ใช้หมดทุกตัว! วิธีลดสิวอุดตัน แก้หน้าหมอง จัดการรูขุมขนกว้าง ด้วยตัวเอง!

ความสุขตอนเป็นวัยรุ่น คือเป็นสิวน้อยมากกก นานๆเป็นที

ชอบมีคนชมว่า หน้าเนียนจัง ใช้อะไร เพราะขนาดสิวเสี้ยนยังแทบไม่มีเลย

แต่พอหลังเรียนจบ ชีวิตเข้าวัยทำงานเท่านั้นแหละ

ผิวเริ่มไม่กระชับ มีริ้วรอย แล้วก็หน้าหมองมากกก คือมันไม่ดำนะ 

แต่มันหมองแบบเหมือนคนขาดบำรุงอะ

ทั้งๆที่ก็ทาครีมที่เค้าว่าดีๆๆๆ ตลอด ส่วน สิวเสี้ยน สิวอุดตัน สิวอักเสบก็เริ่มขึ้นบ่อย 

โดยเฉพาะ หน้าผาก จมูก และคาง

 เพราะนอนดึก นั่งหน้าคอมแทบจะ 24 ชั่วโมง ตอนแรกๆ เป็นสิวก็แบบบีบออกแล้วพอหายมันทิ้งรอยจ้า 

แก้ปัญหาเอาคอนซีลเลอร์กลบแทน แต่งหน้าหนักมากเพื่อจะปกปิดปัญหาผิวพวกนี้

จนตอนหลังมันไม่ไหว เพราะแต่งหน้าหนามากกก จนมันดูเกินวัยบ้าง ระหว่างวันเป็นคราบบ้าง

แล้วเครื่องสำอางบางตัวที่ใช้คือมีส่วนผสมของซิลิโคน กลับบ้านมาถ้าล้างไม่สะอาดหมดจริง

สิวอุดตันสะสมและขึ้นเยอะมาก หรือบางวันอยากแต่งหน้าเบาๆ ก็ไม่สามารถทำได้อีก 

เพราะสิวที่ขึ้นเยอะทำให้หน้าไม่เนียน และหมองคล้ำเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว!

ปัญหาที่ว่ามันรับไม่ไหวตรงที่ รุ่นน้องสมัยมหาลัยทักว่า

 “ทำไมเดี๋ยวนี้หน้าพี่ไม่เนียนเลยอะ” เสียเซลฟ์มากแม่

บอกเลยว่า วินาทีนั้นคือ “แบมม์ขาดชานมไข่มุกได้ แต่จะปล่อยไปเรื่อยๆแบบนี้ไม่ได้”

ยิ่งปีหน้ามีแพลนจะแต่งงาน คือแบบจะหวังพึ่งหมอฉีดอย่างเดียว ก็กลัวเข็มหมอสู้ไม่ไหว

แบมม์เลยตั้งสเตตัสถามเพื่อนในเฟส เสิร์ชหาวิธีต่างๆ ดูรีวิวเยอะมาก

แล้วก็ไปลองซื้อตามแบบใช้คำว่า “โคตรเยอะ” ได้อะ 

เสียตังเท่าไหร่ไม่ว่า รูดบัตรกระจาย แต่หน้าต้องดีขึ้น!

 บางตัวราคาเป็นพันก็ไม่ตอบโจทย์ผิวเรา แต่บางตัวหลักร้อยหลักสิบ

 เอ้อ มันก็ใช้ดีจนแบบรู้สึกโชคดีที่เจออะ 5555555

สุดท้ายวันนี้ก็เลยได้ FAVORITE SKINCARE ที่ลองใช้เองแล้ว 

มันตอบโจทย์กับผิวเรา ใช้ดีจริง ไม่หลอก ไม่สปอนเซอร์ ไม่โกหก

สามารถจัดการทุกปัญหาที่พูดมาได้ทั้งหมด มาแชร์ให้ทุกคนลองไปใช้กันค่ะ

แท่นแท๊นนนน นี่คือทั้งหมดที่ช่วยจัดการปัญหาให้เรา

แบมม์แบ่งออกเป็น ทั้งหมด 8 หมวดเพื่อง่ายต่อการเล่านะคะ และจะได้เซฟไปซื้อตามกัน

#1 คลีนซิ่ง : สะอาดเกลี้ยง ลดสิวอุดตัน ลดความหมองของผิว

เมื่อก่อนคือใช้การ์นิเย่ขวดเหลืองตลอด แต่มันจะมีความมันของตัวออยล์ที่แบบใช้แล้วต้องล้างหน้าทันที

เพราะมันรู้สึกเหนอะหน้ามาก มันมาก เคยแบบพูดกับรุ่นน้องคนนึงว่า

 มันจะมีมั้ย ออยล์ที่ใช้แล้วหน้าไม่มันอะ 

พอมีตัว NIVEA HOKKAIDO ROSE สูตร OIL – INFUSED ออกมาคือ ตอบโจทย์มาก

 เออว่ะ มันมีอยู่จริง เพราะ คลีนซิ่งตัวนี้มันเป็นออยล์ที่เช็ดได้สะอาดแบบเกลี้ยงไม่ต้องถูแรงอะ 

แล้วไม่ทิ้งความมันไว้บนหน้าเลย ตรงกันข้ามหลังเช็ดหน้าชุ่มชื่นมาก

ใช้สำลีแผ่นใหญ่แผ่นเดียว เทคลีนซิ่งจนชุ่ม เช็ดได้ทั้งหน้าเลย มาสคาร่ากันน้ำใดๆหลุดออกหมด

ตัวนี้แบมม์จะใช้ในวันที่อาจจะมีแต่งหน้าแบบเยอะหน่อย ต้องไปเจอลูกค้า หรือมีนัดโอกาสสำคัญๆงี้

แต่ถ้าในวันปกติ วันธรรมดาที่ไม่ได้แต่งหน้าหนักขนาดนั้น 

แบมม์จะใช้ NIVEA HOKKAIDO ROSE MICELLAR WATER

สูตรที่เป็นแบบน้ำ  มันจะมีความบางเบากว่า และเป็นสูตรที่อ่อนโยนต่อผิวด้วย

ด้วยความที่เราไปต่างจังหวัด และลืมเอาคลีนซิ่งเทใส่ขวดพกพาไป

 เราเลยไปหาซื้อในเซเว่น  แต่ดันเจอตัวนี้แทนตัวที่เคยใช้ ไซส์เล็ก 125 มล. ราคาแค่ 99 บาท

ตอนแรกคิดว่าน่าจะใช้ดีเหมือนกัน เพราะมันเป็นสูตรเดียวกันเลย แค่เป็นแบบ สูตรน้ำ

และคือพอใช้แล้วมันก็ดีอย่างที่คิดไว้เหมือนกันจริงๆ เช็ดออกสะอาดหมดเหมือนกัน

จุดที่เป็นพวกมาสคาร่าแน่นๆ หรือลิปติดทน อันนี้คือต้องค้างไว้หน่อย แล้วปาดออก สะอาดดีเหมือนกัน

.

ข้อดีของสูตรนี้คือ เค้าไม่ใส่พวกสารทำร้ายผิวที่ทำให้สิวอุดตัน *** ไฮไลท์เลย ข้อนี้สำคัญมาก

คือคลีนซิ่งบางตัวมันอาจจะมีสารบางอย่างที่ทำให้ผิวสะอาดจริง แต่แลกมากับการทำให้สิวอุดตัน

เพราะมีพวกพาราเบน, SLS, กรดกัดผิว หรือบางตัวที่เคยใช้แล้วแสบตาเพราะมีแอลกฮอล์

แต่คลีนซิ่งของนีเวียตัวนี้คือ ไม่มีเลยแม่! ดีงามพระราม 6-7-8 มาก! 

ความปังของตัวนี้ยังไม่จบ!

 เพราะเค้ามีสารสกัดจาก ฮอกไกโดโรสเซรั่ม ที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระให้ผิวมากถึง 36 เท่า

ทำให้เวลาเช็ดทำความสะอาดหน้า หลังเช็ดเราจะสังเกตได้เลยว่าผิวมันมีความชุ่มชื่น และกระจ่างใสขึ้น 

ลดความหมองของหน้าได้แบบดีตั้งแต่ step แรกของการดูแลผิวเลย

(อ่อ แอบบอกว่า ถ้าอยู่บ้าน บางทีทำความสะอาดบ้าน หรือไปเซเว่นหน้าปากซอย

กลับมาบ้านเราก็จะใช้ตัวนี้ทำความสะอาดก่อนล้างหน้าเหมือนกัน 

เพราะสิ่งสกปรกในอากาศพร้อมอุดตันผิวให้เกิดสิวได้ทุกเมื่อ)

#2 โฟมล้างหน้า : ลดความหมองคล้ำ ให้ผิวนุ่ม ชุ่มชื่น ขาวกระจ่างใส

สำหรับโฟมล้างหน้า แบมม์ก็มีใช้สองตัวเหมือนกัน 

คือจะใช้แบบเจลล้างหน้าตอนเช้าหลังตื่นนอน และใช้โฟมล้างหน้าในตอนเย็นหลังกลับมาจากข้างนอก

สำหรับตอนเช้าแบมม์ คือแบมม์รู้สึกว่าเราไม่จำเป็นต้องใช้โฟมล้างหน้า 

เพราะก่อนนอนเราแค่บำรุง ดังนั้นแบมม์เลยจะใช้เจลในการล้างหน้าของ AMON

ตัวนี้คือมีความบางเบา และมีสารสกัดจากธรรมชาติ 100% ไม่มีพาราเบน หน้ามีความนุ่ม ชุ่มชื่นหลังใช้

ขวดละ 480 บาท อันนี้สั่งออนไลน์ได้ที่เพจแบรนด์เลย AMON HERB

ส่วนตัวตอนเย็นจะใช้โฟมล้างหน้าของ HIMALAYA WHITENING FACIAL WASH

เพราะรู้สึกว่ามันทำความสะอาดผิวได้ดี 

ช่วยลดพวกความมันส่วนเกินบนหน้าระหว่างวันด้วย ลดจุดด่างดำอีก

ใช้แล้วหน้าชุ่มชื่น นุ่มนิ่ม ชอบมากกกกกกก ราคาประมาณ 170 บาท ถ้าจำไม่ผิด

#3 โทนเนอร์ : ลดสิวอุดตัน เพิ่มความแข็งแรงให้ผิว

หลังล้างหน้าเสร็จ เราจะใช้โทนเนอร์ชุบสำลีเช็ดหน้าแทนผ้าเช็ดตัว

ไปเจอเคล็ดลับนี้มาตอนช่วงโควิด เห็นบล็อกเกอร์เกาหลีทำแล้วผิวหน้าดีมากกกกกก

เพราะการใช้ผ้าเช็ดตัว มันอาจจะมีแบคทีเรียสะสมบนผ้า ทำให้หน้าเราเป็นสิวได้

ที่ใช้หลักๆ จะมีสองตัวคือ ถ้าใช้ประจำทุกวัน แบมม์จะใช้เป็น THAYER FACIAL RONERS สูตรกุหลาบ

ตัวนี้คือแบบ the best มากกกกก ลดสิวอุดตันได้แบบดีจริงๆ 

 แล้วราคาคือไม่แพงเลย 400 กว่าบาท ใช้หลายเดือน

แต่ถ้าช่วงไหน รู้สึกแบบผิวไม่ค่อยแข็งแรง คือมันมีช่วงนึง ตอนโควิดนี่แหละ รู้สึกผิวไม่ค่อยแข็งแรง ผื่นขึ้น

ก็จะใช้เป็นของ KIEHL’S แทน มันก็จะช่วยทำให้ผิวแข็งแรงขึ้นด้วย ตัวนี้น่าจะประมาณ 1000 นิดๆ 

#4 น้ำตบ : เพิ่มความฟูให้ผิว เด้ง อิ่มน้ำ

มาเริ่มบำรุงกันต่อ ใช้น้ำตบของ BIOTHERM ราคาประมาณ 2000 เท่าไหร่ไม่แน่ใจ

ตัวนี้เป็นขวดที่ 2 แล้ว และกำลังจะหมดขวดอีกแล้ว

จริงๆ ตอนใช้ขวดแรกหมด มันดีเลย คือผิวมีความอิ่มฟูขึ้น ผิวรู้สึกชุ่มชื่น มีความกระจ่างใส

แต่ก็แอบนอกใจไปใช้ของแบรนด์อื่น SKII, L’Oreal, ฮาดะลาโบะ

 แต่สำหรับเราไม่ค่อยเห็นความเปลี่ยนแปลงเท่าไหร่ เลยกลับมาใช้ตัวเดิม และคงไม่เปลี่ยนใจแล้ว

#5 : เซรั่ม : รูขุมขนเล็กกระชับไวมาก ผิวละเอียดขึ้นเยอะ

สำหรับ SENSILIS ตัวนี้คือแบบที่สุดของการบำรุงผิวเลยจริงๆ

โดนป้ายยาจากเพจ noon.jrw เพราะว่าน้องเจ้าของเพจนางมีความหน้าเนียนละเอียดใสมากกกกกกกก

เกิดจากการที่เจ้าตัวใช้แล้ว มันเห็นผลจริง น้องเลยเอามาแนะนำและพรีขายเองด้วย

 ราคาอาจจะแพงหน่อย แต่บอกเลยว่า โคตรคุ้มมมมม เป็นตัวที่น่าลงทุนซื้อมาก

ตัวนี้ราคาประมาณ 2,700 บาท ในหนึ่งกล่องจะมีมาให้ 30 หลอด คือสามารถแบ่งใช้ทั้งเช้าเย็น 

เพราะว่าเนื้อเค้าเข้มข้นมากกก ทาได้ทั่วหน้าเลยแค่ครึ่งหลอด

ตัวนี้จะช่วยเรื่องของกระชับรูขุมขนแบบดีมากๆๆ มีช่วงหนึ่งคือเราซื้อเครื่องดูดสิวมา ดูดมันมาก

จนแบบรูขุมขนกว้างอะ บวกกับเวลาแต่งหน้าใช้แปรงเสียดสีผิวบ่อยๆทำให้เป็นรูขุมขนกว้างหน้าแก้ม

แต่หลังจากใช้ตัวนี้แค่ 1 อาทิตย์ รูขุมขนกระชับเล็กลงมากกก แบบมากกกกจริงๆ เห็นผลจริงๆ 

แล้วผิวรูสึกมีความละเอียดขึ้นเยอะมาก ผิวที่มีริ้วรอยคือมันก็ตื้นขึ้นแบบค่อนข้างชัดอะ

#6 : เซรั่ม : ลดความหมอง จุดด่างดำ ริ้วรอย พร้อมเพิ่มความสว่าง ขาวกระจ่างใสให้ผิวหน้า

สำหรับเซรั่มที่เราบำรุงผิว หลักๆจะใช้อยู่ทั้งหมด 3 ตัว คือ มีหน้าที่แตกต่างกันแบบชัดเจน

ตัวแรก LICORICE ROOT ช่วยในเรื่องลดความหมองคล้ำของผิวได้ดีมากกกก

 ผิวมีความขาวกระจ่างใส เห็นผลไวมาก 

ตัวนี้ก็โดนป้ายยาจากเพจน้องคนเดิมอีกแล้ว 555555 แต่มันช่วยได้จริงทุกคน

กลิ่นจะมีหอมคล้ายๆผลไม้รสเปรี้ยวๆนิดนึง เนื้อบางเบา ซึมไวมากก ผิวเนียนขึ้น

ตัวที่สองคือ  KIEHL’S CLEARY DARK SPOT SOLUTION

ตัวนี้คือดังจริง เรื่องลดพวกรอยจุดด่างดำได้ ตัวนี้เราจะใช้เฉพาะช่วงเช้าเท่านั้น เนื้อบางเบาซึมง่าย

แต่ถ้าเป็นตอนกลางคืนเราจะใช้อีกตัวนึง (แงงง แต่ของหมด ทิ้งไปลืมถ่ายไว้ยังไม่ได้ซื้อใหม่) 

ชื่อ YELLOW CREAM ใช้แค่นิดเดียวเท่านั้น ลดรอยดำไวมากกกกก เกินเรื่องเกินราวเวอร์

ขนาด 15 มล. ราคา 1990 บาท ใช้ได้นานมากกกกกกกก!

จริงๆ จุดรอยดำตามตัวก็สามารถใช้ได้เหมือนกันนะ หายไวมากกกกก

ตัวที่สามคือ KIEHL’S SUPER SERUM

ตัวนี้ช่วยเรื่องลดริ้วรอยค่อนข้างโอเค ริ้วรอยดูตื้นขึ้น เนื้อจะหนักกว่าเซรั่มสองตัวแรก เลยซึมช้ากว่า

ตัวนี้ราคา 2,430 บาท ใช้เช้าเย็น ได้นานเกือบสองเดือนเลย ใช้แค่นิดเดียวพอค่ะ 

#7 : โลชั่นบำรุงผิว : สร้างเกราะป้องกันผิวให้แข็งแรงขึ้น

ตัวนี้ได้มาพร้อมกับช่วงที่ซื้อโทนเนอร์ของ KIEHL’S เหมือนกัน 

คือ BA แนะนำว่าตัวนี้ 

KIEHL’S BREAKOUT CONTROL TARGETED BLEMISH TREATEMENT FACIAL LOTION

เป็นเนื้อโลชั่น ที่มีพวก SALICYLIC ACID ประมาณ 1.5% และวิตามินบี 3%

ช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้ผิวและช่วยลดพวกสิวเกิดใหม่ด้วย เราเลยซื้อมาใช้

เนื้อโลชั่นค่อนข้างบางเบานะ ทาแล้วซึมไวมาก

 ช่วงที่ผิวแพ้หนักๆ เราจะใช้ตัวนี้บำรุงอย่างเดียวเลย ไม่ใช้ตัวอื่น

ซึ่งมันก็คืนความแข็งแรงให้ผิวได้ค่อนข้างไวจริงๆ 

ตอนนี้ก็จะใช้ทาเป็นสกินแคร์ชั้นสุดท้ายก่อนทาครีมกันแดด

ราคาประมาณ 1700 บาท

#8: สลีปปิ้งมาส์ก : เพิ่มความชุ่มชื่นของผิว

จริงๆ ถึงจะเห็นว่ามีบำรุงเยอะแยะมากขนาดนี้ แต่เรื่องมาส์กหน้าบอกเลยว่าเป็นคนขี้เกียจสุดๆ

เราเลยจะไม่ชอบมาส์กหน้าด้วยแผ่นชีทเท่าไหร่

 เพราะว่ามันต้องรอเอาออก บางทีไหลลงคอ คอเหนียวเหนอะหนะอีก

แบมม์เลยจะชอบใช้พวก sleeping mask มากกว่า ทาแล้วคือนอนได้เลย

แบรนด์เดียวที่ใช้เลยคือของ LANEIGE

 จริงๆ ลองใช้ตัวสีฟ้ามาก่อน ตัวนั้นเนี่ยเน้นเรื่องของความชุ่มชื่นมากๆ

แต่ช่วงหลังที่แบบเป็นสิวบ่อยๆ ผิวมีแพ้ อ่อนแอบ้างบางที เราเลยเปลี่ยนมาใช้กระปุกเขียวแทนน

สูตร CICA SLEEPING MASK เนื้อมีความเข้มข้น เพราะฉะนั้นใช้นิดเดียวพอ ทาได้ทั่วหน้า

รู้สึกว่าตอนซื้อมา จะช่วงออกใหม่พอดี

 น่าจะประมาณ 1000 นิดๆ แต่ได้กระปุกใหญ่มากกก ใช้นานหลายเดือน

ส่วนอีกตัวนึง คือตอนแรกเนี่ยไม่เคยคิดจะบำรุงริมฝีปากเลย 

จนพักหลังเราเริ่มรู้สึกว่า ปากมันคล้ำลง เวลาทาลิปแมทท์คือเป็นคราบ ตกร่อง

 เราเลยอยากเติมความชุ่มชื่นให้ปากแทน

เพราะปกติคือจะไม่ทาลิปมันเท่าไหร่ พักหลังๆ คือไม่ทาเลยยยย 

เราเลยเลือกเป็น LIP SLEEPING MASK ทาก่อนนอนแทน ตัวนี้ก็ค่อนข้างดังและใช้ดีเหมือนกัน 

กระปุกเล็กก็พอ ราคาประมาณ 260 บาท (ตัวนี้ซื้อมาจาก Eve&Boy) 

รู้สึกปากชุ่มชื่นขึ้น นุ่มขึ้น เวลาทาลิปจะรู้สึกมันเต็มอิ่มมากกว่าปกติ เลิฟฟฟฟ!

สำหรับทั้ง 8 หมวดที่เอามารีวิว เน้นอีกที ขีดเส้นใต้ ว่า “ใช้จริง และเห็นผลจริง ดีทุกตัว”

บางตัวราคาถูกแต่ประสิทธิภาพคือเทียบกับเคาท์เตอร์แบรนด์หลายๆตัวได้เลย

ส่วนบางตัวถึงจะมีราคาแพงไปบ้าง 

แต่เทียบกับความคุ้มค่าที่กลับมาบอกเลยว่าถูกกว่าไปคลินิกเยอะค่ะ 5555

ยังไง ใครใช้ตัวไหนเหมือนกัน ก็เอามาแชร์กันได้นะค้า <3