“ผมสวยจังเลย” หะหรือ หะหรือว่าเป็นเพราะ Aveda Botanical Repair เปลี่ยนผมเสียกลายเป็นผมสวย!! | KoiOnusa
Koionusa
61
12
Jeban x aveda
ได้ยินคนชมว่าผมสวยมา 3 ครั้งภายในสัปดาห์ที่ผ่านมา!! เห้ยยยยยย.....ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ ละสำหรับคอลเลคชั่นแชมพูฟื้นฟูผมเสียของ Aveda สูตร Botanical Repair ทั้งๆ ที่เป็นคนใช้เครื่องหนีบผมทำร้ายเส้นผมบ่อยๆ แต่ยังคงได้รับคำชมจากคนรอบข้าง
เล่าให้ฟังก่อนว่า ก้อยเป็นคนที่ใช้ความร้อนกับเส้นผมบ่อยมาก ชอบใช้เครื่องหนีบผมมาหนีบผมให้ตรงบ้าง ม้วนผมให้เป็นลอนบ้าง เรียกได้ว่าทำร้ายเส้นผมกันเป็นว่าเล่น
และล่าสุดก้อยก็ไปทำสีผมมาเพิ่มเติม จึงทำให้ผมของก้อยค่อนข้างแห้งเสียมากถึงมากที่สุด โดยเฉพาะส่วนปลายผม เพราะชี้ฟู กรอบแห้ง ดูสุขภาพผมไม่ดีเอาซะเลย
โชคดีของก้อยที่มีโอกาสได้ลองใช้ผลิตภัณฑ์ Aveda Botanical Repair ทั้งคอลเลคชั่น สูตรนี้เป็นสูตรฟื้นฟูเส้นผมที่แห้งเสีย เหมาะสำหรับคนที่ใช้ความร้อนและสารเคมีกับเส้นผมบ่อยๆ แบบก้อยเลย คอลเลคชั่นนี้มีส่วนผสมที่พัฒนามาจากธรรมชาติสูงถึง 93% ช่วยบำรุงเส้นผมให้กลับมาดูสวยสุขภาพดี โดยที่ส่วนผสมหลักๆ คือ ถั่วดาอินคา อะโวคาโด มะพร้าวและชาเขียว ซึ่งเค้าจะตรงเข้าไปเป็นเกราะป้องกันเส้นผมจากปัญหาผมต่างๆ เช่น ผมแตกปลาย และช่วยแก้ปัญหาเกล็ดผมที่แห้งแตกให้กลับมาเรียบลื่นขึ้น
Aveda Botanical Repair มีพลังฟื้นฟูผมเสียได้ถึง 3 ระดับนั่นคือ
1. ฟื้นบำรุงผม คือการช่วยเสริมความแข็งแรงให้กับเส้นผม
2. ปกป้องเกล็ดผม คือการแก้ปัญหาเกล็ดผมที่แห้งแตกให้กลับมาเรียบลื่น และป้องกันปัญหาผมแตกปลาย
3. ปกป้องเส้นผมชั้นนอก คือการสร้างเกาะกำบังเส้นผมเพื่อป้องกันเส้นผมเสียหายในอนาคต
ซึ่งในคอลเลคชั่นนี้มีผลิตภัณฑ์ฟื้นบำรุงผมเสียอยู่ทั้งหมด 5 อย่างด้วยกัน นั่นคือ
1. แชมพู
2. คอนดิชั่นเนอร์
3. มาส์กบำรุงผม (มี 2 สูตร คือสูตรบางเบา และสูตรเข้มข้น)
4. ทรีทเมนท์บำรุงเส้นผมแบบไม่ต้องล้างออก
เราจะพาไปรู้จักกันทีละตัวนะ
Botanical Repair Strengthening Shampoo
ก้อยเริ่มต้นใช้แชมพูในการสระผมเพื่อทำความสะอาดเส้นผมและหนังศีรษะ กำจัดพวกสิ่งสกปรกและน้ำมันออกจากเส้นผม ซึ่งแชมพูตัวนี้กลิ่นหอมกำลังดี ได้กลิ่นแล้วรู้สึกผ่อนคลาย ไม่แรงมากจนเกินไป เรียกว่าหอมแบบอารมณ์ดีก็แล้วกัน
ซึ่งเนื้อของเค้าจะเป็นสีขาวขุ่นแบบนี้ ตอนสระผมก็จะมีฟองพอสมควร ล้างออกง่าย รู้สึกผมสะอาด เบาสบาย และก้อยรู้สึกว่าหลังล้างผมแล้ว แชมพูตัวนี้ยังช่วยให้ผมและหนังศีรษะชุ่มชื่นอยู่ในระดับนึง ไม่ได้ทำให้เส้นผมแห้งเอียดมากจนเกินไป
Botanical Repair Strengthening Conditioner
หลังจากสระผมเสร็จเรียบร้อย ก้อยจะชโลมด้วยครีมนวดผม ซึ่งจะลงแต่บริเวณกึ่งกลางเส้นผมไล่ลงมาบริเวณปลายเส้นผม เพื่อลดปัญหาผมแตกปลาย และเสริมให้ผมแข็งแรงขึ้น การใช้ครีมนวดจะช่วยให้เส้นผมนุ่มลื่น ไม่พันกันด้วย
ซึ่งครีมนวดตัวนี้เค้าช่วยให้ผมนุ่มขึ้นจริงๆ ทำให้เส้นผมของเราลื่นขึ้น ไม่พันกันเป็นสังกะตัง ที่สำคัญคือล้างออกง่าย รู้สึกเส้นผมสะอาด ไม่มีครีมนวดตกค้างเหมือนหลายแบรนด์ที่เคยลองใช้มา
Botanical Repair Intensive Strengthening Masque - Rich
วันไหนที่ก้อยอยากบำรุงเยอะหน่อย ก็จะใช้มาส์กแทนครีมนวดผมไปเลย เพื่อฟื้นฟูผมเสียแห้งแตกปลายของก้อย ซึ่งสำหรับในไลน์ผลิตภัณฑ์ Botanical Repair ของ Aveda นี้ เค้าจะมีมาส์กด้วยกัน 2 สูตร นั่นคือสูตรบางเบาที่เหมาะกับผมเส้นเล็กถึงปานกลาง หรืออาจจะมีปัญหาผมเสียไม่มาก แต่สำหรับก้อยนั้น ก้อยใช้สูตรเข้มข้นค่ะ เป็นสูตรที่เหมาะกับสภาพเส้นผมที่เสียค่อนข้างมาก ผมเส้นปานกลางจนถึงผมเส้นใหญ่และหนาแบบก้อย
สูตรเข้มข้นนี้เค้าจะมีส่วนผสมของเนยและน้ำมันจากธรรมชาติเข้มข้นกว่าสูตรบางเบา เค้าจะเข้ามาช่วยฟื้นบำรุงผมเสีย และเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับเส้นผม ช่วยให้ผมนุ่มสลวยเงางามมีน้ำหนัก เรียกได้ว่าเป็นหมัดเด็ดของการบำรุงผมเสียแบบล้ำลึกเลย เนื้อมาส์กตัวนี้คล้ายๆ เนื้อของขนมพานาคอตต้า เป็นมาส์กเนื้อเด้งๆ ไม่ค่อยเหลวหรือจับตัวเป็นก้อน เหมือนมาส์กผมตัวอื่นๆ ซึ่งตัวนี้ก้อยมักจะหมักประมาณ 3-4 ครั้งต่ออาทิตย์ เรียกว่าแทบจะใช้วันเว้นวัน ก้อยมาส์กตั้งแต่เกือบโคนหนังศีรษะไล่ลงมาจนปลายเส้นผม และเน้นมาส์กบริเวณปลายผมหนักๆ นวดให้ผลิตภัณฑ์ซึมเข้าเส้นผมได้มากที่สุด ทิ้งไว้ 10 นาทีแล้วค่อยล้างออก
Botanical Repair Leave in Treatment
ตัวสุดท้ายนี้เป็นทรีทเม้นท์แบบไม่ต้องล้างออกที่ช่วยปกป้องผมจากการถูกทำลาย โดยเฉพาะการถูกทำลายจากความร้อน ไม่ว่าจะเป็นจากเครื่องทำผม หรือจากแสงแดด เค้าจะช่วยเสริมให้ผมแข็งแรง ลดการแตกปลายของเส้นผม เสมือนเป็นเกราะป้องกันความร้อนให้กับเส้นผมนั่นเอง
ซึ่งตัวนี้ก้อยจะใช้หลังอาบน้ำแต่งตัวเสร็จและเช็ดผมให้หมาดๆ แล้ว จึงชโลมเจ้าตัวนี้เข้ากับเส้นผมโดยไม่ต้องล้างออกก่อนจะเป่า หรือจัดแต่งทรงผม ยิ่งถ้าเราใช้เครื่องทำผมบ่อยๆ ก้อยว่าตัวนี้ยิ่งสำคัญ เพราะเค้าช่วยปกป้องเส้นผมที่แห้งเสียจากการโดนความร้อนได้ถึง 230 องศา แถมช่วยป้องกันความร้อนจากแสงแดดพวก UVA ได้ด้วย ที่ชอบอีกอย่างคือเนื้อผลิตภัณฑ์ตัวนี้ไม่หนัก ไม่เหนียว ไม่รู้สึกหนืดๆ หรือไม่ทำให้เส้นผมดูมันเลย เมื่อผมแห้งแล้วรู้สึกเบาสบาย ผมปลิวสลวยสบายแฮ่!!!
และหลังจากที่ก้อยได้ทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ของเค้าอย่างเต็มรูปแบบมาประมาณ 2-3 สัปดาห์ สระผม 3-4 ครั้งต่อสัปดาห์ เรียกได้ว่าสระผมค่อนข้างบ่อยมากกว่าปกติ เพื่อดูความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ทำให้เราได้เห็นจริงๆ ว่าเส้นผมของเรามันดูดี มีน้ำหนักขึ้น ดูเงางามกว่าที่เคยเป็น
โดยเฉพาะบริเวณปลายเส้นผม ยิ่งเห็นได้ชัด
และอีกสิ่งหนึ่งที่ตอกย้ำได้จริงๆ ว่าผมเราดูดี ดูแข็งแรงและสลวยเงางามขึ้น ทั้งๆ ที่เราใช้ความร้อนกับเส้นผมอย่างหนัก นั่นคือ มีคนทักว่าผมสวยถี่มาก ขนาดเข้าร้านซาลอน คนไดร์ผมให้ก้อยยังบอกว่าผมแข็งแรงมาก ทั้งๆ ที่ก่อนนี้ก้อยเพิ่งทำสีมาด้วยนะ
ก็ถือได้ว่าก้อยค่อนข้างพึงพอใจกับ Aveda Botanical Repair นี้มากๆ เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงได้ชัดเจนจากปากของคนรอบข้าง อาจจะเป็นเพราะว่าก้อยหมั่นใช้ หมั่นบำรุง และใช้ทุกอย่างในไลน์นี้แบบครบเต็มสตรีม ก็แหงละ!!! คนมันเคยผมเสียมาแล้ว ถ้าอยากจะผมสวยบ้างก็คงจะไม่แปลก เพราะ ”เรื่องของผม” ก็สร้างบุคลิกของตัวบุคคลแต่ละคนได้ไม่แพ้การแต่งตัวเและการแต่งหน้าเลย ใครสนใจก็แวะไปลองไปช้อปกันได้ที่ Aveda Experience Center ทุกสาขา ที่ห้างสรรพสินค้า, Sephora , Eveandboy และ KIS สามารถค้นหาสาขาได้ที่ https://m.aveda.co.th/locations และซื้อออนไลน์ ได้ที่ central.co.th และ sephora.co.th