พาตัวเองคืนสู่ธรรมชาติ 📍กระเพรา & coffee : ลพบุรี
Junjaowkha review
43
15
สวัสดีวันหยุดสุดสัปดาห์ค่ะทุกคน หลังจากที่เหนื่อยล้าจากการทำงานกันมาทั้งสัปดาห์พอมาถึงวันหยุดทั้งทีเราก็ต้องพักผ่อนร่างกาย ผ่อนคลายสมองและจิตใจให้เต็มที่กันบ้างเน๊อะ และสัปดาห์นี้เราจะพาเพื่อนๆ ไปพักผ่อนที่เมืองลิงจังหวัดลพบุรีแบบเช้าไปเย็นกลับกันค่ะ ซึ่งพิกัดที่เราจะหยิบยกมาเม้าท์มอยในวันนี้คือ กระเพรา & coffee คร้า
ร้านอยู่ติดกับถนนนะคะ ตั้งอยู่บริเวณปากทางเข้าเขาจีนแลซึ่งเป็นจุดชมทุ่งดอกทานตะวันเลยค่ะ มีที่จอดรถให้และจอดฟรีไม่เสียตังค์ เรามาวันหยุดทำให้รถค่อนข้างเยอะและคนก็ดูหนาตาพอสมควรเชียวล่ะ หากที่จอดรถเต็มเพื่อนๆ สามารถจอดริมถนนตรงซอยเข้าหมู่บ้านได้คร้า บรรยากาศหน้าร้านทำให้รู้สึกเหมือนเอาตัวเองไปอยู่ในภาคเหนือเลย (อันนี้มโนไปเอง ฮ่าๆๆ) เพื่อนๆ สามารถสั่งอาหารและเครื่องดื่มที่หน้าร้านได้เลยค่ะ เครื่องดื่มราคาเบาๆ 35 - 40 บาท ประมาณนี้ รสชาติก็ทั่วๆ ไป ไม่ได้วะ วะ ว้าวววว .. ส่วนราคาอาหารก็ใกล้เคียงกับร้านอาหารทั่วๆ ไป เมนูอาหารก็จะเป็นอาหารตามสั่งค่ะ วันนี้เราทานมื้อหลักมาแล้วเลยไม่ลองชิมอาหารของเค้าใครเคยชิมแล้วก็เอามาเล่าให้ฟังกันบ้างน๊า
บรรยากาศหน้าร้านกลมกลืนกับธรรมชาติมั๊กๆ ตกแต่งด้วยสีส้มอิฐพาใจให้นึกถึงมนุษย์หินฟลินท์สโตนเลย อิอิ ชอบบบบบ มีทางขึ้นเป็นบันไดไม้ เพื่อนๆ เดินเข้าไปในร้านทางนี้ได้เลยนะคะ เมื่อเดินขึ้นไปก็จะพบกับโซนที่เป็นห้องแอร์ซึ่งเราไม่ได้เข้า เราเดินทะลุไปด้านข้างเพื่อเข้าชมสวนเลยค่ะ ... มุมโอเพนแอร์เป็นมุมที่รับลมและเห็นวิวสวยๆ ของเขาจีนแลและทุ่งดอกคอสมอส (Cosmos) หรือเรียกชื่อภาษาไทยว่า ดอกดาวกระจาย ได้แบบฟินเฟอร์เชียวล่ะ
โซนนั่งรับประทานอาหารในส่วนของโอเพนแอร์เค้าใช้เฟอร์นิเจอร์จากไม้แบบบ้านๆ ธรรมชาติสุดๆ ทำให้ได้นั่งมองวิวทิวทัศน์รับลมธรรมชาติกันแบบเพลินๆ เค้าจัดไว้หลายมุมเลยนะแต่เราไม่ได้ถ่ายรูปมาให้ดูเพราะคนเยอะมาก สำหรับห้องน้ำ เค้ามีป้ายที่เขียนไว้ว่า "ทางเข้าทุ่งดอกไม้" ห้องน้ำชายอยู่ทางซ้ายมือ ห้องน้ำหญิงอยู่ขวามือ ... สาวๆ อย่าเดินผิดฝั่งตามลูกศรที่เห็นนะคะ เดี๋ยวจะเงิบเหมือนเราแล้วจะหาว่าไม่เตือน ฮ่าๆๆๆ
ได้เวลาเดินชมสวนกันแล้วคร้า
แต่ก่อนเข้าชมสวนนั้นเราต้องเสียค่าเข้าชมจำนวน 20 บาท กันก่อนน๊า ราคาเดียวเท่านั้น ไม่จำกัดเวลาเข้าชมด้วยคร้า
ทุกคนนนน มัน ดีย์ มากกกก อารมณ์บับนี่แหละธรรมชาติที่ฉันใฝ่หา...เราได้กวาดตามองต้นไม้ใบหญ้า วิวทิวทัศน์ของเขาจีนแลที่อยู่สุดลูกหูลูกตา แต่งแต้มความสดใสจากดอกดาวกระจายที่บานสะพรั่งสีเหลืองอร่ามปลุกความสดใสเต็มท้องทุ่ง เราสามารถเดินชมท้องทุ่งพร้อมๆ กับดื่มด่ำกับธรรมชาติได้ตามเส้นทางสะพานที่เค้าทำไว้โดยทำจากไม้ที่นำมาต่อกันทีละชิ้นและยกสูงขึ้นมาจากพื้นดินทำให้นั่งห้อยขาถ่ายรูปได้แบบเก๋ๆ ไปเลยคร้า
เดินตามสะพานไม้ไปเรื่อยๆ ท่ามกลางขุนเขาและดอกคอสมอสโอบล้อมเราอยู่
เดินมาจนถึงมุมนี้ บ้านไม้หลังเล็กสะดุดตาล้อมรอบไปด้วยสีเหลืองสดใสของดอกดาวกระจาย ... มุมนี้ถือเป็นจุดที่เป็นไฮไลท์เลยก็ว่าได้นะคะเพราะใครเห็นก็เป็นต้องแชะภาพนี้เก็บไว้แม้แต่แฟนเราที่ไม่ค่อยจะชอบถ่ายรูปยังต้องออกปากขอให้เราถ่ายรูปให้ ..เซอร์ไพรส์มากจ้า ฮ่าๆๆ
เดินเล่นเรื่อยๆ จนถึงจุดพักที่เป็นกระท่อมเล็กๆ เค้ามีโต๊ะไม้ที่สมัยก่อนใช้ในห้องเรียนตามชนบท พาให้นึกถึงโรงเรียนตามเขาตามดอยเลย (มโนเก่ง ฮ่าๆๆๆ) นั่งพักนั่งเม้าท์มอย หลบแดดแป๊บ
เดินลึกเข้ามาหน่อยก็จะพบกับจุดที่ต้นดาวกระจายเติบโตสมวัย หรืออาจจะเป็นเพราะสะพานไม้เตี้ยลงกันนะ ??? แต่ไม่ว่าจะแบบไหน ก็ฟินอยู่ดี ^ ___ ^
จุดนั่งพักอีก 1 จุด ใต้ร่มเงาไม้ใหญ่ เหมาะแก่การปิคนิค จิบชา นอน - นั่ง อ่านหนังสือ ฟังเพลง ทำงาน...
ดอกดาวกระจายสีสันสดใสเบ่งบานเหลืองอร่ามเต็มท้องทุ่ง พริวไหวตามสายลมราวกับให้การต้อนรับทักทายเราตลอดทาง
ทุกปัญหามีทางออกเสมอ ฮ่าๆๆ ไม่ต้องกลัวหลงนะคะทุกคน เค้ามีป้ายบอกหรือเราจะเดินกลับทางเก่าก็ได้คร้า นอกจากป้ายนี้แล้วก็จะมีป้ายเตือนว่า "ห้ามลงไปเดินบนดิน" เป็นระยะๆ เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับดอกไม้สวยๆ เหล่านี้ และป้องกันอันตรายจากสัตว์มีพิษด้วยนะ ... อยากให้ความสวยงามของธรรมชาติอยู่กับเราไปนานๆ ก็ต้องช่วยกันดูแลรักษานะคะเพราะธรรมชาติเป็นสมบัติของคนทุกคนค่ะ
เดินเข้ามาลึกอีกนิดจะเริ่มเห็นว่ามีกลุ่มผึ้งน้อยบินมาดอมดมดอกดาวกระจายมากขึ้น ... ซึ่งโซนนี้เราอยู่แค่แป็บเดียวเพราะเรากลัวโดนผึ้งต่อย อิอิ
ที่นี่เค้าไม่ได้ห้ามไม่ให้เอาขนมหรือกาแฟเข้าไปจิบไปชิมระหว่างทางนะคะ แต่เราต้องช่วยกันดูแลรับผิดชอบขยะของเรา ไม่ทิ้งขว้างระหว่างทาง
ทรัพยากรทางธรรมชาติจะยังคงอยู่กับเราอีกนานแสนนานหากเราช่วยกันดูแลรักษาไว้ เพราะทรัพยากรทางธรรมชาติไม่ใช่สมบัติของใครคนใดคนหนึ่งแต่เป็นสมบัติอันมีค่าของพวกเราทุกคนค่ะ
ขอบคุณที่ติดตามนะคะ
แล้วพบกันใหม่
บ๊ายบายคร้า