ระเบิดกรุ 6 แป้งฝุ่น ใช้แล้วชอบ สำหรับคนเป็นสิว-ผิวแพ้ง่ายม๊ากก #ของมันต้องมี
mummay 60 9สวัสดีค่ะทุกคนนน กลับมารีวิวครั้งนี้เพราะวันนึงนั่งคุยกับเพื่อนเรื่องแป้งฝุ่นโปร่งแสง สำหรับคนที่เป็นสิว หรือผิวแพ้ง่าย ไม่อยากใช้แป้งพัฟ
เพราะความหนา หรืออื่นๆ เมย์เลยทำรีวิวออกมาเพื่อแบ่งปันประสบการณ์
การใช้แป้งของเมย์เองละกัน พูดงี้ดีกว่า ?
สำหรับเมย์เองเวลาเลือกใช้แป้งจะเลือกแป้งที่เนื้อบางเบา แต่ช่วยปกปิด
และที่สำคัญ จุดเด่นของแป้งโปร่งแสงก็คือ ต้องคุมมันใช่มั้ยคะ
ยิ่งอากาศร้อนเราก็อยากได้อะไรที่บางเบาใช่มั้ยล่ะ
วันนี้เมย์เลยคัดแป้งที่ใช้มาทั้ง 6 แบรนด์
ที่มีราคาตั้งแต่หลักร้อย ไปถึงหลักพัน
แถมมีทั้งแบรนด์ไทย และต่างประเทศ มารีวิวกันค่ะ ไปดูกันเล๊ยยยย ??
1. BK Acne Loose Powder
แบรนด์แรกมาที่ตลับนี้ก่อน เป็นแบรนด์ที่ติดตลาดมากกก มีคนใช้เยอะมากกก ? น้องคือแป้งสำหรับคนเป็นสิว ใช่ค่ะเมย์คือทาสการตลาดโดยสมบูรณ์ เมย์กดสั่งซื้อ โดยไม่มีอะไรมากั้น 55555
ทางแบรนด์บอกว่าเป็นแป้งฝุ่นลดสิว เซ็ตผิว สูตรควบคุมความมัน
และที่สำคัญคือเนื้อเนียนละเอียดให้สัมผัสดุจกำมะหยี่ ช่วยอำพรางจุดบกพร่องต่างๆ
โดยในเนื้อแป้งมีส่วนผสมของ Tea Tree Oil ที่มาช่วยยับยั้งแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดสิว
รวมทั้งช่วยฟื้นฟูผิวจากการระคายเคืองอันเกิดจากมลภาวะ ตามแบบฉบับเอกสิทธ์เฉพาะของ BK อีกด้วย แถมใช้ได้แม้ผิวบอบบางแพ้ง่าย ใครที่ชอบใช้แฟ้งฝุ่นเซ็ตกับรองพื้น
BK เป็นอีกแบรนด์ที่ไม่ทำให้รองพื้นเปลี่ยนสีนะคะ เหมาะกับทุกสภาพผิว อีกทั้งแป้งฝุ่นBK นี้
เขาไม่มีน้ำหอม ไม่มีแอลกอฮอล์ และไม่มีสารกันเสียกลุ่มพาราเบน
แต่แอบมีทัลคัม เสียดายนิดหน่อย
แพ็คเกจ
ตัวแพ็คเกจเป็นพลาสติกที่แข็งแรง จับถนัดมือพอสมควรค่ะ พกพาง่าย ที่ฝามีกระจกให้ส่องด้วย เริ่ดมาก ? ? ใช้ได้ทั้ง 2 แบบคือเปิดแบบหมุนฝาเกลียวหรือว่าเปิดฝาก็ได้เช่นกันค่ะ
ส่วนฝาตลับเป็นสีเทาด้าน เวลาเก็บถ้าไม่คิดมากก็ใส่รวมกระเป๋าได้เลย แต่ถ้าอยากให้น้องสวยตลอดเวลา แนะนำให้ใส่กระเป่าหรือถุงเล็ก ๆ ก็ได้ค่ะ
ความรู้สึกหลังใช้
หลังซื้อมาใช้ได้สักพักใหญ่ พบว่าเนื้อแป้งที่เนียนละเอียดมีความคล้ายเนื้อแป้งของยี่ห้อ Three อยู่เหมือนกันนะ ? ช่วงที่ทาช่วงแรก เนื้อแป้งจะทำให้ผิวเราดูสว่างนิดหน่อย ไม่ต้องตกใจ พอน้องเค้าเซ็ตตัวแล้วจะเนียนกลืนไปกับผิวเลยค่ะ ไม่เป็นคราบระหว่างวัน ช่วยคุมมันได้ระดับนึง
แต่พอผ่านไปได้ครึ่งวัน หลังจากออกไปทำธุระข้างนอก แป้งจะติดอยู่แค่บางส่วนเท่านั้นนะคะ อย่างแก้ม 2 ข้าง หน้าผากนิดหน่อย เพราะส่วนตัวเป็นคนผิวมันช่วงทีโซนค่ะ ใครที่มีปัญหาผิวเหมือนเมย์ ใช้กระดาษซับมันระหว่างวัน แล้วตามด้วยแป้งก็ได้อยู่ค่ะ
2.THREE Ultimate Diaphanous Loose Powder #Translucent 01
แต่นี่เป็นหนึ่งแบรนด์ในใจที่เคยใช้ช่วงเรียน แล้วดีมากกก ดีงามมากกกจริงๆ
แป้ง Three เค้ามีตั้ง 3 สูตรเลยค่ะ ทั้ง Glow / Translucent / Colorless
แต่เอาจริงๆ ทุกอย่างมันก็ล้วนสื่อมาว่าเป็นแป้งฝุ่นโปร่งแสงหมดเลยใช่มั้ยคะ
อ้าว แล้วมันต่างกันยังไง คือเมย์ไปดูคุณขวัน ที่เป็นบล็อกเกอร์มา
คุณขวันบอกว่า อย่างสูตร Glow จะดูวาวๆ เงาๆ ช่วยให้ผิวดูกระจ่างใสมากขึ้น
แต่ส่วน Translucent และ Colorless มีความต่างคือ แตกต่างกันนิดหน่อย
Colorless สีจะชัดกว่า ต้องการปกปิดบ้าง
Translucent จะเพิ่มความกระจ่างใส เปล่งปลั่ง ดูเนียนนวล ไม่ได้ต้องการปกปิดมาก
เมย์เลยเลือกแบบทรานลูเซนท์มาใช้ค่ะ
ในส่วนผสมบำรุงผิวจากโบทานิคอล ออยล์ 8 ชนิด คือ Inca inchi oil, Tea seed oil, Argan oil, Jojoba oil, Evening primrose oil, Rosehip oil, Shea butter, Beeswax ช่วยควบคุมความมันส่วนเกิน ช่วยให้เมคอัพดูสวยสดใสยาวนานยิ่งขึ้น ไม่หมองระหว่างวันเลยค่ะ
แพ็คเกจ
ตัวบอดี้ของตลับนี้นะคะ จะเป็นสีดำเทาด้าน ดูสวยงาม ทรงแบนๆ สอดใส่ช่องกระเป๋าเล็กๆได้สะดวก พกพาง่าย ส่วนด้านในจะเป็นตาข่าย กันแป้งออกมาข้างนอกมากเกินไป ส่วนตัวพัพฟ์ก็คือดีมากอีกเช่นกัน เนื้อพัพฟ์นุ่มมาก ?? เก็บแป้งได้ดี ไม่กินเนื้อแป้งมากไปเลยค่ะ
ความรู้สึกหลังใช้
ด้วยความเนื้อละเอียดของแป้ง ทำให้เวลาเราใช้ระหว่างวันที่เหงื่ออกจะไม่เป็นคราบ และเกลี่ยง่ายมากจริง ไม่รู้สึกถึงความสากของเม็ดแป้งเลยค่ะ ปกติแป้งโปร่งแสงจะมีความรู้สึกไม่เนียนมากขนาดนั้น
แต่ Three ถือว่าตอบโจทย์มากสำหรับเมย์จริงๆค่ะ ไม่อุดตัน คุมมันได้ในระดับนึง แต่ยังไม่ถือว่าว้าวมากเท่าไหร่ ต้อง ซับมันแล้วเติมระหว่างวันด้วยจะดีเริ่ดค่ะ??
3. Welpano Pure Natural Translucent Powder
แบรนด์นี้เมย์เพิ่งซื้อใช้ได้ประมาณเดือนนึงค่ะ ส่วนตัวที่เลือกเพราะว่าเมย์ใช้แบรนด์เวลพาโน่มาหลายอย่างมาก เป็นแบรนด์ที่ทำให้เมย์หายจากเป็นสิวค่ะ พอเค้าออกไอเทมใหม่มา เมย์ก็อยากลองใช้ แล้วสิ่งที่เมย์คาดหวังไว้ ก็เกินคาดมากด้วย
เพราะแป้งฝุ่นโปร่งแสงของเวลพาโน่ คือแป้งข้าวธรรมชาติค่ะ เราขอเรียกแบบนี้แล้วกัน
หลายปีมาแล้ว เมย์ใช้แป้งข้าวอันอื่นมา รู้สึกฝืดผิวมากๆ เกลี่ยแทบไม่ไปเลย พอมาใช้ตลับนี้ของเวลพาโน่ ก็ลุ้นๆอยู่ว่าจะเป็นยังไง พอได้ใช้แล้วชอบมากๆเลย เดี๋ยวเมย์จะเล่าฟิลลิ่งให้ฟังอีกทีเนอะ
ส่วนผสมของแป้ง จะมีข้าวโอ๊ต ข้าวเจ้า ข้าวโพด และรำข้าวเป็นสารสกัดหลักๆเลย
ที่มีหน้าที่ช่วยดูดซับความมันส่วนเกินบนใบหน้า ชอบตรงที่เวลาทา หน้าจะไม่กร้าน และไม่มันจนเกินไป เพราะแป้งที่มีส่วนผสมจากข้าวจะช่วยปรับสมดุลผิวดีตามธรรมชาติ นี่คือสิ่งที่ประทับใจค่ะ จึงช่วยลดโอกาสในการเกิดสิวผด สิวอุดตันได้ดีมากๆ ใครที่เป็นสิวง่าย แนะนำอันนี้เลยค่ะ อ่อนโยนจริงๆ แต่ทาแล้วเนียนๆ ช่วยพรางรูขุมขนได้
ที่สำคัญเลยคือ เป็นสูตรที่ไร้ทัลคัม 100% สามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิว ใช้ได้กับทั้งผู้หญิง และผู้ชายเลยค่ะ เพราะแป้งไม่มีสี จะกลืนไปกับผิวของแต่ละคน เลยไม่กังวลว่าหน้าจะวอก สูตรปราศจากน้ำหอม ปราศจากแอลกอฮอล์ และปราศจากพาราเบน
แพ็คเกจ
ตัวบอดี้ของแบรนด์เวลพาโน่ เป็นกระปุกสีขุ่น ฝาตลับสีขาวค่ะ จับถนัดมือ พกพาค่อนข้างง่ายเลย ไม่ต้องกลัวว่าบอดี้จะโดนขูดขีด
ส่วนตัวพัฟฟ์จะมีความหนานุ่มมือกำลังดี ไม่เล็กไม่ใหญ่ จับถนัดมือ ไม่บาดหน้า ไม่กินเนื้อแป้งเลย ทำความสะอาดง่ายด้วย ชอบเนื้อพัฟฟ์มากเลยค่ะ ใช้จบในตัวเดียวไม่ต้องใช้แปรงต่อเลย
ความรู้สึกหลังใช้
เนื้อสัมผัสแป้งข้าวของแบรนด์เวลพาโน่ เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่ทำเนื้อแป้งออกมาได้ดีเลยค่ะ เนื้อเนียนละเอียด และบางเบามาก เวลาเกลี่ยไปบนผิวหน้าจะไม่ได้รู้สึกหนักหน้า ปกปิดสำหรับวันสบายๆได้ค่อนข้างดีเลย
เหมาะสำหรับวันที่ไม่อยากแต่งหน้าหนักๆ หรือว่าใครที่เป็นสิวก็ใช้ได้เหมือนกัน ไม่รู้สึกสากหน้าเหมือนแป้งข้าวทั่วไป ควบคุมความมันได้ดีเลยค่ะ ทาแป้งครั้งเดียว รู้สึกได้ ระหว่างวันช่วงทีโซนจะไม่มันเมือกเหมือนแต่ก่อนที่ยังไม่ได้ใช้ หมดตลับนี้ก็มีซื้อต่อแน่ๆค่ะ ??
4. Miuskin Superlative Finishing loose powder
อันนี้เลยยย เป็นอีกแบรนด์คนไทยที่น่าสนใจมากๆ อีกหนึ่งแบรนด์นะคะ ไปเจอมาช่วงที่ดูรีวิวจากจีบันนี่แหละ เห็นว่ารักน่าใช้มาก เลยจัดมาลองตลับ 10 กรัม ก่อนค่ะ แบรนด์นี้เค้าทำแป้งฝุ่นโปร่งแสงมา 2 แบบนั่นคือแบบ สูตร Glow และสูตร Translucent ที่เมย์ซื้อมาใช้ค่ะ
2 สูตรนี้จะต่างกันคล้ายๆกับ Three คือสูตรโกล์ว จะให้ลุคใบหน้าที่ขาว สว่างใส
จากเทคโนโลยีที่เรียกว่า “ Youth Aura Effect” ที่ช่วยให้ผิวหน้าแลดูฉ่ำวาว อย่างเป็นธรรมชาติ เหมาะกับคนที่ต้องการทาแล้วให้ใบหน้าดูผ่องขึ้น
และสูตร Translucent ให้ลุคแมตท์ แต่ไม่แห้งกร้าน เนื้อแป้งเข้ากับผิวได้อย่างเป็นธรรมชาติ
ทุกเฉดสีผิว ใช้แล้วหน้าไม่ลอย ไม่หลอก หรือใช้เซ็ตรองพื้นได้ โดยไม่ทำให้สีรองพื้นเปลี่ยนค่ะ
แพ็คเกจ
ตัวฝาบอดี้ของแป้งมิวสกิน จะเป็นสีน้ำเงินด้านหน่อย ตัวตลับจะบางกว่าแบรนด์บนๆค่ะ พกพาสะดวก และด้านในมีพัฟฟ์ให้ นุ่มเนื้อพัฟฟ์จะเนียนเหมือนของ Three เลยค่ะ ให้สัมผัสที่บางเบากับผิว ไม่บาดหน้า ตัวกรองแป้งจะเป็นตาข่าย ทำให้แป้งหลุดออกมามีเนื้อเนียนละเอียดพอสมควรเลย
ความรู้สึกหลังใช้
เนื้อสัมผัสเนียนมาก อาจจะด้วยตัวกรองของแบรนด์ที่ทำให้เรารู้สึกแบบนั้น ด้วยเนื้อพัฟฟ์ที่เนียนนุ่ม แต่คววามรู้สึกมีแอบกินเนื้อแป้งบ้าง
ความบางเบาทำให้เนื้อแป้งติดพัฟฟ์น้อย ต้องอาศัยแปรงแต่งหน้าเข้าช่วย แต่ในเรื่องของความคุมมัน ก็ถือว่าใช้ได้นะคะ ช่วยเบลอรูขุมขนได้พอกัน ใช้แล้วไม่อุดตันรูขุมขน ไม่เป็นสิว ถือว่าผ่านค่ะ
5. Chaonang Diamond Translucent Powder
มากันที่แบรนด์เจ้านางต่อกันเลยค่ะ ใครไม่เคยใช้ ถือว่าพลาดนะ เพราะน้องเป็นแบรนด์ที่จับต้องง่าย เป็นแบรนด์ที่ใครหลายๆคนรู้จักมาจากแป้งพัฟฟ์เจ้านาง ตอนนั้นคือรีวิวแน่นมาก ปกปิดเนียนกริบกันน้ำ
มารอบนี้เค้ามาในรูปแบบแป้งฝุ่นโปร่งแสงค่ะ แป้งที่มีเนื้อละเอียดบางเบาโปร่งผิวตลับนี้ ช่วยให้ผิวสว่างกระจ่างใสขึ้น มี Ceramides ช่วยให้ผิวแข็งแรง ปกป้องผิว ลดการสูญเสียน้ำของผิว
ทำให้เรารู้สึกสบายผิว เวลทาแป้งฝุ่นตัวนี้ลงบนผิวเราเลยค่ะ อีกด้วยเทคโนยีใหม่ล่าสุดของแบรนด์อย่าง Jellification ที่ช่วยให้เนื้อแป้งติดผิวเรามากยิ่งขึ้นอีกด้วยค่ะ
แพ็คเกจ
ตัวกล่องภายนอกของแบรนด์นี้ดูดีนะคะทุกคน เป็นกล่องสีขาว ทองตามฉบับของแป้งเจ้านางเลย เนื้อกล่องดูแพง ตัวบอดี้ของกล่องด้านในเป็นพลาสติก
ตัวตลับจะเป็นรูๆ สำหรับเทแป้งออกมาได้ง่าย แถมยังพกพาสะดวก สำหรับพัฟฟ์เราว่าพัฟฟ์ค่อนข้างเล็กไปหน่อย ทำให้จับลำบากนิดนึง (แต่ไม่เป็นปัญหา เพราะใช้แปรงแทนค่ะ)
และเนื้อพัฟฟ์ค่อนข้างบางและ ไม่ค่อยนุ่มเท่าไหร่ค่ะ เวลาทาจะรู้สึกบาดผิวด้วย ถ้าใช้อันนี้แนะนำให้พกแปรงปัดแป้งไว้ด้วย
ความรู้สึกหลังใช้
สำหรับเราที่มองว่าหาแป้งฝุ่นโปร่งแสงมาเพื่อช่วยควบคุมความมันบนใบหน้าเรา ถ้ามองแบรนด์เจ้านางถือว่าตอบโจทย์มั้ย ก็ค่อนข้างตอบโจทย์ในราคาประมาณนี้
แต่ถ้ามองว่าเป็นคนที่ใช้พัฟฟ์มากกว่า แนะนำให้มองไอเทมอื่นๆ แป้งฝุ่นมีความกระจายดี ไม่อุดตันผิว ไม่มีสิวเพิ่ม ช่วงเวลาที่เราทาไปครั้งแรก ผิวจะสว่างกว่าเฉดผิวจริงค่อนข้างเยอะ
แต่พอเซ็ตตัวกับรองพื้นแล้ว ก็ยังสว่างอยู่ดี เนื้อแป้งค่อนข้างแมตเลยค่ะ หากใครที่มองหาแป้งประมาณเจ้านางไปใช้ รีบไปซื้อกันได้เลยค่า
6. Laura Mercier Translucent Loose Setting Powder
มากันที่ลอร่ากันบ้างค่ะ ตัวสุดท้าย ขอปิดแบบสวยๆหน่อย เราจะเห็นได้จากรีวิวหนามาก ทุกคนต้องเคยใช้มาบ้างแหละ ใช้แล้วติดใจตามซื้อต่อกันไปยาวๆเลยค่ะ อย่างที่เราเอามารีวิววันนี้ ส่วนตัวเราใช้แล้วรู้สึกว่าตอบโจทย์ดีเยี่ยม แต่ที่ไม่ได้สอยมาใช้ตลอดเพราะน้องราคาค่อนข้างแรงเลยทีเดียวค่ะ
อย่างคำเคลมแบรนด์ที่บอกว่าคุมมัน เป็นแป้งที่ผสมผงมุกอณูละเอียด
ทำเวลาเราทาไปแล้วจะดูเปล่งปลั่ง ธรรมชาติ
อีกทั้งความโปร่งแสงของน้องคนนี้ สามารถใช้ได้ทุกเฉดสีผิวเลยค่ะ
น้องจะออกขาว-เหลืองหน่อย ๆ ไม่มีกลิ่น พองาม
แพ็คเกจ
ตัวแพ็คเกจของลอร่าจะมีทั้งสูตรโกลว์ และสูตรธรรมดา เวลาซื้อแนะนำให้ซื้อที่เคาท์เตอร์เพื่อลดความเข้าใจผิดนะคะ ตัวกล่องก็ธรรมดาทั่วไป เปิดมาในตลับไม่มีพัฟฟ์แถมให้นะคะ ส่วนตัวเราคิดว่าเหมาะที่จะใช้กับแปรงมากกว่า
ความรู้สึกหลังใช้
เราใช้เซตกับการทารองพื้น รู้สึกได้เลยว่าแป้งเนื้อจะแมตท์ไปกับผิวเราเลยค่ะ แต่อาจจะดูแห้งไปสำหรับคนที่มีผิวแห้งอยู่แล้ว ระวังแป้งตกร่อง แต่ใครที่ผิวค่อนข้างมันก็จะตอบโจทย์มาก อย่างเราจะมันช่วงทีโซน ก็รู้สึกได้ว่าคุมมันได้จริง ตกเย็นถ้ายังไม่ได้กลับบ้าน อาจจะต้องซับมันออกนิดหน่อยค่ะ ช่วยได้อยู่
เป็นยังไงบ้างคะ แป้งที่เอามารีวิววันนี้ถือว่าเยอะพอสมควรเลย
เป็นแป้งที่เราใช้เองทั้งหมดเลยค่ะ
อาศัยโดนป้ายยาจากรีวิวก้ตามไปซื้อมาใช้
แป้งฝุ่นที่เราเลือกมารีวิววันนี้ถือว่าเป็นแป้งฝุ่นโปร่งแสง
ที่เรียกได้ว่าอ่อนโยนแทบทุกไอเทมทุกยี่ห้อเลยนะคะ
???