[SOS] ภารกิจกู้หน้าขี้แพ้แหกระยับภายใน 3 วัน 7 วัน
King of Eugenie
40
14
ฮายยยยย ซิสสสสสสส
ก่อนหน้านี้คิสตั้งใจไว้ว่าคิสจะเอา "อากาศเปลี่ยนแปลง หัวใจก็เปลี่ยนไป" มาฝาก
คือมันมีภาวะที่อากาศเปลี่ยนกะทันหัน ผีเข้าผีออกอยู่ราวๆหนึ่งอาทิตย์ที่กรุงเทพฯ
และนั่นทำให้ผิวคิสลอกออกมาเป็นส่าหร่ายสไปรูลิน่า แต่งหน้าอย่าพูดถึง มันไม่ได้แพ้ แต่มันแต่งไม่ติด เหมือนต่อ Line ไม่ติดที่เมืองจีน บ้าที่สุด
เอาว่าอากาศมันวนกลับมาเหมือนเดิมแล้ว คิสก็เลยว่าจะข้ามๆหัวข้อนี้ไป เพราะยังไงบ้านเราก็ร้อน humid เนอะ 365 วันจะมีกี่วันที่หนาว เลยผ่านๆไป
แล้วก็ดูเหมือนพระเจ้าจะต้องการให้คิสมาตีแผ่สกินแคร์เฉพาะกิจบางตัวที่คิสไม่ได้ใช้ทุกวันหรอก แต่ใช้บางเวลาที่ผิวอ่อนแอมากๆ แต่รอบนี้จะต่างไปหน่อยๆตรงที่คิสแพ้!!
อาการแพ้รอบนี้คือเป็นแบบรู้ตัวไวมากๆ 1 วันคือรู้สึกทันที ผิวไม่แสบ แต่สากเป็นกระดาษทราย แต่ก็ยังไม่อยากจะ judge ตัวไหนตัวนึง เพราะดันเปิดใช้ของใหม่หลายตัวด้วย เลยลองสุ่มอีกรอบ และผลเหมือนเดิม ดีที่สุ่มถูกตัวด้วย คิดเอาไว้แล้วว่าอาจจะแพ้ตัวนี้ คิดไว้ตั้งแต่ก่อนซื้อแล้วว่าเสี่ยงมาก แต่ก็อยากลอง
คิสไม่ขอเอ่ยถึงนะว่าแพ้ตัวไหนมา สมัยคิส 15 ปีที่แล้วคงป่าวประกาศ ทุกวันนี้คือไม่มีประโยชน์จะบอกใครว่าแพ้ตัวไหน มันไม่แฟร์กับใครเลย เพราะจริงๆคนเราแพ้และไม่แพ้อะไรก็ได้
เอาละ อินโทรยาวตลอด วันนี้คิสจะมาตีแผ่ค่ะว่าคิสใช้อะไรแล้วอาการแพ้คิสหายได้ใน 3 วัน
(ที่จั่วหัวว่า 7 วันคือพิมพ์ให้มันล้อๆกันไป แต่ความจริง 3 วันก็หายแล้วค่ะ ตอนนี้แต่งหน้าได้แล้ว สวยและมั่นมากกก)
รอบนี้ถือว่าคิสใช้ของน้อยนะ ถ้าใครเห็นโพสเก่าๆจะรู้ว่าคิสจะสติแตกเวลาแพ้มาก ขนของเหมือนหนีตามผู้ชาย
อันนี้คือใช้เท่าที่จำเป็นจริงๆ ซึ่งน้อยของคิสคืออาจจะเยอะสำหรับคนอื่น อย่างน้อยเพื่อนคิสก็บอกว่า "นี่มันไม่น้อยเลยอะแก" 5555555
ซึ่งก่อนจะไปรีวิวสั้นๆนั้น คิสจะบอกว่าระหว่าง 3 วันที่ผ่านมา
- คิสเลิกใช้ Foreo ชั่วคราว รวมถึง gadget นวดหน้าอีกสองตัว(ไม่เคยพูดถึง เป็นแบบโบราณค่ะ หินกลิ้งๆ กับแบบที่นวดใส่ถ่าน กำลังแรงมาก คอสไว้นวดคางและขากรรไกร) ทั้งๆที่รัก Foreo และติดนางมากๆ ตอนนี้งดค่ะ ไม่ใช้ ห่างกันสักพัก รบกวนผิวให้หน่อยที่สุด ให้มัน recover ไวๆก่อน
- คิสเลี่ยงสารรุนแรงทุกชนิด ปรกติคิสจะติด Sunday Riley Luna(Retinol), Retin A, Vitamin C รวมถึง Clarins Double Serum ทั้งหมดคือคิสติดมากๆๆๆๆ แต่คิสเลี่ยงทั้งหมดในช่วง 3 วันที่ผ่านมา อดทนเอา ห้ามใจไม่ใช้ไม่ว่าอยากใช้มากแค่ไหน 4 ตัวนี้จริงๆสำคัญกับคิสมาก แต่เราตัดทิ้งก่อนค่ะ ห่างกันสักพัก เพลงมา!!
- คิสแต่งหน้าอ่อนมาก คิสไม่ได้กลัวว่าการแต่งหน้าผิวจะพังหนักกว่าเดิม แต่ผิวเราอ่อนแออยู่ ช่วงแพ้ ทากันแดด เขียนคิ้ว ทาปากสีแรงๆ พอช่วยได้ค่ะ
หลักๆคือ คิสอยากให้้การทำความสะอาดมันเบาที่สุด ถึงคิสก็ยังติดการใช้ออยล์ในการล้างหน้า แต่อย่างน้อยมันคือ treatment การนวด มากกว่าการทำความสะอาด
ผิวอัพเดทล่าสุดวันนี้ กล้องหน้า S10+ ไม่ใส่ฟิลเตอร์ปรับเพิ่ม แต่กล้องมันก็หลอกมาแต่แรกแล้วอะนะ มือถือรุ่นเดียวกันกับภาพทั้งหมดในโพสนี้ค่ะ วันนี้คิสลง cushion แต่ไม่ลงแป้งนะคะ มันก็จะเยิ้มแบบนี้ละ
ก็เป็น precaution เบื้องต้นสำหรับใครที่ผิวอยู่ในภาวะอ่อนแอ อยากหายแพ้ อยากดีขึ้นไวๆ คุณจำเป็นต้องเลี่ยงชั่วคราวค่ะ
1. Micellar: BIODERMA H2O
ปกติจะเห็นคิสใช้ขวดฝาปั้มๆ มันหมดไปแล้วค่ะ อันนี้ขวดใหม่ คิสยังไม่่ได้รีฟิลใส่ตัวปั๊ม ใช้เช็ดก่อนจะไปล้างหน้า
ตัวนี้ปกติก็ใช้อยู่แล้วนะ แต่ไม่ได้ใช้ทุกวัน แล้วแต่อารมณ์ เพราะ cleansing water/micellar คิสมีเยอะมาก เลยวนๆไป แต่ช่วงแพ้ ตัวนี้เท่านั้นค่ะ
ตัวนี้คิสใช้ครั้งแรกอายุ 22 ค่ะ จำได้ว่าช่วงเดียวกับการใช้ออยล์ Shu Uemura ก็ผ่านมา 13 ปีแล้ว ขาดไม่ได้
Gel and Foam Cleanser สองตัวนี่คิสไม่ได้เปลี่ยนค่ะ
Gel Cleanser(AM) : Fresh Soy
Foam Cleanser(PM): Origins ตัวนี้ที่จริงแรงนะคะ คิสแค่ใช้ให้มันหมดๆ และคิสใช้มันไม่แพ้ค่ะ แค่ไม่แนะนำคนที่ผิวแพ้ง่ายให้ใช้ ควรใช้ตัวอื่น คิสเองก็หาโฟมที่อ่อนโยนกว่านี้อยู่ ยังไม่รู้จะไปทางไหน
2. Cleansing Oil: THREE
เวลาที่ผิวเราแพ้ง่าย คุณก็ไม่ได้ควรจะใช้ออยล์ล้างหน้านะ
เพราะคุณไม่ควรจะแต่งหน้าด้วยซ้ำ และออยล์บนโลกนี้ก็ไม่ได้ดีไซน์มาให้ล้างออกง่าย ไม่ทิ้งอะไรเอาไว้เลย คุณต้องมี Secondary Cleanser ที่ดีมากพอ และออยล์เองก็ต้องถูกกับผิวคุณด้วย
แต่ตัวนี้คิสหยุดไม่ได้นะ คิสเปิดใช้ออยล์อยู่ 4 ขวด และช่วงแพ้คิสเลือกใช้ขวดนี้ เพราะเนื้อมันอ่อนโยนสุด และมันเบาบางสุด ออกง่ายสุด สักวันคงได้มารีวิวออยล์ล้างหน้าทุกตัวนะ แต่วันนี้ยังไม่ไหวค่ะ งานท่วมมาก
คิสใช้เพราะคิสติดการใช้ออยล์ล้างหน้า ใช้ทุกวัน ติดมาตั้งแต่ Fancl ขวดแรกตอนม.3 จนถึงปัจจุบัน นวดผิวทุกวันไม่เคยหยุดพักค่ะ ติด
ปล. THREE ที่จริงเค้าออกมารุ่นอื่นกันไปหมดแล้วมั๊ง แต่คิสใช้รุ่นนี้นะ ถ้าแนะนำคนอื่น จะแนะนำให้ลองรุ่นอื่นๆก่อนซื้อค่ะ เพราะตัวใหม่ มันต้องมี innovation อะไรแน่ๆ มันต้องพัฒนาให้ดีขึ้นค่ะ คิสเดานะ เลยอยากให้ได้ลองตัวอื่นนอกจากตัวนี้ไปด้วยเหมือนกัน
3. Cleaning Toner: Clinique 1.0
ตัวนี้ต้องระบุไว้ก่อนว่า 1.0 เท่านั้นนะ ตอนเด็กๆคิสใช้สูตร 2 และคือถ้าคุณแพ้ต้องใช้ 1.0 ค่ะ เป็นสูตรที่อ่อนโยนมาก คิสมี 2 ไซส์สำหรับ 2 บ้าน อันนี้ขวดไซส์เล็กอยู่บ้านนี้ ส่วนไซส์ใหญ่สุดคุ้มสุด ใช้มาเป็นสิบๆขวดแล้วค่ะ ไว้คงมารีวิวอีกที
อันนี้คือหยิบบ้างไม่หยิบบ้างในช่วงหลัง เพราะไปติด Pixi แต่คือช่วงนี้ต้องย้อนกลับมาใช้
คิสเคยใช้อีกยี่ห้อ รู้ว่าไม่ควรระบุ แต่คือมันไม่มี alcohol และเป็นตัวฮิตตัวดัง แบรนด์สัญชาติจากอเมริกา ขวดสีฟ้า และคิสแพ้หนักมาก ขนาดนั่นอ่อนโยนละนะ คือแหกค่ะ แต่คนอื่นคงไม่แพ้กันนะ
4. Toner (Lotion): Mario Badescu
ตัวนี้คิสจะใช้เฉพาะเวลาสลับใช้งานกับ Pixi เพราะตัวนั้นแรงมาก เวลาใช้ต้องหาตัวอื่นมาสลับ และ Mario คิสจะเปลี่ยนสูตรเรื่อยๆ โชคดีจริงๆที่สูตรที่มีตอนนี้คือ Cucumber เพราะคงเป็นสูตรที่อ่อนโยนที่สุดที่คิสมีในตอนนี้
สำหรับ Clinique และ Mario ใช้งานต่างกันยังไง คิสใช้ clinique เช็ดตอนกลางคืน ส่วน Mario มาใช้เช็ดตอนเช้าช่วงที่แพ้ เพราะมันอ่อนโยนสุดๆจริงๆ เปรียบเทียบเหมือนไปโดนรถชนมา แล้วนี่คือแผนกฉุกเฉินที่นางพยาบาลเสียงหวานมือเบามาก
หน้าตาขวดคือ brainless สุด ดีไซน์ห่วยมาก แต่เนื้อในดีมาก หมดขวดจะซื้อต่อค่ะ ไม่ทิ้งกันแน่นอน กลิ่นก็อ่อนโยน แต่สีเหมือนเอาฉี่ของชิโน่มาเช็ดหน้า ดีนะที่ชินกับฉี่ลูกชายแล้ว เลยรับได้สบายๆ
5. Lotion น้ำตบ: Curel (AM/PM)
อันนี้ของจริงคือหมดไปแล้วนะคะ คิสต้องไปล่าในตู้เย็น หาขวดจิ๋วๆมาใช้ไปก่อน
คือมันเป็นโลชั่นที่มีเซราไมด์ที่คิสต้องการหนักมากในภาวะแบบนี้ ขวดที่ใช้จิ๋วมากๆ เล็กมากๆ ดีนะที่ 3 วันหาย ไม่งั้นคงต้องไปซื้อใหม่เลยค่ะ
อันนี้ใครผิวแพ้ง่าย ไม่แข็งแรงก็แนะนำให้ไปหาซื้อใช้กัน เนื้อเบามาก คิสรักมาก แต่ที่ไม่ได้ซื้อต่อเพราะติดคิวตัวอื่นอยู่ค่ะ ไม่ใช่ว่ามันไม่ดี แพ้ปุ๊บก็ต้องไปคว้านหามาใช้
ตบๆค่ะ ให้ผิวมันเตรียมรับการดูแล 20 ระดับของเรา
6. Serum/ Essence: Estee (PM)*
ตัวนี้ที่จริงควรเลี่ยงนะ เพราะค่อนข้างจัดในหมวดกลุ่มที่คิสเตือนไว้ข้างบน คือมันต้องแรงแน่ๆละ เพราะผิวคิสใช้แล้วดีขึ้นไวมากๆ แต่ก็ตัดสินใจว่าในกลุ่มที่เป็น daily skincare คิสขอเก็บ Estee ANR concentrate ไว้ใช้อยู่
และคิสว่าคิสก็คิดไม่ผิดนะ ใช้ในปริมาณที่น้อยมากด้วยมั๊ง ไม่ได้ทาเยอะค่ะ ทาบางๆ คิสอ่านเกียวกับตัวนี้และใช้มาตอนเด็กๆแล้ว ถ้าผิวคิสในเวลานั้นใช้ได้ ตอนหน้าแหกก็ใช้ได้ค่ะ ยีสต์ของเอสเต้น่าจะมีกำลังภายในอะไรบางอย่างที่ทำให้ผิวเรามันดีขึ้น
ก็คงไว้ทำ in depth review ให้อีกทีนึง ซึ่งควรทำให้ Jeban x Estee นานมากแล้ว แต่คิสติดเรื่องงานช่วงเดือนที่แล้วเลยเงียบหายไป
*คิสไม่แนะนำตัวนี้กับผิวแพ้ง่ายทุกๆคน แล้วแต่คนจริงๆ คิสดันใช้ได้และใช้ดีด้วย แต่มันดีแบบรวดเร็วมาก น่าจะมีสารอะไรที่ค่อนข้างแรง ก็ระวังกันด้วยสำหรับใครที่แพ้ง่ายมากๆ
7. Serum/Pre-Serum: Dr.Zen (AM)
ตัวนี้เป็นตัวที่คิสระวังในการโพสค่ะ เพราะไม่ใช่แบรนด์ในท้องตลาด เป็นแบรนด์ในร้านคลินิคเวชกรรมที่คิสไปรักษาผิว คิสไม่ได้ไปรักษาสิวหรืออาการแพ้ที่นี้นะ ส่วนใหญ่ไปคือไปนวดหน้าเฉยๆ
รีวิว in depth ขอคิดดูก่อน เพราะมันไม่สบายใจตัวคิสเองเลย เป็นของคลีนิค และก็หาซื้อลำบาก ไม่ได้ขายทั่วไป ไม่ได้เป็นตัวที่ใช้ในช่วงแพ้แล้วจะช่วยอะไรได้
แต่เป็นเหมือน Estee ละคือเป็นสกินแคร์ที่คิสใช้เวลาปกติธรรมดา แต่ตัวนี้คิสกล้าใช้ส่วนตัวเลยเพราะรู้จักกับหมอ มันบำรุงได้ดีมากและไม่มัน ไม่แพ้ โดสบำรุงสูง จบแล้ว ไม่ได้ต้องการมากกว่านี้ ขวดแลดูเต็มๆ เพราะขวดนี้นี่คิสใช้ได้ 2 ครั้งเอง เพราะใช้แค่ตอนเช้า พวกนี้จะใช้จนหมดขวดค่ะ เพราะไม่ชอบทิ้งไว้ถ้าเป็นครีมหรือเซรั่มของหมอ
8. Moisturizer: Pixi (Rose Ceramide)
คิสขอระบุไว้ก่อนเลยว่าคิสใช้ Ceramide ตลอด แบรนด์ไหนที่ออกมาก็ใช้หมด ไม่เกี่ยงค่ายหรือยี่ห้อ ก่อนหน้านี้คิสเพิ่งกรีดหลอดของ Dr.Jart+ ไปเอง และมีซื้อมาใหม่ด้วย แต่คิสให้เพื่อนสนิทเป็นของขวัญปีใหม่ไปแล้ว
Pixi ตัวนี้ซื้อด้วยความอยากรู้อยากลอง ทั้งๆที่กลัวนิดๆ แต่คิสเจอตอนงานเปิดตัวสินค้าเมื่อปลายปี 2018 ลองเนื้อแล้วชอบมาก รอมันเข้าไทย ตอนนี้ไม่แน่ใจว่าหน้าร้านวางขายรึป่าว เพราะไปมาคือไม่เจอเลย คิสอยากเทสเนื้อก่อนซื้อ แต่หาไม่เจอจริงๆ เจอแต่ใน online เลยสั่งมา
โชคดีของคิสค่ะ ใช้แล้วไม่มีปัญหาอะไร แต่เพราะเพิ่งเปิดใช้งานคิสยังรีวิวอะไรไม่ได้ รู้แต่คิสรัก Ceramide มาก ตัวนี้คิสทาบางๆ สบายผิวมาก โบกได้ทั้งเช้าเย็น
9. Night oil: Biossance (Squalane oil)
ตัวนี้คิสยังไม่ควรโพสอะไรทั้งสิ้น แต่คิสเปิดกล่องมาใช้ตอนแพ้ ทั้งๆที่ยังไม่ได้ Haul ให้สาวๆดูเลยด้วย
เป็น 1 ในข้าวของราวๆ 30 ชิ้นที่คิสซื้อจากร้าน Sephora แต่ยังไม่ได้เอามาเห่อให้สาวๆดู ยังไม่ได้อยากจะแกะใข้ แต่ Peter Thomas Roth คิสเปิดใช้มานานเกินไป เกินปีนึงไปแล้ว คิสย้ายไปทาคอแล้วค่ะ
ตัวนี้คิสนิยามว่ามันไม่ใช่ออยล์หรอก แต่คือมันรักษาความชุ่มชื้นผิวให้เราได้ตลอดทั้งคืน ซึ่งมันดีมากๆ และคิสยังหยุดใช้ออยล์บำรุงผิวไม่ได้ ติดค่ะ และดีใจมากที่เราเจอกัน วันนึงคงได้มารีวิวดีๆให้เต็มๆนะ ราคาน่ารักด้วย ไซส์ก็ดี คือแบบ...ต้องการแบบนี้ละ ขวดจิ๋วๆก็พอแล้ว
10. Sunscreen: La Vita
เริ่มเหนื่อยกับการรีวิว งงใจ ใช้อะไรหนักหนาเนี้ย คือนี่น้อยแล้วละ เพราะเวลาผิวคิสแข็งแรงดีก็ใช้จัดเต็ม แพ้เลยพยายามงดทุกอย่าง
กันแดดคิสมีหลายตัวค่ะ เกิน 10 ตัว และขวดนี้อันตรายมากๆ เพราะน่าจะเปิดใช้มาเกิน 1.5 ปีแล้ว ตามขวดก็บอกว่าใช้งานได้ 1 ปี แต่คิสก็ยังเอาขวดนี้อยู่ดี
เหตุผลคล้ายๆ Dr.Zen แต่ต่างกันที่ La Vita เป็นแบรนด์ที่พัฒนาสูตรโดยแพทย์ผิวหนังที่มีวางขายทั่วๆไป แต่หาซื้อยากจริงๆ ช่วงที่คิสแพ้ ไม่ไว้ใจตัวไหนนอกจากตัวนี้ ขนาดมันคงหมดอายุไปแล้วละ แต่คือก็คิดว่าเอาเหอะ ใช้ตัวอื่นคิสก็ไม่รู้ว่าเอาไงดี ผิวคิสสากมาก คิสขอครีมกันแดดที่พอมั่นใจว่ามันจะไม่ทำให้หนักไปกว่าเดิม และมันเป็นเบสด้วย คือคิสยังแต่งหน้าไม่ได้ ใช้ตัวนี้คือมันจบในตัวเดียว พรางๆได้ราว 10% คือ coverage มันน้อย แต่พอดูดีขึ้นบ้าง ไม่ต้องไปใช้รองพื้น จะยิ่งดูแย่กว่าเดิม
เหตุผลก็อยู่ข้างล่างเสริมไว้ให้ค่ะว่าทำไมเอาของที่น่าจะหมดอายุแล้วมาใช้ คิสอาจจะต้องรีบไปซื้อสำรองไว้ เผื่อแพ้อะไรอีก
CC Cream: Erborian
ถ้าไม่ติดว่าคิสหาซื้อ Erborian ไม่ได้ (ไม่วางขายในประเทศไทยแล้ว) และคือไซส์ทดลองที่คิสได้มามันหมด คิสก็จะใช้ Erborian ค่ะ มันดีกับผิวที่มีปัญหาแพ้ง่ายและคือปลอดภัยต่อผิว ปกปิดในระดับเล็กน้อย แต่พอใจสุดๆกับฟินิชที่ได้ คิสอาจจะสั่งจากตปท.มาค่ะ ทั้งๆที่ไม่ชอบสั่ง ก็ยอมละ เพราะมันดีจริงๆ ใครอยู่ตปท.หาซื้อได้ก็อยากแนะนำนะ ซื้อเหอะ มันดีจริงๆ
11. Detox Mask: Caudalie
คิสเคยรีวิวตัวของ This works แล้ว แต่มันหมดไปแล้วไง คิสก็เอาตัวนี้มาใช้ไปก่อน ตัวนี้ก็คือดี detox ดี แต่ไม่เหมาะกับตอนแพ้มากนัก เพราะล้างยากมาก
เทียบกันคิสชอบ This works มากกว่า ติดที่แพคเกจเป็นหัวแปรง ดีก็ไม่ซื้อค่ะ ทำใจไม่ได้เลยจริงๆ ส่วน Caudalie คิสเบริน์พอยท์ไป 1500 พอยท์ ได้มา 3 หลอด เหลือๆค่ะ ใช้ได้สบายๆวนไป ผิวแย่ก็ปาดไป
คิสใช้ช่วงแพ้ได้วันเดียวนะคะ และย้ายค่ายมาใช้ตัวอื่น ซึ่ง caudalie ก็ไม่ได้เหมาะเท่าไหร่นัก ไว้คงได้อธิบายในโพสอื่นๆว่าทำไม
อย่างที่บอกไว้ข้างบน คิสใช้ Caudalie ไปรอบเดียว ดีนะ แต่ล้างลำบากมากๆเลยกลัวอุดตันช่วงที่ผิวอ่อนแอ
นึกได้ว่าซื้อ Lush มารอบนี้คิสมีขอลอง Fresh Face Mask มาด้วย 2 สูตร ซึ่งคิสลืมทิ้งมันไว้ในถุงผ้าที่สุดแสนจะภูมิใจในความน่ารัก และไม่อยากจะแกะออกตอนนี้เพราะมันดูน่ารักดี(บ้าไปแล้ว คนอะไรหนอ)
คือมันต้องแช่เย็นค่ะ จะบ้าตาย คือตัวนี้อายุมันสั้นมาก แค่เดือนเดียวคือใช้งานไม่ได้แล้ว เสี่ยงมากๆที่เอามาใช้แบบนี้
คิสเลือกขอให้เค้าตักมาทดลอง 2 สูตร และเลือกเอาสีฟ้าที่พนักงานบอกว่าตัวนี้ขายดีสุดค่ะพี่ detox ผิวได้ เอาเลย ทาเลย ปาดมันลงไป ถึงจะไม่ได้แช่เย็นไว้ แต่มันแค่ไม่กี่วันคงยังไม่เสียนะ
ปาดลงหน้าไป....ฉิ๊ก...หายละ มันมีสครับใหญ่มากๆ นึกถึง Arcona Black Magic ใหญ่เท่าบ้าน ใครนึกไม่ออก คือประมาณ st.ive แต่บาดผิวน้อยกว่า ตัวนี้น่าจะเป็น detox mask เหมือนกันกับ Caudalie
ตอนปาดคิสว่าตายแน่นอน น่าจะหยิบอีกกระปุก ดันมาหยิบอันนี้ แต่ก็ปาดไปแล้ว ปาดเยอะด้วย ปาดระดับโคลนนิ่งเป็น avatar เลยทีเดียว
แต่!! ปาฎิหารย์มากๆ คือตอนล้างออก คิสเอาน้ำกวักๆมาประคบผิว ไม่เอามือไปสครับเลย เพราะกลัวมากๆ ประคบไปเรื่อยๆจนกว่าเนื้อมาส์กละลาย ค่อยๆล้างออก
แล้วผิวคือเหมือนเจอถังออกซิเยนอะ ผิวดีขึ้นไวมากๆ คิสว่ามันดีขึ้นเพราะหลายๆตัวที่โพสมานี่รวมกันนะ แต่ตัวนี้คือแบบเทพจริงๆ ไว้คิสมีเวลาช่วงปีใหม่อาจจะทำรีวิว
กระปุกที่ขอให้ตักมาทดลอง คิสใช้งานได้ 2 ครั้ง เหลือติดก้นกระปุกเล็กน้อย คนอื่นคงเทสได้ 3 รอบ แต่คิสได้แค่นี้ และคิส...หายแล้วค่ะ 555555555555
เอาว่าไปร้าน Lush รอบหน้าไม่ต้องสืบนะ คิสซื้อแน่นอน ดีมาก แต่สครับใหญ่เกิน ใช้ต้องระวัง คนอื่นคงใช้ได้ แต่คิสผิว irritate และแดงง่ายมากๆ
12. Sleeping Mask: Etude Soon Jung
ไม่อยากเชื่อตัวเองเลยว่าจะเอาของ Etude แบรนด์เด็กน้อยที่ดู positioning ของ brand เหมาะกับเด็กที่เพิ่งเรียนจบ เอามาใช้ในเวลาที่แพ้แบบนี้ แถมอ่านส่วนผสมมีทั้งแอลกอฮอล์ มีครอสโพลิเมอร์ แต่...มันไม่มีซิลิโคน อย่างน้อยก็จากที่อ่านมานะ
คือพออ่านว่าไม่มีซิลิโคน คิสกลับมาถึงบ้านปุ๊บ ล้างหน้าก่อน ล้างเสร็จเปิดหลอดโบกตัวนี้หนาๆๆๆๆๆ หนาที่สุดเท่าที่ใจจะรับไหว แล้วก็ใช้ชีวิตตามปรกติ พอจะอาบน้ำล้างหน้าก็ทำตามปรกติ
ตัวนี้เวลาใช้งานจริงคิสแช่เย็นเอาไว้ เพื่อให้ผิวมันแบบ soothing แทนการใช้ aftersun แนวอโลเวร่าเจล ซึ่งก็คิดถูกอยู่ รู้สึกดีกับผิวนะ ถูกด้วยอะ หลอดใหญ่มาก ดีใจที่เปิดใช้งานตอนแพ้ และคิสก็ยังไม่ทันจะเห่อเลย!! เป็นอีกชิ้นที่ถูกเปิดใช้งานโดยที่ยังไม่ได้ทำ Haul ค่ะ ซื้อที่ Konvy แต่ที่หน้าร้านสาขาก็มี ราคาพอๆกัน แล้วแต่สะดวกกันเลย
ก็หมดไปแล้วคะสำหรับของที่คิสใช้ในช่วงเวลาที่แพ้
นี่คือน้อยมากๆของคิสแล้วจริงๆ และผิวหายเร็วมาก ดีใจสุดๆ คิสไม่ได้ใช้ sheet mask อะไรเลย ใช้ตามที่ว่ามาทั้งหมด เพราะคิสพยายามเลี่ยงสารอะไรที่คิสไม่รู้จัก ไม่ชัวร์ ไม่มั่นใจ
แม้แต่ออยล์ คิสต้องใช้แบบที่เป็น single ออยล์เดี่ยวๆไม่ผสมอะไร ไม่งั้นจะหยิบ clarins เท่านั้น ตอนนี้คือผ่านแล้วค่ะ ผิวหายแล้วเรียบร้อย
แต่งหน้าได้ตามปกติ รู้สึก 95% recover ส่วน foreo อาจจะกลับไปใช้พรุ่งนี้ ตอนนี้พยายามก่อน ช่วงเฝ้าระวังอาการค่ะ 55
หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับสาวๆทุกคน ใครที่แพ้ หรือผิวแพ้ง่าย อย่าคิดมากนะ สักวันเราต้องดีขึ้นค่ะ ค่อยๆเป็นค่อยๆไป คิสโชคดีที่อาการนี้เป็นที่การแพ้สกินแคร์ มันรักษาไวถ้าเรารู้ตัวไว
พยายามเก็บกล่องสินค้าเอาไว้นะ คืออย่างน้อยเราก็ได้ลีสเก็บไว้ว่าตัวไหนที่มันอาจจะทำเราแพ้ได้ ต่อไปเราก็เลี่ยงได้ สังเกตอาการไปเรื่อยๆค่ะ
วันนี้คิสต้องไปสู้งานหนักมาก ขอกำลังใจสาวๆในวันคริสตมาสแบบนี้ด้วยนะคะ รูปภาพอาจจะไม่สวย คิสถ่ายแบบแปะทิ้งไว้ก่อน เพราะไม่มีเวลาจริงๆ แต่คิสจะพยายามให้มากขึ้น ฝึกหัดภายรูป แต่งรูปคงยังไม่ใช่เวลานี้ คิสงานหนักมาก ทำได้ขนาดนี้คือสุดพลังแล้ว ก็จะทำให้ดีที่สุดค่ะ
(Yugen ไม่เกี่ยวอะไรกับ tie-in การรีวิวนี้นะคะ คิสชอบกล่อง Yugen และชอบแบรนด์นี้เฉยๆ ตอนถ่ายรูปคิดไรไม่ออกเลยเอามากางเป็นฉากถ่ายไปก่อน บ้านคิสไม่มีพรอพสวยๆเหมือนคนอื่นเค้าค่ะ งานคิสดิบ แต่คิสรีวิวตรงไปตรงมาที่สุด ไม่มีหมกเม็ด)
Merry Christmas นะคะ ทุกคน ขอให้เป็นวันที่มีความสุขของทั่วโลกเลยค่ะ
^^