​

​
Ingredients :
Petrolatum, Glycerin, Polysorbate 80, Beeswax, Tocopheryl Acetate, Ozokerite, Ricinus Communis (Castor) Seed Oil, Lactobacillus/Papaya Fruit Ferment Extract, Phenyl Trimethicone, Simmondsia Chinensis (Jojoba) Seed Oil, Phenoxyethanol, Chlorphenesin, Butyrospermum Parkii (Shea) Butter Extract, BHT, Argania Spinosa Kernel Oil, Sorbitol, Water, Ascorbyl Tetraisopalmitate, Polysorbate 61, Octyldodecanol, Spent Grain Wax, Hexyldecanol, Sodium Benzoate, Butylene Glycol, Cholesterol, Ribes Nigrum (Black Currant) Seed Oil, Phospholipids, Helianthus Annuus (Sunflower) Seed Oil Unsaponifiables, Pyrus Malus (Apple) Seed Extract, Leuconostoc/Radish Root Ferment Filtrate, Tocopherol, Alteromonas Ferment Filtrate, Pantothenic Acid, Cardiospermum Halicacabum Flower/Leaf/Vine Extract, Helianthus Annuus (Sunflower) Seed Oil, Ascorbyl Palmitate, Retinyl Palmitate, Rosmarinus Officinalis (Rosemary) Leaf Extract.

                จากส่วนผสมนะครับ จะเห็นว่า จะเป็น Petrolatum เป็นหลัก นี่เองจึงทำให้สีผึ้งของ Milday มีเนื้อ texture ที่คล้ายๆ Petrolatum Jelly อย่างที่เจมส์บอกไปตอนต้น แต่ว่า !!! แน่นอนว่า ไม่เหมือน Petrolatum Jelly แน่นอน เพราะว่า สีผึ้ง Milday นั่นเขาได้เพิ่มสารดึงน้ำให้ผิว อย่าง Glycerin และพวกสารกลุ่มที่เป็นน้ำ Water Base ลงมาผสมด้วย ก็จะเหนือว่า ตรงที่ว่าในแง่ของความชุ่มชื่นต่างๆ เข้ามานั่นเอง และด้วยความที่สีผึ้งนี้เป็นเครื่องสำอางในรูปแบบ Water in Oil (w/o) แน่นอนว่าก็จะทำให้สารต่างๆ ซึมเข้าสู่ผิวได้ดีกว่า พวกลิปมัน หรือ ขี้ผึ้งทั่วๆไปที่มีแต่สารกลุ่มไขมันเพียงอย่างเดียว

ด้วยความ ที่ชื่อก็บอกแล้วว่า “สีผึ้ง” แน่นอนเขาทำมาจาก ขี้ผึ้ง หรือ Beeswax ครับ เป็นขี้ผึ้งบริสุทธิ์ ที่จะช่วยฟื้นฟูเซลล์ผิวให้กลับมาแข็งแรงเพราะขี้ผึ้งจะเข้าไปช่วยเคลือบไม่ให้ความชุ่มชื่นตามธรรมชาติของผิวระเหยไปนั่นเอง จึงทำให้ผิวค่อยๆเยี่ยวยาตัวเองได้ อีกทั้งขี้ผึ้งยังช่วยเรื่องของการยับยั้งพวกเชื้อแบคทีเรียอ่อนๆได้อีกด้วยนะครับ

สีผึ้ง Milday ยังมีส่วนผสมที่สำคัญที่ช่วยฟื้นบำรุง อย่าง Multi-Vitamin หรือวิตามินรวม ได้แก่ วิตามิน A + B + C และ E ด้วย พิเศษตรงที่เขาเลือกใส่วิตามิน E มาถึง 2 รูปแบบ ทั้งแบบรูปแบบสังเคราะห์ที่จะซึมลงผิวได้ดีกว่า และวิตามิน E รูปแบบธรรมชาติที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ, วิตามิน C ก็เหมือนกันใส่มา 2 รูปแบบ ในแบบที่ละลายในไขมันทั้งคู่ จะบอกว่า พิเศษไปกว่านั้นเพราะเขายังคงใช้เทคโนโลยีห่อหุ้มวิตามินอย่าง “Liposome” เข้ามาช่วยเก็บคุณค่าวิตามินให้ยิ่งซึมลึกลงไปสู่ผิวอีกด้วย ทำให้ผิวมีสุขภาพที่ดีขึ้นอย่างรวดเร็ว

และพระเอกหลักของเรา "สารสกัดจากมะละกอ" ที่มาของชื่อ Papaya Ointment หรือ สีผึ้งมะละกอ ถ้าไม่มีสารสกัดจากมะละกอก็คงถือว่าไม่ใช่ สีผึ้งมะละกอ เนอะ โดยทางแบรนด์เลือกใช้เป็น Lactobacillus/Papaya Fruit Ferment Extract หรือ มะละกอที่ไปหมักกับเชื้อ Lactobacillus แล้วสกัดออกมาก็จะได้สารสำคัญที่ค่อนข้างเข้มข้น ตรงนี้หลักๆก็จะช่วยในเรื่องของการ Powerful Antioxidants หรือ มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระที่สูง ช่วยเรื่องชะลอวัย ชะลอการเกิดริ้วรอยต่างๆ สามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนจากชั้นผิว ปรับให้ผิวกระจ่างใสได้ด้วย ต้านการอักเสบ ช่วยเรื่องสมานผิว ฟื้นฟูเซลล์ผิว ให้ผิวชุ่มชื่น เรียบเนียน และสารสกัดจากมะละกอหมัก นี้เองทางแบรนด์เขาได้จดสิทธิบัตร เป็นเจ้าแรกของประเทศไทยร่วมกับ สํานักงานกองทุนวิจัย และนี่เองทำให้เรามั่นใจว่า จะปลอดภัย และใช้ไปจะเห็นผล เพราะเขามีงานวิจัยนั่นเอง แถมยัง cap สารออกฤทธิ์ให้ Active ดีขึ้นด้วยเทคโนโลยี Nano-Niosome อีกตังหาก ก็ส่งผลให้สารสำคัญซึมผ่าน ตรงเข้าสู่เซลล์ผิวได้ดียิ่งขึ้นไปอีก

ยังไม่หมดแค่นั้น ต้องชื่นชม RD ผู้พัฒนาสูตรนะครับ ก็ถือว่าเก่งและทำออกมาน่าสนใจ โดยการใส่น้ำมันธรรมชาติลงมาผสมด้วย หนึ่งในนั้นมีน้ำมันสกัดจากเมล็ด Argan อยู่ด้วย Argan Oil เป็นน้ำมันที่อุดมไปด้วยสารต่อต้านอนุมูลอิสระตามธรรมชาติที่จำเป็นกับผิวและมีประโยชน์ทั้งผิวหนัง ผม และเล็บ ก็จะช่วยป้องกันการเกิดการเสื่อมสภาพของเซลล์ผิว และยังมีคุณสมบัติต้านอาการอักเสบอีกด้วยครับ

และสารที่ชื่อว่า DEFENSIL® - PLUS [Octyldodecanol (and) Ribes Nigrum (Black Currant) Seed Oil (and) Helianthus Annuus (Sunflower) Seed Oil Unsaponifiables (and) Cardiospermum Halicacabum Flower/Leaf/Vine Extract (and) Tocopherol (and) Helianthus Annuus (Sunflower) Seed Oil (and) Rosmarinus Officinalis (Rosemary) Leaf Extract] : เป็นสารที่จะช่วยในเรื่องของการปลอบประโลมผิว และต้านการอักเสบของผิว ก็จะโดดเด่นเรื่องของการช่วยให้ตาข่ายผิว หรือ Skin Barrier ของเรากลับมาแข็งแรง ลดอาการของพวกสารก่อการระคายเคืองของผิวต่างๆลงไปบ้าง ช่วยให้ผิวระคายเคืองน้อยลง + และสารอีกหนึ่งตัวที่น่าสนใจคือ Exo-P™ [Water (and) Butylene Glycol (and) Alteromonas Ferment Extract] หรือสารที่ชื่อว่า The Exotic Protection เป็นสารที่ได้รับรางวัลจากงาน in-cosmetic เหรียญทองปี 2015 ด้วยว่าเป็นสารที่จะช่วยให้เรื่องของการปกป้องผิวจากพวกมลภาวะต่างๆ ฝุ่น ควันรถ ควันจากบุหรี่ได้ และ สามารถป้องกันผิวจากฝุ่น PM2.5 ได้อีกด้วย ซึ่งเหมาะกับประเทศไทยที่เริ่มมาสนใจปัญหานี้ด้วย และดักจับโลหะหนักต่างๆไม่ให้ทำอันตรายหรือรบกวนผิวของเราครับ

ในแง่ของเบสส่วนผสมอื่นๆก็ถือว่าปลอดภัยไม่มีตัวไหนเป็นอันตรายเลย ในสูตรก็คือ ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม ไม่มีส่วนผสมของสี ไม่มส่วนผสมของสารกันเสียกลุ่ม Paraben ด้วย ถือว่าปลอดภัยและอ่อนโยนสุดๆเลยครับ

เจมส์ทำ VDO รีวิวไว้ให้ด้วยนะครับ

เผื่อใครอยากจะดูเป็นคลิปสั้นๆ

เข้าใจการใช้ง่ายๆ

สามารถ กด PLAY ได้เลยนะครับ แปะไว้ให้ล่างนี้เลย