อัตราความเร็วการ Move On แบบฉบับคนดัง Hollywood

66 9

เลิกกัน 1 เดือน พบรักใหม่  เข้าเดือนที่สองก็ท้องเลย



มันอาจจะผ่านไปเพียงสองปี  แต่บทบาทคุณแม่นักธุรกิจพันล้านที่ยืนหนึ่งดึงดูดความสนใจจากชาวเน็ทอาจจะทำให้ลืมคิดไปว่า  Timeline ที่แสดงการ move on ของKylie Jenner นั้นปรู๊ดปร๊าดมากเพียงไร

Tygaถือเป็นคนรักที่มีความสัมพันธ์จริงจังครั้งแรกของKylie และคบหากันยืนยาวกว่าที่หลายคนได้คาดการณ์ไว้ มีข่าวคราวว่าทั้งคู่แอบคบกันเล็ดรอดออกมาก่อนที่เธอจะฉีด filler ซะด้วยซ้ำ หลังจากที่เปิดตัวคบหาอย่างเป็นทางการ (เมื่อKylie อายุครบ 18) พวกเค้าก็แสดงความรักร้อนแรงต่อชาวโลกจนชาวเน็ทบางคนเชื่อว่าพวกเค้าอาจจะจริงจังถึงขั้นแต่งงานก็เป็นได้


แต่ในปี 2017 หลังจากที่ฉลองวันแห่งความรักด้วยกันเพียงไม่กี่อาทิตย์ Blac Chyna ที่ตั้งตัวเป็นศัตรูของบ้าน Kar- Jenner อย่างออกหน้าออกตาก็แฉผ่าน social media ว่า Tyga นอกใจ Kylie เธอเอ่ยชื่อของผู้หญิงสองคนที่ทำให้ชาวเน็ทจิ้มกาข้อมูลจนมือลุกเป็นไฟ

ไม่กี่วันหลังจากนั้น ข่าวแยกทางก็ลือสะพัดออกมา และหนนี้ก็ไม่มีการส่ง rep มาปฏิเสธข่าว Kylie ไม่ได้ดูทุกข์โศกมากมายกับคราวรักที่ถึงทางตัน เธอใช้ชีวิตสนุกสนานกับพี่สาวและเพื่อนฝูง

เพียงหนึ่งเดือนหลังจากเลิกกับ Tyga เธอก็ได้พบ Travis Scott ในเทศกาลดนตรี Coachella และปิ๊งกันสุดๆ ขนาดที่ฝ่ายชายบอกว่า จะเอาไงต่อดี เพราะเขาก็มีทัวร์คอนเสิร์ตต่อ เธอจึงตัดสินใจแบบง่ายๆว่า งั้นขอติดตามไปกับทัวร์ด้วยแล้วกัน

"ชั้นก็แค่กระโดดขึ้นบัสไปด้วย เราเดินทางไปสุดขอบพระอาทิตย์ตกดิน ชั้นอยู่กับเขาตลอดระยะเวลาที่ทัวร์คอนเสิร์ต"

และนั่นไม่ใช่แค่การกระโดดขึ้นรถเพียงเท่านั้น







ปิ๊งกันเดือนเมษา  เดือนพฤษภาคม  Kylie ตั้งท้อง
ระยะเวลาที่มีความสัมพันธ์กับ Tyga   Kylie ต้องเจอกับข่าวลือเรื่องท้องบ่อยครั้ง  และเธอก็ยืนยันมาโดยตลอดว่ามันเป็นเพียงข่าวลวง      ใน reality show ของครอบครัว เธอก็ยังคุยเรื่องการคุมกำเนิดด้วยยาคุมอย่างเปิดเผย

แต่เลิกกับ Tyga ได้ประมาณ 2 เดือน  เธอก็เข้าสู่จุดเปลี่ยนที่สำคัญของชีวิต    ครอบครัวช่วยกันปกปิดข่าวอย่างเต็มที่   แต่ก็รับรู้กันในวงกว้างว่าเธอกลายเป็นแม่คน  จากการเก็บตัวไม่ไปไหน และไม่เปิดเผยสัดส่วนเย้ายวนใจเหมือนกับที่ผ่านมา  รวมไปถึงภาพจาก paparazzi ที่บ่งบอกถึงความเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย   จนในที่สุดเธอก็พร้อมที่ประกาศต่อชาวโลกว่ากำลังมีลูกจริงๆ  

"นี่คือสิ่งที่ชั้นปรารถนาด้วยใจจริง การเป็นแม่อายุน้อย คนอื่นจะรับเรื่องนี้ได้รึเปล่านั้น ชั้นก็โอเคกับเสียงตอบรับทุกอย่างค่ะ"


ชีวิตคู่แบบmodern ของ Kylie และ Travis ดำเนินไปท่ามกลางข่าวลือเรื่องพิธีวิวาห์และ lifestyle อันหรูหรา   พวกเค้าเลี้ยงดูลูกร่วมกันแต่ก็ไม่ได้ย้ายเข้ามาใช้ชีวิตร่วมกันอย่างเต็มตัว  แต่การแสดงความรักอันแนบแน่นนั้นคงไม่แพ้คู่รักเซเลบชื่อดังรายอื่น  ไม่ว่าจะเป็น surprise ด้วยของขวัญอลังการ     การควงคู่เดินพรมแดง  ทริปยุโรปแสนโรแมนติค   หรือจะเป็น documentary ของ Travis ที่ปรากฏภาพคนรักและลูกสาวตัวน้อย  สิ่งเหล่านี้อาจจะทำให้แฟนๆต้องตกใจเมื่อมีการประกาศแยกทางแบบสายฟ้าแลบ
ถึงจะแยกทางกันแล้ว  แต่ Kylie ยืนยันว่า  เธอมีมิตรภาพที่ดีต่อ Travis   พวกเค้ายังนัดเจอกันเพื่อทำหน้าที่พ่อแม่  ดังภาพล่าสุดที่พาลูกสาววัยขวบเศษไปเลือกฟักทองเตรียมพร้อมเทศกาล Halloween



ส่วนใครที่สงสัยว่า จะมีการ move on อย่างว่องไวหรือไม่ เราคงจะรู้พร้อมๆกับคุณค่ะ เปิดหน้าจออ่าน gossip ทุกวันเดี๋ยวก็เจอข่าวเด็ดเอง






ประกาศเลิกอย่างเป็นทางการได้2สัปดาห์ ก็เปิดตัวหนุ่มใหม่ตามมาด้วย world wide romance



timeline เบาๆ
เต้นกับพระเอกหนุ่ม high profile วันที่ 4 พฤษภาคม
มีภาพจุ๊บกับแฟนDJ วันที่ 20 พฤษภาคม
วันที่ 2 มิถุนายน แฟน DJ ก็กลายเป้นแฟนเก่าอย่างเป็นทางการ
วันที่ 16 มิถุนายน จุ๊บกับพระเอกคนเดิมอยู่แถวบ้านตัวเอง โดยผู้ซื้อลิขสิทธิ์ภาพมาเผยแพร่เป็นสื่อบันเทิงจากอังกฤษ


ด่วนจี๋ไปรษณีย์จ๋าเป็นอย่างนี้นี่เอง!
แน่นอนว่า  มันยากที่จะลืมลีลาการเต้นร้อนแรงของ Taylor Swift  และ Tom Hiddleston   ใน after party ของ MET gala ไปได้   ในขณะนั้น สถานะเธอก็ยังเป็นแฟนกับ Calvin Harris อยู่     ในช่วงกลางเดือนเธอก็ยังใช้เวลาอยู่กับคุณแฟน DJ  แต่นั่นก็เป็นภาพสุดท้ายที่มีคนเห็นทั้งสองอยู่เคียงข้างกัน    แต่ทิ้งห่างไปแค่สองสัปดาห์ก็ประกาศเลิกกันอย่างเป็นทางการ



และแล้วก็ ตู้ม! 1 หนึ่งเดือนต่อมา Tay เดินหน้าต่อกับพี่ Loki อย่างช็อคสายตาแฟนๆ เป็นการเดทที่ดูทั้งเร่าร้อนเปิดเผยและเต็มไปด้วย papstroll จวบจนปัจจุบันก็ยังมีคนมากมายเชื่อว่าเป็นการ move on ที่มีผลประโยชน์มาเกี่ยวข้อง


เพราะอะไรน่ะเหรอ ?

ช่วงที่ HiddleSwift กลายเป็นหัวข้อข่าวไปทุกสำนักสื่อบันเทิง มันทาบทับ timeline ของดราม่า KimYe อยู่นั่นเองค่ะ . ตอนเปิดตัวความรักครั้งใหม่ Kim ยังไม่นำวีดีโอ"หลักฐาน"หักล้างคำแถลงการณ์ของ Tay มาเปิดเผย แต่เธอให้สัมภาษณ์ว่ากล้าสาบานว่า ซุปตาร์สาวให้ไฟเขียนกับเนื้อเพลง Famous ของ Kanye จริงๆ และมีหลักฐานพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของสามี
บทสัมภาษณ์ของ Kim และ ภาพจูบหวานฉ่ำของ HiddleSwift ถูกเผยแพร่ออกมาในวันเดียวกัน จนผู้คนเริ่มสับสนว่าจะอินกับข่าวเรื่องไหนก่อน แต่เมื่อคู่รักคู่ใหม่เดินหน้าความสัมพันธ์ไปพร้อมกับไฟลท์ข้ามทวีปทั่วโลก กระแสโจมตีก็เริ่มก่อตัวขึ้น แตกต่างจากความสัมพันธ์ครั้งก่อนของซุปตาร์สาวที่ไม่มีความคลางแคลงใจถึงขนาดกล่าวหาว่าเป็นการจัดฉากเพื่อกลบข่าวฉาว

การแสดงออกหลายอย่างมันสวนกับความรู้สึกผู้ชม   ที่ผ่านมา Tay  มีความรักอย่างไม่ปิดบังก็จริง    แต่ก็ไม่ถึงกับควงคู่แฟนไปเที่ยวในยุโรปแล้วเปิดเผยอิริยาบถสุดสวีทต่อหน้า paparazzi     รวมไปถึงการบินไปพบครอบครัวฝ่ายชายที่อังกฤษในเดือนแรกที่คบหากัน  และมีตากล้องตามเก็บภาพความชื่นมื่น    ทำให้มีคนตั้งคำถามว่า หรือนี่จะเป็นวิธี PR  โดยที่วิน-วินกันทั้งสองฝ่าย  


ยังมีคนตั้งข้อสังเกตว่า Hiddleston เป็นพระเอกที่หวงความเป็นส่วนตัว ไม่เปิดเผยเรื่องชีวิตรัก แฟนๆคอยคาดเดาเรื่องความสัมพันธ์ของเขามาโดยตลอด ที่สำคัญคือ หลังจากที่เลิกกับ Taylor เขาก็กลับไปอยู่ mode เดิม ตอนนี้น่าจะดูใจกับนางเอกคนหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้แสดงความรักหวานเชื่อมต่อหน้าผู้คนและกล้อง paparazzi และรักษาภาพหนุ่มทรงเสน่ห์ที่มีมุมลึกลับไว้อย่างเหนียวแน่น แน่นอนว่าภาพลักษณ์นั้นห่างไกลจากเสื้อกล้าม I <3 T.S ที่ทำให้ internet ลุกฮือล้อเลียน


ไม่ต่างจากTaylor     ความสัมพันธ์ปัจจุบันของเธอนั้น low profile กว่ามากมายนัก       เธออาจจะจับมือแฟนหนุ่มไปดินเนอร์หรือไปเที่ยวทะเลด้วยกัน  แต่บรรยากาศแตกต่างจากความหวานหยาดเยิ้มแบบ HiddleSwift อย่างชัดเจน
เหล่าวเวบเม้ามอยจากต่างประเทศก็แสดงความมั่นใจว่า  คู่นี้น่าจะไปไวมาไว    และก็ตามที่คาดกันไว้   สามเดือนผ่านพ้นก็โบกมืออำลา   จบตำนาน  HiddleSwift       





ประกาศแยกทางสามีพร้อมกับมีภาพสวีทกิ๊กใหม่   และ1 เดือนหลังจากนั้นก็เปิดตัวแฟนหนุ่มอีกคน  

เมื่อสองเดือนก่อน พวกเราต่างฮือฮากับข่าวการแยกทางของ Miley  Cyrus และ Liam  Hemsworth  พร้อมๆกับภาพความสนิทแนบแน่นของเพื่อนสาวที่ไม่ได้ระบุสถานะ   เมื่อถูกชาวเน็ทวิพากษ์วิจารณ์ว่า move on เร็วไปไหม   เรียกร้องความสนใจจาก(ว่าที่)สามีเก่ารึเปล่า    จนตัว Miley ต้องโต้กลับว่า  เธอโตเป็นผู้ใหญ่มากพอที่จะเลือกใช้ชีวิตของตัวเอง  แม้จะเคยทำผิดพลาดมาหลายครั้งในตอนที่ยังอายุน้อยกว่านี้ แต่เธอก็ไม่เคยนอกใจ Liam    และเธอก็ได้เติบโตขึ้นมาจากพฤติกรรมที่ถูกมองว่าเหลวแหลกไปเป็นคนละคนแล้ว   การตัดสินใจเลิกรากันทำให้เธอมีความสุขทั้งร่างกายและจิตใจมากกว่าที่ผ่านมามากมายนัก
พวกเธอตัวติดกันอยู่ประมาณหนึ่งเดือนก็มีข่าวออกมาว่าแยกทางจากกันด้วยดี  โโยมีแหล่งข่าวกระซิบบอกสื่อดังว่า   Miley เป็นฝ่ายขอห่างออกมาเพราะความสัมพันธ์เริ่มจะจริงจังกว่าที่คิด     แต่หลังจากนั้นไม่ถึง 2 อาทิตย์ก็มีคนเห็นเธอจูบกับนักร้องหนุ่มชาวออสซี่ Cody Simpson  ที่คบหากันเป็นเพื่อนมามานานหลายปี  และคราวนี้ Miley ก็ตกเป็นเป้าโจมตีอีกครั้ง
Miley จึงต้องออกมาชี้ให้เห็นชาวเน็มได้เห็นถึงความสองมาตรฐานจากมุมมองของผู้คนที่มีต่อชีวิตการเดทของผู้หญิงและผู้ชาย     เธอระบายไว้ค่อนยาวทีเดียวค่ะ แต่เรายกท่อนนี้มาเล่าแล้วกัน

" น้อยนักที่พวกผู้ชาย (โดยเฉพาะคนที่ประสบความสำเร็จ) จะถูกตราหน้าว่าเป็นพวกมั่ว พวกเขา move on ผู้หญิงสาวสวยคนแล้วคนเล่าโดยที่ไม่ถูกติฉินนินทา แล้วพวกเขายังได้การยกย่องให้เป็น 'legends' 'heartthrobs,' 'G,' ' Ladies Man' และชื่อเรียกอื่นๆ ในขณะที่ผู้หฯิงถูกเหยียดให้เป็นนังร่านหรือโสเภณี สิ่งที่ชั้นแค่กำลังพยายามพยายามอยู่รอดในโลกของชายเป็นใหญ่เท่านั้น"



หลังจากที่คบกันเป็นแฟนมาได้สามอาทิตย์  Cody ก็สร้างความอยากรู้อยากเห็นหลังจากที่post ภาพด้วยคำบรรยายว่า "วันย้ายบ้าน"  ทำให้สื่อเกรียวกราวกันว่า เขาน่าจะย้ายเข้าอยู่กับ Miley แล้ว
แม้ความสัมพันธ์จะดูไปได้สวย  แต่ก็มีดราม่าตามมา หบังจาก Miley   ได้post video เพื่อบอกแฟนๆว่า  คนรักใหม่ของเธอนั้นแสนดีแค่ไหน  แต่กลับถูกกล่าวหาว่าใช้คำพูดเหยียดคนรักร่วมเพศ!

" ยังมีผู้ชายดีๆอยู่ในโลกนี้นะพวกเธอ อย่าเพิ่งถอดใจ คุณไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนมาเป็นเกย์ คุณแค่ต้องหาเค้าให้พบ " (ตามมาด้วยประโยคเล่นคำที่เรียกผู้ชายก้วยคำว่า d---- ที่มีความหมายอีกอย่างว่าผู้ชายห่วยๆ)

"ชั้นคิดว่าตัวเองเป็นเกย์เพราะผู้ชายทุกคนน่ะเลวร้ายมาก แต่มันไม่จริง คนดีๆที่มีไอ้จู๋ยังมีอยู่จริง ชั้นก็เพิ่งเคยเจอคนเดียวเท่านั้น และเขาอยู่ใน live ของชั้นนี่ไง"



ชาวเน็ทหลายคนแสดงความไม่พอใจที่Miley ซึ่งเป็นมีภาพลักษณ์นักเคลื่อนไหวเพื่อเพศทางเลือกได้แสดงความเห็นที่ขัดแย้งและตีตราให้กับชาวเกย์   จะเรียกว่าตราบาปก็คงไม่ผิดนัก   เพราะผู้หญิงที่มีรสนิยมรักร่วมเพศมักถูกเหมารวมว่าหาชายดีๆมาครองคู่ด้วยไม่ได้ จึงต้องไปรักกับผู้หญิงด้วยกันเอง   ทั้งๆที่มีคนได้แสดงจุดยืนแน่วแน่ว่า  เรื่องเพศของพวกเธอไม่ได้เกี่ยวกับประสบการณ์เรื่องผู้ชายเลยสักนิด  หลายคนค้นพบตัวเองตั้งแต่ยังเป็นเด็กๆ และไม่เคยโหยหาความรักจากเพศตรงข้าม     การป่าวประกาศว่า ไม่ต้องมาเป็นเกย์เพราะมีผู้ชายดีๆรออยู่จึงขัดแย้งต่อความรู้สึกของชาวเกย์จำนวนไม่น้อย
เสียงประท้วงสนั่น Twitter ทำให้ Miley ต้องออกมาชี้แจงว่าเธอแค่อยากจะจิกกัดเรื่องผู้ชายห่วยๆเท่านั้น   และเข้าใจดีว่า คนเราไม่สามารถเลือกเพศของตัวเองได้ตามสถานการณ์      ซึ่งจริงๆแล้ว  เราเป็นหนึ่งในคนที่มองว่า live เรื่อง  " You don't need to be gay"  ของ Miley นั้นมีเจตนาทิ่มแทงไปยัง Liam อย่างชัดเจน   เธอเพิ้งแยกทางกับสามีได้สองเดือน  เธอเจอผู้ชายที่ทำให้รู้สึกดีมากมาย  และคงจะอยากบอกให้โลกรู้ว่า  ที่ผ่านมาผู้ชายปฏิบัติกับเธอได้แย่แค่ไหน

แต่คำพูดคือนายของเรา   ภาพของนักเคลื่อนไหวชาว queer ของ Mileyก็อาจจะมัวหมองลงไปจากดราม่าครั้งนี้





รักๆเลิกๆกันมาตั้งแต่เป็นวัยทีน  แต่ครั้งล่าสุดที่กลับมาคืนดีก็จบไม่สวย    หลังจากเลิกกันไปแค่ 2 เดือน ฝ่ายชายขอแฟนใหม่แต่งงาน



หลายคนน่าจะจำความฮือฮาจากปีที่แล้วได้ดี หลังจากที่ Selena Gomez เลิกกับ The Weeknd ก็ทำให้สื่อบันเทิงทุกเจ้าต้องลุกเป็นไฟเมื่อมีภาพการหวนสู่ซุปตาร์หนุ่มหน้าสวยผู้เป็นอดีตรัก ภาพของคู่ไอดอลที่มีพลัง super shipping ก็หวนกลับคืนมา แต่ทว่า กลับมาหากันเพียงไม่กี่เดือน ความสัมพันธ์ก็กลับมาอยู่จุดเดิม พวกเค้าไปกันไม่ได้ มีการ confirm เรื่องแยกทางในเดือนพฤษภาคม แต่น่าจะเลิกกันไปก่อนหน้านั้นแล้ว


วันที่ 22 มิถุนายน เหล่าแฟนของ Jelena ก็ต้องช็อคเมื่อมีภาพยืนยันชัดเจนว่า JB ได้กลับไปเริ่มต้นใหม่กับ Hailey นางแบบสาวที่มีประวัติรักๆเลิกๆกับเขามาแล้วเช่นเดียวกัน (แน่นอนว่าไม่โชกโชนเหมือน Sel) และยิ่งไปกว่านั้น พวกเค้าคืนดีกันได้หนึ่งเดือนก็มีภาพใส่แหวนหมั้นเพชรระยิบระยับ JB ขอ Hailey แต่งงานในทริปที่ Bahamas และเธอก็ไม่ลังเลจะตอบ YES



เร็วกว่านี้ก็ jet แล้ว!


หลายคนคงได้ยินกิตติศัพท์ของBeliebers กันดี   เมื่อ JB  มีความสัมพันธ์กับผู้หญิงที่พวกเค้าไม่ approve  แล้วย่อมมีกนะแสโจมตีเธอตามมา     Hailey เป็นคนหนึ่งที่ตกเป็นเหยื่อ cyberbully   รวมไปถึงคำปรามาสว่านี่คือความรักที่ fake ขึ้นมาเพื่อเอาคืน Sel  บางคนก็เย้ยหยันว่าอาจจะเลิกกันไปก่อนกำหนดงานแต่งงานด้วยซ้ำ    แต่ดูเหมือนว่าพวกเค้ายังตกอยู่ในห้วงความรักแสนหวาน และเพิ่งเข้าพิธีวิวาห์ไปไม่นานมานี้ 
เมื่องานแต่งของ JB และ Hailey ผ่านพ้นไป     ชาวเน็ทต้องตาลุกอีกครั้งกับเพลงใหม่ของ Sel      Lose you to love me



เธอมีคนมาแทนที่ในเวลาแค่สองเดือน ราวกับว่ามันเป็นเรื่องง่ายดาย  จนทำให้ชั้นเชื่อว่ามันสาสมกับชั้นแล้วที่ต้องเจอแบบนี้ในช่วงที่กำลังรักษาแผลใจอยู่



แน่นอนว่า ต่างจับตามองไปยังปฏิริริยาตอบรับจาก Hailey และพอเธออัพเดทเพลงที่กำลังฟังอยู่เท่านั้นแหละ...


แฟนๆของ Sel ลุกฮือเลยทีเดียว!


เพราะชื่อเพลงคือ I'll Kill You
นอกจากชื่อเพลงที่มีคนมองว่าเป็นการข่มขู่แฟนเก่าสามีแล้ว เนื้อเพลงก็ยังแซะอีกฝ่ายเต็มๆ

You don't want no problems, I wish a bitch would
Tryna come between us, it won't end up good
You know I love you like no one else could
I'd go to hell and back for you


แต่ไม่นานจากนั้น Hailey ก็ออกมายืนกรานว่า นี่ไม่ใช่การโต้กลับอะไรทั้งนั้น แต่เป็นเรื่องมโนเหลวไหลไปกันเองต่างหาก


อย่างไรก็ตาม แฟนของ Sel ไม่ได้เชื่อแต่อย่างใด และพุ่งโจมตีว่าการขู่จะฆ่าคนอื่นนั้นดูแย่มาก หลายคนตำหนิเธอว่า ทั้งๆที่ได้เป็นภรรยาตามกฎหมายของผู้ชายไปแล้ว แทนที่จะวางตัวนิ่งๆสวยๆ แต่มาแซะกลับเหมือนกับเธอระแวงแฟนเก่า

เมื่อดราม่าหนักเข้า Sel จึงออกมาขอน้องให้แฟนๆ แสดงออกอย่างนุ่มนวลกับคนอื่น "ไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นเช่นไร" และเธอรับไม่ได้ที่จะเห็นใครจับเอาผู้หญิงมาฟาดฟันกันเอง


การแต่งเพลงถึงแฟนเก่าไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ในวงการดนตรี ศิลปินชื่อดังต่างแบ่งปันประสบการณ์ความรักผ่านบทเพลงทั้งนั้น แต่ในกรณีนี้ หลายคนก็ตั้งข้อกังขากับไอดอลสาวชื่อดังว่า การประกาศให้ทุกคนรู้ถึงความเจ็บปวดจากรักร้าวทั้งๆที่อีกฝ่ายเพิ่งแต่งงานมีความสุขชื่นมื่นนั้นเป็นเรื่องที่สมควรแล้วหรือไม่ ?

บ้างก็ว่านี่คือการโหนดราม่าให้เพลงมีกระแสโด่งดัง จะเป็นไรไปที่เธอใช้ประโยชน์จาประสบการณ์ที่ผ่านความสัมพันธ์แย่ๆมาทำผลงานสร้างรายได้ คนอื่นก็ทำกันถมไป




แล้วคุณล่ะ   มีความคิดเช่นไรกับการ move on ที่ว่องไวของเซเลบ ??





candy

candy

ติดตาม Mouth On The Web แล้วอย่าลืม Mouth On The Face นะคะ ^ ^

FULL PROFILE