4 สัปดาห์เต็ม ๆ กับการใช้ La Mer The NEW Eye Concentrate
Yingaa 52 9 JEBAN GIVEAWAY / ได้รางวัลจากจีบันนี่แหละ!สวัสดีค่ะทุกคน
วันนี้หญิงจะมารีวิวผลการใช้อายครีมของ La Mer The NEW Eye concentrate ในระยะเวลา 4 สัปดาห์เต็ม ๆ ค่ะ
-----แนะนำตัว & วิธีทดลอง-----
ก่อนจะรีวิวผลการใช้ ขอพูดถึงสภาพผิวตัวเองก่อนนะคะ
หญิงเป็นคนที่มีปัญหาใต้ตาแยอะมาก มีทั้ง...
- ริ้วรอยตามวัย ( 32ปี )
- ใต้ตาลึก
- ใต้ตาดำคล้ำ
*คำเตือน
การฉีดโบทอกซ์ โดยเฉพาะฟิลเลอร์ใต้ตามีความเสี่ยงสูงมาก
โปรดพิจารณาถี่ถ้วนก่อนทำ
ช่วงเวลาที่ทดลองใช้ Eye cream ของ La Mer ตัวนี้ เป็นช่วงที่หญิงบินน้อย ได้นอนเต็มอิ่มมากกว่าปกติ และให้ความสำคัญกับการดื่มน้ำมากอยู่แล้ว ได้ทำการวัด %น้ำในร่างกายและได้ผลการวัดที่อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมอยู่ตลอดเวลา การทดลองนี้จึงไม่มีผลของการนอนไม่พอหรือผิวขาดน้ำมาเกี่ยวข้องโดยที่ในการทดลอง
- ช่วง 3 สัปดาห์แรก หญิงได้ใช้ The NEW Eye Concentrate กับตาข้างเดียว วันละ 1-2 ครั้ง เหตุผลที่ทดลองใช้ข้างเดียวในช่วงแรก เพราะได้ขนาดทดลองมาเพียง 3mL เกรงว่าหากใช้ทั้งสองข้างปริมาณที่ได้รับมาจะไม่เพียงพอ และเชื่อว่าหากครีมนี้ได้ผล การทดลองแบบนี้จะเป็นวิธีที่จะทำให้เห็นผลได้ชัดเจน และสามารถลดความคลาดเคลื่อนหรือความ bias จากการถ่ายรูปลงได้
ส่วนอีกข้างหนึ่งได้ใช้ Eye cream กลุ่มลดเลือนริ้วรอยของแบรนด์อื่นในปริมาณที่เท่ากัน เพื่อให้เป็น Control ตอนที่เลือกว่าจะใช้ อายครีม La Mer ข้างไหน ก็ใช้วิธีการโยนหัวก้อยเพื่อความยุติธรรม เนื่องจากโดยปกติตาทั้งสองข้างของเราไม่ได้มีปัญหาเหมือนกันหรือในระดับเดียวกันแบบเป๊ะ ๆ 100% - แต่ในสัปดาห์สุดท้าย คือ สัปดาห์ที่ 4 หญิงได้ใช้ The NEW Eye concentrate ทั้งสองข้าง เพื่อให้ได้ทดลองผลกับอีกข้างหนึ่งด้วย ( นำหลักการทดลองแบบ cross control มาประยุกต์ใช้ ) และจะมารีวิวผลการใช้อีกครั้งหลังใช้ Tester หลอดนี้หมด
- Plan ในอนาคตต่อจากนี้... หากได้ไซส์จริงมาใช้ หญิงจะใช้ La Mer The NEW Eye Concentrate กับตาทั้งสองข้าง เพื่อดูผลต่อเนื่องหลังการใช้ที่ยาวนานมากกว่า 4 สัปดาห์ และเพื่อเป็นการ Confirm ว่าผลที่เกิดขึ้นกับข้างที่ได้ทดลองใช้มาก่อนเป็นผลจากครีมนี้จริง ๆ ( ถ้าครีมได้ผลจริง ตาข้างที่เคยใช้เป็น Control ซึ่งตอนนี้มีริ้วรอยมากกว่าต้องดีขึ้นเหมือนข้างที่ได้ทดลองใช้มาก่อนแล้ว )
-----แรกสัมผัส-----
เนื้อครีมของ La Mer The NEW Eye Concentrate เป็นเนื้อครีมที่เกลี่ยง่าย แทบจะไม่จำเป็นต้องวอร์มก่อนทา สีขาว กลิ่นธรรมชาติ เมื่อทาลงไปแล้วให้ความชุ่มชื้น สามารถลงครีมอื่นหรือรองพื้นต่อได้ ( Eye cream บางตัว เมื่อทาลงไปใต้ตาแล้วลงครีมหรือเครื่องสำอางลงทับ จะเป็นคราบเกิดขึ้น )
-----ผลการใช้จริง & รูปเปรียบเทียบ-----
จากผลการทดลองใช้ สิ่งที่เห็นได้ชัดว่าแตกต่างกัน คือ เส้นริ้วใต้ตา
จะสังเกตได้ว่า หลังใช้ 3 สัปดาห์ (รูปล่างซ้าย) และหลังใช้ 4 สัปดาห์ (รูปบนซ้าย) มีเส้นริ้วที่น้อยกว่าฝั่ง Control (รูปล่างขวา) โดยที่ระยะเวลาเห็นผลนี้เริ่มเห็นได้ชัดหลังใช้ 3 สัปดาห์ ( หลังใช้ 1 สัปดาห์ ในรูปบนขวา ยังไม่แตกต่างจากฝั่ง Control )
** รูปหลังใช้ 1 สัปดาห์ (บนขวา)
ดูเหมือนจะมีเส้นริ้วที่มากกว่า
ฝั่ง Control ซึ่งไม่ได้ใช้ (ล่างขวา)
และดูเหมือนจะบวมมากกว่านั้น...
...เกิดจากผลของการถ่ายรูป
เนื่องจากในการถ่ายรูปปัญหาใต้ดวงตา
ขึ้นกับปัจจัยในการถ่ายรูปหลายอย่าง
เช่น ลักษณะการยิ้ม มุมที่ถ่าย เป็นต้น
หญิงตั้งใจเลือกรูปที่เป็นแบบนี้มาเปรียบเทียบ
เพื่อให้ท่านที่อาจจะกังวลว่า
หญิงมี Bias หรืออวยแบรนด์หรือไม่
ได้เห็นเจตนาบริสุทธิ์ที่ชัดเจน
ส่วนผลในเรื่องของ ความกระจ่างใส, ความเรียบเนียน, ลดเลือนร่องใต้ตา หรือ ปกป้องรอบดวงตาจากริ้วรอย ยังไม่ปรากฎความแตกต่างจากการทดลอง
สรุปผลการทดลองใช้ในระยะเวลา 3-4 สัปดาห์
เมื่อเปรียบเทียบกับข้อมูลจากผลิตภัณฑ์ เป็นดังตารางต่อไปนี้
-----ข้อสรุปส่วนตัว-----
จากการทดลองใช้ หญิงเห็นผลลดเลือนเส้นริ้วหลังในระยะเวลา 3 สัปดาห์ คิดว่าผลนี้อยู่ในระดับที่น่าพึงพอใจและเป็นข้อดีที่น่าสนใจ เพราะเส้นริ้วใต้ตาเป็นปัญหาที่โบทอกซ์และฟิลเลอร์ไม่สามารถช่วยได้ เนื่องจากเป็นจุดที่อันตรายเกินกว่าจะฉีด ส่วนจะซื้อไซส์จริงมาใช้เองหรือไม่ ก็ขึ้นกับปัจจัยสองอย่าง คือ ระดับความรุนแรงของปัญหาในขณะนั้น และ ราคา
ในส่วนของระดับความรุนแรงของปัญหา
ปัญหาริ้วรอยใต้ตา จากที่หญิงได้เรียนมาในหลักสูตร ป.โท ชะลอวัยและฟื้นฟูสุขภาพ ริ้วรอยใต้ตาจะมี 2 แบบ คือ
- แบบอยู่ตลอด หรือ Static Wrinkles และ
- แบบที่เกิดขึ้นเมื่อแสดงอารมณ์ หรือ Dynamic Wrinkles
( ซึ่งโดยส่วนตัวคิดว่าเป็นไปได้แต่หากไม่เข้าข่ายข้อใดข้อหนึ่ง โดยส่วนตัวคิดว่า ราคา 9,300 บาท กับการแก้ไขปัญหาใต้ตาในระดับนี้ ยังไม่มีความคุ้มค่า
เพราะหญิงผ่าน Duty free บ่อย
สามารถซื้อในราคาปลอดภาษีได้
และปกติจะได้ส่วนลดอีกประมาณ 20%
เหลือ ~6700บาท จาก 9300บาท อยู่แล้ว
มีโอกาสที่จะได้โปรโมชั่น on top เพิ่ม
จนราคาเหลือ 5,000บาทอยู่ )