[ my Best ] 6 แป้งฝุ่นในดวงใจ หมดเมื่อไรมีซื้อซ้ำ
โลกใบเล็กของแมวหมู 42 9สวัสดีค่ะทุกคน กลับมาพบกับบิ๊วกันอีกแล้ว วันนี้บิ๊วตั้งใจมาแนะนำ 6 แป้งฝุ่นในดวงใจของบิ๊ว ที่ใช้ดีจริง แบบของมันต้องมีจริงๆนะคะทุกคน
เกริ่นก่อนเลยว่าสภาพผิวของบิ๊วคือเป็นแบบผิวผสม มันช่วง T-zone และแห้งช่วงกรอบหน้า ดังนั้นแป้งฝุ่นที่บิ๊วชอบต้องช่วยในการคุมมัน และในขณะเดียวกันก็ต้องไม่ทำให้หน้าแห้งแตกเป็นแผ่นๆด้วย ดังนั้นรีวิวนี้ บิ๊วคิดว่าเหมาะกับสาวๆทุกคนแน่นอนค่า
แป้งของเราในวันนี้ บิ๊วจะขอเลือกเป็นแบบแป้งฝุ่นอัดแข็ง 3 แบรนด์ และแป้งฝุ่นไม่อัดแข็ง 3 แบรนด์ เพื่อให้สาวๆได้มีตัวเลือกที่เข้ากับตัวเองมากขึ้นนะคะ
| แป้งฝุ่นอัดแข็ง |
แป้งฝุ่นที่มาในรูปแบบ compact หรือการอัดแข็ง ข้อดีของแป้งฝุ่นแบบนี้คือ เราสามารถพกพาได้ง่าย ไม่ต้องกลัวหกเลอะเทอะนั่นเอง เวลาใช้ก็แค่ใช้แปรงวนๆไปบนเนื้อแป้ง หรือใช้พัฟในการแตะเอาเนื้อแป้งขึ้นมา ซึ่งแป้งแบบนี้บอกเลยว่าบิ๊วชอบมากๆ เพราะใช้งานง่ายนั่นเองค่า
| srichand | translucent compact powder
เค้าจะเป็นแป้งฝุ่นอัดแข็งแบบไม่มีสี ทำให้สีเมคอัพของเราไม่เปลี่ยน มาในปริมาณ 9 g / 350 บาท
โดยส่วนตัวแล้วบิ๊วรู้สึกว่าเค้าให้ฟินิชผิวที่ค่อนข้างบางเบา แต่การคุมมันจะอยู่ในระดับกลางๆ และเบลอรูขุมขนได้บ้าง แต่ข้อดีคือเนื้อแป้งค่อนข้างแน่น ไม่ค่อยมีเป็นฝุ่นๆกระจายออกมาเวลาใช้พัฟหรือแปรงปัดวนลงไป ทำให้ตัวนี้เหมาะกับการเติมระหว่างวัน เพราะพกง่าย เติมทับเมคอัพแล้วไม่เป็นคราบ
| eglips | blur powder pact
แป้งฝุ่นอัดแข็งแบบมีสี มาในตลับกลมๆสีดำด้าน ขนาดกะทัดรัด 9 g /235 บาท มาพร้อมพัฟกำมะหยี่ในตัว ซึ่งค่อนข้างใช้งานได้จริง ช่วยในการจิกเนื้อแป้งได้ดี
บิ๊วจะใช้เป็นเบอร์ 23 ซึ่งเข้ากับผิวมากๆ ตัวนี้เค้าจะเด่นในเรื่องของการเบลอรูขุมขน และการคุมมัน แต่บิ๊วจะรู้สึกว่าเค้าจะมีการดรอปนิดๆระหว่างวัน ดังนั้นบิ๊วมักจะเอาไว้ใช้กับช่วงที่ผิวคล้ำลงเล็กน้อยเพราะจะได้ผิวที่ค่อนข้างพอดีกับผิวตลอดทั้งวัน
บิ๊วมักจะพกเค้าไปเวลาต้องไปไหนมาไหน เพราะว่าตลับเล็ก เก็บใส่กระเป๋าง่าย หยิบออกมาเติมระหว่างวันก็ไม่เป็นคราบอีกด้วย
| code | powder wonder fruity
ดีไซน์ตลับสีชมพูสดใส น่ารักสวยงามนี้ มาในปริมาณ 10 g / 199 บาท มีพัฟฟองน้ำมาให้ในตัว ถือว่าครบถ้วน ใช้งานสะดวกสบาย เค้าจะเป็นแป้งฝุ่นอัดแข็งแบบมีสี ซึ่งมีด้วยกัน 3 สีคือ 01 02 และ 03 สาวๆใช้ได้ทุกสีผิวแน่นอน
ผิวบิ๊วจะพอดีกับเบอร์ 02 มากที่สุด ข้อดีของตัวนี้เลยคือสีแป้งไม่ได้ออกเหลืองมากจนเกินไป และไม่ติดชมพูด้วย เป็นสีแบบเนื้อๆกำลังสวย คิดว่าสาวๆสามารถทาได้ไม่ต้องกลัวหน้าเหลืองเป็นดีซ่าน และชมพูเป็นหมูเบ๊บแน่นอนค่ะ ตัวนี้ก็จะเหมาะกับสาวๆที่อยากเซ็ทงานผิวแบบมีสีเล็กๆเพื่อความนัว การที่แป้งมีสีก็จะทำให้หน้าดูไม่วอกลอย
บิ๊วชอบแป้งตัวนี้มาก เพราะเค้าคุมมันได้ค่อนข้างดี ตามคำเคลมเค้าคือได้ถึง 18 ชม.เลยนะ แต่โดยส่วนตัวบิ๊วยังไม่เคยลองแต่งหน้านานขนาดนั้น แถมเบลอรูขุมขนกว้างๆของบิ๊วได้ดีอีกด้วย สีแป้งไม่ค่อยดรอประหว่างวัน จะให้ผิวที่ดูผ่องๆ ถือว่าเทียบกับราคาแล้ว ตัวนี้เป็นอะไรที่เริ่ดมากๆจริงๆ
| แป้งฝุ่นไม่อัดแข็ง |
แป้งฝุ่นแบบที่ 2 คือแป้งฝุ่นแบบไม่อัดแข็ง ข้อดีของแป้งฝุ่นแบบนี้คือสาวๆสามารถใช้พัฟแตะเค้าออกมาแบบปริมาณเยอะกว่าที่ต้องการเพื่อเอามา bake ใต้ตา หรือบริเวณที่ต้องการความติดทนนานได้ง่ายกว่าแบบอัดแข็ง และใช้เวลาน้อยการในการเซ็ทเมคอัพทั้งหน้าเพราะแตะครั้งนึงก็แทบจะลงได้ทั่วใบหน้าแล้ว แต่ก็จะพกพาไปไหนมาไหนค่อนข้างยาก เนื่องจากอาจจะหกเลอะเทอะได้ง่าย เวลาใช้งานต้องคอยระวัง
| covermark | finishing powder
แป้งฝุ่นไม่อัดแข็งแบบมีสี แป้งของเค้าค่อนข้างเหลืองแบบเห็นได้ชัดสุดๆ ปริมาณ g 30 / 250 บาท ถือว่าราคาน่ารัก ปริมาณจุใจมากๆเลยค่ะตัวนี้
ตัวนี้บิ๊วจะชอบใช้เวลารู้สึกว่ารองพื้นที่ลงไปออกชมพูมากไป พอผสมกับความเหลืองของแป้งตัวนี้แล้ว จะได้สีผิวที่พอดีกับบิ๊วมากขึ้น แต่ไม่แนะนำสำหรับสาวๆที่ใช้รองพื้นค่อนข้างเหลืองอยู่แล้ว หรือผิวโดยธรรมาติไม่ได้เหลืองมากเกินไป เพราะอาจจะทำให้ดูหน้าหมองได้ คุมมันกลางๆ แต่เซ็ทผิวได้ค่อนข้างสวย และช่วยเบลอรูขุมขนได้บ้าง ตัวนี้บิ๊วมักจะใช้ผสมกับแป้งตัวอื่นเมื่ออยากได้ผิวอมเหลืองขึ้นอีกนิด
| de leaf thanaka | duo*2 translucent loose powder
แป้งฝุ่นโปร่งแสง ที่สามารถทวิสต์ได้เป็น 3 แบบ มาในปริมาณ 15 g / 270 บาท ตลับดูสวยงามน่าใช้ ไม่ก๊องแก๊ง ใช้งานค่อนข้างง่าย มีที่ล็อคในตัว เหมาะกับการพกพาไปไหนมาไหนได้
แป้งเค้าจะมีความแอบขาวกว่าผิวบิ๊วไปสักเล็กน้อยตอนลงใหม่ๆ แม้ว่าแป้งเค้าจะมี 2 สีคือ สีอมเหลือง และอมชมพู แต่บิ๊วจะใช้แค่ฝั่งสีอมเหลือง เพราะฝั่งอมชมพูมีชิมเมอร์ที่ค่อนข้างชัด บางครั้งจะทำให้หน้าดูเล่นแสงมากไป แต่ถ้าสาวๆไม่ได้กังวลเรื่องนี้ก็ใช้ได้ทั้ง 2 ฝั่ง จะปัดรวมๆกันหรือแยกกันใช้ก็ได้ เพราะเค้าสามารถกำหนดได้ว่าอยากให้แป้งฝั่งไหนออกมา
การคุมมันถือว่าทำได้ดี แต่เรื่องสีอาจจะโดดไปสักเล็กน้อย ดังนั้นบิ๊วมักจะเอาไว้เซ็ทใต้ตา หรือตามจุดกระทบแสงมากกว่าจะลงทั่วใบหน้า
| laura mecier | loose setting powder
แป้งฝุ่นโปร่งแสงตัวดังที่ใครๆก็ต้องรู้จัก มาในปริมาณ 29 g / 1,690 บาท ตัวตลับรุ่นนี้เป็นรุ่นใหม่ แข็งแรงกว่ารุ่นเดิม บิ๊วทำตกประมาณ 2 – 3 ครั้งแล้ว ก็ยังไม่แตก ถือว่าทำได้ดีขึ้นมาก แต่เวลาจะใช้ก็ยังคงต้องระวัง เพราะแป้งเค้าเนื้อค่อนข้างเบา เวลาเปิด - ปิด จะมีแป้งกระจายฟุ้งเต็มห้องได้ง่ายมากๆ
แป้งฝุ่นโปร่งแสงตัวดังที่ใครๆก็ต้องรู้จัก มาในปริมาณ 29 g / 1,690 บาท ตัวตลับรุ่นนี้เป็นรุ่นใหม่ แข็งแรงกว่ารุ่นเดิม บิ๊วทำตกประมาณ 2 – 3 ครั้งแล้ว ก็ยังไม่แตก ถือว่าทำได้ดีขึ้นมาก แต่เวลาจะใช้ก็ยังคงต้องระวัง เพราะแป้งเค้าเนื้อค่อนข้างเบา เวลาเปิด - ปิด จะมีแป้งกระจายฟุ้งเต็มห้องได้ง่ายมากๆ
เนื้อแป้งละเอียดและเข้ากับผิวได้ดีมากๆ ตัวนี้คือเซ็ทลงไปบนผิวแล้วรู้สึกได้เลยว่าช่วยในการเบลอรูขุมขนได้ดีมากๆ สีรองพื้นไม่เปลี่ยน และช่วยควบคุมความมันได้ดีมากๆ ไม่ตกร่องข้างจมูกหรือใต้ตา ถือว่าเป็นแป้งที่บิ๊วชอบมากที่สุดเลยก็ว่าได้ แต่เมื่อเทียบกับราคาก็คือมีความตกอกตกใจอยู่เวลาแป้งกำลังจะหมด ตัวนี้สาวๆคนไหนมีงบก็ขอให้ได้ลอง เพราะเค้าดีจริงๆ แบบคาดหวังผลได้เลย
สำหรับบิ๊วแล้ว แป้งทั้ง 6 ชิ้นนี้เป็นอะไรที่ชอบมากจริงๆ ใช้ดีจริงๆ หมดแล้วซื้อซ้ำตลอดๆ ซึ่งแต่ละแบบแต่ละตลับก็จะมีข้อดีข้อด้อยแตกต่างกันออกไป
ถ้าต้องให้เลือกจริงๆ ก็ขอบอกว่า laura mecier loose setting powder ยังคงยืน 1 ในดวงใจ แต่ถ้าเอาแบบพกไปไหนมาไหนง่าย ติดทน เบลอรูขุมขนได้ดี ราคาน่ารักน่าลอง ตอนนี้ขอโหวตให้ code powder wonder fruity เลยค่ะ มาแรงแซงทางโค้งจริงๆ สาวๆที่สนใจก็เลือกตามแบบที่ตัวเองชื่นชอบได้เลยค่า
หวังว่ารีวิวนี้จะมีประโยชน์กับทุกคนนะคะ ส่วนวันนี้เราต้องขอตัวลากันไปก่อน ไว้มีอะไรเด็ดๆจะรีบมาแนะนำกันอีก ฝากติดตามด้วยนะ บ๊ายบายย ~~~
หวังว่ารีวิวนี้จะมีประโยชน์กับทุกคนนะคะ ส่วนวันนี้เราต้องขอตัวลากันไปก่อน ไว้มีอะไรเด็ดๆจะรีบมาแนะนำกันอีก ฝากติดตามด้วยนะ บ๊ายบายย ~~~