เขียนกระทู้ยังไงให้ได้เป็น Jebanista
Pangculalla 84 24
สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ทุกคน ไม่ต้องงงกันนะคะว่าแป้งไม่ได้อยู่ใน Top50 แต่ทำไมมาทำ Content
“เขียนกระทู้ยังไงให้ได้เป็น Jebanista”
เพราะตอนที่แป้งเข้ามาเล่น Jeban ได้ 2 สัปดาห์แรก แป้งก็เคยได้ขึ้น Top50 ทั้งที่ตอนนั้นแป้งยังไม่ค่อยมีปฏิสัมพันธ์กับใคร ไม่เคยไปเม้นท์กระทู้ใคร มีแค่ตั้งกระทู้ แล้วก็ตอบเม้นท์คนที่มาเม้นท์ให้แป้งเท่านั้น แต่ก็ได้ขึ้น Top50 ติดกันประมาณ 3 เดือนจ้า.. แต่ตอนนี้ไม่ค่อยมีเวลาก็เลยต้องยอดตกไป แป้งก็เลยจะเอาเทคนิคในตอนนั้นมาแบ่งปันให้กับเพิ่อนๆ ทุกคนค่า...
สิ่งที่สำคัญที่สุดอันดับแรกของแป้งก็คือ...
การเลือก Content
อันนี้แป้งใช้บรรทัดฐานของตัวเองเลยนะคะ เพราะว่าสำหรับตัวแป้งแล้วการที่แป้งจะเลือกอ่านอะไรประเด็นแรกแป้งตัดสินใจจากเรื่องที่แป้งสนใจค่ะ เพราะฉะนั้นเราต้องคิดก่อนว่าเรื่องไหนที่คนอ่านสนใจ หรือถ้าการเดาใจคนอื่นยากไปเราเริ่มจากการหยิบเรื่องที่เราสนใจและศึกษามามากพอมาเล่าต่อคนอื่นก่อนก็ได้ค่ะ เพราะบางทีเรื่องที่เราสนใจก็อาจจะเป็นเรื่องที่คนอื่นอยากรู้ได้เหมือนกัน
อย่างกระทู้แรกที่แป้งเขียนแป้งเลือกเล่าเรื่องของตัวเอง เพราะแค่คิดว่าเข้ามาแรกๆ อยากจะแนะนำตัวเอง อยากจะให้คนเข้าใจในตัวแป้งก่อน แต่ว่าคดีพลิก กลับกลายเป็นว่าแป้งได้เอาความรู้ใหม่มาแบ่งปันเพื่อนๆ ซะงั้น ทั้งที่กระทู้นั้นไม่มีการตกแต่งอะไรเลย แต่ก็มีคนอ่าน มีคนสนใจ
อย่างกระทู้แรกที่แป้งเขียนแป้งเลือกเล่าเรื่องของตัวเอง เพราะแค่คิดว่าเข้ามาแรกๆ อยากจะแนะนำตัวเอง อยากจะให้คนเข้าใจในตัวแป้งก่อน แต่ว่าคดีพลิก กลับกลายเป็นว่าแป้งได้เอาความรู้ใหม่มาแบ่งปันเพื่อนๆ ซะงั้น ทั้งที่กระทู้นั้นไม่มีการตกแต่งอะไรเลย แต่ก็มีคนอ่าน มีคนสนใจ
แล้วก็ยังมีอีก 2 กระทู้ที่แป้งคิดว่าแค่อยากรีวิวไม่ได้คิดอะไร แต่ก็ดันไปเตะตาทีม Admin Jeban จนได้มีการแชร์ขึ้นเพจของ Jeban สำหรับคนที่เพิ่งเข้ามาเล่น Jeban 1-2 สัปดาห์แล้วถูกแชร์ขึ้นเพจ 2 กระทู้ไล่ๆ กันสำหรับแป้งมันเป็นอะไรที่กรี๊ดมากเลยน้า...
กระทู้แรกแป้งเดาว่า อาจจะเป็นเพราะบลัชออนสีที่แป้งเลือกมันเป็นสีที่ไปรอดกับสีผิวทุกเฉด แล้วช่วงนั้นก็เป็นช่วงที่คนกำลังชอบบลัชออนเนื้อน้ำกันด้วยก็เลยเข้าตา Admin
ส่วนอีกกระทู้แป้งเดาว่า มันเป็นที่ความแปลก อปลกตรงที่แค่นี้ก็รีวิว 555+ คือจริงๆ มันก็เป็นแค่น้ำมะพร้าวมีขายที่ 7-11 มครก็ซื้อชิมเองได้ แต่แป้งก็ยังเอามาเขียนรีวิว แต่มันก็ได้ความมีอะไรตรงที่น้ำมะพร้าวอันนี้มี 4 แบบ มันก็เลยเป็นเหมือนไกด์ให้คนที่ไม่เคยลองว่าควรจะเลือกตัวไหนดี
พอเราเลือกได้แล้วว่าเราอยากเขียน Content อะไร ก็ถึงเวลาของ
การตั้งชื่อกระทู้
อันนี้คือจุดแรกๆ ที่คนเห็นกระทู้เราจะจิ้มเข้ามาหรือว่าจะเลื่นผ่าน เพราะฉะนั้นชื่อกระทู้ควรตั้งให้สอดคล้องกับเนื้อหา Content แล้วก็ทำให้คนเห็นปุ๊บรู้ว่าเราจะสื่อถึงอะไร จะเล่าเรื่องอะไร เน้นสั้น กระชับ แต่ตรงประเด็นเข้าไว้ หรือถ้าเป็นกระทู้รีวิวสินค้า อาจจะเอาคุณสมบัติเด่น หรือคุณสมบัติที่แตกต่างมาดึงความสนใจก็ได้ค่ะ
อย่างเช่น ตอนที่แป้งอยากมาแชร์ประสบการณ์ทำ PRP มันเป็นการบำรุงผิวและรักษาสิว โดยใช้เกร็ดเลือดของเราเอง ซึ่งฟังแล้วค่อนข้างน่ากลัวและน่าตกใจ แป้งก็ตั้งชื่อกระทู้ว่า “ใช้เกล็ดเลือดรักษาสิว!!! PRP คืออะไร” เพราะแป้งต้องการใช้ความน่ากลัวมาดึงความสนใจ แต่ก็อยากให้มีคำว่า PRP เพื่อให้คนจำชื่อได้ด้วย
อย่างเช่น ตอนที่แป้งอยากมาแชร์ประสบการณ์ทำ PRP มันเป็นการบำรุงผิวและรักษาสิว โดยใช้เกร็ดเลือดของเราเอง ซึ่งฟังแล้วค่อนข้างน่ากลัวและน่าตกใจ แป้งก็ตั้งชื่อกระทู้ว่า “ใช้เกล็ดเลือดรักษาสิว!!! PRP คืออะไร” เพราะแป้งต้องการใช้ความน่ากลัวมาดึงความสนใจ แต่ก็อยากให้มีคำว่า PRP เพื่อให้คนจำชื่อได้ด้วย
นอกจากชื่อของกระทู้แล้วอีกสิ่งนึงที่สำคัญพอๆ กัน หรืออาจจะมากกว่าก็คือ
การทำภาพหน้าปก
เพราะภาพหน้าปกเป็นสิ่งที่คนส่วนใหญ่มักจะมองเห็นเป็นอันดับแรก ก่อนที่จะอ่านชื่อเรื่องด้วยซ้ำ เพราะฉะนั้นภาพหน้าปกของเราต้องสวยเด่นเป็นสง่าด้วยค่ะ แต่คำว่าสวยแป้งว่ามันกว้างมากนะคะ เพราะคนเราชอบไม่เหมือนกัน แป้งเรามองว่าถ้าเราทำให้ภาพหน้าปกของเราสื่อความหมายของชื่อเรื่องได้มันน่าจะทำให้คนอยากจิ้มเข้าไปดูมากกว่า เพราะแค่เห็นภาพก็รู้แล้วว่าอะไร
อย่างถ้าเป็นกระทู้รัวิวสินค้าก็ควรจะให้มีรู้สินค้าตัวนั้นเด่นๆ หน่อย อาจจะเป็นแค่ตัวสินค้าหรือจะเป็นเราถือสินค้าก็ได้ แต่ถ้าการใช้ภาพสื่อความหมายบางอย่างมันอยากไปก็อาจจะใช้เป็น Keyword ใหญ่ๆ มาช่วยก็ได้ค่ะ
อย่างถ้าเป็นกระทู้รัวิวสินค้าก็ควรจะให้มีรู้สินค้าตัวนั้นเด่นๆ หน่อย อาจจะเป็นแค่ตัวสินค้าหรือจะเป็นเราถือสินค้าก็ได้ แต่ถ้าการใช้ภาพสื่อความหมายบางอย่างมันอยากไปก็อาจจะใช้เป็น Keyword ใหญ่ๆ มาช่วยก็ได้ค่ะ
ต่อไปก็เป็นส่วนสาระสำคัญที่จะทำให้ผู้อ่านได้รับประโยชน์จากกระทู้ของเราแล้วนะคะ นั่นก็คือ...
เนื้อหาของกระทู้
ตรงเรานี้เราก็อิงตามที่เราเลือก Content ได้เลยค่ะ เราก็แค่อธิบายให้ตรงจุดตรงประเด็นกับสิ่งที่เราต้องการแชร์ ไม่ว่าจะแชร์ตามความรู้สึก หรือแชร์ตามความรู้ทีศึกษามา แต่ว่าเราก็จะต้องจัดเรียงลำดับความสำคัญในแต่ละส่วนของเนื้อหาด้วยนะคะ เช่น การเปิดเรื่อง ความเป็นมาของเรื่อง สาระของเรื่อง แล้วก็ผลของเรื่อง ไปจนถึงปิดเรื่อง อันนี้น่าจะไม่ต้องบอกเยอะเนอะ แค่เราต้องคิดว่าถ้าเราเป็นคนอ่าน เราต้องได้อ่านแบบไหนเราถึงจะเข้าใจ แล้วเราก็เขียนแบบนั้นแหละจ้า...
การตกแต่งเนื้อหา
ในส่วนนี้แป้งต้องบอกเลยว่าไม่ค่อยถนัด เพราะที่ผ่านมาก็แทบจะไม่เคยแต่เนื้อหาเลย น้อยมากๆ ที่แป้งจะแต่ง เพราะถ้าใครรู้จักแป้งจริงๆ จะรู้ว่าแป้งเป็นคนขี้เกียจอ่านและขี้เกียจเขียนมากๆ มันก็เลยพ่วงมาด้วยการขี้เกียจตกแต่งตามมา 555+
สำหรับแป้งการตกแต่งจะมีแค่ย่อหน้ากับการเว้นบรรทัดเท่านั้น เพราะมันเป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่จะทำให้คนอ่านได้พักสายตา และได้รู้ว่าจุดไหนคือจุดที่เราเริ่มจะเปลี่ยนประเด็น แต่การทำแบบแป้งมันก็จะทำให้คนอ่านเบื่อหน่อยๆ เพราะมันไม่มีสีสีนให้สะดุดตาเลย นานๆ ทีจะมีอะไรที่แป้งอยากเน้นมากจริงๆ แป้งถึงจะใช้สีช่วย เพราะความขี้เกียจล้วนๆ เลย
สำหรับแป้งการตกแต่งจะมีแค่ย่อหน้ากับการเว้นบรรทัดเท่านั้น เพราะมันเป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่จะทำให้คนอ่านได้พักสายตา และได้รู้ว่าจุดไหนคือจุดที่เราเริ่มจะเปลี่ยนประเด็น แต่การทำแบบแป้งมันก็จะทำให้คนอ่านเบื่อหน่อยๆ เพราะมันไม่มีสีสีนให้สะดุดตาเลย นานๆ ทีจะมีอะไรที่แป้งอยากเน้นมากจริงๆ แป้งถึงจะใช้สีช่วย เพราะความขี้เกียจล้วนๆ เลย
เพราะฉะนั้นถ้าใครขยันกว่าแป้งก็ใช้สีเน้นข้อความกันด้วยนะคะกระทู้จะได้ดูน่าอ่าน แล้วพวกหัวข้อต่างๆ ทำตัวอักษรให้ใหญ่ขึ้นกว่าส่วนอื่นด้วยก็จะยิ่งดี จะได้เป็นการเน้นความสำคัญค่ะ (บอกเลยว่ากระทู้นี้แป้งพยายามแต่งมากที่สุดแล้วนะคะ 555+)
ภาพประกอบเนื้อหา
ส่วนนี้ถามว่าแป้งมีความรู้มั้ย มี แต่ถามว่าทำออกมาสู้คนอื่นได้มั้ย ไม่ 555+ ต้องบอกก่อนนะคะว่าที่บ้านแป้งไม่มีมุมสวยๆ เลย รกทุกอนู แล้วแป้งก็เป็นคนที่มีความงกสูงก็จะไม่ค่อยลงทุนซื้อฉากซื้อพรอพสักเท่าไร ลงทุนซื้อแต่กลัองอย่างเดียว อิอิ
วิถีขอคนงกๆ แบบแป้งก็คือ ใช้พรอพตามมีตามเกิดค่ะ พื้นหลังใช้ผ้าปูเตียง ผ้าห่ม ผ้าเช็ดตัว หรือบางทีก็เอาเสื้อ เอากระโปรงนี่แหละมาปูเป็นพื้นหลัง แล้วพวกพรอพตกแต่งก็ใช้พวกกล่องผลิตภัณฑ์ หรือไม่ก็มือของเราเองนี่แหละ เอาแบบง่ายๆ แต่จะไปเน้นที่แสง กับเรื่องความสัมพันธ์กับเนื้อหามากกว่า
เรื่องแสงโดยส่วนตัวแป้งชอบแสงธรรมชาติมากๆ แต่ว่าถ้าธรรมชาติไม่เป็นใจก็คงต้องไปพึ่งพวกไฟวงแหวนเอาเนอะ เพราะแสงจะทำให้เราเห็นรายละเอียดในภาพชัดเจน แล้วก็ทำให้วัดถุในภาพเด่นค่ะ
ส่วนเรื่องความสัมพันธ์กับเนื้อหาก็เข้าใจได้ไม่ยากนะคะ ตรงๆ เลย เช่น เราพูดถึงสินค้าตัวไหนก็โชว์หน่าตาสินค้าตัวนั้นไป เราพูดถึงเนื้อผลิตภัณฑ์เราก็ต้องให้เขาเห็นเนื้อผลิตภัณฑ์
แล้วก็เรื่องของมุมภาพอันนี้ก็จะช่วยให้ภาพดูมีมิติขึ้นได้ต้องลองจัดกันดูบางอย่างก็ถ่ายตรงๆ ออกมาไม่สวยต้องเฉียงบ้างเอียงบ้าง แต่บางอย่างก็ถ่ายตรงๆ ดีที่สุด ที่บางอันถ่ายยังไงก็สวย อันนี้ต้องลองถ้าหลายๆ มุมอล้วมาเลือกกันเองอีกทีนะคะ เพราะตรงนี้มันขึ้นอยู่ที่ประสบการณ์ของแต่ละคนด้วยค่ะ
วิถีขอคนงกๆ แบบแป้งก็คือ ใช้พรอพตามมีตามเกิดค่ะ พื้นหลังใช้ผ้าปูเตียง ผ้าห่ม ผ้าเช็ดตัว หรือบางทีก็เอาเสื้อ เอากระโปรงนี่แหละมาปูเป็นพื้นหลัง แล้วพวกพรอพตกแต่งก็ใช้พวกกล่องผลิตภัณฑ์ หรือไม่ก็มือของเราเองนี่แหละ เอาแบบง่ายๆ แต่จะไปเน้นที่แสง กับเรื่องความสัมพันธ์กับเนื้อหามากกว่า
เรื่องแสงโดยส่วนตัวแป้งชอบแสงธรรมชาติมากๆ แต่ว่าถ้าธรรมชาติไม่เป็นใจก็คงต้องไปพึ่งพวกไฟวงแหวนเอาเนอะ เพราะแสงจะทำให้เราเห็นรายละเอียดในภาพชัดเจน แล้วก็ทำให้วัดถุในภาพเด่นค่ะ
ส่วนเรื่องความสัมพันธ์กับเนื้อหาก็เข้าใจได้ไม่ยากนะคะ ตรงๆ เลย เช่น เราพูดถึงสินค้าตัวไหนก็โชว์หน่าตาสินค้าตัวนั้นไป เราพูดถึงเนื้อผลิตภัณฑ์เราก็ต้องให้เขาเห็นเนื้อผลิตภัณฑ์
แล้วก็เรื่องของมุมภาพอันนี้ก็จะช่วยให้ภาพดูมีมิติขึ้นได้ต้องลองจัดกันดูบางอย่างก็ถ่ายตรงๆ ออกมาไม่สวยต้องเฉียงบ้างเอียงบ้าง แต่บางอย่างก็ถ่ายตรงๆ ดีที่สุด ที่บางอันถ่ายยังไงก็สวย อันนี้ต้องลองถ้าหลายๆ มุมอล้วมาเลือกกันเองอีกทีนะคะ เพราะตรงนี้มันขึ้นอยู่ที่ประสบการณ์ของแต่ละคนด้วยค่ะ
สรุปง่ายๆ ก็คือถ้าเราอยากให้กระทู้ออกมาดีเราก็ต้องตั้งใจและใส่ใจกับมันในทุกๆ ขั้นตอน เพราะเป็นไปไม่ได้ที่เราจะทำส่งๆ แล้วออกมาดีได้ ดังเช่นที่แป้งขี้เกียจแต่งเนื้อหา กระทู้ของแป้งมันก็จืด น่าเบื้อ แต่แป้งใส่ใจที่ข้อมูลมันก็เลยช่วยดึงความสนใจได้บ้าง ลองคิดดูสิคะว่าถ้าแป้งใส่ใจการตกแต่งเหมือนกับที่ใส่ใจเนื้อหามันจะดีกว่าขนาดไหน ถ้าใครอยากได้กระทู้เราดูดี มีคนอยากอ่านก็อย่าละเลยรายละเอียดยิบย่อยไปนะคะ เก็บให้ครบทุกเม็ด ต่อให้เราไม่เก่ง ความตั้งใจมันและใส่ใจมันก็จะดันให้มันออกมาดีเองค่ะ