[Pre-Haul] เห่อห่อถุง LUSH+ส่งข่าวดีให้ Lushies ด่วนสุดๆ

49 12

ฮายยยยย ซิสสสสส


คืนนี้มาแบบหงึกๆหงักๆมากๆ เพราะเรียกว่าเป็นสัปดาห์ที่คิสเดินรวมกันราวๆประมาณได้กับไปร่วมงานฟูลมาราธอนที่ Virgin London Marathon กันเลยทีเดียว เดินเยอะมากกก ทั้งๆที่เจ็บขามากๆ


ทั้งนัดซื้อของขวัญ มอบของขวัญ นัดเจอลูกค้า ดูหนัง นัดปีใหม่แม่ทูลหัว ฯลฯ


และนั่นคือรวมกับการดูแลบ้านทาวน์โฮม 3 ชั้นและแมว 1 ตัวเพียงลำพัง เรียกได้ว่าควรมีพื้นที่สื่อออกรายการให้วงเวียนชีวิตของคิสเลยละค่ะ


เอาว่าเป็นอาทิตย์ที่คิสเหียกมาก นี่ดีนะที่คิสไม่แข็งใจไปร่วมประท้วงด้วย (ซึ่งความจริงคือไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย รู้แต่ว่าการจราจรบริเวณ CBD ผิดปรกติ จนมาอ่านข่าวทีหลัง) 

เกริ่นมานี่ก็ไม่รู้ทำเพื่ออะไร แต่เอาว่าคิสเหนื่อยมาก แต่ต้องเอาแรงเฮือกสุดท้ายที่มีมาส่งข่าวก่อน เพราะวันจันทร์นี้คือ last chance แล้ว


คิสกำลังพูดถึงโอกาสที่ร้้าน LUSH ครบรอบ 3 ปีและจัด workshop พิเศษที่ไม่รู้ว่าส่งข่าวบอกใครบ้าง เพราะคิสไม่รู้เรื่องเลย มารู้คือวันเสาร์ไปซื้อ Lush กับคุณภู*


*Lush น่าจะเป็นเรื่องเดียวที่คิสกับคุณภูชอบเหมือนกัน คือเราสองคนบ้าสินค้าของ Lush มาก คุณภูอาการเข้าขั้นระดับเป็น lushie คิสอาจจะอาการน้อยกว่าหน่อย เพราะใช้แค่ไม่กี่อย่าง คิสมองว่าราคามันแพงไป แต่คุณภูเค้าไม่ค่อยรู้สึกอะไรเท่าไหร่ เพราะโตที่ออสเตรเลีย เค้าชินไปแล้ว...คิสยังไม่ชิน!!

คิสคงมาเห่อแบบ "officially เห่อ" กันอีกที (สรุปว่าคืนนี้มาโพสอะไร??)


คิสมาเห่อเรื่อง "Gift Wrapping" หรือการห่อของขวัญด้วยผ้าค่ะ ซึ่งมีหลากหลายรูปแบบที่พนักงานได้บอกคิสว่ามันคือ "Furoshiki" หรือศิลปะการห่อของ, พันของ, พับเป็นกระเป๋าหรือหิ้วของด้วยผ้าของคนญี่ปุ่น


อันนีืคือคิสไม่เคยรู้เลย ขนาดหม่ามี๊คิสทำงานดีไซน์ที่ญี่ปุ่น ใช้ผ้าห่อของเป็นประจำ ก็ห่อแบบธรรมดา แต่สังเกตได้ละว่าหม่ามี๊จะใช้ผ้าห่อของเสมอ แล้วก็หิ้วแบบ...เหมือนในหนังจอมยุทธ์ในหนังจีน คงพอนึกกันออก คือมัดสองที จบ


แต่ของจริงนี่คือคิสอเมซิ่งมาก แม่เจ้า ทำไมมันถึงอลังการขนาดนั้ คิสให้พนักงานห่อของทั้งหมดที่ซื้อไปให้ดู 3 รอบ ซึ่งก็แปลกที่รอบนี้คุณภูไม่ดุคิสเลย ปล่อยให้คิสได้ใช้เวลากับ Lush ตามอัธยาศัย คงเพราะ bias ร้านด้วย


ซึ่งสารภาพตามตรงว่า...จำไม่ได้ และสุดท้ายเลยขอพนง.ว่าคิสจะถ่ายวีดีโอนะ และเอามาโพสฝากสาวๆค่ะ เพื่อเป็นไอเดียการให้ของขวัญแบบ go green ด้วย

ซื้อเช้าวันเสาร์ แต่จนตอนนี้คิสยังไม่กล้าแกะห่อเลยค่ะ 555555 กลัวทำออกมาไม่เหมือนเดิม ดมๆเอา หอมมากกก หอมทะลุผ้าออกมา


ปล.น้องในรูปชื่อน้อง"ปัน" ถ้าคิสสะกดผิดคิสขอโทษนะ พยายามสะกดแล้วเพราะน้องไนซ์มากๆ ไปถามคุณภูคงช่วยอะไรไม่ได้เพราะภาษาไทยห่วยกว่าคิสอีก น้องแกะ ห่อ แกะ ห่อ แกะ ห่อ คือคิสบอกว่าขอให้ทำซ้ำให้หน่อย คิสจำไม่ได้ จนสุดท้ายคือจนปัญญา อัดคลิป น้องก็ยอมสิโรราบให้กับความถั่วงอกของคิสด้วยรอยยิ้มแบบในรูปเลย


และพนักงานร้านนี้คือ...ไม่ทราบว่าให้โบนัสเป็น weed หรือไร อารมณ์ดีมากๆ ทุกคนน่ารักกันหมดเลย อเมซิ่งมาก เข้าร้านนี้ทุกครั้ง เป็นแบบนี้ทุกครั้ง เจอน้อยมากๆในประเทศไทย

และด้วยความที่คิสกริ๊ดกราดกับการห่อของน้องมาก (ตัวเป็นๆคิสเป็นคนแสดงออกชัดเจน แบบโห้ยยยย อ๊ายยย อู๊ยยยย อะไรแบบนี้ดังมากนะคะ คือเป็นคนปล่อยพลังงานใส่คนอื่นค่ะ ไม่ค่อยเก็บเอาไว้ 55)


น้องเลยแถมให้ ในรูปของบนจะเป็นของที่คิสซื้อจาก Lush ซึ่งคงหาโอกาสมาเห่อกันวันหลัง ตอนนี้ให้แกะห่อยังไม่อยากกล้าแกะเลย น่ารักมากๆๆๆๆ


ส่วนอีกคลิป น้องแถมให้ สำหรับใครที่ต้องการห่อของขวัญแบบง่ายๆสำหรับของที่เป็นขวดชิ้นเล็กๆ อย่างพวกเซทบอดี้วอช+บอดี้โลชั่นที่ซื้อง่ายแจกง่ายใช้จ่าย และหายง่ายด้วย

เอาละ คิสควรจะย่อความจริงๆเพราะสาวๆอาจจะงงว่าทำไมต้องรีบมาโพสคลิปสอนห่อของขวัญด้วย ไม่น่าจะรีบอะไรอย่างงั้น


ประเด็นคือพอคิสซื้อของเสร็จ น้องพนักงานก็บอกว่าช่วงบ่ายถ้าคุณลูกค้าไม่ติดธุระอะไรกลับมาที่ร้านเราได้นะครับ เราจะมีการสาธิตวิธีการใช้ Bathbomb และเราจะมีสินค้ากลับไปให้คุณลูกค้าได้ลองใช้ด้วย เนื่องในโอกาสครบรอบร้าน 3 ปี จะมีช่วงบ่ายของวันนี้ วันพรุ่งนี้และวันจันทร์ ถ้ามีเวลาก็อย่าลืมกลับมาหาพวกเรานะครับ


คือน้องน่ารักมากกกกกกกกกกกก ให้ตายสิ คือ bathbomb นี่คิสและคุณภูซื้อมาใช้กันทั้งคู่ค่ะ เราต่างคนต่างเคยใช้กันทั้งสองคนก่อนมาเจอกันอีก เพราะมันเป็นสินค้า signature ของ Lush (แต่บางคนอาจจะไม่รู้ว่า bathbomb จะมี 2-3 แบบมั๊ง จำไม่ได้) คือเอาว่าคิสจำเวลาเป๊ะๆไม่ได้ จะมีเป็นรอบๆ ช่วงบ่ายของ 3 วัน


และวันสุดท้ายคือวันพรุ่งนี้ค่ะ วันเสาร์บ่ายคิสก็ไม่ได้กลับไปที่ร้านเพราะคิสไปไม่ทันจริงๆ และวันนี้คิสก็อยากไปมากๆๆๆ แต่คิสก็ไปไม่ได้อีก พรุ่งนี้ถ้าคิสไปคิสคงต้องเลือกระหว่างความอยู่รอดชีวิตทางการงานกับ bathbomb ซึ่งคิสว่าคิสควรรีบมาส่งข่าวสาวๆก่อนดีกว่า ควรมาตั้งแต่วันเสาร์แล้ว แต่คือไม่ไหวจริงๆ ไม่มีเวลาเลย อยากไปมากๆ อยากซื้อของที่เล็งไว้แต่ลังเลอีก 2 ชิ้นด้วย*


*คิสลังเลครีมทาข้อศอก(elbow cream) เพราะคิดว่าเรามาถึงจุดที่ต้องซื้อครีมทาของศอกแล้วหรอ แต่คิสทดลองทาในร้าน แล้วกลับบ้านมา บริเวณแขนคิส(ไม่ใช่ข้อศอกนะ คิสเอามาทาตรงบริเวณ eczema ทั้ง 2 ฝั่ง ทาแล้วกลับมามันดีขึ้น!! แม่จ้าว ขนาดครีม egyptian magic คิสใช้แล้วยังไม่หายเลย แต่อันนี้เนื้อเบามาก และไม่ใช่ครีม urea แบบมีสเตียรอยด์ที่หมอเคยให้คิสมาด้ว / อีกตัวคือ fresh made mask ที่คนคงคุ้นเคยกัน คิสมองมาหลายรอบแต่ไม่ซื้อ เพราะไม่รู้ว่าดีจริงมั๊ย เลยให้น้องใส่กระปุกจิ๋ว มาทดลองที่บ้านก่อน อันนี้จนตอนนี้ยังหาเวลาเทสไม่ได้เลย แต่ถ้าดีก็อยากกลับไปอุดหนุนค่ะ

น้องปัน(กลัวสะกดชื่อน้องผิดมากๆ แต่คิสไม่เก่งเรื่องวรรณยุกต์) มีวิ่งไปหยิบมินิการ์ดตัวนี้ให้คิสว่าถ้าจำเวลาไม่ได้ก็ให้โทรมาถาม


คือขอบคุณน้องๆในร้าน Lush ที่ทำให้คิสอารมณ์ดีมากๆ ครั้งนี้คิสขออนุญาตเก็บรูปร้านเพราะอยากจะทำโพส mini tour ด้วย น้องๆทุกคนไม่มีอิดออด ไม่มีใครที่ว่าอะไรคิสเลย มีการเอาของไปเก็บให้ใต้ตะกร้าให้เรียบร้อยใน backdoor คือประทับใจสุดๆเลยค่ะ


แล้วคิสถามอะไรก็ยิ้มกันหมด งงจริงๆ ปรกติคิสซื้อของชิ้นสองชิ้นไม่แปลกใจเท่าไหร่ค่ะ เพราะหยิบไปจ่ายเงิน จบ แต่คือครั้งนี้ใช้เวลาในร้านนานมากๆ เพราะคิสอยากจะทำเรื่องเกี่ยวกับสินค้าที่รักษาสิ่งแวดล้อม


(ไม่เกี่ยวกับ beauty นะ แต่คือทุกๆอย่าง อะไรที่ทำให้ environment ดีขึ้น คิสอยากจะทำหมดเลย คิสยินดีทำมากๆ เป็นความตั้งใจของคิสเอง คิสมาคิดได้ตอนอายุ 35 ว่าเฮ้ย นี่คิสเกิดมาครึ่งชีวิตแล้วไม่เคยทำประโยชน์ให้คนอื่นเลย)


ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่คิสไม่ได้เอาถุงกระดาษ LUSH กลับบ้าน ทั้งๆที่คิสชอบถุงกระดาษเค้ามากๆ ขนาดถุงยังน่ารัก แต่คือคิสจะเริ่มที่ตัวเองก่อนเลย กระดาษตัวไหนเลี่ยงได้เลี่ยง พยายามตรงไหนได้ก่อนก็ทำ ไม่กดดันตัวเอง แต่ค่อยๆปรับ

ตอนแรกจะซื้อถุงอันนี้กลับบ้านนะ เพราะเอาไปใช้งานอย่างอื่นได้ง่ายกว่า แต่ก็เลือกเอาเป็นแบบ Furoshiki มา เพราะถุงผ้าที่บ้านเยอะมากๆ ใครสนใจชอบความน่ารักและ unique ของความเป็น Lush ไปดูได้ค่ะ น่ารักดี คิสเองก็อาจจะกลับไปเอา 55


ก็หวังว่าการส่งข่าวนี่ที่อาจจะช้าไปหน่อย แต่คือคิสก็คิดว่าดีกว่าคืนนี้คิสนอนหลับไปเลยโดยที่ไม่ได้ทำโพสไว้ เผื่อใครอยากสัมผัสประสบการณ์ Bathbomb กับแบรนด์นี้ หรืออยากไปทำความรู้จักสินค้าที่คุณรู้ประวัติแล้วจะต้องอึ้งกับความ inception ของความ LUSH จนคิสเชื่อว่าต้องหลงรักแน่ๆ


(ใครใจร้อนไปอ่านในได้เวบ แต่คิสฟังจากพนักงานมาแล้ว 55)


ไว้คิสมีแรงและทำใจแกะถุงที่ยังคงดมๆอยู่ได้แล้วจะเอารีวิวมาฝากนะคะ คืนนี้ขอตัวก่อนค่ะ ขอให้ทุกคนนอนหลับฝันดี ใครมีโอกาสได้ไปก็มาบอกคิสด้วยเด้อ คิสยังเสียดายเลยค่ะ แล้วก็เพิ่งรู้ด้วยว่าร้านอยู่ไทยมา 3 ปีแล้ว time flies


^^

((กลับมาหมายเหตุนิดๆ คิสมีถามพนักงานว่า ถ้ามีใครอยากรู้ว่าวิธีห่อผ้าแบบนี้ ร้านจะสอนมั๊ย น้องบอกว่ายินดีมากๆ อันนี้ก็ลืมถามเน้นไปว่า ต้องเป็นผ้าของ lush ด้วยรึป่าว หรือยังไง แต่คิดว่าไม่จำเป็นนะคะ เพราะร้านนี้คือเค้าสนับสนุนเรื่องการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมอยู่แล้ว จากรูป cover คิสมีถ่ายรูปมาตามรูปคือผ้าจะมีราคาเริ่มต้น 350 บาทสำหรับไซส์ S และผ้าก็มีให้เลือกเยอะมากๆๆๆๆๆ ลายเหมือนร้านขายผ้าพันคอผสมกันไป ซึ่งพวกรายละเอียดผ้าคิสคงมาบอกสาวๆวันหลังว่าทำไมคิสเลือกเอาผ้าของ lush กลับมา และผ้าของ lush มีกี่แบบ และแบบไหนเหมาะกับใคร ไว้คิสมีเวลาและถ้าความจำคิสยังคงอยู่ จะมาเล่าค่ะ))


King of Eugenie

King of Eugenie

คิสรู้คุณรู้โลกรู้ ของดีโลกต้องรู้ :)

Line ID: kingofeugenie
FB: fb.me/911beaute

FULL PROFILE