[ ตะลุยเชียงใหม่ ] ทริปเชียงใหม่ ไม่ไปก็ได้แหละ แต่แค่อยากไป

59 17

เมื่อฉันลงวิ่งเทรลที่เชียงใหม่ การเดินทางนี้ก็เลยอุบัติขึ้น!!

พอดีลงวิ่งงาน Tiger Balm presents Chiang Mai Trail Race 2019 ไว้ค่ะ อยากวิ่งก็อยาก อยากเที่ยวหาของอร่อยๆ กินก็อยาก ทำไมเราไม่ทำให้อยู่ในทริปเดียวกันเลยล่ะ?


ทริปนี้นีนเลือกเดินทางกับ "สมบัติทัวร์" อยากลองนั่งนักหนาไอ้รถ VIP เนี่ยยยย search หาข้อมูลดูเห็นเค้าบอกกันว่าที่นี่แหละดีที่สุด แต่เลือกแบบ VIP แล้วก็ต้อง VIP ให้สุด! นีนเลือก "เวียงพิงค์บัส" ที่เป็นเบาะเดี่ยว 1-1 และมีแค่ 20 ที่นั่ง

สำหรับคนที่อยากรู้ราคานะคะ >> กรุงเทพฯ - เชียงใหม่ เชียงใหม่ - กรุงเทพฯ เที่ยวละ 823 บาท (มีแต่คนถามว่าทำไมไม่นั่งเครื่อง ตั๋วถูกๆ ก็มี โว๊ะ!)

นีนจองตั๋วออนไลน์ไว้ล่วงหน้า (เลือกขึ้นรถจากศูนย์วิภาวดี) มาถึงก็เข้ามาติดต่อกับเคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋วเลย ยื่นหลักฐานการจองในมือถือ+บัตรประชาชนให้กับเจ้าหน้าที่ เค้าจะตรวจสอบและออกตั๋วให้กับเราค่ะ นีนก็เพิ่งจะเคยนั่งรถแบบนี้ครั้งแรกเลยคิดว่าเค้าคงตรวจบัตรให้ถูกต้องตรงกับชื่อคนที่จองค่ะ เพราะในขั้นตอนการจองจะมีให้ใส่ชื่อ นามสกุล เบอร์ติดต่อ และเลขบัตรประชาชนด้วย

กรุงเทพฯ จ๋า เราไปก่อนนะ


รถเค้าออกตรงเวลานะคะ 3 ทุ่ม 20 นาที เพราะรถจะมาจอดและประกาศเรียกให้ขึ้นรถก่อนเวลาออกรถประมาณครึ่งชั่วโมงเลยค่ะ

นั่งๆ นอนๆ จนมาถึงกำแพงเพชรรถก็จอดพัก 20 นาทีให้ได้ยืดเส้นยืดสายและทานข้าวที่ "ครัวต้นกำแพง" (ถ้าอ่านไม่ผิดนะ) ที่นี่มีห้องอาหารให้ทานข้าวค่ะ ด้วยความที่เราเป็นเวียงพิงค์บัสโซนทานอาหารของเราจะกั้นแยกจากรถแบบอื่น ทำให้การตักอาหาร การนั่งทานอาหารก็เลยสบายๆ ไม่วุ่นวาย

อาหารที่มีก็เป็นบุฟเฟ่ต์แบบไทยๆ อร่อยมากกกกก เน้นอีกที อร่อย มอ อา กอ มากกกกกกกกกก นีนเติมข้าวตั้ง 2 รอบ กินเสร็จคนสุดท้ายเลย 555555555 เค้ามีแตงโมด้วยนะแต่ไม่ได้ถ่ายรูปมาฝาก จริงๆ ไม่ทันได้กินเลยด้วย T^T แต่ก็เอาเถอะเพราะแค่นี้ช้าที่สุดแล้ว

สวัสดีเชียงใหม่


มาถึงเชียงใหม่ก็เช้าพอดี 6 โมง 15 นาที เวลากำลังดีที่ปกติไม่เคยตื่น ไม่ก็เพิ่งจะได้นอน อันดับแรกคือเช่ารถมอเตอร์ไซค์ ที่ก่อนถึงอาเขตเราได้ทำการ search มาแล้วด้วยความรวดเร็ว รถจะเข้ามาจอดที่อาเขต 3 ค่ะ เราก็แค่ต้องเดินข้ามไปอาเขต 2 ร้านจะอยู่ถัดจาก 7-11 ไปไม่กี่ห้อง หาไม่ยากค่ะ



   S.K. Service Motorcycle For Rent   


ถามว่าทำไม? ก็ร้านนี้เค้าเปิด 24 ชั่วโมงยังไงล่ะ ร้านอื่นจะเปิดกันราวๆ 8 โมง
ตอนแรกเลือกรถ fino เพราะขี่ถนัดมากกว่าแต่รถดันหมดซะนี่ ก็เลยได้รถ scoopy-i มาแทนค่ะ รถรุ่นนี้นีนขี่กี่รอบก็ไม่ชิน ราคาต่อวันอยู่ที่ 200 บาท (จริงๆ มันวันละ 250 บาท แต่ตอนนี้มีโปรเช่าหน้าร้านลดให้วันละ 50 พอดีเลย) มีมัดจำ 1,000 บาท เช่าทั้งหมด 3 วัน รวมๆ แล้วต้องจ่ายไป 1,600 บาทค่ะ จริงๆ ต้องให้บัตรประชาชนไว้กับทางร้านด้วย แต่ถ้าใครต้องใช้ทำธุระก็เอาใบขับขี่รถยนต์ไว้ก็ได้ ซึ่งนีนใช้วิธีนี้ค่ะ

จริงๆ แล้วจุดนี้ค่อนข้างเสี่ยงเนาะที่จะให้บัตรที่ออกโดยราชการให้ใครไป น่าจะแค่ถ่ายรูปไว้ก็พอ T^T

ก่อนจะให้รถเรามาเค้าจะตรวจเช็ครอยรอบคันและจดไว้ค่ะ เราจะได้สำเนานี้มาด้วย ไม่ต้องห่วงว่าทางร้านจะมาโมเมว่ารอยที่เกิดเราเป็นคนทำ ส่วนเรื่องน้ำมันได้มาเต็มถังเลยค่ะ (ตอนคืนก็ต้องคืนเต็มถังด้วยนะ!)

พอเซนต์นู่นนี่เสร็จเราก็ได้รถมา หึหึ เตรียมแว้นได้~~
เอาล่ะ! แว้นไปกินอาหารเช้ากันดีกว่า



   สภากาแฟ 786   


ก่อนรถจะจอดที่อาเขตก็หาร้านอาหารเตรียมไว้แล้วเช่นกัน search ว่าอาหารเช้า เชียงใหม่ เปิดดูบทความที่เค้าแนะนำร้านไว้หลายๆ ที่แต่ว่านีนสะดุดตาสะดุดใจกับที่นี่มากเป็นพิเศษ เช็คใน google map แล้วเห็นว่าขี่รถแค่ 10 นาทีด้วยก็เลยเอาซะหน่อย

ที่นี่มีเมนูค่อนข้างเยอะนะคะ ชา กาแฟ นม ขนมปัง แซนวิช โรตี ไข่กระทะ อะไรมากมาย แถมราคาไม่แพงเลยด้วย ไม่แพงจริงๆ แบบไม่จกตา
ไข่กระทะกับชานมร้อน มื้อนี้ราคา 45 บาทเท่านั้นค่ะ จริงๆ อยากลองอย่างอื่นอีกหลายอย่างเลยเหมือนกันค่ะ เห็นว่าวันนี้มีแกงมาซาล่าไก่ด้วย ติดที่ว่าไปคนเดียวเลยสั่งแบบเซฟทั้งตัวเองเซฟทั้งเงิน ก็แต่ถือว่าจบมื้อเช้าไปได้แบบสวยกรุบ เพราะว่าชานมร้อน หอมมากแล้วก็อร่อยมาก อยากให้ลองค่ะ (แต่หวานไปหน่อย ถ้าไม่ลืมสั่งหวานน้อยก็คงดี)



   The Pause Hostel​  


สำหรับที่พักนีนพักที่ The Pause Hostel ซอยนิมมาน 17 ค่ะ เพราะว่าอยู่ซอยตรงข้ามกับซอย 12 ที่ที่เค้าจัดรถรับส่งไปสนามวิ่ง นอกจากนี้ก็เลือกเพราะสวยดีนี่แหละค่ะ แหะๆ ราคาก็ค่อนข้างโอเค นีนเลือกนอนห้องเดี่ยว นอนได้ 2 คน (แต่มาคนเดียว งื้อๆ) ราคา 750 บาทต่อคืน กลัวว่านอนห้องรวมจะรบกวนคนอื่นเพราะต้องตื่นเช้ามากๆ
โซนชั้นที่พักของนีน (ชั้น 3)
ไปถึงโฮสเทลเช้ามาก แล้วฝนก็ตกด้วย เปียกไปหมด แต่โชคดีที่ได้ห้องเลย นอนพักซักแป๊บ ช่วงเที่ยงครึ่งก็เดินไปรอรถบัสที่ทาง Tiger Balm จัดไว้รับส่งเพื่อไปรับ BIB วิ่งที่วัดหนองก๋าย ไกลกว่าที่คิดมาก ห่างจากนิมมานไปตั้ง 1 ชั่วโมง ไป-กลับเบ็ดเสร็จประมาณ 3 ชั่วโมง ถึงห้องก็หลับยาวๆ ตื่นมาอีกทีก็มืดแล้วจ้าาาา



   กวง ราดหน้ายอดผัก  


ตื่นมาก็อยากกินราดหน้ามากๆ search เจอร้านนี้มีไข่ดาวโปะด้วยก็เลยมาลอง ใกล้โฮสเทลนิดเดียว คนเยอะมากทั้งกินที่ร้านและรอซื้อกลับบ้านทั้งๆ ที่ใกล้เวลาร้านปิด ตอนแรกคิดว่าจะไม่ได้กินซะแล้ว
นอกจากหน้าตาน่ากินมากแล้ว รสชาติก็อร่อยมากๆ เลยค่ะ ไม่ต้องปรุงเพิ่มเลยก็ได้ มีความหอมของกลิ่นไหม้ๆ ของกระทะ ชอบมากกกกก หอมจนอยากลองผัดซีอิ๊วอีกซักจานแต่แค่นี้ก็กินไม่ไหวแล้วล่ะค่ะ

จริงๆ ก็อยากหาขนมหวานตบท้ายซะหน่อย แต่ว่าอิ่มมากกกก แล้วก็ต้องจำใจรีบอาบน้ำนอนแล้วด้วย เพราะต้องตื่นตี 3 ครึ่งเพื่อนั่งรถบัสไปวิ่ง ฮรี่ๆๆ



   Tiger Balm Chiang Mai Trail Race 2019   


แอบเอาบรรยากาศมาฝากนิดหน่อยค่ะ จริงๆ มีวิวสวยๆ เยอะมาก สวยตั้งแต่ต้นทาง! นึกภาพนาข้าวหน้าฝน ป่าหน้าฝน อื้อหือ~ เขียวชะอุ่มชุ่มฉ่ำใจมากกกกก แต่ด้วย mission ของตัวเองก็เลยไม่ได้หยุดถ่ายรูปเลย อาศัยจังหวะทางที่ต้องเดินขึ้นเขาเก็บภาพมาฝากค่ะ
ซื้อรูปแล้ว ขอเอามาอวดซัก 2-3 รูปนะคะ เสียเงินไปเยอะเราต้องได้อวด ฮรี่ๆๆๆๆ
ตอนเห็นเส้นชัยคือพูดออกมากับตัวเองเบาๆ ว่า ถึงแล้วโว้ยยย แล้วก็มีอารมณ์น้ำตาคลออะ ดีใจ 55555 ที่ดีใจก็เพราะทำ mission ของตัวเองได้ดีมาก คือ "ไม่หยุดวิ่งถ้าไม่จำเป็น" ทำเวลาได้ดีกว่าที่คิดด้วย

หลังจากวิ่งเสร็จก็แอบไปนวดขากับนักกายภาพที่ทาง Tiger Balm จัดไว้ให้ (สานฝันตัวเอง เพราะรอบที่แล้วไม่ได้นวด) ดี๊ดีอะ แอบน้ำตาเล็ดหน่อยๆ แต่เพลินมากจนอยากหลับ

กินข้าวเสร็จก็กลับโฮสเทลกันเถอะ! อยากนอนแล้วจ้าาาา

อาบน้ำเสร็จรีบนอนอย่างไว ตื่นมาอีกทีบ่าย 2 แต่กว่าจะลุกจากเตียงไปอาบน้ำก็ 4 โมงแล้ว ไปค่ะ ไปกินข้าวกัน



   ข้าวซอยนิมมาน   


ชั้นต้องได้กินข้าวซอย!!! เมนูโปรดที่ต่อให้กินแล้วฟันเหลืองก็จะกิน อยากกินต้องได้กิน เพราะคราวที่แล้วมาแล้วไม่ได้กิน
ข้าวซอยที่นี่รสชาติดีค่ะ ไม่เผ็ดจนเกินไป คนที่ไม่กินเผ็ดแบบนีนกินได้ค่อนข้างสบาย มีต้องจิบน้ำบ้างนิดหน่อย (เพราะเป็นคนไม่ชอบกินเผ็ดเลยจริงๆ) ที่ร้านมีต่างชาติเยอะกว่าคนไทย ไปนั่งคนเดียวเด๋อๆ ก็รู้สึกเขินใจนิดๆ เหมือนกัน อ้อ... น้ำเฉาก๊วยที่นี่เริ่ดอยู่นะคะ ไม่หวานมาก แล้วก็ให้เนื้อมาค่อนข้างเยอะเลย

กินเสร็จก็ไปหาของหวานตบปากเพี๊ยะๆ กันต่อค่ะ ถึงจะอิ่มแต่เราก็อิ่มได้มากกว่านี้อีก



   ปาท่องโก๋โกเหน่ง สาขาขัวเหล็ก   


เห็นเค้าฮิตกันมานมนานแล้วไอ้เจ้าปาท่องโก๋รูปร่างประหลาด ก็ต้องจัดซะหน่อยปะล่ะ จัดมาจ้ะพี่ ปาท่องโก๋ไดโนเสาร์กับน้ำเต้าหู้ยั่วๆ จ้า
ปาท่องโก๋กรอบๆ เนื้อหนึบๆ มีรสหวาน สำหรับนีนถือว่าไม่แย่แต่ให้กินอีกมั้ยก็ไม่กินแล้วค่าาา อาจเพราะนีนมีเจ้าโปรดในใจที่ยังไม่เคยมีเจ้าไหนโค่นตำแหน่งได้อยู่แล้วก็เป็นได้ (จะบอกก็ได้ ปาท่องโก๋สะพานขาว อยู่ที่ตัวเมืองจันทบุรีค่ะ)

กินเสร็จฝนดันตก เลยขี่รถฝ่าฝนกลับโฮสเทลดีกว่า อยากนอนต่ออีกรอบแล้วด้วย ตื่นมาค่อยหาของกินกันอีกรอบนะ ZzzZzz



   ไส้กรอกคุณยาย ปากซอยนิมมาน 7   


จริงๆ ซื้อผลไม้อยู่ฝั่งตรงข้าม แต่เห็นคนกินเลยเดินไปซื้อบ้าง จำได้ว่าครั้งก่อนที่มากินก็ไม่ได้ชอบอะไรขนาดนั้น (จำไม่ได้แล้วว่าลองอะไรไป) แต่คราวนี้รู้สึกว่าอร่อยเฉย งงไปหมด ไส้กรอกหมูอร่อยอะ ไส้กรอกวุ้นเส้นก็อร่อย แต่วุ้นเส้นจะเผ็ดนิดนึงแบบที่คนไม่กินเผ็ดแบบนีนพอกินได้ค่ะ อยากกินอีกเยอะๆ อยากให้มีขายแถวบ้าน!!
นั่งกินซักพักก็ง่วงนอนอีกแล้ววว ว่าแล้วก็ขึ้นห้องมาจัดข้าวของเพราะตอนเช้าก็ต้อง check out แล้ว เอาตรงๆ คือสงสารคนทำความสะอาดมาก ห้องมีแต่กลิ่นน้ำมัน Tiger Balm มันติดมากับที่รัดน่องที่นีนประโคมพ่นทั้งก่อน ระหว่าง และหลังวิ่ง รู้สึกผิดกับที่พักมากๆ เลย แง้ๆ

ตื่นมาตอนเช้าเพราะอยากกินอาหารเช้าที่โฮสเทล
น่าเสียดายที่เค้าใช้มาการีนแทนที่จะเป็นเนย ก็เลยไม่ได้กินขนมปัง T^T ตรงจุดนี้งอแงมาก เซ็งไปเลย แต่ก็ได้กินคอนแฟล็คกับโอวัลตินตามปกติ
นั่งงงๆ เพื่อ seach หาร้านที่จะไปนั่งรอเวลาขึ้นรถไปพลางก็หาไม่ได้ซะที แต่ด้วยอารมณ์อยากชมแม่น้ำปิงก็เลยตัดสินใจขี่รถมาเส้นเลียบแม่น้ำเพื่อมองหาร้านนั่ง



   At ขัวเหล็ก   


ร้านนี้อยู่ตรงขัวเหล็กตามชื่อร้านเลยจ้า อยู่เยื้องๆ กับร้านโกเหน่งเมื่อวาน ที่นี่มีทั้งโซนห้องแอร์และ outdoor นีนเลือกนั่งโซน outdoor ตรงริมน้ำค่ะให้สมกับที่อยากชมแม่น้ำ 55555 โชคดีมากที่อากาศเชียงใหม่ช่วงนี้ครึ้มฟ้าครึ้มฝนเลยได้นั่งแบบสบายๆ ไม่ร้อน เลือกโต๊ะที่อยู่ใกล้กับพัดลมด้วย นั่งไปนั่งมาฝนปรอยอีกต่างหาก รวมๆ แล้วก็เย็นสบายน่าหลับมากๆ
ตอนแรกกะจะมานั่งจิบ hot latte ด้วยซ้ำ แต่ลืมว่ายาที่ต้องกินเค้าห้ามกินพร้อมกับนม เลยสั่งมิกซ์เบอร์รี่สมูธตี้มาแทน จิบไปคำแรกเปรี้ยวตาหยีไปเลยจ้าาาา ถามว่าชอบมั้ย ก็ชอบแหละ อิอิ

นั่งทำงานไปได้พักใหญ่ก็สั่งสปาเก็ตตี้ไก่พริกไทยดำมากิน น่าตาดูดีทีเดียว แต่... มันมากกกกกก เหมือนใส่น้ำมันไปครึ่งขวด อยากร้องไห้ แต่ถามว่ากินหมดมั้ย หมด!! มันอร่อยนะถึงจะมันไปบ้างก็เหอะ (จริงๆ ก็ไม่บ้างหรอก มากเลย)

พอนั่งยาวๆ ก็เริ่มเบื่อแล้วแหละ คราวนี้ไปหากาแฟกินกันนะ



   Ploy Studio Cafe   


ร้านนี้อยู่ไม่ห่างจากขัวเหล็กเท่าไหร่ เป็นตึกชั้นเดียวน่ารักๆ (เล็งมานานแล้วว่าต้องมา)
เมนูที่ 1 Sweet Potato with Espresso
เลือกเมนูนี้เพราะอะไรให้ทาย ติ๊กต่อก ติ๊กต่อก . . . เพราะสีมันสวยไงล่ะ! จะมีเหตุผลอื่นใดล่ะคะ อะไรก็ตามที่สีสวยๆ มันก็มักจะยั่วใจของเราค่ะ รสชาติก็เอสเปรสโซ่ปกตินี่แหละค่ะ มีรสมันๆ และกลิ่นของมันม่วงนิดหน่อย ส่วนความหวานเป็นความหวานนิดๆ ที่ได้จากมันม่วงค่ะ หวานนิดเดียวแบบนิดเดียวจริงๆ ถูกใจมากค่ะ แต่สำหรับคนที่ดื่มกาแฟไม่เป็นหรือชอบความหวานก็อาจจะคิดว่าขม แนะนำให้เติมน้ำเชื่อมเพิ่มเอานะคะ
เมนูที่ 2 Soft Coconut Cake
เอาจริงๆ ไม่ได้ตั้งใจจะกินเมนูนี้ ตั้งใจเดินไปสั่งไอศกรีมมะม่วงน้ำปลาหวานต่างหาก แต่ดันหมดไปตั้งแต่เมื่อวาน ฮือๆๆ เมื่อวานน่าจะแวะ ไม่น่าขี่รถผ่านเลย

เมนูนี้ทางร้านเค้าภูมิใจนำเสนอมาก บอกไปว่ากลัวกินไม่หมด เค้าก็ย้ำว่ามันอร่อยมากจริงๆ นะคะหลายที โอเค ดีล จัดมาเลยค่ะ! กินแล้วไม่ผิดหวังเลยค่ะ อร่อยมากจริงๆ เค้กเนื้อนุ่มๆ ตรงกลางเป็นเหมือนเจลลี่มะพร้าวอ่อน ครีมก็หอม รสชาติดีมาก หวานน้อยกินได้เพลินๆ ไม่ต้องกลั้วน้ำตาม 5555 แนะนำมากค่ะมาแล้วต้องได้ลอง!!
เมนูที่ 3 ชาแม่พลอย
คุยไปคุยมาเค้าบอกว่าจริงๆ ร้านนี้เน้นเรื่องชามากกว่ากาแฟ กาแฟจะเป็นกาแฟทั่วๆ ไป แต่ชาจะมาจากบังคลาเทศ เมนูชาแม่พลอยจะเป็นชาซีลอนกับนมสด เค้าบอกว่าถ้าคนไม่กินขมไม่อยากให้ลอง ทางนี้เป็นสายชาอยู่แล้วเลยยื้อยุดมากๆ ว่าจัดมาค่ะ จัดมา จนสุดท้ายเค้าก็ทำให้ บอกว่าให้ลองชิมก่อน ถ้าขมไปค่อยเพิ่มน้ำตาลเอา

สรุปว่า... โอ้โห ชาหอมมาก มากแบบมากจริงๆ กลิ่นตลบอบอวนในปากเลยค่ะ สมแล้วที่เป็น signature ของร้าน สำหรับนีนแล้วมันก็ไม่ได้ขมอะไรนะคะ อารมณ์ดื่มกาแฟทั่วๆ ไป ดื่มได้สบายๆ เค้าบอกว่าเค้าใช้ใบชาไม่ใช่หางชากลิ่นและรสก็เลยเข้มข้นมากๆ ใครชอบชาบอกเลยว่าต้องลอง!! ไม่ลองถือว่าพลาดมาก นีนก็ดีใจที่ได้ลองนะ ถ้าไม่ได้คุยกับเค้าก็คงไม่ได้ลองเมนูนี้

คราวหน้ามาอีกแน่ จะมาลองไอศกรีมมะม่วงน้ำปลาหวานให้ได้!



คิดไปคิดมาก่อนจะกลับไปรับกระเป๋าแวะอีกที่แล้วกัน เวลาเหลือๆ จะไปนั่งแช่ที่โฮสเทลก็เกรงใจเค้า นีนเลยเลือกร้านสิ้นคิดเพราะเวลานีนมาเชียงใหม่ทีไรก็ต้องแวะร้านนี้ อยู่ถัดจากซอยโฮสเทลไปแค่ซอยเดียว



   iberry Garden   


หลายคนก็คงรู้จักแล้วอะเนาะ นีนเองก็มาหลายครั้งแล้วเลยไม่ได้ถ่ายรูปอะไร
วันนี้ลองเทสต์รสมะขามกับนมใบเตย จริงๆ อยากกิน 2 รสเลยแต่ก็ต้องเลือก เลยเลือกมะขามค่ะ รสเปรี้ยวนำ มีความฝาดนิดๆ ตามสไตล์ความเป็นมะขามแหละค่ะ อร่อยดี ออกมานั่งกินนอกห้องแอร์เลยทำให้ละลายเร็วไปหน่อย กินไปได้ไม่กี่คำ เสียดายเหมือนกัน แต่นีนไม่ชอบกินไอติมที่ละลายเยอะๆ แล้ว



   บ๊ายบายเชียงใหม่   


กินเสร็จก็แวะกลับไปรับกระเป๋าที่โฮสเทล ขอเค้าชาร์จแบตมือถือนิดหน่อย พอได้เวลาก็ขี่รถไปเติมน้ำมันให้เต็มถัง (แค่ 30 บาทเอง นีนไม่ค่อยได้ไปไหนไกล) แล้วก็เอารถไปคืนที่ร้านตามเดิมจ้าาาา

เวลาเอารถไปคืนเค้าจะตรวจสอบรถนิดหน่อย จากนั้นก็จะคืนค่ามัดจำกับใบขับขี่หรือใบอะไรก็ตามที่เราเอาให้กับเค้าไว้ นีนไม่ได้โดนหักเงินนะคะเพราะไม่ได้ทำความเสียหายอะไรให้กับรถ ^^

คืนรถเสร็จก็เดินเด๋อๆ ไปหาชานชาลารอรถที่อาเขต 3 ที่เดิมที่เราลงรถเมื่อวันก่อนค่ะ เที่ยวรถของนีนคือ 1 ทุ่ม ตอนประมาณ 6 โมงครึ่งรถก็มาเทียบชานชาลาแล้วค่ะ ขากลับที่นั่งของนีนที่ชาร์จใช้งานไม่ได้แต่บังเอิญว่ารถไม่เต็มเลยขอย้ายที่ได้ ดีใจมากกกก ไม่งั้นคงนั่งหงอยตลอดทางแน่ๆ อาหารที่จุดพักรถก็อร่อยเหมือนเดิมค่ะ เมนูบางอย่างเหมือนเดิม บางเมนูก็เปลี่ยนใหม่ แต่เสียดายที่กินได้นิดเดียวเพราะง่วงมากๆ แล้วก็ปวดท้องด้วย ชั้นต้องการนอน! จากนั้นก็หลับยาวๆ ถึงกรุงเทพช่วงตี 4 กว่าๆ โดยสวัสดิภาพค่าาาาาา




สรุปทริปนี้

นีนขอให้คะแนนไว้ที่ 8/10 ค่ะ
- เดินทางแบบรถ VIP มันก็นอนสบายดี แต่กินเวลาชีวิตไปเยอะมาก
- ถ้าจะมาวิ่งควรเพิ่มวันเที่ยวให้มากกว่านี้ เพราะหลังจากวิ่งเสร็จเราจะนอนยาวๆ ง่วงนอนไปทั้งวัน เท่ากับเสียวันนั้นๆ ไปเกือบหมด (นีนไม่เหนื่อยจากวิ่งนะ แต่เรื่องตื่นเช้านีนไม่สู้เลยค่ะ)
- อยากกินให้เยอะ หลายอย่าง และหลายร้านกว่านี้ ถ้ามีเพื่อนมาด้วยก็คงดี

**จริงๆ กระทู้นี้แค่อยากมาฝอยเฉยๆ แต่ก็หวังว่าคงจะมีประโยชน์บ้างกับเพื่อนๆ ที่อยากไปเที่ยวเชียงใหม่นะคะ**





   คราวหน้าขอเป็นทริปกินอย่างเดียวแล้วกันนะ   

นอนไม่พอมันเหนื่อยอะ


chamoyyneen

chamoyyneen

ชื่อ นีน ค่ะ
เด็กหญิงวัย 30 ที่หยุดอายุของตัวเองไว้ที่ 18

FULL PROFILE