ศึกสายเลือด!!! Cute press 1-2 beautiful Airy Matte foundation ปะทะ Cute press 1-2 beautiful Airy Matte Chusion Foundation SPF50+ PA+++
Koch Nipa
41
13
สวัสดีเพื่อนๆชาว jeban ทุกคนค่าาาา และในวันนี้เราก็มาตามชื่อกระทู้เลย นั่นก็คือการเปรียบเทียบรองพื้นของ cute press ระหว่าง รุ่น cute press 1-2 beautiful AiryMatte foundation กับ รุ่น cute press 1-2 beautiful Airy Matte Chusion Foundation SPF50+ PA+++ นั่นเองค่ะ ต้องขอเกริ่นไว้ก่อนเลยนะคะว่าเป็นการเปรียบเทียบกันอย่างคร่าวๆเท่านั้น เพราะอยู่ดีๆก็นึกขึ้นมาได้ว่า เอ้ยย เราก็มีรองพื้นรุ่นก่อนของแบรนด์นี่หว่าา ชื่อรุ่นก็มีความเหมือนกัน แล้วเนื้อผลิตภัณฑ์มันจะเหมือนกันรึเปล่านะ? เลยตัดสินใจลองเปรียบเทียบเล่นๆ ดูค่ะ ถ้าอยากจะรู้ว่าเรามีความคิดเห็นที่เหมือนหรือต่างกันยังไงในผลิตภัณฑ์สองตัวนี้ล่ะก็ ตามมาดูกันได้เลยจ้าาาา......
เอาล่ะค่ะ เราจะเริ่มเรื่องแรกด้วยเรื่อง แพ็กเกจกันก่อนเลย แล้วเราก็ต้องขออนุญาตนำภาพจากอินเทอร์เน็ตของผลิตภันฑ์สองตัวนี้มาใช้ประกอบด้วยนะคะ เนื่องจากเราไม่มีศิลปะในการแต่งรูปใดๆทั้งสิ้น 555555555 อีกประเด็นคือ เราไม่มีขนาดจริงของตัวรองพื้นค่ะ มีแต่ขนาดทดลองแบบซองที่ขายในเซเว่น ซึ่งจะเอาแพ็กเกจขนาดทดลองมาเปรียบเทียบกับขนาดจริงของตัวคุชชั่นที่เรามีก็คงจะไม่ได้ค่ะ 555555 เข้าประเด็นแบบจริงจังกันเลย ในเรื่องแพ็กเกจเรายกให้ตัวคุชชั่นได้คะแนนนำไปก่อน 1 แต้ม ค่ะ เหตุผลที่ให้ชนะก็คือเราชอบลวดลายบนฝาตลับของคุชชั่นตัวนี้ที่มันดูมีความพาสเทลแล้วก็ดูมีสีสันกว่าแบบหลอดของรุ่นรองพื้น นี่เป็นเหตุผลนึงที่ทำให้เราตัดสินใจซื้อคุชชั่นมาอย่างไวแบบไม่ต้องรอให้ BA มาขายตรงเลยค่ะ 5555555 อ่ะ มากันที่ความสะดวกสบายในการใช้งาน เราว่าเรื่องนี้ผลิตภัณฑ์ทั้งสองตัวมีความใช้งานได้ง่ายทั้งคู่ เหตุผลก็คือแบบคุชชั่นนั้นก็จะมีพัฟคุชชั่นมาช่วยให้เกลี่ยเนื้อผลิตภัณฑ์ได้ง่ายขึ้น ส่วนแบบรองพื้นถึงจะเป็นแบบหลอดแต่ก็มีหัวปั๊มมาให้ ทำให้บีบเนื้อผลิตภัณฑ์ออกมาได้ง่าย สะดวกต่อการใช้งานเหมือนกันค่ะ ต่อไปเป็นเรื่อง ความพกพาสะดวกค่ะ จริงๆแล้วเราก็ว่ามันพกพาสะดวกทั้ง2ตัวเลยนะคะ รุ่นรองพื้นถึงจะเป็นแบบหลอดแต่ก็ไม่ได้หลอดใหญ่มากจนจับไม่ถนัดมือ แถมมีแบบซองขนาดทดลองขายในเซเว่นด้วย ในวันที่เรารีบๆแล้วดันลืมหยิบรองพื้นพกใส่กระเป๋ามาด้วย ก็แวะเข้าเซเว่นไปซื้อแบบซองมาใช้กันตายได้ค่ะ แต่เราก็ยังแอบเทใจให้ตัวคุชชั่นในเรื่องการพกพาสะดวกนะคะ เพราะตลับคุชชั่นเนี่ยมีทั้งพัฟมาให้ มีกระจกมาให้ในตัวถ้าเราจะหยิบขึ้นมาใช้ก็แค่ตัวเดียวจบเลย ไม่ต้องเสียเวลาหากระจกมาส่องอีก แถมในตลับของคุชชั่นรุ่นนี้นั้นมีความแบนบางกว่ารุ่นก่อนๆที่ทางแบรนด์เคยทำมา ทำให้มีความจับถนัดมือ ไม่ให้เทอะทะจนเกินไปค่ะ สรุปโดยรวมเรื่องแพ็กเกจเราก็เลยยกให้ตัวคุชชั่นชนะไปในยกแรกค่าา
เริ่มยกที่สองด้วยเรื่องของเฉดสีเลยค่ะ ดูจากรูปภาพประกอบที่เรานำมา คิดว่าหลายๆคนคงเดาได้ว่าใครจะเป็นผู้ชนะในยกนี้ 55555 ใช่ค่ะ นั่นก็คือตัวรองพื้นรุ่นก่อนของทางแบรนด์นั่นเอง ที่มีเฉดสีให้เลือกถึง5เฉด ใช้ได้ตั้งแต่สาวๆที่มีผิวขาวยันผิวแทนแน่นอนค่ะ ในส่วนของตัวคุชชั่น มีเฉดสีให้เลือก 3เฉดค่ะ แต่ในวันที่เราไปทดลองเล่นหน้าร้านเห็นมีแค่2เฉดสีนะคะ คือสี 01 กับ 02 สงสัยพนักงานคงไม่ได้เอาเบอร์ 03 มาวางค่ะหรือเราอาจจะตาไม่ดีเอง 5555 ส่วนตัวคิดว่าในรองพื้นแบบคุชชั่นรุ่นนี้ เหมาะสำหรับสาวๆที่มีผิวขาวถึงผิวกลางโทนเหลืองมากกว่าค่ะ สาวๆที่มีผิวแทนหรือสีผิวที่เข้มกว่านี้ ใช้แล้วอาจจะยังดูสว่างกว่าผิวไปนิดส์ คงต้องอาศัยการแต่งหน้าเข้าช่วย อ้อ แต่ที่เราประทับใจในผลิตภัณฑ์ทั้งสองตัวนี้ก็คือ ทำสีรองพื้นได้ค่อนข้างที่จะอมเหลืองดีค่ะ เข้ากับสีผิวคนไทยส่วนใหญ่ได้ แต่โดยรวมเราก็ยังคงยกให้ตัวรองพื้นรุ่นก่อนชนะไปในเรื่ิองของเฉดสีค่ะ
ขออนุญาตคั่นยกที่สามด้วยเรื่องเฉดสีอีกนิดค่ะ ที่เราเกริ่นๆไว้ว่ารองพื้นทั้งสองรุ่นนี้ทำเฉดสีออกมาได้อมเหลืองดี เราก็เลยได้มีการถ่ายภาพเพิ่มเติม เพื่อเปรียบเทียบให้ได้เห็นของจริงกันแบบชัดเจนยิ่งขึ้นค่ะ เอาล่ะ ไม่พิมพ์เยอะ เมื่อยมือ ไปดูกันเลยค่ะ 5555555
มาต่อในยกที่สาม คิดว่าน่าจะเป็นยกสุดท้ายสำหรับเราแล้วค่ะ 55555 ในยกนี้เราจะมาพูดในเรื่องเนื้อผลิตภัณฑ์ของทั้งสองรุ่นเลยรวมถึงการปกปิดกันด้วยค่ะ และเราก็ได้มีการถ่ายรูปภาพจากกล้องมือถือมาเสริมในเรื่องนี้ด้วยนะคะ ถ้างั้น ไม่ควรรอช้าค่ะ มาเบิ่งกันเลยเด้อพี่น้องงง
ค่าา และจากที่ได้ดูภาพรวมของเนื้อผลิตภัณฑ์ทั้งสองรุ่นไปกันพอประมาณแล้ว ก็ดูเหมือนว่าเนื้อผลิตภัณฑ์และการปกปิดนั้นทำออกมาได้ดีออกมาทั้งสองรุ่นเลยนะคะ คือเกลี่ยง่ายและปกปิดค่อนข้างดี แต่มันจะส่วนที่แตกต่างกันอยู่ และเราจะมาเสริมให้ค่ะ
ในเรื่องของเนื้อผลิตภัณฑ์อย่างที่เราเกริ่นไว้ด้านบนๆ ว่าตัวรองพื้นรุ่นก่อน หลังจากเกลี่ยมันจะมีความเหนียวๆในช่วงแรกสักพักมันจะเริ่มแมทท์ค่ะ แต่ในส่วนของรองพื้นคุชชั่นรุ่นล่าสุด สำหรับเราแล้วคิดว่าตัวนี้หลังจากเกลี่ยไปแล้วจะไม่มีความเหนียวเหนอะหนะอะไรค่ะแต่จะแมทท์ไปเลย การปกปิดถ้ามองเผินๆก็ดูจะปกปิดได้เท่าๆกัน แต่ถ้าดูใกล้ๆแล้ว ตัวรองพื้นรุ่นก่อนจะมีความปกปิดมากกว่านิดนึงค่ะ
และแล้วววววว ก็ต้องมีศึกล้างตาา ดวลกันรอบสุดท้ายเพื่อหาผู้ชนะที่แท้จริง ในรอบนี้เราเลยมาวัดกันที่ความติดทน ทดสอบโดยการตักน้ำมาราดแขนที่ปาดเนื้อผลิตภัณฑ์ไว้ แล้วลองถูเนื้อผลิตภัณฑ์ดูว่าผลจะออกมาเป็นยังไง และผลลัพธ์ที่ได้จากการทดสอบไปหลายรอบก็ได้ออกมาตามนี้เลยค่ะ..
ได้เห็นกันไปแล้วนะคะ สำหรับประสิทธิภาพการกันน้ำของทั้งสองรุ่นจากการทดสอบแย่างคร่าวๆของเรา ในรอบนี้เราก็ต้องยกให้ตัวรองพื้นก่อนเป็นฝ่ายชนะไปค่ะ เพราะหลังจากทดสอบไปหลายรอบ เนื้อผลิตภัณฑ์ยึดเกาะติดอยู่กับแขนเราเกือบ100%เลย ในขณะที่ตัวรองพื้นคุชชั่นมีหลุดไปบ้างค่ะ
สรุปผลการเปรียบเทียบของเรากันเลยนะคะ สำหรับรองพื้นในสองรุ่นนี้ เรื่องแพ็กเกจเรายกให้ตัวรองพื้นแบบคุชชั่นรุ่นใหม่เป็นฝ่ายชนะไปค่ะ ในส่วนของเรื่องเฉดสีก็ต้องยกให้รองพื้นรุ่นก่อนที่มีเฉดสีให้เลือกมากกว่าชนะไป เรื่องเนื้อผลิตภัณฑ์และการปกปิดเราให้เสมอกันทั้งคู่ เนื่องจากทำออกมาได้ดีทั้งคู่ค่ะ ท้ายสุดในเรื่องการกันน้ำนั่นเราก็ต้องยกให้ตัวรองพื้นรุ่นก่อนของเขาชนะไปค่ะ................
เป็นยังไงกันบ้างคะ หลังจากที่เพื่อนๆได้ลองอ่านดูแล้วคิดว่าจะเชียร์ฝั่งไหนกันเอ่ยย? ระหว่าง รุ่น วัน-ทู บิวตี้ฟูล แอร์รี่ แมทท์ ฟาวเดชั่น กับรุ่น วัน-ทู บิวตี้ฟูล แอร์รี่ แมทท์ คุชชั่น ฟาวเดชั่น เอสพีเอฟ50+ พีเอ+++ ชอบรุ่นไหนคอมเมนต์กันเข้ามาได้เลยนะคะ~
ท้ายที่สุดแล้วเราก็ต้องย้ำอีกทีว่านี่เป็นการเปรียบเทียบกันอย่างคร่าวๆเท่านั้น ไม่ได้ละเอียดอะไรมากเท่าไหร่ เนื่องจากเรายังไม่ได้ทดลองด้วยการทาที่ใบหน้าแล้วออกไปใช้ชีวิตประจำวัน เจอกับสภาพอากาศค่ะ ไว้จะมาลองเทียบกันแบบละเอียดยิบให้ได้ดูกันในกระทู้หน้านะคะ และในกระทู้นี้เราก็หวังว่าจะเป็นประโยชน์ให้กับเพื่อนๆได้ประกอบการตัดสินใจในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ไท่มากก็น้อยค่ะ
สำหรับการเขียนกระทู้ในครั้งนี้ก็ต้องจบไว้เพียงเท่านี้ค่า ไว้เจอกันใหม่นะคะ~ ❤️❤️❤️❤️