แต่งหน้าใสๆสไตล์เกาหลี พร้อมตัวช่วยตามหาโทนสีที่เข้ากับผิวที่สุด |Smindstyle
Smindstyle
01 ต.ค. 62
43
13
GIVEN BY BRAND / แบรนด์ฝากประชาสัมพันธ์จ้า ^^
[ Makeup Tutorial] แต่งหน้าใสๆโชว์ผิวสไตล์เกาหลี พร้อมตัวช่วยตามหาโทนสีที่เข้ากับผิวที่สุด _________________ Smindstyle
สวัสดีค่ะทุกคนวันนี้มามี how to makeup มาฝากกัน มีทั้งแบบภาพและวิดีโอเลยน้า นอกจากนี้ครั้งนี้มายมาแนะนำตัวช่วยดีๆที่จะช่วยให้เพื่อนๆเลือกสีรองพื้นและโทนสีที่ใช้แต่งหน้าแต่งตัวอีกด้วยน้า
VIDEO
เริ่มมาขนาดนี้เพื่อนๆคงจะอยากรู้กันแล้วใช่มั้ยละคะ แต่ถ้าใครไม่อยากรู้ ก็อ่านกันหน่อยน้ามีประโยชน์และที่สำคัญฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายด้วยน้า ซึ่งสิ่งที่มายจะมาแนะนำก็คือ โปรแกรม Personal Color Match ของทาง Etude House นั่นเองค่ะ ซึ่งเค้ามีเครื่องที่มีชื่อว่า My Color Finder ที่จะมาเป็นผู้ช่วยของเราในการหา โทนสีผิวของเรา แบบว่าแม่นยำที่สุด ไม่ต้องมานั่งเดากันอีกต่อไปว่า ตัวเองนั้นมีสีผิวโทนอะไรกัน cool tone (โทนชมพู), warm tone (โทนเหลือง) หรือ natural tone (โทนธรรมชาติ) โดยที่เครื่องนี้จะประมวนผลออกมาในรูปแบบของฤดูกาลนั่นเองค่ะ มีทั้งหมด 4 ฤดูด้วยกัน โดยแบ่งเป็น summer, spring, autumn และ winter ค่ะหลังจากที่เครื่องเค้าจะบอกโทนสีผิวได้แล้ว เจ้าตัวเครื่องจะประมวณผลออกมาเลยว่าเบอร์รองพื้นที่เราควรใช้ สีลิปสติกที่เราควรทา พร้อมแนะนำสีที่เหมาะสมกับเรานั่นเองค่ะ ซึ่งชาจสีนี้ไม่ได้มีแค่บอกสีที่จะใช้แต่งหน้า แต่สีต่างๆที่อยู่ในชาจจะเป็นสีที่เข้ากับโทนสีผิวของเรามากที่สุด ถ้าเราใส่เสื้อผ้าตามสีนั้นๆจะช่วยให้ผิวของเราดูผ่องรับสีผิวนั่นเองจ้า
ประโยชน์แน่นเบอร์นี้มีหรอมายจะพลาด ทางเราก็ได้ไปเข้ารับบริการ My Color Finder ที่ Etude House สาขา Siam Center ซึ่งบริการนี้ไม่มีค่าใช้จ่ายนะคะ ฟรีๆกันไปเลย เสียเวลาไม่ถึง 5 นาทีเท่านั้น เพื่อนสามารถเข้าไปรับบริการกันได้เลยจ้า
My Color Finder สรุปผลออกมาว่า มายมีโนสีผิวเป็น Cool tone ก็คือโทนสีชมพู จัดอยู่ในฤดูกาลของ Summer นั่นเองค่ะ เอาจริงๆนะเพื่อนๆ ทางเราโกหกตัวเองมาตลอดมา "ฉันเป็นคนผิวเหลือง" แต่ตอนนี้คือต้องเลิกมโนไปเลยจะ เพราะหลักฐานมันฟ้องกันอยู่เห็นๆ
Makeup Tutorial เรามาเข้าเรื่องการแต่งหน้ากันบ้าง หลังจากที่ทางเราค้นพบโทนสีของตัวเองแล้วนั้น เราก็ได้มีการรับน้องรองพื้นและลิปสติก ตามที่ทางโปรแกรมแนะนำกลับบ้าน มายเลยคิดว่ามาแต่งหน้าให้เพื่อนๆดูดีกว่าว่า การแต่งหน้าตามโทนสีที่ใช่จะทำให้ look ของเราออกมาเป็นยังไงบ้าง ขอกระซิบบอกอีกนิดว่า ครั้งนี้มายใช้เครื่องสำอางค์น้อยชิ้นมากๆเลยด้วยน้า อิอิ ก่อนจะเริ่มการแต่งหน้ามายขอลงสกินแคร์กันก่อน ซึ่งก็คือ Soon Jung สกินแคร์ของ Etude นั้นเอง มายมีเขียนรีวิวไว้เรียบร้อยแบบจัดเต็มสุดๆ โดยที่สกินแคร์กลุ่มนี้จะช่วยในเรื่องของการเติมความชุ่มชื้นให้ผิว ช่วยสร้างเกราะป้องกันผิวทำให้ผิวแข็งแรง โดยที่ผลิตภัณฑ์ที่ตัวในกลุ่ม Soon Jung ใช้ได้แม้ผิวที่บอบบางเพราะมีค่า ph5.5 เป็นค่าที่เป็นมิตรกับผิวของเรานั่นเองค่ะ ซึ่งทางเราก็ใช้เป็นประจำทุกวัน และ 2 ตัวนี้เป็นตัวคู่ใจที่ทำให้ชีวิตที่แสนจะเร่งรีบของมาเร็วขึ้นค่ะ Soon Jung Moist Relief All in One Gel เจลใสเนื้อละมุน คล้ายเจลลี่ ระหว่างที่ทาจะรู้สึกถึงความเย็นๆแบบน้อยๆ ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย ตัวนี้เหมาะมากๆที่จะทาในตอนเช้าเพราะว่าเค้าเป็น All in One ที่มีการผสมคุณสมบัติของทั้ง toner, lotion และ serum เอาไว้ในหลอดเดียวเลย นอกจากนี้น้องเค้ายังไม่ทำให้ผิวของมายเหนอะหนะด้วยนะ ด้วยความเป็นเจลนั่นเองค่ะ ช่วยให้ประหยัดเวลาในการทาสกินแคร์ในตอนเช้าไปได้เยอะเลยค่ะ วิธีใช้ : ทาเป็นตัวแรกหรือลงหลังจาก toner และ lotion ใช้ทาได้ทั้งเช้าและเย็นเลยจ้า สามารถเพิ่มความฟินได้โดยการนำไปแช่เย็น ตอนที่ทาจะรู้สึกดีมาก
Soon Jung Hydro Barrier cream สำหรับตัวนี้เป็นเนื้อครีมเนื้อบางๆ กึ่งเจลๆ แต่มี moisturizer มากถึง 92% ซึ่งเยอะมากๆ ถึงแม้ว่าเค้าจะเป็นเนื้อครีมแต่ว่าไม่ได้รู้สึกถึงความเหนอะหนะเลยค่ะ แต่ว่าเค้าจะช่วยเติมความชุ่มชื้นและความฉ่ำให้กับผิว เพราะฉะนั้นหลังการทาทันทีอาจจะมีความรู้สึกความช่ำๆของเนื้อครีมบนผิวหน้า วิธีใช้: ใช้ทาเป็นตัวสุดท้ายในตอนกลางคืน และในตอนเช้าทาก่อนที่จะลงกันแดดค่ะ โดยปกติแล้ว มายจะชอบช้ตัวนี้ในตอนกลางคืน แบบว่าโบกไว้ตื่นเช้ามาคือหน้าฉ่ำเลย ใครที่จะทาในตอนเช้าใช้ในบริมาณไม่ต้องเยอะมากนะคะ *** สำหรับใครที่ผิวแห้งแนะนำว่าทาก่อนแต่งหน้าจับคู่กับรองพื้นที่มีเนื้อแมท ไม่ต้องกลัวปัญหาหน้าลอกหรือแห้งระหว่างวันเลย ไม่ต้องทาแป้งต่อผิวคือดีมาก ซึ่งวันนี้มายก็ใช้วิธีเดียวกันนี้มาแต่งหน้าให้เพื่อนๆดูกัน
Double Lasting Foundation #PETAL P04 สำหรับรองพื้นสูตรนี้บอกก่อนเลยว่าไม่ได้คิดไว้แต่แรกว่าจะใช้ เพราะว่าด้วยคุณสมบติของน้องเค้าคือควบคุมความัน ติดทนนาน และปกปิด ยอมรับการปกปิดเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์ทางเรามาก แต่ว่ามายหน้าแห้งมากเลยกังวลว่าใช้แล้วจะหน้าลอก เลยตั้งใจจะไปรับน้อง Double Lasting ที่เป็นสูตร serum foundation มา แต่พอไปถึงที่ช็อปมายได้รองเนื้อทั้ง 2 สูตร และเห็นได้ว่าตัวรองพื้น Double Lasting foundation เป็นเนื้อแมทก็จริงแต่น้องเค้าทำให้ผิวดูสุขภาพดี ไม่ได้แมทสนิทจนผมไม่มีมิติใด และปกปิดได้ดีเลยค่ะ ส่วนน้อง Double Lasting serum foundation น้องมีความเนื้อบางเบา ไม่ปกปิดอะไร และมีความฉ่ำวาวมากกว่า ทางเราคิดอยู่พักนึงและตัดสินใจรับน้อง Double Lasting foundation มา ตัวเนื้อของรองพื้นสูตรนี้มีความเหลวสมควร รู้สึกได้ถึงความบางเบา ไม่รู้สึกว่าผิวโบกอะไรมา ผิวยังคงดูเป็นผิว ให้การปกปิดดี ติดทนโดยที่ไม่ไท่ทาแป้งแต่รองพื้นก็ยังคงอยู่บนหน้า หลังจากที่ผ่าน activities มาทั้งวัน ซึ่งเค้าแนะนำให้ใช้คู่กับแปรง Double Lasting Skin Master blush แปรงขนแน่นที่จะมาช่วยเกลี่ยรองพื้นให้เรียบภายในเวลารวดเร็ว ซึ่งอย่างที่บอกไปว่า โปรแกรม My Color Finder ประมวลผลออกว่ามา มายควรใช้รองพื้นโทนสีชมพู ก็คือ Petal P04 ที่มีความชมพูพอดีเข้ากับสีผิวของคนเอเชีย บอกเลยว่าที่ผ่านว่าเลี่ยงรองพื้นโทนชมพูมาตลอด เพราะว่ากลัวความหน้าเทา เพราะรองพื้นโทนสีนี้ถ้าทำไม่ดีมีผลคือหน้าเทาไปเลยจ้า แต่โทนสีชมพูของทาง Etude คือผ่านนะคะสำหรับมาย รู้ส฿กคิดไม่ผิดที่เปิดใจลองใช้
ครั้งนี้ด้วยทางเราใช้คู่กับแปรง Double Lasting Skin Master blush เราเป็นคนที่เลี่ยงการใช้แปรงมาตลอด เพราะลองกี่หลังต้องจลด้วยการใช้ฟองน้ำตบท้าย เพราะใช้แปรงลงที่ไรเป็นเส้นทุกทีเลย แต่น้องคนนี้คือดีมาก ไม่เป็นเส้นและช่วยให้เกลี่ยรองพื้นได้ไวอีกด้วย finish ผิวที่ลงด้วยแปรงจะได้ลุคที่บาง ทำให้บริเวณที่มีรอยสิวและใต้ตายังคงมีรอยอยู่ มาเลยใช้นิ้วลงรองพื้นแทนคอนซีลเลอร์ในบริเวณที่ต้อการการปกปิดเพิ่ม เช่นใต้ตาและบริเวณที่มีรอยสิวชัดๆ อย่างที่บอกไปตอนแรกว่ามายเป็นคนที่ผิวแห้งมากอยู่แล้ว เลยไม่ได้ลงแป้งอะไรเซตทั้งนั้นเลย รองพื้นยังดูดีทั้งวัน ไม่ตกร่อง แม้แต่บริเวณใต้ตาี่ตกร่องง่ายๆก็ไม่มีปัญหาเลยจ้า
Drawing Eye Brow Pencil #2 Grey Brown เรามาต่อกันที่การเขียนคิ้วกันเลยค่ะ แน่นอนว่าไม่มีใครไม่รู้จักที่เขียนคิ้วในตำนานอย่าง drawing eye brow ดินสอเขียนคิ้วปลายตัดพร้อมแปรงปัดคิ้ว แบรนด์แรกๆที่ผลิตมาเลยน้า น้องคนนี้เขียนง่าย สามารถช่วยให้มายเขียนเส้นคิ้วเลียนแบบขนคิ้วจริงของเราได้แบบไม่ยาก ไม่ต้องใช้ความสามารถขั้นสูงอะไรเลยจ้า
Better Lip Talk #PK203 Velvet Matte อย่างที่บอกนะคะว่าครั้งนี้เราใช้เครื่องสำอางค์น้อยชิ้นมากๆ มายใช้ Better Lip Talk สูตร Velvet Matte สี PK203 ซึ่งเป็นสีที่ทางโปรแกรมแนะนำมา ใช้ทาเป็นครีมบรัชและทาปากด้วยเลยน้า ซึ่ง Better Lip Talk เค้ามีให้เลือกกัน 2 สูตรเป็น Velvet matte จะมีความแมทสบายปากและ Miostuer มีความฉ่ำวาว ทั้ง 2 สูตรนั้นมาพร้อมพิกเม้นสีที่เน้น ติดทน สบายปากด้วยน้า
Apply as Brush
Create Your Colorful Lip
Best Love Play Color Eye Palette เพื่อนๆอาจจะสงสัยว่าไหนว่า Best love เป็นพาเลทที่เหมาะกับ warm tone หรือคนที่มีผิวโทนเหลืองนั้นเอง แล้วทำไมมายเอามาแต่งในลุควันนี้ละ ก็เพราะว่ามีอยู่แล้วนินา 55555 มายเลยคิดว่าเอาพาเลทที่มีอยู่มา adapt ใช้ให้เข้ากับ look ในวันนี้เพราะในพาเลทมีสีให้เลือกเยอะ และบอกเลยว่าเราจะไม่ได้ใช้พาเลทนี้ในการแต่งตาเท่านั้น แต่มายจะใช้ contour, brush และ highlight ด้วยเลย เป็นพาเลทที่คุ้มเว่อ
Contour, Brush & Highlight
Eye Makeup
แต่งตามกันไม่ยากใช่มั้ยหล่ะ และ look ที่ได้ออกมาในวันนี้มายรู้สึกพอใจกับผิวมากๆๆ คือผิวดูสุขภาพดี มายแต่งหน้าแบบเน้นงานผิวสวยๆ เลือกใช้สีตา แก้ม ปาก ที่เป็นโทนที่ใช้ได้ทุกวัน ดูไม่เยอะไม่น้อยเลย หวังว่าเพื่อนๆจะชอบกันน้า Finished Look
ขอบคุณทุกๆคนที่เข้ามาอ่านนะคะ หวังว่าจะเป็นประโยชน์น้า เจอกันใหม่ครั้งหน้า _________________ บาย