Review : แป้งฝุ่น Miuskin ถูกและดีไม่แพ้เคาท์เตอร์แบรนด์
Sommikan 29 8สวัสดีค่าา กระทู้นี้ส้มจะมารีวิวแป้งฝุ่นลูกรัก คู่ใจของส้มตอนนี้ Miuskin Superlative Finishing losse powder แป้งฝุ่นถูกและดี แบรนด์ไทยที่คุณภาพดีไม่แพ้เคาท์เตอร์แบรนด์เลยค่า
จิ้มที่คลิปหรือเลื่อนอ่านด้านล่างได้เลยค่า
แป้งฝุ่น Miuskin (มิวสกิน) ออกแบบมาเพื่อคนผิวแพ้ง่าย เป็นสิวง่าย ส้มอ่านเจอว่าเจ้าของแบรนด์ก็เป็นสิวแต่ต้องแต่งหน้า “ต้องสวยอย่างปลอดภัย” ชอบอ่ะ มีคนเข้าใจมนุษย์เป็นสิวอย่างเรา ส้มก็ใช้แป้งมิวสกินมาตั้งแต่ประมาณเดือนก.พ. 62 ตั้งแต่วางขายเลยแหละ เพราะโดนพี่ของขวัน บล็อกเกอร์คนสวยป้ายยามานั่นเองค่า (พี่ของขวันมีส่วนช่วยพัฒนาสูตรแป้งมิวสกินด้วยนะ แค่นี้ก็เริ่ดแล้วว)
แป้งฝุ่นมิวสกินไม่มีน้ำหอม แอลกอฮอล์ พาราเบน มิเนอรัลออย ไม่ทดลองกับสัตว์ เลือกใช้ส่วนผสมที่ดี แต่บอกก่อนว่าแป้งตัวนี้มีซิลิโคนค่ะ แต่เป็นเกรดที่ดี ใส่มาเพื่อให้เนื้อแป้งเนียน เสี่ยงต่อการอุดตันน้อยที่สุดค่ะ
แพจเกจตั้งแต่กล่องจนตลับแป้ง จะเห็นความใส่ใจ ความตั้งใจของแบรนด์ แพคเกจดูดีมาก มินิมอล สไตล์ญี่ปุ่นสุดๆ จับแล้วรู้เลยว่าเลือกใช้วัสดุอย่างดี แข็งแรง ไม่ก๊องแก๊ง ขนาดกำลังดี สามารถพกพาสะดวก เก๋ๆ เริ่ดๆ ได้เลยค่ะ ตรงตัวหนังสือบนกล่อง คำว่า Miu จะนูนๆ ขึ้นมา ส่วนบนฝาเป็นตัวหนังสือแบบฝัง (ฉลุหรือป่าวคะ? เขาเรียกว่าอะไร?) มีรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่ทำให้แป้งดูแพงเลอค่ามาก ตลับเป็นแบบด้านจับแล้วไม่เป็นรอยนิ้วมือด้วยนะคะ
ด้านในมีตาข่ายช่วยกรองแป้ง ทำให้แป้งออกมาในปริมาณที่พอเหมาะต่อการใช้งาน สะดวกมากๆ ค่ะ ตัวตาข่ายก็นุ่มนิ่ม แต่ที่นิ่มกว่าก็คือพัฟที่แถมมาค่ะ เป็นอีกจุดที่แบรนด์ใส่ใจมากๆ
น่าจะมีสาวๆ เป็นเหมือนส้มที่น้อยครั้งจะใช้พัฟที่แถมมากับตลับแป้ง แต่แบรนด์มิวสกิน ตั้งใจทำพัฟออกมาให้ใช้ร่วมกับแป้งฝุ่น พัฟคือนุ่มมมมมมมมาก นุ่มละมุนอย่างกับพัฟขายแยกแพงๆ เลยค่ะ พัฟตัวนี้เป็นวัสดุจากญี่ปุ่น เวลาสัมผัสผิวหน้าแล้วนุ่มละมุน ฟินๆ ไม่ระคายเคืองผิวค่ะ ที่สำคัญเลยคือกระจายเนื้อแป้งได้ดี จับถนัด ขนาดกำลังดีเลยค่ะ แล้วเวลาซักทำความสะอาด รูปทรงก็ไม่เปลี่ยน นุ่มเหมือนเดิม จุดนี้ได้ใจไปอีก?
เนื้อแป้งเนียน ละเอียด บางเบา จับเนื้อแป้งแล้วนุ่มๆ ละมุน แป้งฝุ่นมิวสกินมี 2 สูตรค่ะ สูตร Translucent และสูตร Glow ทั้งคู่ควบคุมความมันเท่ากัน ต่างกันแค่ฟินิชผิวที่ได้เท่านั้นค่ะ
สูตร Translucent โปร่งแสง ไม่มีสี ใช้เช็ตรองพื้นก็จะไม่ทำให้รองพื้นเปลี่ยนสีค่ะ สามารถใช้ได้ทุกสีผิว ให้ลุคแมตต์ ผิวนวลเนียน แต่ก็ไม่ทำให้ผิวแห้งหรือด้านๆ ยังคงเป็นผิวอยู่ค่ะ
ส้มใช้สูตร Translucent เช็ตคอลซิลเลอร์หน้าฝั่งซ้ายให้ชมกัน ผิวจะดูแมตต์ขึ้นกว่าตอนแรกแต่ยังคงเป็นผิว ได้ผิวนวลๆ สีผิวไม่เปลี่ยนค่ะ
สูตร Glow ให้ลุคฉ่ำวาว ผิวผ่อง ดูมีออร่า จากเทคโนโลยี “Youth Aura Effect” ไม่ใช่กลิตเตอร์หรือชิมเมอร์เป็นเม็ดๆ แบบที่เอามาทาตัวได้นะคะ เหมือนเป็นซิมเมอร์ละเอียดมากๆ แทบจะมองไม่เห็น เวลาใช้ก็จะไม่อุดตันผิวค่ะ
สูตร Glow ใช้เช็ตฝั่งขวา ผิวจะแมตต์ขึ้นกว่าตอนแรกแต่จะดูผ่อง ผิวโกลว์ ดูมีมิติกำลังดี ไม่ฉ่ำเหมือนใช้คุชชั่นเกาหลีหรือปัดไฮท์ไลท์แบบนั้นนะคะ สาวๆ ผิวมันแบบส้มจึงสามารถใช้ได้ค่ะ อย่างที่บอกว่าคุมมันเท่ากันต่างแค่ลุคที่ได้ค่ะ
เทียบ 2 สูตรบนผิวให้ดูนะคะ มองภาพรวมจะเห็นว่าไม่ต่างกันเท่าไรเลย แต่ถ้าสังเกตดีๆ ฝั่งซ้าย Translucent จะแมตกว่า ผิวจะนวลเนียนมากกว่า ฝั่งขวาสูตร Glow จะผ่องมากกว่าค่ะ
สวอชเทียบทั้ง 2 รุ่นให้ชมกันค่ะ ด้วยความที่เป็นแป้งฝุ่น เวลาทาบนผิวแล้วจะเนียนกลืนไปกับสีผิวของเรา สามารถใช้ได้ทุกสีผิวค่ะ อย่างสูตร Glow ดูขาวมาก แต่พอเกลี่ยแล้วกลืนไม่ขาวลอยค่ะ
สำหรับส้มทั้ง 2 สูตร คุมมันได้ดีพอกันเลยค่ะ มนุษย์หน้ามันแบบส้ม ก็ถือว่าคุมมันได้ระดับนึง ผิวไม่มันมากจนเกินไป ระหว่างวันยังมีความมันขึ้นมาในระดับที่โอเค ไม่มันเยิ้ม ไม่เป็นคราบ ใช้แล้วสบายใจไม่ต้องกังวลว่าสิวจะขึ้น ส้มชอบทั้ง 2 สูตรนะคะใช้สลับกัน แต่จะชอบ Translucent มากกว่านิดนึง เพราะพอระหว่างวันหน้ามันจะกำลังดีค่ะ บางทีใช้ Glow แล้วรู้สึกตอนหน้ามันจะวาวไปหน่อยแต่ก็ไม่ได้ดูแย่น้า
แต่ถ้าวันไหนส้มแต่งหน้าน้อย(ขี้เกียจ) จะชอบใช้ Glow หน้าจะผ่องๆ แบบที่ส้มบอก จะดูมีอะไรในวันที่ไม่ค่อยอยากแต่งหน้าค่ะ ตอนที่ไปเรียนเกาหลีเดือนนึงใช้ Glow แทบทุกวันเลย จะได้หน้าผ่องๆ แบบสาวเกาหลี ฮ่าๆ
ทั้งแพคเกจ ส่วนผสม คุณภาพแป้งฝุ่นมิวสกิน เป็นแบรนด์ไทยที่เทียบเท่าเคาท์เตอร์แบรนด์ได้เลยค่ะ อย่างที่บอกว่าถูกและดี ราคาน่ารักมากๆ ค่ะ ขนาด 10 กรัม 590 บาท บางทีก็มีโปรโมชั่นลดแลกแจกแถมเข้าไปอีก สามารถหาซื้อได้ที่ miuskin_thailand
หาข้อเสียอย่างนึงให้แป้งตัวนี้ได้คือ ยังไม่มีวางขายทั่วไป ต้องสั่งออนไลน์กับมีวางขายแค่บางร้านค่ะ