ฝ้าชนิดใดหายง่ายที่สุด
อ.ธนพัฒน สุขยิ่ง 39 9 PARTNERS IN BEAUTYชนิดของฝ้า และการดูแลรักษา
ฝ้า คือผื่นสีน้ำตาลซึ่งปรากฎบนผิวหน้า ทำให้แลดูไม่สวยงาม ทำให้สูญเสียความมั่นใจ โดยเฉพาะผู้หญิงบางคนจะเป็นกังวลมากกับเรื่องการเกิดฝ้า ซึ่งถึงแม้จะไม่ใช่โรคผิวหนังก็ตาม ก็จะต้องมีการรักษาให้หายเพื่อความสวยงามบนใบหน้าฝ้ามักเป็นบริเวณโหนกแก้ม หน้าผาก ริมฝีปาก และเหนือคิ้ว มักเป็นทั้ง 2 ข้างเท่า ๆ กัน และขึ้นเป็นแถบหรือปื้น โดยมักเป็นบริเวณที่ถูกแสงแดด
สาเหตุที่ทำให้เกิดฝ้า
การโดนแสงแดด รังสีUV
การรับประทานยาคุมกำเนิดโดยเฉพาะยาคุมกำเนิดกลุ่มที่มีฮอร์โมนขนาดสูง จะทำให้เกิดฝ้าได้ง่าย หรือ
ยาบางชนิด เช่น ยารักษาวัณโรค (INH) ยากันชัก (Dilantin) สามารถทำให้เกิดผื่นดำคล้ายฝ้า, สตรีในระหว่างตั้งครรภ์ , หรือ
ส่วนผสมในเครื่องสำอางที่ ทำให้เกิดการแพ้ เช่น น้ำหอม สี สามารถทำให้เกิดรอยคล้ำแบบฝ้าได้
1.ฝ้าที่เกิดในบริเวณหนังกำพร้า(ผิวชั้นบน) มีลักษณะเป็นผื่นสีน้ำตาลเข้ม บริเวณขอบเขตของผื่นจะเห็นชัด ฝ้าชนิดนี้ค่อนข้างตอบสนองดีต่อการรักษาเนื่องจากเม็ดสีเมลานินอยู่ไม่ลึกในชั้นผิวหนังจึงง่ายต่อการรักษา
2.ฝ้าที่อยู่ในชั้นหนังแท้ ผื่นฝ้าจะเป็นสีน้้าตาลผสมสีเทาเข้ม ขอบเขตจะเห็นไม่ชัดเจนเนื่องจากเม็ดสีเมลานินอยู่ในระดับที่ลึกมากขึ้น มีผลทำให้การรักษาค่อนข้างยาก
3.ฝ้าชนิดผสม มีเม็ดสีเมลานินสะสมมากผิดปกติทั้งในชั้นหนังแท้และหนังกำพร้า สีของฝ้าจะมีทั้งสีน้ำตาลอ่อนและน้ำตาลเข้ม และสีเทาผสมกัน ทั่วบริเวณใบหน้า ฝ้าชนิดนี้ การรักษาจะยากและใช้เวลานานกว่า ชนิดที่1และ2
การรักษาฝ้า
1.หาสาเหตุและป้องกันการเกิดฝ้า เช่น แสงแดด ยาคุมกำเนิด
2.ทาครีมกันแดดที่มีประสิทธิภาพในการกันแดดสูง
3.หาจำเป็นต้องรับประทานยาคุมกำเนิดควรเลือกยาคุมกำเนิดชนิดที่มีฮอร์โมนต่ำปรึกษาการเลือกยาคุมกำเนิดได้ที่เภสัชกรร้านยา
4.ใช้ยาหรือสารที่ทำให้สีของฝ้าจางลง เช่น กรดโคจิก (kojic acid) สารอาร์บูติน(arbutin) วิตามินซี (vitamin c) และ กรดทรานซามิค 3%(tranexamic acid 3%) ตัวนี้มีวางจำหน่ายในร้านขายยา
ยาที่ทำให้สีฝ้าจางลงนั้นมีกลไกในการหยุดยั้งการทำงานของเซลล์ เมลาโนไซต์ (เซลล์สร้างเม็ดสีผิว)โดยที่เมลาโนไซต์ยังไม่ตายจะเกิดขึ้นใหม่ทุกวันเมื่อเจอสิ่งกระตุ้นเช่นแสงแดด จึงต้องทายายับยั้งตลอด ซึ่งการรักษาต้องทายาทุกวันจนสีผิวเรียบเสมอกัน และ ควรจะต้องใช้ครีมกันแดดร่วมด้วยทุกครั้งก่อนออกนอกบ้าน
1.หาสาเหตุและป้องกันการเกิดฝ้า เช่น แสงแดด ยาคุมกำเนิด
2.ทาครีมกันแดดที่มีประสิทธิภาพในการกันแดดสูง
3.หาจำเป็นต้องรับประทานยาคุมกำเนิดควรเลือกยาคุมกำเนิดชนิดที่มีฮอร์โมนต่ำปรึกษาการเลือกยาคุมกำเนิดได้ที่เภสัชกรร้านยา
4.ใช้ยาหรือสารที่ทำให้สีของฝ้าจางลง เช่น กรดโคจิก (kojic acid) สารอาร์บูติน(arbutin) วิตามินซี (vitamin c) และ กรดทรานซามิค 3%(tranexamic acid 3%) ตัวนี้มีวางจำหน่ายในร้านขายยา
ยาที่ทำให้สีฝ้าจางลงนั้นมีกลไกในการหยุดยั้งการทำงานของเซลล์ เมลาโนไซต์ (เซลล์สร้างเม็ดสีผิว)โดยที่เมลาโนไซต์ยังไม่ตายจะเกิดขึ้นใหม่ทุกวันเมื่อเจอสิ่งกระตุ้นเช่นแสงแดด จึงต้องทายายับยั้งตลอด ซึ่งการรักษาต้องทายาทุกวันจนสีผิวเรียบเสมอกัน และ ควรจะต้องใช้ครีมกันแดดร่วมด้วยทุกครั้งก่อนออกนอกบ้าน