อายแชโดว์ทั้งหมดที่มี สิ้นปีนี้จะใช้หมดกี่เปอร์เซ็นต์

40 21
สองสามเดือนก่อนเป็นเดือนเกิดของเรา และโปรลดราคามาแรงหลายร้านเลย
ลังเลอยู่นานมากว่าจะซื้ออายแชโดว์ใหม่มั้ย
พอเหลือบไปดูในกรุแล้วก็ต้องถอนหายใจยาวๆ
จึงเป็นที่มาของกระทู้นี้ค่ะ มาดูกันดีกว่าว่า

อายแชโดว์ที่มีทั้งหมดทั้งสิ้น 7 ตลับ
แต่งตาได้ 7 วันไม่ซ้ำกัน
สิ้นปีนี้จะใช้หมดไปซักกี่มากน้อย

Lavshuca Star Decoration Eye


แบรนด์นี้เป็นลูกน้อยในเครือ Kanebo มี 4 สี ซึ่งเรียกกันว่า Quad
เคยดังในไทยเพราะแพ็คเก็จแบบที่เรามีอยู่
พอเปลี่ยนไปเป็นพลาสติกสีชมพูแจ๋นก็เงียบหายไปเลย
อายแชโดว์วิ้งวับทุกสีสมกับเป็นน้องสาวของ Lunasol ค่ะ
ชื่อสี BR-1 แต่หน้าตาแบบนี้มันไม่มีขายแล้วแหละ
ราคา ประมาณ 400-500 บาท ซื้อจากฮ่องกงนานมากแล้ว

ผลการวินิจฉัย
ในตลับมี 4 สี แบ่งเป็นสีละ 25% (ชิมเมอร์ล้วนๆ ไม่มีเนื้อแมตต์)
คิดว่าน่าจะใช้หมดแน่นอนคือสี 2 ซึ่งเป็นกลิตเตอร์ เราเอาไว้ทาหัวไหล่ไหปลาร้า
กับสี 3 ซึ่งเป็นสีอ่อนๆ ส่วนสีเข้มใช้ไปได้ประมาณหนึ่ง รวมเป็น 65% ค่ะ

สถานะ
ก่อนสิ้นปีนี้ ถ้าใช้ 2 สีที่ว่าไว้หมดเมื่อไหร่ จะทิ้งเลยค่ะ มันอายุขัยนานแล้ว
อาจจะไปซื้อตัวอื่นแบรนด์อื่นที่หาง่ายกว่าใช้แทน เช่น Wet n’ Wild
หรือไม่ก็แบรนด์ญี่ปุ่นด้วยกันแต่มีขายในไทย เช่น Kate

Cute Press Color Fantasy Eye & Cheek Mini Palette


พาเลตต์จิ๋วแต่แจ๋วที่สุดที่เราเคยเห็น
แถมยังสารพัดประโยชน์ มีบลัชออนกับกระจกให้ด้วย
ชื่อสีไม่มีเพราะเป็นรุ่นแรกที่ออกมาค่ะ รุ่นใหม่จะมีสามสีให้เลือก
เนื้ออายแชโดว์จะแข็งๆ มีชิมเมอร์ทุกสี ไม่ค่อยละเอียดนัก
สีโทนน้ำตาลธรรมชาติ ใช้ง่ายแบบสบายๆ
ราคา 199 บาท ซื้อตอนลด 50% โปรเดือนเกิด คุ้มจนไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว

ผลการวินิจฉัย
มี 4 สี แบ่งเป็นสีละ 25% เหมือนตัวบน (บลัชออนไม่เกี่ยว ขอไม่นับละกัน)
คิดว่าน่าจะใช้ไปโดยรวมทุกสีน่าจะสัก 25% ค่ะ
เพราะไม่มีสีไหนมีวี่แววจะฮิตแพนเล้ย
ส่วนตัวชอบสีเบอร์ 3 ออกส้มอ่อนๆ ทาแล้วสดใสดี

สถานะ
สิ้นปีนี้คงทิ้งเช่นกัน เพราะมันปีกว่าแล้ว
แต่จะซื้อใหม่เพราะชอบที่ตลับมันเล็กพกง่ายจริงๆ

Burberry Complete Eye Palette


ชื่อสี No.28 Gold Shimmer สวยงามวิ้งวับหยดย้อยมาก
เนื้ออายแชโดว์ดีงามสมคำร่ำลือ มันละมุนละเอียดบอกไม่ถูกค่ะ
เคยทำสวอชไว้แล้วนะคะ ตามนี้ ​Swatch Burberry ​​​
ทุกสีมีชิมเมอร์หมดเลย แต่ทาง่ายนะคะ เอานิ้วแตะเกลี่ยยังไงก็รอด
ตลับก็ดีงามแข็งแรง หน้าอายแชโดว์ก็ลายเทรนช์โค้ตเลิศเลอ
แปรงที่แถมมาไม่เคยเอามาใช้เลย ส่วนถุงผ้ายิ่งแล้วใหญ่ เก็บไปค่ะ ดูดฝุ่นเพียบ
ราคาเต็ม 2,150 บาท แต่เราได้มาจากงาน meet & greet พี่โมเม
และเพิ่งเปิดใช้ตอนต้นปี แตะๆ ไม่กี่ครั้งเอง

ผลการวินิจฉัย
มี 4 สี แบ่งเป็นสีละ 25% เช่นกัน สิ้นปีนี้น่าจะได้ไม่เกิน 15%
ชอบสีเบอร์ 3 ในรูปที่สุดค่ะ แต่จริงๆ ทุกสีทาง่ายเหมือนกันหมดนะ
แต่สี 1 กับ 4 ต้องใช้แปรงจิ้ม
เพราะช่องเล็กเกินกว่าจะเอานิ้วปาดมาแต่งตาให้สวย

สถานะ
จะพยายามใช้ให้มากที่สุดเพราะความเสียดาย
แต่หมดแล้วคงไม่ซื้อต่อค่ะ แพงเกิ๊น
ตกสีละ 500 กว่าบาทแน่ะ ฝีมือเราก็เท่านี้ 5555555

Rimmel Nude on the Box


เป็นอายแชโดว์ที่เราเก็บไว้ตรงโต๊ะทำงานค่ะ วันไหนตื่นสายก็ทากันแดดกับแป้ง
แล้วลงไปแต่งหน้าเอา เลยไม่ค่อยได้ใช้เท่าไหร่
เราเคยรีวิวเมื่อนานมาแล้ว มี 3 ตลับ แต่ส่งต่อให้คนอื่นไป
เก็บไว้อันเดียว ชื่อสี 001 ก็เป็นโทนน้ำตาลธรรมชาติค่ะ
ใครสนใจกระทู้ ก็ตามไปเลยค่ะ -----> ​รีวิว Rimmel Eyeshadow​​​
ส่วนใหญ่เป็นสีชิมเมอร์และสีแมตต์ 1 สี เนื้อจะร่วนๆ นิดนึงนะคะ
แพ็คเก็จเป็นกระดาษ มีกระจกให้ด้วย พกไปเที่ยวหรือแต่งระหว่างวันก็โอเคอยู่
ราคา ไม่เกิน 500 บาท ซื้อจากญี่ปุ่นนานมากกกกกกกแล้ว

ผลการวินิจฉัย
มี 5 สี แบ่งเป็นสีละ 20% สี 3 ตรงกลางเป็นสีอ่อนๆ มีวิ้ง ทาลวกๆ แล้วกรีดตา จบ
สี 2 เป็นสีน้ำตาลเนื้อแมตต์ เราใช้เขียนคิ้วประจำ น่าจะหมดทั้งคู่นะ สรุปที่ 40%

สถานะ
สิ้นปีนี้ก็ทิ้งเช่นกันค่ะ ไม่ซื้อต่อ และคงไม่ซื้ออะไรมาแทนด้วย
เราว่าอายแชโดว์ที่ควรสำรองไว้ที่โต๊ะทำงานควรเป็นแบบแท่ง
ป้ายๆ กรีดตาแล้วสวยเลย สะดวกกว่าเร็วกว่าด้วยค่ะ

Urban Decay Naked 3


ขยับมาสู่การเป็นพาเลตต์อายแชโดว์ที่มีหลายๆ สีสักทีเนอะ
จะเห็นแล้วว่า พาเลตต์นี้ร่อยหรอยับเยิน เพราะตั้งอกตั้งใจใช้ให้หมดเยอะที่สุด
จริงๆ เราแต่งตาโทนชมพูไม่เก่งเลย ได้ตัวนี้มาช่วยทำให้ฝึกการแต่งหน้า
เนื้ออายแชโดว์ค่อนข้างดีทุกสีทุกเนื้อ ค่อนข้างนิ่มและพิกเมนต์แน่น
แต่ข้อเสียของตระกูล Naked คือ สีแอบคล้ายกันไปหน่อย
ราคาเต็ม 2,450 บาท แต่อันนี้พี่สาวซื้อให้ค่ะ

ผลการวินิจฉัย
มี 12 สี แบ่งเป็นสีละ 8.33%
สิ้นปีนี้น่าจะใช้หมดประมาณ 7 สีแรก เท่ากับ 58.31%
ส่วนสีเข้มๆ ด้านหลังแม้ไม่ค่อยได้แตะเท่าไหร่
แต่รวมๆ แล้วก็คงได้สัก 75% ค่ะ

สถานะ
สิ้นปีนี้ต้องโบกมือลาถาวร คงไม่ซื้อต่อเพราะใช้จนเบื่อแล้ว
เก็บแปรงไว้ใช้งานต่อ แต่แอบสนใจ Naked Reloaded อยู่นะคะ

Too Faced Sweet Peach Palette


พาเลตต์ลูกรักแบบออกนอกหน้า และราคาแพงที่สุดเท่าที่เคยควักเงินซื้อมา
วีรกรรมตอนซื้อก็อย่างที่เคยเล่าให้ฟัง รอซื้อในเว็บไซต์ตอน 10 โมง
ตัดบัตรเครดิตไม่ได้เลยวิ่งไปจ่ายที่ตู้ ATM กลับมาถึงบ้านหน้าเว็บขึ้น Sold out
แต่พอได้มาแล้ว สงสัยคงจะเอาแต่ดมกลิ่นพีชมั้ง แทบไม่พร่องเล้ยยยย
พอความรักจืดจาง ก็เริ่มคิดได้ว่า อายแชโดว์มันสู้ของ UD ไม่ได้แฮะ
บางสีในนี้เนื้อไม่ค่อยดี พิกเมนต์ไม่แน่น แถมเกลี่ยยากเหลือทน
ราคา 2,790 บาท ซื้อจาก Sephora

ผลการวินิจฉัย
มีทั้งหมด 18 สี แบ่งเป็นสีละ 5.55%
น่าจะใช้หมดไม่เกิน 2 สี คือสี Nectar (2) แถวกลางซ้ายสุด
และสี Charmed I’m sure (16) เราเอาไว้เขียนคิ้ว
ส่วนสีม่วง (17) กับสีดำ (18) เนื้อเกลี่ยยากเลยไม่ได้แตะเลย
เราให้ใช้หมดที่ 22 เปอร์เซ็นต์ถ้วนค่ะ ไม่เกินนี้หรอก

สถานะ
จะทู่ซี้ใช้ต่อไปอีกสักครึ่งปี เพราะกลิ่นพีชยังหอมไม่เปลี่ยนแปลง

Zoeva Cocoa Blend


เป็นอายแชโดว์พาเลตต์ตัวสุดท้ายที่เราซื้อมาแล้วซุกไว้ในกรุ
เพิ่งเปิดใช้เพราะกระทู้นี้เลยค่ะ
ยังบอกอะไรไม่ได้มาก นอกจากสวยและเนื้อละมุนทุกสีเลยแฮะ 
สมัยเข้าไทยใหม่ๆ ราคาประมาณ 970 บาท ตอนนี้ขยับไปพันกว่าบาทแล้ว
แต่พอเทียบราคา จำนวนสี พิกเมนต์ และเนื้อสัมผัสที่ได้ ดีเกินราคาค่ะ

ผลการวินิจฉัย
น่าจะใช้ไปประมาณ 10% ไม่เกินนี้ค่ะ เพราะเพิ่งเริ่มแตะๆ เอง

สถานะ
เป็นตัวที่ใหม่ที่สุด จะใช้จนลากยาวไปปีหน้าเลยแหละ

สรุปคือ อายแชโดว์ทั้งหมด 7 ตลับ 

เราสามารถใช้ได้ทั้งหมด

34.71 เปอร์เซ็นต์

เท่านั้นค่าาาาาา


ฉะนั้น ปีหน้าเลยคิดว่าคงไม่ซื้ออายแชโดว์ต่ออีกสักปี
เพราะที่จะใช้ต่อ 3 ตลับ ได้แก่ Too Faced Burberry และ Zoeva 
ก็ยังไม่รู้ว่าจะใช้ถึง 50 เปอร์เซ็นต์มั้ย
แต่ แต่ แต่ ถ้ามันมีอะไรออกมาดึงดูดจริงจัง แบบตัว Sweet Peach
ก็มีวี่แววอยู่ค่ะว่าจะได้เสียทรัพย์ อิอิ
ส่วนใครที่ลองไปวิเคราะห์แบบเรา มาบอกเล่าผลประกอบการด้วยนะคะ
ว่าปีนี้มีอายแชโดว์กี่ตลับ และจะใช้หมดซักกี่ %

วันนี้มาดึก เพราะมัวแต่ค่อยๆ ประดิดประดอยกระทู้ไปเล่นเกมไป
ต้องเข้านอนแล้ว สวัสดีทุกคนค่ะ 


NickyOkawa

NickyOkawa

ชื่อนิกกี้ อายุ 30 กว่าๆ บ้าช็อปปิ้ง เขียนเก่ง ถ่ายรูปห่วย

FULL PROFILE