นจามจุรียักษ์ต้นนี้อายุมากกว่า 100 ปี แตกแยกกิ่งก้านออกมาเป็นรูปทรงแปลกตา สวยงามากเลยค่ะ เวลาเดินเข้าไปใต้ต้นไม้จะรู้สึกเย็นสบาย แตกต่างจากอากาศด้านนอก แม้จะมีหลังคาแต่ก็ไม่เย็นเหมือนอยู่ใต้ต้นไม้ต้นนี้ จินตนาการว่า ถ้าเรามีต้นไม้แบบนี้เยอะๆ ในเมืองบ้างคงจะดีนะคะ
ใต้ต้นจามจุรียักษ์ นักท่องเที่ยวจับจองจุดถ่ายรูป บ้างก็นั่งเล่นรับลมเย็นๆ ใต้ต้นไม้
แถวๆ นั้นจะมีร้านรวงของชาวบ้านใกล้เคียงนำสินค้าในท้องถิ่นมาขาย ไปลองเดินเล่นกันได้นะคะ มีโชว์รำมวยไทยของกลุ่มรักษาวัฒนธรรมมวยไทย และมีน้องแต่งตัวแบบโบราณถือดาบ เราก็บอกให้ช่วยเป็นพร็อพถ่ายรูปซะเลย ทิปไปคนละเล็กๆ น้อยๆ ให้น้อง ๆ มีกำลังใจค่ะ
จากนั้นเราก็ขับรถเข้าเมืองมายังสะพานข้ามแม่น้ำแคว แวะทานอาหารตรงแพใกล้ๆ สะพาน มีอาหารบุฟเฟต์หัวละ 250 บาท จำชื่อร้านไม่ได้ แต่น่าจะมีร้านใหญ่ ใต้สะพานอยู่ร้านเดียวนะคะ อาหารก็ใช้ได้ค่ะ เราเลือกทานบุฟเเฟ่ต์เพราะมีอาหารหลากหลาย หนุ่มๆ ชาวต่างชาติจะได้เลือกทานกันได้ตามที่ชอบเลย ทานอาหารเสร็จเช็คบิลปุ๊บ ฝนก็เทลงมาซะงั้น เราก็เลยไปนั่งร้านกาแฟใกล้ๆ รอฝนซา พอฝนเริ่มซา เราก็ไปแวะที่พิพิธภัณฑ์สงครามทีอยู่ใกล้ๆสะพานข้ามแม่น้ำแคว แค่ 50 เมตร แต่ไม่ได้ถ่ายรูปมา เลยไม่มีรูปค่ะ
เสร็จจากพิพิธภัณฑ์ประมาณบ่ายสามเศษ เราก็เข้าเช็คอินที่โรงแรม The Zeit River Kwai เป็นโรงแรมสไตล์โมเดิร์นตั้งอยู่ในตัวเมืองกาญจนบุรี ติดริมแม่น้ำแควเลย บรรยากาศดีสุดๆ และเดินทางสะดวกมาก ห่างจากสะพานข้ามแม่แควแค่ 800 เมตรเองค่ะ แต่ไม่ได้รูปภายในห้องพักมานะคะ แต่ตกแต่งแบบเรียบง่ายสไตล์โมเดิร์น สะอาด น่าอยู่ เรากับแฟนได้พักห้องชั้นบนสุดค่ะ โรงแรมจะแบ่งเป็นหลายๆ ตึก แต่ละตึกจะมี 3 ชั้น ชั้นละ 2 ห้อง หากใครมากับผู้สูงอายุ หรือเด็ก แนะนำให้พักชั้นล่างจะดีกว่าค่ะ เพราะไม่มีลิฟท์และบันได้ค่อนข้างชัน
ที่บอลเลือกพักที่นี่เพราะบรรยากาศดี เดินทางสะดวก มีมุมถ่ายรูปสวยๆ เยอะมาก ไปดูกันเลยจ้า
เวลาที่พระอาทิตย์ตกสวยมากๆ เลยค่ะ จะว่าไปที่นี่ก็เหมาะกับการมาจัดอีเวนต์ งานแต่งงาน เพราะมีบริเวณกว้างขวาง ราคาที่พักก็ไม่แพง 1600 บาท(ในช่วงที่ไปพัก) รวมอาหารเช้าแล้ว อาหารเช้าก็พอทานได้ค่ะ แต่อาหารเช้าไม่ค่อยหลากหลาย ถ้ามีโอกาสก็อยากมาพักอีกค่ะ
เที่ยวกาญจนบุรีวันที่ 2
พาหนุ่มๆ ล่องเรือหางยาว จากสะพานข้ามแม่น้ำแควไปสุสานทหารสัมพันธมิตรเขาปูน หรือ สุสานช่องไก่ เคยเป็นที่ตั้งค่ายเชลยศึกขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำแควน้อย ฝั่งตะวันออกห่างจากสะพานข้ามแม่น้ำแคว 2 กิโลเมตรระหว่างทางเราก็ได้ดื่มด่ำกับวิวที่สวยงาม หลังจากสุสานช่องไก่เราก็นั่งเรือไปแวะต่อที่พิพิธภัณฑ์สงครามอีกแห่ง คนและแห่งกับวันแรก แต่ไม่ได้ถ่ายรูปมาเลย
พอเสร็จจากล่องเรือกลับมาที่สะพานข้ามแม่น้ำแคว เราก็ไปสอบถามเจ้าหน้าเรือเรื่องตั๋วรถไฟสายมรณะ แถวนั้นมีโต๊ะรับจองโบกี้พิเศษ สามารถจองที่นั่งได้ สอบถามรายละเอียดเสร็จแล้ว เลยตัดสินใจว่าจะไปส่งหนุ่มๆ ที่สถานีท่ากิเลนเพราะจะได้ไม่ใช้เวลาบนรถไฟนานจนเกินไป ส่วนเราเป็นสารถีไปส่งและไปรับที่สถาทีน้ำตก ราคาจากสถานีท่ากิเลนไปสถานีน้ำตก 150 บาทต่อคน (ราคาชาวต่างชาติ) คนไทยจำได้ว่า 100 บาทตลอดสาย เราต้องพาหนุ่มๆ ไปขึ้นรถไฟที่ท่ากิเลนตอน 11.50 นาที
ขับรถมาถึงสถานีเรายังมีเวลาเป็นชั่วโมงเลยแวะเที่ยวปราสาทเมืองสิงห์ ซึ่งอยู่ห่างจากสถานีท่ากิเลนแค่ 7 นาที ปราสาทเมืองสิงห์เป็นปราสาทขอม สร้างขึ้นเพื่อเป็นพุทธศาสนสถานในพุทธศาสนา สร้างขึ้นราวพุทธศตวรรษที่ 17 ปราสาทไม่ได้มีขนาดใหญ่มาก เราใช้เวลาไม่นาน ก็ขึ้นรถเดินทางไปยังสถานี
เรารอส่งหนุ่มๆ ขึ้นรถไฟ ราว 30 นาที รถไฟก็มา จากนั้นเราก็ขับรถไปรอรับหนุ่มๆ ที่สถานีน้ำตก ประมาณบ่ายโมงตรง รถไฟก็มาถึงและเราก็ไปทานอาหารเที่ยงแถวน้ำตกไทรโยคน้อย ช่วงนี้น้ำน้อย น้ำตกไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ เลยไม่ได้ถ่ายรูปมาค่ะ เสร็จแล้วเราก็เดินทางไปที่พักคืนที่สอง ขอไม่กล่าวถึงที่นี่มากนะคะ เพราะมีเหตุการณ์ไม่ประทับใจเกิดขึ้น
เที่ยวกาญจนบุรี วันที่ 3
ตอนแรกตั้งใจจะไปช่องเขาขาด แต่ก็ตัดออกไปเพราะหนุ่มน้อยทั้งสามของเราไม่น่าจะอยากเดินเยอะ เลยพาไปขี่ช้างซะเลย เนื่องจากเราจองที่พักไว้ที่บ้านกกกอดและมีแคมป์ช้างใกล้ๆ ชื่อว่า แคมป์ช้างทวีชัย แคมป์ช้างทวีชัยมีกิจกรรมให้เราได้ทำหลายอย่าง เช่น ให้อาหารช้าง อาบน้ำกับช้าง ขี่ช้าง เป็นต้น แต่เราเลือกขี่ช้างเพราะจะได้ไม่ต้องเปลี่ยนชุดให้วุ่นวาย ราคา 350 บาท สำหรับคนไทย สำหรับชาวต่างชาติ 600 บาท ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ระหว่างรอควาญใส่ที่นั่งเราก็ซื้อกล้วยไปป้อนช้างกัน ช้างน้อยที่บอลถ่ายรูปคู่มาด้วย น่ารักมากค่ะ นางขี้เล่นมาก
ไม่นานเจ้าหน้าที่ก็เรียกให้ไปขึ้นช้าง พาเดินเข้าแคมป์ช้าง มีกระท่อมของควาญช้างเรียงราย ควาญช้างส่วนมากน่าจะเป็นชาวพม่า เดินไปเรื่อยไปถึงเนินที่ช้างจะเดินลงแม่น้ำ ตรงนี้ค่อยข้างชันหวาดเสียวมาก ต้องเกาะกันดีๆ ควาญพาช้างเดินลงน้ำ แต่เราไม่ตัวเปียกนะคะ ระดับน้ำไม่ได้ลึก ในแม่น้ำก็จะเห็นควาญกำลังอาบน้ำช้างอยู่ 2 เชือก พอควาญพาช้างที่เราขี่ขึ้นจากน้ำแป๊บนึง ควาญโดดลงและบอกให้เราไปนั่งที่คอช้างแทน เฮ้ย ตื่นเต้น นี่เป็นครั้งแรก แต่ก็อยากลอง เลยโดดไปเลยจ้า ควาญขอมือถือเราไปถ่ายภาพ เลยได้ภาพสวยๆ ตอนขี่ช้างมาเยอะเลย ประทับใจกับที่นี่มาก แต่คราวหน้าอยากไป ช ช้าง ชราซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่นี่ เพื่อนที่เคยไปบอกว่าสนุก มีกิจกรรมให้ทำหลายอย่างกว่าที่นี่ น่าไปลองมากๆ ค่ะ
หลังจากขี่ช้างเสร็จ ก็เป็นเวลาเที่ยง เราก็ไปหาอะไรทางใกล้ๆ ชื่อร้านครัวคุณลุง ร้านอยู่ติดแม่น้ำบรรยากาศดี อาหารอร่อย และราคาไม่แพง (ไม่ได้ถ่ายรูปมาอีกแล้ว 555)
หลังจากขี่ช้างเสร็จ ก็เป็นเวลาเที่ยง เราก็ไปหาอะไรทางใกล้ๆ ชื่อร้านครัวคุณลุง ร้านอยู่ติดแม่น้ำบรรยากาศดี อาหารอร่อย และราคาไม่แพง (ไม่ได้ถ่ายรูปมาอีกแล้ว 555)
ประมาณบ่ายโมงกว่าๆ เกือบบ่ายสอง เราก็มาเช็คอินกันที่บ้านกกกอด ที่พักที่บอลใฝ่ฝันอยากมาพักนานมากแล้ว แต่ไม่มีโอกาสมาสักที ที่นี่ไม่มี wifi แต่ใครแคร์ มือถือก็มีเน็ตให้เล่นหนิเนอะ ที่นี่สวยงามดีงามสมคำร่ำลือ และไม่ผิดหวัง บอลจองพักห้องชมดาว วิวเขื่อนมีดาดฟ้าให้ชมวิวได้ และอีก 2 ห้องให้หนุ่มอีกสองคน เป็นบ้านริมบึง บ้านแฝด เนื่องจากต้องการความสะดวกในการใช้ห้องน้ำเลยเลือกจองห้องที่มีห้องน้ำในตัว
ช่วงบ่ายๆ อากาศร้อน บอลไปค้นพบมุมดีสำหรับนั่งอ่านหนังสือรับลมเย็นๆ นั่นก็คือ ชั้นบนของบริเวณทานอาหาร มีชิงช้าให้นั่งเล่น นอนเล่น ดูวิวสวยๆ สวรรค์ชัดๆ แดดร่มลมตกก็ไปเดินถ่ายรูป เซลฟี่กันไป มุมถ่ายรูปเยอะแยะมากมายก่ายกอง ขาดก็แต่ช่างภาพ บอลตั้งกล้องถ่ายเองหมดเลย ขอนินทาแฟนหน่อย คือเคยให้นางถ่ายรูปให้นะ รมณ์เสีย ตอนนี้เลยติดขาตั้งกล้องพร้อมรีโมท ถ่ายเองเลยสบายใจ ช่วงพระอาทิตย์ตกบอลก็ไปแว๊นพายเรือคายัคล่องทะเลสาบคนเดียวสนุกมาก พายเย็น พายค่ำ พายเช้า เช้าวันถัดไปก็ตื่นแต่เช้าไปพายเรือติดกล้วยและน้ำไปด้วย พายอยู่เป็นชั่วโมง อยากอยู่ที่นี่นานๆ ไม่อยากกลับเลย เย็นวันนั้นเราสั่งอาหารเป็นขันโตกให้ที่พักจัดเตรียมให้ set ละ 450 บาท 2 set ขอบอกว่า 450 บาทไม่แพงเลย และอร่อยด้วย (ไม่มีรูปอีกแล้ว) อาหารเป็นอาหารง่ายๆ เมนูเท่าที่จำได้ก็มี ปลานึ่ง แกงจืด น้ำพริกปลาทู ผัดผัก พะแนงหมู มีอะไรอีกจำไม่ได้ ใครที่มาพักแล้วอยากได้เซ็ทขันโตกต้องแจ้งล่วงหน้านิดนึงเพราะเดี๋ยวแม่ครัวเตรียมวัตถุดิบไม่ทัน
ขอปิดท้ายด้วยภาพวิวจากบ้านกกกอดค่ะ
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ