ต้อนรับหน้าร้อนอย่างเป็นทางการ ด้วยแป้งคุมมันกันเหงื่อ ขั้นเทพ เป๊ะปังไม่หยุด !!! ฉบับชะนีงบน้อย
commonground
56
19
ประเทศไทยกำลังจะเข้าหน้าร้อนอย่างเป็นทางการแล้วนะคะ เอ๊ะ ?? หรือบางทีอาจจะเข้าแล้ว เพราะอากาศร้อนเหลือเกิน ร้อนทุกฤดู แล้วสิ่งที่ตามมาเมื่ออากาศร้อน ก็คือ เหงื่อ ความมัน เหนอะหนะ บนหน้าของเราค่ะ แค่ลำพังหน้ามันเฉยๆก็แย่แล้วอ่ะ นี่แถมความเหนอะหนะจากเหงื่ออีก เละค่ะ งานนี้เละเทะแน่นอน วันนี้ก็เลยอยากจะมารีวิวแป้งที่เค้าเคลมตัวเองว่า คุมมัน กันน้ำ กันเหงื่อสักหน่อย แต่ว่าเราเกิดมามีกรรมค่ะ ไม่สวยแถมจนอีก แป้งพัฟที่ใช้ก็เป็นราคาที่เบาลงมา ไม่แพงกระเป๋าฉีก ไม่อย่างงั้น จะไม่มีตังกินข้าวค่าาา T_T แต่ก็ต้องขอบคุณโลกใบนี้ที่ยังมีของดีราคาไม่แพงหลงเหลืออยู่ในโลกให้ชะนีงบน้อยอย่างเราได้มีโอกาสได้สวยบ้าง
ต้องบอกก่อนนะคะว่าเราก็เป็นแค่พนักงานออฟฟิศคนนึงที่เงินเดือนแค่หมื่นต้นๆเท่านั้น แต่รักที่จะแต่งหน้า แต่งบมีน้อย เป็นคนหน้ามันด้วยจ้าา ที่สำคัญ นานๆสักทีถึงจะได้ซื้อเครื่องสำอาง สกินแคร์เคาเตอร์แบรนด์มาใช้บาง แต่ก็นานๆครั้งเท่านั้นแหละ ชีวิตก็เลยจะคลุกคลีอยู่กับของราคาไม่แพงมากนัก วันนี้ฤกษ์งามยามดี ได้เอาแป้งที่ใช้เราใช้แล้วคิดว่า อันนี้แหละ มันเทพจริง ปังจริง และพร้อมที่เข้าสู่สมรภูมิร้อนระอุเหมือนซ้อมอยู่ในนรกไปพร้อมกับเราค่ะ !!!!
เชื่อว่าหลายคนต้องเคยใช้แป้งตัวนี้แน่นอน เพราะนี่คือ Babalah หรือแป้งแม่มดนั่นเอง แป้งกล่องม่วงที่คุ้นหน้าคุ้นตากันเป็นอย่างดี ไปไหนก็เจอ แผงไหนๆก็มี ตอนนี้เซเว่นก็มีวางแล้วด้วย เป็นขนาดเล็กพกพาง่าย ส่วนตัวเราใช้ตลับใหญ่ตลอดเพราะใช้ได้นาน จุดเด่นของแป้งบาบาร่าคือ ปกปิดดี ไม่ว่าจะรอยสิวหรือว่ารูขุมขน หน้าเนียน ไม่วอก ฟินิชลุคให้เป็นงานผิว ไม่โป๊ะ ใครที่ยังไม่เคยลองแล้วอยากลองแนะนำให้ไปหาซื้อตลับเล็กตามเซเว่นมาลองก่อนค่ะ
เนื้อแป้งเนียนละเอียด แอบหนากว่ารุ่นเก่าเล็กน้อย เรื่องปกปิดก็โอเค รอยสิวที่เราชอบบีบเอง รูขุมขนข้างแก้ม รอยคล้ำใต้ตา พวกนี้ก็โอเคนะ ถ้าให้เป็นเปอร์เซนต์ แต่รู้สึกว่ารุ่นใหม่คุมมันได้ดีกว่า ประสิทธิภาพเรื่องกันน้ำ กันเหงื่อ คุมมัน คือโอเค ดีเลยแหละ มีดรอประหว่างวัน เติมนิดๆหน่อยๆก็โอเคแล้ว ความมันบนหน้ายังมีให้เห็นอยู่แต่น้อยลง ก็ใช้วิธีซับมันเอา ซับเสร็จก็ไม่เป็นคราบ เวลาพักเที่ยงออกไปกินข้าวข้างนอกเหงื่อออกใช้ทิชชู่ซับๆเติมแป้งนิดหน่อยหน้าก็กลับมาผ่องมาเดิมเลยจ้าาา แต่ไม่ค่อยโอเคกับพัฟที่แถมมาให้ มันนุ่มจริงนะ แต่รู้สึกว่าพอใช้ไปนานๆแป้งมันไม่เกาะพัฟอ่ะ เราเลยต้องซื้อพัฟแยกเอาไว้ใช้ต่างหาก แพ็คเกจจิ้งแบบใหญ่คือมันใหญ่จริง ถ้าใครที่ไม่ชอบพกของใหญ่ๆใส่กระเป๋าก็แนะนำขนาดมินิที่เซเว่นค่ะ
การคุมมัน : 80%
การกันน้ำ/กันเหงื่อ : 80%
การปกปิด : 85%
แป้งขั้นเทพของเราก็ไม่พ้น แป้งเจ้านาง เป็นแป้งที่เราใช้อยู่ทุกวันเพราะชอบมาก ใช้ไปหลายตลับแล้ว ใช้จนแป้งทะลุไปถึงเหล็กเลย 1 ตลับใช้ได้นาน คุ้มราคามากค่ะสำหรับเรา จุดเด่นจุดขายอันดับแรกๆของแป้งเจ้านางก็คือ ความกริบ ความเนียนของเค้าค่ะ ใช้ปุ๊บ คือเห็นได้ทันทีว่าเนียนจริง กริบจริง จุดเด่นอีกอย่างก็คือเรื่องคุมมัน กันน้ำ กันเหงื่อ ที่มันเหมาะกับสภาพอากาศของเมืองไทย ที่ร้อนเหมือนซ้อมอยู่ในนรก ข้อได้เปรียบของแป้งแบรนด์ไทยก็คือ เค้าผลิตมาได้ตรงกลุ่มเป้าหมายที่เป็นคนไทยอ่ะ ทั้งโทนสี สภาพผิวหน้า สภาพอากาศอะไรพวกนี้เป๊ะหมด
เนื้อแป้งเนียน แน่น ปกปิดดีมาก รอยสิวที่เราชอบกดเอง รูขุมขนข้างแก้ม รอยคล้ำใต้ตาพวกนี้ก็เอาอยู่นะ ไม่ต้องลงรองพื้น ไม่ต้องลงคอนซีลเลอร์ก็รอด แล้วก็ถือว่าบางเบานะ ถ้าเทียบกับการปกปิดของเค้า ลงแค่แป้งอย่างเดียว ก็รอดนะ หน้าไม่หนา ไม่โป๊ะ เราชอบมาก ตัวแป้งติดทนทาน ระหว่างวันไม่เยิ้ม เหงื่อออก ตรงจมูก ใต้จมูกอะไรพวกนี้ ซับออกก็โอเคแล้ว ไม่เป็นรอยคราบแป้ง แป้งไม่ละลาย พัฟที่แถมมาให้ก็คุณภาพดี แพ็คเกจจิ้งทนทาน อาจจะไม่ได้สวยหรูมากนัก แต่ก็พกพาง่าย 1 ตลับใช้ได้นานมากค่ะ สามารถใช้ได้ทั้งแบบแห้ง และแบบเปียกเลย
การคุมมัน : 90%
การกันน้ำ/กันเหงื่อ : 95%
การปกปิด : 90%
Cute Press Evory Retouch Oil Control Foundation Powder
ตลับม่วงในตำนานของคิวท์เพลส หลายคนต้องเคยใช้ ขอเรียกสั้นๆว่าแป้งตลับม่วงละกัน เราเองก็ผ่านมาแล้วค่ะ ตอนนั้นใช้แบบตลับเล็กในเซเว่น ตลับน่ารัก ราคาน่ารัก มีสีเดียว ตกทีเดียวแป้งแตกละเอียดเลย 55555 แต่ก็ชอบนะ พอตลับนั้นแตกก็ตัดสินใจไปซื้อตลับใหญ่ที่เคาท์เตอร์คิวท์เพลสเลย แล้วตอนนั้นก็เพิ่งรู้ว่าเขามีสีให้เลือกหลายเบอร์เลย BA ก็ดูหนังหน้าเราแล้วก็แนะนำเป็นเบอร์ B2 ให้ เพราะเป็นสีกลางๆ เราเองก็ไม่ได้ขาวมาก จุดเด่นของแป้งตลับม่วงก็คือ เน้นปกปิด ความเรียบเนียน ความเป็นธรรมชาติ คุมมัน แต่ไม่ได้บอกว่ากันน้ำกันเหงื่อได้นะ
มาถึงขั้นตอนการรีวิวเนื้อแป้ง เนื้อแป้งเนียนละเอียด บางเบา พอทาไปปุ๊บ รู้สึกเลยว่าเบาจริง เรื่องรอยต่างๆ ความไม่เรียบเนียนของหน้าอะไรตั่งต่างนางเอาอยู่นะ แต่รูขุมขนตรงข้างแก้มเอาไม่อยู่ค่ะ รู้สึกว่ามันไปเน้นรูยังไงก็ไม่รู้อ่ะ พอทาทับพยายามจะปิดก็ยิ่งหนา -_-’’ ฟีฟิชลุคที่ได้ถูกใจเราเลย เบาบาง เป็นงานผิว มาต่อกันที่เรื่องคุมมัน ถ้าวัดกันเป็นเปอร์เซนต์เราให้แค่ 40% นะ เพราะหน้ามันเป็นปกติเลยค่ะ พอเปลี่ยนรองพื้นหน้าถึงมันน้อยลงอ่ะตัวนี้ คิวท์เพลส์ตลับม่วงอันนี้เค้าแนะนำว่าถ้าใช้พัฟเปียกจะยิ่งปกปิดได้ดี แต่เราไม่เคยทำค่ะ ก็เลยไม่รู้ว่าถ้าหากว่าพัฟเปียกจะให้ผลดีกว่าพัฟแห้งหรือเปล่า
การคุมมัน : 40%
การกันน้ำ/กันเหงื่อ : 95%
การปกปิด : 85%
L’OREAL PARIS Super-Blendable Powder
อันนี้ไปตำมาทีหลัง หลังจากที่ไปตำรองพื้น True Match มาแล้ว ก็เลยอยากได้ตัวนี้มาลอง พอเห็นว่าราคาไม่แรงมากก็ตัดสินใจ ซื้อ !!! จุดเด่นของแป้งทรูแมทอันนี้เท่าที่ศึกษามาคือ เป็นแป้งมิเนอรัล ไม่ใช้ส่วนผสมพิเศษที่ทำให้เกิดการแข็งตัว แป้งมิเนอรัลจึงเป็นแป้งที่ทำให้รู้สึกหนักหน้าน้อยที่สุด เป็นแป้งที่บางเบาแต่มีความแมท ไม่มันวาว ให้การปกปิดที่ดี
เนื้อแป้งถ้าเอามือไปถูวนๆแป้งในตลับคือมันลื่นจริงนะ แล้วก็บางเบาด้วย ไม่เป็นผงด้วยนะ เริศตรงนี้แหละ ทาไปบางเบาจริง เรื่องปกปิดให้ดีอยู่นะ รอยสิวอะไรตั่งต่างปิดได้ แต่รูขุมขนก็ยังมีให้เห็นอยู่ ฟีนิชลุคที่ได้ก็จะเป็นแนวใสๆ บางเบา ธรรมชาติ เรื่องคุมมันก็โอเค กันน้ำกันเหงื่อไม่ค่อยเท่าไร เหงื่อออกพอเอาทิชชูซับแล้วมันหลุด แต่ขอติเรื่องพัฟที่แถมมาให้คือมันไม่สามารถทำอะไรได้เลย 55555 สะมาริงกิงก่องมาก ต้องไปซื้อพัฟแยกมาใช้ต่างหาก ถึงจะโอเคขึ้น
การคุมมัน : 85%
การกันน้ำ/กันเหงื่อ : 70%
การปกปิด : 70%
ไม่พูดถึงไม่ได้เลย ถ้าเรื่องปกปิดและถูก Zendori ต้องมา ในรีวิวนี้จะขอเป็นแป้ง Zendori UV Oil Free SPF 12 หรือชื่อในวงการก็คือ แป้งเซนโดริตลับเขียว สูตรนี้เป็นสูตรคุมมัน กันแดดได้ แต่ SPF แค่ 12 นะ มีให้เลือก 3 เบอร์ จุดเด่นๆของเซนโดริตลับเขียวก็คือ คุมมัน ปกปิด เนื้อเนียน ติดทน ราคาถูก ถูกมาก ไม่ถึง 100 เลย
เนื้อแป้งเนียนแบบที่คำเคลมบอกไว้ค่ะ แต่หนา ใครมือหนักเคยชินกับแป้งเนื้อบางต้องเบามือ ไม่งั้นจะโป๊ะ แล้วจะลอยมากด้วย หลังทาเสร็จ ความรู้สึกคือมันปกปิดได้แค่ ปานกลางเท่านั้น รอยดำจากสิวที่เรากด มันปิดได้แค่นิดนึงอ่ะ ไม่เท่าตัวอื่นๆในรีวิวนี้ รอยคล้ำใต้ตายิ่งไม่ต้องพูดถึง ยังคงมีให้เห็นอยู่ รูขุมขน ก็ยังมีให้เห็น ไอ้รูเล็กๆก็รอดไป แต่รูใหญ่ๆก็ยังมีอยู่ เรื่องคุมมันก็คือต้องยกให้ เพราะถือว่าทำได้ดีกับแป้งราคาไม่ถึง 100 เรื่องกันน้ำกันเหงื่อ เวลาเหงื่อออกพอซับแล้วยังลอก ยังหลุด เรื่องติดทนก็ทั่วไป ยังไม่ทันเลิกงานก็หลุดแล้ว ตัวนี้เราไม่ได้ตั้งความคาดหวังไว้เยอะ เพราะเป็นแป้งราคาถูก
การคุมมัน : 90%
การกันน้ำ/กันเหงื่อ : 50%
การปกปิด : 60%
เป็นแป้งแบรนด์ไทยราคาถูกอีกแบรนด์ที่ได้รับความนิยมเหมือนกัน คือ Butae Super Oil-Control Powder ในราคาตลับละไม่ถึง 100 บาท !! จุดเด่นของบูเต้ตลับขาวตัวนี้คือ คุมมัน ปกปิด บางเบา ติดทน กันน้ำ กันเหงื่อ แต่ใครที่แพ้ง่ายก็ต้องลองเทสดูก่อนเพราะมีส่วนผสมของน้ำหอมค่อนข้างแรง
เนื้อแป้งมันจะเป็นฝุ่นๆ บางเบาจริง แต่แทบจะไม่ปกปิดเลย เหมาะกับคนที่มีผิวหน้าดีเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ส่วนฟินิชลุคให้เป็นแบบงานผิว ดูเป็นธรรมชาติ เรื่องปกปิดก็ได้แค่ระดับนึง รอยสิว รอยคล้ำใต้ตา รูขุมขนยังมีให้เห็นอยู่ เรื่องคุมมันก็ทั่วๆไปค่ะ ความมันเท่าเดิม เหมือนเดิมทุกประการ ส่วนเรื่องกันน้ำกันเหงื่อนี่แทบจะไม่เห็นผลเพราะเวลาเหงื่ออก เหงื่อไหลแป้งก็ไปกับเหงื่อด้วย พัฟที่แถมมาในตลับไม่ดีเลยจ้าาา พัฟไม่ติดแป้งเลย เราต้องไปซื้อพัฟใหม่ เป็นแป้งราคาถูกที่เหมาะกับคนที่มีผิวหน้าดีอยู่อยู่แล้วหรือคนที่ผิวผสมอาจจะใช้แป้งตัวนี้แล้วรอด แต่สำหรับเราแป้งบูเต้คือกลางๆ
การคุมมัน : 50%
การกันน้ำ/กันเหงื่อ : 50%
การปกปิด : 50%
รีวิวนี้ก็เป็นรีวิวส่วนเล็กๆ จากเราคนนึงที่เคยใช้จริงๆแล้วเอามารีวิว เอามาแบ่งปันให้เพื่อนๆ ชาวจีบันได้ไว้เป็นอีกทางเลือกนึงสำหรับหน้าร้อนที่กำลังจะมาถึงนี้ ใครชอบแบรนด์ไหน เล็งแบรนด์ไหนอยู่ตามรีวิวนี้รับรองไม่ผิวหวังแน่นอนจ้าาาา