Innisfree Jeju Pomegranate Revitalizing serum | ดีจริง หรือ จกตา ??
พังแป้น 47 11 WITH <strong>innisfree</strong> / ร่วมงานรีวิวกับแบรนด์ :)ก่อนหน้านี้ น้ำไปเที่ยว ญี่ปุ่น และ สิงคโปร์มา
ทำให้ผิวกร้านแดด มากๆ
เพราะว่าที่ญี่ปุ่นอากาศหนาว เราก็ไปยืนตากแดดอย่างสบายเพราะมันอุ่น
และ สิงคโปร์ ก็แดดแรงตามปกติ
จากเดิมที่มีกระฝ้าอยู่แล้วก็เข้มขึ้น
แต่จากกระทู้ที่แล้ว ใช้ Claire Triple C skin booster treatment pad ไป
ก็ทำให้กระฝ้าจางลงบ้างแล้ว
แต่ผิวยังไม่ค่อยแข็งแรง ยังแห้งๆอยู่บ้าง
ทำให้ผิวกร้านแดด มากๆ
เพราะว่าที่ญี่ปุ่นอากาศหนาว เราก็ไปยืนตากแดดอย่างสบายเพราะมันอุ่น
และ สิงคโปร์ ก็แดดแรงตามปกติ
จากเดิมที่มีกระฝ้าอยู่แล้วก็เข้มขึ้น
แต่จากกระทู้ที่แล้ว ใช้ Claire Triple C skin booster treatment pad ไป
ก็ทำให้กระฝ้าจางลงบ้างแล้ว
แต่ผิวยังไม่ค่อยแข็งแรง ยังแห้งๆอยู่บ้าง
และแล้ว ก็มี เจ้า Innisfree Jeju Pomegranate Revitalizing serum
เข้ามาให้ทดลองใช้พอดี (จากที่เราหามา ราคา 1040 บาท)
โดยทางแบรนด์เค้าเคลมว่า ตัวนี้จะเน้นเรื่อง ผิวแข็งแรง อ่อนเยาว์ และ กระจ่างใส
จากชื่อเราก็จะเห็นแล้วว่ามีส่วนผสมหลักเป็น ทับทิม
ทับทิม นอกจากกินอร่อยแล้ว ก็เป็นส่วนผสมที่มักจะเห็นอยู่ใน skincareที่เน้นลดริ้วรอย ให้ผิวโกลว์ อยู่แล้ว
(ส่วนตัวชอบใช้ Mask sheet ที่มีส่วนผสมทับทิม)
เอาหล่ะ เรามาดูหน้าตาของนางเอกของเราก่อน
นางมาในขวดแก้วสีแดง สวยอ่ะ หรูหรามาก
เป็นหัวหยด Dropper
กลิ่นหอมอ่อนๆ ดูแพง
เนื้อเซรั่ม เหลวๆ แต่มีความเป็นน้ำมันนิดๆ (เพราะมีน้ำมันสกัดจากเมล็ดทับทิมด้วย)
พอลงทาลงที่หลังมือแล้ว จะมีความลื่นๆ มันๆ นิดนึง แล้วก็ซึมเข้าไปผิวไปเลย
ส่วนตัวเราเองเป็นคนผิวแห้ง ชอบทา oil อยู่แล้ว
เราชอบ texture แบบนี้มาก
เป็น oil แต่ซึมเร็ว บางเบา
เข้าเรื่องการใช้งานเลย
เราใช้ ประมาณ 2-3 ปั้ม สำหรับใบหน้าและลำคอ
โดยเราจะใช้ เป็นขั้นตอนแรกเลย (แทน Hadal abo น้ำตบของเรา)
จากนั้นก็ใช้ skincare ของเราตามปกติ
เราทดลองใช้เป็นเวลา 10 วันค่ะลองดูผิวของเรา ตลอด 10 วันได้เลย
เราใช้ ประมาณ 2-3 ปั้ม สำหรับใบหน้าและลำคอ
โดยเราจะใช้ เป็นขั้นตอนแรกเลย (แทน Hadal abo น้ำตบของเรา)
จากนั้นก็ใช้ skincare ของเราตามปกติ
เราทดลองใช้เป็นเวลา 10 วันค่ะลองดูผิวของเรา ตลอด 10 วันได้เลย
ส่วนอันนี้สรุป เป็นการเปรียบเทียบของ ผิววันที่1 และ วันที่10 ของการใช้ Innisfree Jeju Pomegranate Revitalizing serum จากภาพเราถ่ายที่เดิม แสงเดิม แต่โคมไฟอาจจะไม่องศาเดียวกันซะทีเดียว
แต่ดูรวมๆ แล้วผิวสม่ำเสมอ กระจ่างใสขึ้นนะคะ มีความชุ่มชื้นดูโกลว์ขึ้นนิดนึง
อันนี้เราก็ไม่รู้เข้าข้างตัวเองรึเปล่านะคะ
ฝากเพื่อนๆ ดูว่า ผิวเราเป็นยังไง คิดว่ายังไงกันบ้าง ???
ฝากเพื่อนๆ ดูว่า ผิวเราเป็นยังไง คิดว่ายังไงกันบ้าง ???
สรุปจ้า
ข้อดี เราชอบเนื้อเซรั่ม เหลวๆ มันนิดๆ แต่ไม่เหนอะหน่ะ บางเบาเลยแหละ
ใช้แล้ว รอยดำจากสิวหายเร็วดี ผิวกระจ่างใสขึ้น โกลว์ขึ้น
ราคาไม่แพง จับต้องได้
ข้อเสีย แพ็คเก็จเป็นแก้ว หนัก และพกพาไม่สะดวก
การใช้งานเป็นหัว Dropper มีความเสี่ยงปนเปื้อนได้ และ
มักจะใช้จนถึงหยดสุดท้ายก้นขวดไม่ได้
(โดยส่วนตัว เราไม่ค่อยชอบ แพ็คเก็จแบบ Dropper)
จะใช้ต่อไหม ? เราจะใช้ต่อเนื่องให้หมดขวดเลย
เพราะชอบเนื้อสัมผัส และ ทำให้ผิวกระจ่างใส
คะแนน 7.5/10 (หักคะแนนเรื่องแพ็คเก็จนั้นแหละจ้า)
จบกันไปแล้วกับการรีวิว เซรั่มทับทิม (ตั้งชื่อเล่นให้)
เพื่อนๆคนไหนเคยใช้แล้วเป็นอย่างไรกันบ้าง แชร์กันได้เลยนะคะ
ส่วน มี Skincare ตัวไหนน่าลอง ก็เม้นไว้ได้เลยนะคะ
เผื่อน้ำจะไปสอยมาลองบ้างคร้า
Bye Bye