มาส์กหน้ายังไงให้ได้ผล : รีวิว เทคนิคมาส์กหน้าให้ผิวใสและได้ผลจริง ที่คลินิกความงามใช้!

17 2
สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้มากับความ “สาระมีอยู่จริงงงง!!” ไม่ใช่อะไรค่ะ คือมีอยู่วันนึง คืออยู่ๆ ก็เดินเข้าคลินิกไปมาส์กหน้า แล้วก็รู้สึกว่าเห้ยยย ดี! ทำไมมันได้ผลอะไรแบบนี้ ได้ผลกว่าการที่เรามาส์กหน้าปกติมากๆ แล้วจากนั้นก็จำเทคนิคจากคลินิกนั้นมา แล้วก็มาดัดแปลงใช้กับหน้าตัวเองเป็นประจำ ก็ปรากฎว่ามันดีเว้ยแก มันได้ผล วันนี้ก็เลยคิดว่าจะเม้าเรื่องนี้สักหน่อยค่ะ เผื่อจะมีประโยชน์กับสาวๆ ทุกคนค่ะ
เข้าเรื่องเลยนะคะ เดี๋ยวยาวไป กลัวหลายๆ คนจะเบื่อที่จะอ่านกันสักก่อน วันนี้บีจะมาเล่าขั้นตอนมาส์กหน้า ที่บีคิดว่าวิธีนี้แหละเวิร์คมากๆ ทำให้มาส์กแผ่นที่เราใช้ มันทำหน้าที่ของมันได้แบบมีประสิทธิภาพที่สุดค่ะ! และบีเองก็ใช้ขั้นตอนนี้ทุกสัปดาห์หรือพูดง่ายๆ ก็คือ ทุกครั้งก่อนมาส์กหน้าประจำสัปดาห์นั่นเอง

เริ่มจากมาดูกันดีกว่าว่าบีใช้อะไรบ้าง

  • PAUL FRANK Bubble Detox Charcoal Deep Clean 
  • Clinique 7 Day Scrub Cream Rinse-Off Formula
  •  Kiehls Calendula Herbal Extract Alcohol-Free Toner 
  • มาส์กหน้าต่างๆ ที่ชอบ (บีมีหลายตัวมากเลย ก็สลับใช้ไปเรื่อยๆ ค่ะ) 

ที่นี้มาดูกันดีกว่า ว่ามีขั้นตอนอะไรบ้างค่ะ

1.ทำความสะอาดหน้าให้หมดจด

ขั้นตอนแรกเลยค่ะ เราต้องทำความสะอาดหน้าให้สะอาดค่ะ ในที่นี้คือต้องสะอาดมากๆ ไม่ใช่แค่ไม่มีเมคอัพเท่านั้น แต่ผิวต้องสะอาดจริงๆ เพื่อที่ผิวจะได้พร้อมรับการบำรุงได้เต็มที่ค่ะ สำหรับขั้นตอนแรก บีเลยจะใช้ PAUL FRANK Bubble Detox Charcoal Deep Clean ค่ะ ตัวนี้ดีกว่าโฟมล้างหน้าทั่วไปยังไง ?
คือตัวนี้มันต่างกับตัวอื่นๆ ตรงที่มันเป็นทั้งมาส์ก, โฟมล้างหน้าและรีมูฟเวอร์ ในตัวเองค่ะ และมีส่วนผสมของชาโคล ซึ่งชาโคลเนี่ยจะดูดเอาสิ่งสกปรก และพวกมลพิษต่างๆ ในผิวเราออก ใช้ตัวนี้ก็จะสังเกตได้เลยว่าพวกปัญหารูขุมขนและสิวทั้งหลายเนี่ย จะดีขึ้นมากค่ะ และมันมีวิตามิน บี 3 ด้วย มันเลยทำให้เกิดการผลัดเซลล์ผิวเก่าของเราทิ้งค่ะ พวกริ้วรอยก็จะลดลงด้วย
สำหรับวิธีใช้นะคะ บีก็กดเนื้อโฟมออกมา 1-2 ปั้ม นวดเบาๆ บนหน้าที่แห้งของเรา จากนั้นก็ล้างออกด้วยน้ำเปล่าค่ะ จริงๆ ตัวนี้ใช่เป็นมาส์ก ก็ทำได้ง่ายๆ ด้วยการทิ้งไว้อีกสัก 5 นาที จนมันเป็นฟองขึ้นที่หน้าเรา แล้วก็ล้างออกค่ะ (ที่มันเป็นฟองๆ ก็เพราะเจ้าตัวนี้จะปลี่ยนเนื้อครีมให้เป็นฟอง Oxygen อนุภาคเล็ก เข้าไปทำความสะอาดผิวให้มันล้ำลึกค่ะ)
 หลังจากทาไปที่หน้าเรา ก็จะเป็นฟองขึ้นมาเต็มไปหมดเลย แล้วพอผ่านไปสัก 4 นาที ฟองก็จะหายไปเองโดยอัติโนมัติ แบบภาพด้านล่างเลยค่ะ
ทุกครั้งที่จะมาส์กหน้า ตัวนี้เลยเป็น Must have items อันแรกที่บีจะต้องใช้ เพราะตัวอื่นๆ บียังรู้สึกว่าทำหน้าที่แบบนี้ไม่ได้ค่ะ หลังจากล้างหน้าเสร็จแล้ว บีก็จะสครับหน้าต่อค่ะ

2.สครับหน้าผลัดเซลล์ผิว

มาถึงขั้นตอนของการเอาเซลล์ผิวเก่าออกไปแบบทันทีทันใด ก็คือขั้นตอนของการสครับนั่นเองค่ะ ซึ่งมันจะทำให้เราได้มาส์กหน้าได้แบบเต็มที่ เต็มศักยภาพ สครับที่บีชอบมากคือ สครับของ Clinique ตัวนี้คือ 7 Day Scrub Cream Rinse-Off Formula ค่ะ ตัวนี้ดีกว่าสครับตัวอื่นๆ ยังไง ??
 บอกได้เลยค่ะว่า มันเป็นเม็ดสครับที่เล็กและละเอียดมากกก ทำให้มันไม่บาดผิวเราเลยสักนิดค่ะ  
บีก็จะบีบตัวนี้ออกมา ขนาดประมาณเหรียญ 5 บาท แล้วก็นวดเบา ๆ ด้วยปลายนิ้วค่ะ นวดเป็นวงกลมทั่วใบหน้า ประมาณจุดละ 10 วินาทีค่ะ แล้วก็ล้างออกด้วยน้ำอุ่น แล้วซับหน้าให้แห้งค่ะ
ตัวนี้เป็น 7 day คิดว่าที่ชื่อนี้เพราะเนื้อสครับมันละเอียดมาก ทำให้สามารถใช้ได้บ่อยค่ะ และหลังใช้ก็รู้สึกว่าหน้าสะอาด นุ่มลื่นขึ้นมาอีกสเต็ป พร้อมค่ะ ลุยขั้นตอนต่อไป!

3.โทนเนอร์ต้องมา

ตัวนี้ไม่แน่ใจว่าที่คลินิกใช้โทนเนอร์หรืออะไรเช็ดที่ผิวเราก่อน เลยเดาว่าต้องเป็นโทนเนอร์แน่ๆ ทุกครั้งที่จะมาส์กหน้าบีเลยจะเช็ดด้วยโทนเนอร์ทุกครั้ง ก็จะเป็นการเตรียมผิวที่ดี พร้อมรับการบำรุงนั่นเองค่ะ บีจะใช้ตัวนี้ค่ะ Kiehls Calendula Herbal Extract Alcohol-Free Toner เช่นเคย ทำไมต้องเป็นตัวนี้!?
จริงๆ เพื่อนๆ ใช้โทนเนอร์ที่ตัวเองมีก็ได้ แต่บีแค่รู้สึกว่าเจ้าตัวนี้มันไม่มีแอลกอฮอล์ และมันไม่แสบผิวขณะใช้เลย มันคือเดอะเบสมากๆ นั่นเองงงง และที่ชอบที่สุดคือมันอ่อนโยนต่อผิว แถมยังบำรุงผิวเราไปในตัวด้วย (แล้วจะให้บีหยิบตัวอื่นมาใช้ได้ยังไงเนอะ)  
ซึ่งเจ้าตัวนี้มีส่วนผสมของดอกดาวเรือง และ Allantoin ซึ่งจะช่วยลดการอักเสบของผิว และช่วยลดความมันของผิวด้วยค่ะ ใครที่คิดว่าตัวเองผิวแพ้ง่าย หรือเริ่มมีร่องรอยความแก่ตามวัยมาแล้ว น่าจะชอบตัวนี้ค่ะ บีก็จะเทใส่สำลี แล้วก็เช็ดเบาๆ ทั่วใบหน้าเลย

4.มาส์กหน้าได้เลย

มาถึงขั้นตอนของการมาส์กหน้าแล้วค่ะ ก็เลือกมาส์กที่เพื่อนๆ ชอบ และถูกใจกันเลย บีเองก็มีมาส์กหน้าที่เก็บไว้หลายแบรนด์มากๆ และก็ซื้อแบรนด์ใหม่ๆ มาใช้เรื่อยๆ แอบรู้สึกว่า ถ้าเราทำอย่างพิถีพิถันทุกขั้นตอน ใช้มาส์กของแบรนด์ไหน ถูกหรือแพง ก็ได้ผลทั้งนั้นค่ะ
บีจะมาส์กหน้าสัปดาห์ละครั้งนะคะ ช่วงไหนขยันก็สัปดาห์ละ 2 ครั้งค่ะ คำเตือนเพิ่มเติม! อย่าสียดายมาส์ก จนมาส์กหน้าทิ้งไว้นานเกินกว่าที่แผ่นมาส์กนั้นระบุเวลานะคะ เช่น ที่ซองเขียนว่า 10-15 นาที เราก็ควรมาส์กตามเวลานั้นจริงๆ ค่ะ ไม่งั้นมาส์กก็จะดูดความชุ่มชื้นจากผิวเรากลับไปแทนนะคะ ดังนั้น หลับได้ แต่ต้องตื่นตอนหมดเวลานะคะ! ห้ามเพลิน ห้ามเลยค่ะ!!
หลังจากมาส์กหน้าเสร็จ แล้วถอดมาส์กออกมา เราก็จะพบว่าผิวมันฉ่ำๆ ไปด้วยเนื้อมาส์กแบบนี้ ซึ่งก็ต้องไปขั้นตอนการนวดหน้าต่อนั่นเอง เพื่อให้หน้าเราซึมซับเนื้อมาส์กได้ดีขึ้นค่ะ

5.นวดหน้าค่ะ

บางคนละเลยขั้นตอนนี้ไป เพราะมัวง่วงอยู่555 ใช่มั้ยคะ ก็มาส์กหน้ามันเพลินนี่น่า บีก็เคยเป็น555 ไม่เอาๆ มาสู้ด้วยกันใหม่! วันนี้บีเลยเอาเทคนิคนวดหน้าที่บีทำทุกครั้งหลังมาส์กหน้า มาบอกค่ะ เริ่มจากเทค่ะ เทเลย! เทเนื้อมาส์กที่เหลือในซองออกมาก แล้วจัดการดังนี้ค่ะ..
1.นวดตรงช่วงแก้มขึ้นข้างบน 4-5 ครั้ง
2.ใช้นิ้วรูดเบาๆ ทีละข้าง 5 ครั้ง
3.กดขมับและช่วงหน้าผากเบาๆ
4.กดปลายจมูกไล่มาหว่างคิ้ว
นวดแบบนี้ประมาณ 3-5 นาที เราจะรู้สึกว่าเนื้อมาส์กซึมเข้าผิวเรามากขึ้น จนลดความเหนอะหนะลงไปเยอะ! แค่นี้เป็นอันเสร็จสิ้นขั้นตอนค่ะ

หวังว่าเทคนิคการมาส์กหน้า ให้ได้ผล แบบที่บีมาเล่าสู่กันฟังวันนี้ จะเป็นประโยชน์กับสาวๆ ทุกคนนะคะ ใครไปลองมาแล้ว รู้สึกว่าดีขึ้นยังไง ก็มาเล่าฟีดแบคให้ฟังกันด้วยน้า


Bebe Kim

Bebe Kim

สวัสดีค่ะทุกคน
ชื่อ "บีบี" ค่ะ เป็นคนชอบเรื่องความสวยความงามมาก เรียกว่าเสพติดเลยดีกว่า
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องผิว เรื่องแต่งหน้า บางทีก็ลามๆ เสียเงินไปเยอะค่ะ เขินนน 555
ตอนนี้บีอาศัยอยู่ที่ฮ่องกงค่ะ (แต่ก็กลับไทยทุกเดือน เพราะคิดถึงอาหารและเพื่อนๆ รวมถึงครอบครัวนั่นเอง แหะๆ) มีลูกชายตัวเล็กๆ 1 คน ชื่อน้องเจคอปค่ะ
ตอนนี้ก็เป็นคุณแม่มือใหม่ ใช้ชีวิตคูลๆ (ปนเหนื่อย) ไปวันๆ และถ้าวันไหนว่างๆ ก็จะมาเขียนกระทู้แชร์เรื่องราวต่างๆ ให้เพื่อนๆ Jebanista อ่านกันค่ะ

ถ้าใครอยากติดตามบีในรูปแบบวิดีโอ ก็สามารถไปที่ https://www.youtube.com/user/BebeSoonyata ได้นะคะ

ยินดีที่ได้รู้จักทุกคนค่ะ ^^

FULL PROFILE