ADVANCED WHITENING จาก Beauty Cottage ตัวช่วยผิวกระจ่างใสในราคาเอื้อมถึง
Duangkaew Kemmanunsopon
67
16
พร้อมหรือยัง พร้อมหรือยัง จะป้ายยาแล้วนะ! (>_<)
สวัสดีค่า กลับมาสู่ช่วงป้ายยาแบบจัดหนักจัดเต็มไปกับไอเทมฉบับถูกและดีที่จูนแอบไปสอยมาเมื่อช่วงเกือบๆปลายเดือนที่ผ่านมานี้เอง (เงินเดือนออกก็จะราชาหน่อยๆ อิอิ-..-) ซึ่งแบรนด์ที่จูนจะมาพูดถึงกันในวันนี้ก็จะเป็นอะไรไปไม่ได้ นอกจากแบรนด์ไทยที่มีคุณภาพดี+ราคาที่แสนจะเป็นมิตรอย่าง Beauty Cottage นั่นเองจ้า ที่พอเห็นแพ็คเกจแล้วก็แอบฟันธงอยู่ในใจลึกๆ ว่าแต่ละชิ้นของนางต้องราคาไม่ต่ำกว่า 700-800 บาทแน่นอน! ราคาแรงสุดไม่ถึง 700 บาทเด้อ และถูกสุดของไลน์นี้ก็คือ 195 บาทเท่านั้น งานนี้คงจะพลาดไม่ได้เลยขอหยิบมาลองใช้ก่อนสัก 3 ตัวเบาๆ (หื้มมมม)5555 ด้วยความอยากลิ้มอยากลองนี่แล เลยกะว่าในเมื่อเสียตังค์แล้วเลยจะมาทำรีวิวให้เพื่อนๆดูกันไปเลยดีกว่า ว่าในไลน์นี้จะมีตัวไหนที่ใช้แล้วรอดบ้าง?เราตามไปดูกันเลยจ้าาาา
โดยไอเทมที่จูนจะมารีวิวให้อ่านกันวันนี้มีทั้งหมด 3 ตัวด้วยกันนั่นก็คือโทนเนอร์, โฟม และเซรั่มค่ะ จริงๆ มีตัวเดย์ครีมและก็พวกมาส์กด้วยนะ แต่ขอลองแค่นี้ก่อนแล้วกัน5555 ทั้งสามตัวนี้จัดอยู่ในไลน์เดียวกันที่มีชื่อว่า “Beauty Cottage Advanced Whitening Concentrate” ซึ่งที่มาที่ไปของไลน์นี้จากที่จูนได้ลองหาข้อมูลมาเพิ่มเติมนั้น เขาจะมีส่วนผสมหลักๆ ที่มาจากเกาะเชจู (Jeju) ประเทศเกาหลีใต้ค่ะ และอย่างที่รู้กันดีอยู่แล้วว่าเกาะนี้เขาค่อนข้างขึ้นชื่อในเรื่องความสวยงามและมีธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ อีกทั้งยังมีสารสำคัญจากธรรมชาติอีกมากมายที่อุดมไปด้วยอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อผิวของเราอีกด้วย จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมหลายๆเจ้าถึงมักจะคัดเลือกเอาส่วนผสมที่มาจากเกาะเชจูเข้ามาร่วมอยู่ในส่วนผสมของผลิตภัณฑ์ เอาหล่ะ! งั้นเพื่อเป็นการไม่เสียเวลาเราไปเริ่มกันที่ตัวแรกเลยดีกว่าครัชช
Advanced Whitening Concentrate Facial Cleanser
ตัวนี้เป็นคลีนเซอร์ที่มาในรูปแบบ 3 IN 1 คือสามารถใช้เป็นโฟมล้างหน้าก็ได้หรืจะใช้ล้างเครื่องสำอางก็ดีและยังสามารถบำรุงผิวเราไปในตัวค่ะ น้องเขามาในขนาด 100 g. ราคา 195 บาท หลอดใหญ่พอดีมือ คาดว่าใช้ได้ประมาณ 1-2 เดือนเลยยย เพราะจูนลองใช้แค่นิดเดียวผสมกับน้ำก็ทั่วหน้าแล้วนะ ที่สำคัญคือคนที่ผิวแพ้ง่ายก็ใช้ได้เพราะเขาไม่มีส่วนผสมของสารที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองกับผิวอย่าง SLS, SLE, PARABEN, Colorant, MIT และ Fragrance เลยค่ะ
**MIT= Methylisothiazolinone เป็นสารกันเสียที่มีคุณสมบัติช่วยยับยั้งการเติบโตของแบคทีเรีย เชื้อราและยีสต์ เป็นสารที่อาจทำให้เกิดการระคายเคือง หากเกิดอาการแพ้จะทำให้ผิวอักเสบและมีผื่นแดงขึ้นตามผิวหนังสำหรับในประเทศไทยค่ะ
ส่วนผสมที่น่าสนใจของโฟมตัวนี้มีอะไรบ้าง??
Apple Amino Acid Surfactant เป็นสารทำความสะอาดที่มาจากแอปเปิ้ล ช่วยให้ความชุ่มชื้นกับผิว พร้อมกับทำความสะอาดผิวไปในตัว
Natural Whitening Cell สารสกัดจากดอกแมกโนเลีย+ดอกบัว+ดอกซึบากิ+น้ำจากภูเขาไฟ และ Shuindari Fermentation ที่เป็นตัวเทคโนโลยีการหมักจากเชจู มีคุณสมบัติช่วยให้ผิวกระจ่างใสและช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว
Dongbaek เป็นที่คุ้นหูคุ้นตาเราเป็นอย่างดีนั่นก็คือสารสกัดจากดอกดงเบกที่มีคุณสมบัติช่วยเพิ่มความกระจ่างใสและบำรุงผิวได้เป็นอย่างดี
Prunus Serrulata Flower Extract สารสกัดจากดอกซากุระจากเกาะเชจู เต็มเปี่ยมไปด้วย Vitamin C + Phenol + Flavonoid
Vitamin B3 ช่วยบำรุงผิวให้เนียนนุ่ม ดูกระจ่างใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติค่ะ
"เนื้อครีมตอนบีบออกมามีความเข้มข้น+หนืดๆ นิดๆ
พอผสมกับน้ำก็จะเปลี่ยนเป็นเนื้อโฟมอย่างที่เห็นในรูปเลยค่ะ
ตัวฟองมีความละเอียด+นุ่มดี กลิ่นจะออกแนวเย็นๆหน่อย
พอล้างแล้วจะรู้สึกว่าพวกรูขุมขนดูกระชับขึ้นเลยทันที"
สิ่งที่รู้สึกได้หลังใช้เลยก็คือหน้าดูสะอาดและใสขึ้น ดูละเมียดๆ พวกรูขุมขนดูกระชับไปเลย และตอนที่จูนใช้ส่วนตัวยังไม่เกิดอาการแพ้หรือระคายเคืองใดๆ นะ ถือว่าผ่านในระดับนึงเลย แต่หลังจากล้างหน้าในครั้งแรกจูนแอบรู้สึกว่าผิวมันจะมีความตึงนิดๆ แต่ไม่ได้มากจนทำให้รู้สึกว่าผิวแห้งค่ะ เลยคิดว่าตัวนี้น่าจะเหมาะกับคนผิวผสม-ผิวมันจะโอเคกว่า ผิวแห้งตอนล้างอาจจะรู้สึกว่าผิวจะดูแห้งตึงเกินไปเพราะปกติจูนเป็นคนผิวมันก็ยังมีแอบตึงๆนิดๆ แต่ไม่ได้มากจนรู้สึกไม่ดีนะ (อันนี้เป็นความเห็นส่วนตัวงับ555)
Advanced Whitening Concentrate Toner Essence
หลังจากล้างหน้าเสร็จเรามาต่อกันที่โทนเนอร์เลย จะบอกว่าตัวนี้จูนขอ Recommend ไม่ได้อวยนะนะแต่ชอบมาก ใช้ครั้งแรกคือชอบเลย55555 ตัวนี้เขามาในขนาด 100 ml. ราคา 435 บาท ใช้ได้ประมาณ 1 เดือน นี่ใช้จนจะไม่เหลือรีวิวแล้วนะ5555 เลยต้องหยิบมาถ่ายก่อน และแน่นอนว่าตัวนี้ก็ปราศจาก Alcohol, Fragrance เช่นเดียวกันและมีค่า pH อยู่ที่ 5.5 ซึ่งมีความอ่อนโยนกับผิว ไม่ทำให้เกิดการระคายเคืองกับผิวค่ะ คุณสมบัติหลักๆของตัวนี้คือเขาจะช่วยปรับสภาพผิว พร้อมกับช่วยกระชับรูขุมขนไปในตัว เหมาะกับทุกสภาพผิว หรือคนที่มีปัญหารูขุมขนกว้างค่ะ
ส่วนผสมที่น่าสนใจของโทนเนอร์ตัวนี้มีอะไรบ้าง??
Jeju Natural Whitening Cell ช่วยให้ผิวดูขาวกระจ่างใส และมีคุณสมบัติเป็น Antioxidant อีกด้วย
Witch Hazel Extract ช่วยกระชับรูขุมขนให้เล็กลง
Bisabolol สารสกัดจากดอกคาโมมายด์ ช่วยเพิ่มความนุ่มและความชุ่มชื้นให้กับผิว
Allantoin ช่วยลดอาการระคายเคืองที่เกิดขึ้นบนผิว
"สิ่งที่ชอบในตัวนี้คือตอนเช็ดผิวจะเย็นๆ แบบผ่อนคลายดี
ได้ฟีลกู๊ดแบบจริงจัง หลังจากใช้มาประมาณ 1 อาทิตย์
คือรู้สึกได้เลยว่าสิวไม่ค่อยขึ้น และรูขุมขนดูเล็กลงแบบงงๆ
เป็นโทนเนอร์ที่ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ด้วย
เมื่อก่อนเคยใช้โทนเนอร์ที่มีส่วนผสมของแอลกอลฮอล์หน้าจะแห้งมาก และบางที
ก็รู้สึกผิวระคายเคืองด้วย ตัวนี้คือสอบผ่านทั้งในเรื่องของรูขุมขน
และไม่ทำให้ผิวระคายเคืองด้วย ถ้าใครที่กำลังเล็งๆโทนเนอร์ไว้ในครอบครอง
จูนแนะนำว่ามันต้องมีต้องโดนเลยตัวนี้ 10/10"
Advanced Whitening Concentrate Serum
มาต่อกันที่ตัวสุดท้ายแล้ววว ตัวนี้เป็นเซรั่มที่เน้นช่วยในผิวกระจ่างใส+ลดเลือนริ้วรอย โดยขวดของเขาจะมาในรูปแบบขวดปั๊ม เวลาใช้จูนใช้ประมาณ 2 ปั๊มก็ทาทั่วหน้าแล้วครัช มาในขนาด 80 ml. ราคา 695 บาทค่ะ ถือว่าราคากลางๆ แต่ได้ปริมาณที่เยอะอยู่นะ คุ้มอยู่ค่ะ แพ็คเกจอย่างที่บอกทำออกมาได้สวยหรูหราอลังการมากๆ แค่ตั้งไว้บนโต๊ะก็ดูมีสง่าราศีขึ้นทันตา5555 โดยส่วนผสมของเขาจะไม่ค่อยแตกต่างจากตัวโทนเนอร์ที่จูนพูดไปก่อนหน้านี้มาก แต่จะมีเพิ่มในส่วนของสารสกัดจากสาหร่าย (Hydranov P) และVitamin B3 ที่มีอยู่ในตัวโฟมเข้ามาเพิ่มด้วยเหมือนกัน
ส่วนผสมที่น่าสนใจในตัวเซรั่มขวดนี้มีอะไรบ้างนะ??
Hydranov P สารสกัดจากสาหร่าย Furcellar Lumbrilicalis ช่วยเส่ริมสร้าง Hyaluronic acid และ Ceramide ช่วยทำให้ผิวนุ่มชุ่มชื้นยาวนาน
Vitamin B3 ช่วยยับยั้งการส่ง Melanosom ไปยังเซลล์ผิวหนังชั้นบน จึงช่วยให้ผิวดูกระจ่างใสอย่างสม่ำเสมอ
และสารสกัดตัวอื่นๆ ที่คล้ายกันก็จะเป็นสารสกัดจากดอกไม้ดงเบก (Jeju Dongbaek) ที่ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยก่อนวัยและเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิว อีกตัวนึงคือ Jeju Prunus Serrulata Flower Extract (Cherry Blossom) ซึ่งตัวนี้เขาก็มีการทดสอบด้วยว่าสารสกัดจากดอกซากุระตัวนี้มันมีปริมาณของสารกลุ่ม Flavonoid , Vitamin C และ Phenolics ในปริมาณที่สูงกว่าสารสกัดจากดอกไม้อื่นๆ มาก และจัดว่ามีฤทธิ์เป็น Antioxidant ที่มีประสิทธิภาพดี
"มาดูที่เนื้อเซรั่มเขากันบ้าง ตัวนี้เซรั่มจะมีสีขาวขุ่น
เนื้อบางเบา เกลี่ยง่ายดี แต่ถามว่าซึมไวไหมสำหรับจูนยังกลางๆนะ
เพราะจากที่ใช้มาใช้เวลาประมาณนึงน้องเขาถึงจะซึมเขาผิวหมด
แบบหมดจริงๆ"
ผลลัพธ์หลังจากใช้ในเรื่องของความกระจ่างใสถือว่าโอเคแต่ค่อนข้างใช้เวลาพอสมควรเลย เพราะจูนเริ่มรู้สึกว่าพวกรอยแดง รอยสิวดีขึ้นจากที่ใช้มาประมาณสัปดาห์ที่ 2 ถึงจะเริ่มรู้สึกแบบจริงๆจังๆ ส่วนเรื่องริ้วรอยสำหรับจูนยังไม่ค่อยเห็นผลค่ะ ในเรื่องของอาการแพ้ระคายเคืองต่างๆ ก็ไม่มีนะ ถือว่าอ่อนโยนในระดับนึงเลยค่ะ
สรุปแล้วทั้งสามตัวเชียร์ตัวไหนมากที่สุดจูนแนะนำว่าให้ลองเป็นตัวโทนเนอร์เขาก่อนก็ได้ค่ะ เพราะส่วนตัวชอบตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้เลย หน้าสะอาดขึ้น พวกรูขุมขนก็ดูเรียบเนียนขึ้นด้วย ยิ่งตอนเช็ดนี่นะฟีลมันได้มากกก เย็นๆผิวดีค่ะ คือหมดแล้วก็ยังจะซื้อต่อนะ55555 ส่วนอีกสองตัวก็มีความน่าสนใจที่แตกต่างกันออกไป แต่เอาจริงๆ คือในส่วนนี้มันก็ขึ้นอยู่กับความชอบและไลฟ์สไตล์ของแต่ละคนเลยค่ะ เพราะสภาพผิวของทุกคนก็มีความแตกต่างกันไอยู่แล้ว จูนอาจจะใช้ดีกับตัวนี้แต่บางคนอาจจะชอบอีกตัวก็ได้ เพราะฉะนั้นจูนแนะนำว่ายังไงก็ลองไป Tester ดูที่หน้าร้านเขากันก่อนก็ได้นะครัช รีวิวครั้งนี้ถือว่าจูนได้มาเบิกทางให้ทุกคนก่อนแล้ว สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมจากเว็บไซต์หรือเพจของแบรนด์เพิ่มเติมได้เลยจ้า สำหรับวันนี้จูนต้องขอตัวลาไปก่อนนะงับ บ๊ายบายและสวัสดีค่า♥