รีวิวกระจก Xiaomi Yeelight Sensor Makeup Mirror
Uncle Bank 61 19สวัสดีครับเพื่อนๆ
วันนี้ผมอังเคิลแบงค์จะมารีวิวของที่หลายๆคนอาจจะมองข้ามไป
แต่มันกลับเป็นของที่สำคัญในการใช้ชีวิตประจำวันของเรา
นั่นคือ
กระจกแต่งหน้ามีไฟจาก Xiaomi Yeelight
Disclaimer: ซื้อเองรีวิวเองครับ
ใครชอบดูและฟังเสียงมากกว่าสามารถกดดูเวอร์ชั่นวีดีโอด้านล่างได้เลยครับ
แต่ถ้าชอบอ่านมากกว่า งั้นเลื่อนตามมาเลยยยยย
เพื่อนๆอาจจะคิดว่าก็แค่กระจกแต่งหน้าป่ะ? ทำไมต้องใช้อันนี้ด้วย?
บอกตรงๆคือตอนแรกผมก็คิดแบบนั้นอ่ะนะครับ
จนโดนเพื่อนป้ายยาแล้วก็ไปหาซื้อมาใช้ดูแล้วถึงเข้าใจ ว่าทำไมเพื่อนถึงแนะนำ...
เรามาดูคำเคลมของเค้ากันนะครับ
เป็นกระจกแต่งหน้าที่มีเซ็นเซอร์และมีไฟ โดยสามารถชาร์จแบตเตอร์รี่ได้โดยไม่ต้องมาเสียเวลาเปลี่ยนถ่าน
สามารถปรับไฟได้ทั้งหมด 3 โหมด และยังสามารถส่องสะท้อนภาพได้เหมือนจริงที่สุด!
อื้อหือ แค่คำเคลมก็น่าสนใจแล้วป้ะสำหรับกระจก
ราคาอยู่ที่ประมาณ 1,590 บาท (ผมจำราคาเป๊ะๆไม่ได้เพราะทิ้งใบเสร็จไปนานแล้วครับ)
สถานที่ซื้อ: ช่อป Xiaomi
สถานที่ซื้อ: ช่อป Xiaomi
เมื่อเราแกะกล่องออกมา นอกจากกระจกแล้ว เราจะได้สายชาร์จUSB พร้อมทั้งคู่มือการใช้งาน เรามาดูตัวกระจกกันบ้าง
เป็นกระจกตั้งโต๊ะที่สามารถปรับองศาได้เพื่อความถนัดในการส่องนะครับ
ดีไซน์มีความมินิมอล
สีดำๆด้านล่างจะเป็นเซ็นเซอร์ที่เมื่อมีอะไรมาบัง
ไฟLED รอบขอบกระจกจะสว่างขึ้นมา
ด้านหลังจะมีปุ่มเปิดปิด ซึ่งมีแค่ปุ่มเดียวที่ใช้ในการ เปิดปิดเครื่อง
และปรับเปลี่ยนโหมดของแสงไฟ
ถัดลงมาก็จะเป็นตัวไฟ indicator ที่จะสว่างเป็นสีส้มขณะชาร์จ
ล่างสุดคือพอร์ตสำหรับเสียบชาร์จ
เอามาตั้งบนโต๊ะก็จะดูมีความทันสมัย minimal ไม่รู้สึกเทอะทะด้วย
ในการชาร์จไฟนั้น จะใช้เวลาชาร์จ 2.5-3 ชั่วโมง
เมื่อชาร์จเต็มจะสามารถใช้งานได้ประมาณ 7-8 วัน โดยเฉลี่ยวันละ 20 นาที
แต่มันก็ขึ้นอยู่กับการใช้งานของแต่ละคนด้วยนะครับ
เมื่อแบตอ่อน ตอนไฟสว่างขึ้นมา ไฟจะวูบวาบสลับโหมดประมาณ 2-3 ครั้ง
เพื่อเป็นสัญญานบอกว่า เธอต้องชาร์จชั้นแล้วนะเจ้ามนุษย์
ในการใช้งานครั้งแรก เราก็แค่กดปุ่มเปิดปิดที่หลังกระจก 1 ที
แค่นี้เองครับง่ายๆ ไฟจะดับไปเองหลังจากเราถอยห่างจากเซ็นเซอร์ 50 ซม.
โดยใช้เวลาไม่นานกว่าไฟจะดับครับ
โหมดไฟทั้ง3 โหมดคือ
- Daily Makeup Mode/ Skincare Mode เป็นโหมด Default ของกระจก โดยจะฉายแสดงไฟออกมา 90% เป็นสีขาว Nuetral White เป็นขาวเจือส้มนิดๆ (นิดเดียวจริงๆ) เหมาะกับการทาสกินแคร์ หรือแต่งหน้าทั่วไปครับ เป็นโหมดที่ผมใช้บ่อย
- Delicate Makeup Mode เป็นไฟ Daylight สีขาว ฉายไฟออกมา 100% เต็ม เป็นโหมดที่สว่างที่สุดเลยครับ เหมาะกับการแต่งหน้าดีเทลที่ต้องการการเห็นชัดๆเป้ะๆ
- Dating Preview Mode โหมดนี้เป็นไฟสีเหลืองส้ม ฉายความสว่างออกมา 70% เหมาะสำหรับใช้แต่งหน้าเช็คหน้าสำหรับการไปอีเว้นท์ตอนกลางคืน เพื่อให้ดูว่าสิ่งที่เราทาจะออกมาแบบไหนในไฟสีส้มครับ *ส่วนตัวไม่ได้ใช้โหมดนี้เท่าไหร่ครับ
เวลาจะสลับโหมด ก็แค่กดปุ่มด้านหลัง1 ที จะเปลี่ยนโหมด
โดยเมื่อเรากดทีที่2 โหมดไปจะกลับไปโหมด 1
ต้องกดทีที่3 ถึงจะเปลี่ยนเป็นโหมด Dating preview ครับ
แต่ถ้าไม่ได้เลือกอะไรเลย เมื่อเราเอาหน้าไปส่องกระจก
ไฟจะเปิดเป็นโหมด 1 ตามDefault ครับ
เรามาถึงจุดไฮไลท์ไม่แพ้เรื่องของไฟเซ็นเซอร์กันบ้าง
นั้นก็คือเรื่องของคำเคลมที่บอกว่าสามารถสะท้อนเหมือนจริงมากที่สุด
ผมอ่านแล้วก็แบบ อะไรฟะ? กระจกมันก็คือกระจกป้ะ
มีสะท้อนชัดเหมือนจริงไม่เหมือนจริงด้วยหรอ
เคยเห็นแต่กระจกหลอกตาที่ส่องแล้วผอม (อันนี้ชอบ) ฮ่าๆ
พอใช้งานจริงปุ๊บบบบบบบบบบบบบบ
คุณพระคุณเจ้า!!!
เชื่อแล้วค้าบบบบบบบบบ คือมันชัดมาก เห็นหมด
ด้วยความที่ตัวกระจกเองสะท้อนสมจริงมากแล้วนั้น ยังมีไฟมาช่วยอีก
เห็นทุกสิ่งอย่างเลยครับพี่น้อง สิวเอย สิวเสี้ยนเอย ขนบนหน้าเอย ริ้วรอยที่คิดว่าไม่เคยเห็นมาก่อนก็เห็น!
กลัวแล้ววววว
เวลาใช้ตอนลงรองพื้น อันไหนใช้แล้วตกร่อง ตกหลุมเป็นคราบอะไรแบบนี้คือเห็นชัดเลยครับ แล้วที่ชอบสุดคือเอาไว้ดิงสิวเสี้ยนที่จมูก แบบที่ใช้แหนบดึงสิวอันเล็กๆอะครับ โอ้โหเพลิน (กระจกบานนี้ไม่ใช่กระจกขยายนะครับ)
สรุป
เป็นกระจกที่ซื้อมาแล้วไม่ผิดหวังเลย มีแล้วรู้สึกว่าชีวิตง่ายขึ้น เพราะผมไม่ได้นอนในห้องคนเดียว ตอนเช้าผมต้องตื่นมาอาบน้ำแต่งตัวก่อน เลยไม่เปิดไฟรบกวน กระจกบานนี้เลยยิ่งทำให้การทาสกิลแคร์หรือแต่งหน้าตอนเช้า ไม่เป็นอุปสรรคอีกต่อไป ใช้ทุกวันเลยครับ
แต่อาจจะต้องชาร์จบ่อยหน่อย และสายชาร์จที่ให้มาคือสั้นไปหน่อย แต่โดยรวมคือชอบมากครับ ไม่เสียดายเงิน และคิดถูกที่ซื้อมา
เพื่อนคนไหนสนใจก็ลองไปสอดส่องดูได้นะครับ กระทู้หน้าผมจะมาพูดถึงเรื่องอะไร ก็ฝากติดตามกันด้วยนะคร้าบบบบบบบ