อุตสาหกรรมภาพยนตร์เอเชียคืนชีพ #SaveMovieTheaters 😢🎞🎥
Panchud Thammachat 45 5
สวัสดีค่ะ
ในฐานะคนดูหนังโรงและคนที่อยากทำงานในวงการภาพยนตร์ เรื่องนี้ทำให้เราอยากวาร์ปไปปี2021 หรืออยากฆ่าตัวตายประชดเหตุการณ์ที่แสนโสมมเช่นนี้
ในฐานะคนดูหนังโรงและคนที่อยากทำงานในวงการภาพยนตร์ เรื่องนี้ทำให้เราอยากวาร์ปไปปี2021 หรืออยากฆ่าตัวตายประชดเหตุการณ์ที่แสนโสมมเช่นนี้
เราได้ข่าวว่า คนทำภาพยนตร์หลายคน ออกมาเตือนสภาCongress ว่าอย่าแทรกแซงธุรกิจโรงภาพยนตร์
นี่มาถึงขั้นนี้แล้วเหรอที่คนอเมริกันไม่คิดอยากดูภาพยนตร์ในโรงหนังกันแล้วเหรอ
หรือติดสตรีมมิ่งจนลืมจอโรงภาพยนตร์แล้ว
หรือจุดจบของโรงภาพยนตร์ จะมาเร็วกว่าที่คิด
นี่มาถึงขั้นนี้แล้วเหรอที่คนอเมริกันไม่คิดอยากดูภาพยนตร์ในโรงหนังกันแล้วเหรอ
หรือติดสตรีมมิ่งจนลืมจอโรงภาพยนตร์แล้ว
หรือจุดจบของโรงภาพยนตร์ จะมาเร็วกว่าที่คิด
ลองหันมามองที่อุตสาหกรรมโรงภาพยนตร์ในเอเชีย โดยประเทศจีน ดินแดนแห่งกังฟูหลังจากสถานการณ์COVID-19 ดีขึ้น ก็ได้เปิดโรงภาพยนตร์อีกครั้งเมื่อเดือนกรกฎาคม หลังจากนั้น วงการภาพยนตร์ในจีนกลับมาฟื้นตัวภายใน2สัปดาห์ ด้วยเม็ดเงินมากกว่า1พันล้านหยวน
จนการมาของภาพยนตร์อิงประวัติศาสตร์เรื่องThe Eight Hundred(Ba Bai) ที่เข้าฉายเมื่อวันที่21 สิงหาคมที่ผ่านมา ก็ยิ่งทำให้ภาพยนตร์จีนทำรายได้เข้าประเทศมากขึ้นไปอีก ด้วยรายได้เปิดตัวสัปดาห์แรกมากถึง1พันล้านหยวน(116ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) จนถึงตอนนี้กลายเป็นภาพยนตร์ทำรายได้สูงสุดแห่งปี2020(ยังไม่หมดปีนะ) ด้วยรายได้450ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ล่าสุด ภาพยนตร์แอนิเมชั่นเรื่องJiang Ziya:Legend of Deification ซึ่งเป็นภาพยนตร์อิงตำนานเทพเจ้าจีนจากผู้สร้างภาพยนตร์แอนิเมชั่นเรื่องMonkey King:Hero is Back(2015) และNezha(2019) ทำรายได้ในช่วงวันชาติจีนมากกว่า100ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ด้านเกาหลีใต้ ผู้นำกระแสK-Popก็ไม่น้อยหน้า ก็ใช้เทคนิคขายตั๋วล่วงหน้าพร้อมกับหั่นราคาตั๋ว หลังจากประกาศเปิดโรงภาพยนตร์อีกครั้งเมื่อเดือนมิถุนายน ซึ่งภาพยนตร์เรื่อง#Alive ภาพยนตร์K-Zombieที่นำแสดงโดย พี่Yoo Ah-in และพี่Park Shin-hye ทำรายได้ในประเทศเกาหลีใต้ไปถึง13ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สามารถขายตั๋วล่วงหน้าถึง1,001,802 ใบ(มีให้ชมทางNetflix)
จนมีภาพยนตร์เกาหลีใต้2เรื่อง ที่ทำรายได้เกิน10ล้านดอลลาร์ตามมา ดังนี้
- Peninsula ภาคต่อของภาพยนตร์เรื่องTrain to Busan(2016) โดยภาพยนตร์เรื่องนี้ได้เสียงวิจารณ์ไปทางกลางๆ คือ สอบผ่านด้านซีนแอคชั่น แต่สอบตกด้านซีนดราม่า นำแสดงโดยพี่Gang Dong-won ทำรายได้ทั่วโลกไป35.9ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยรายได้หลักมาจากเกาหลีใต้
- Deliver us From Evil(Daman Akeseo Goohasoseo) ภาพยนตร์แอคชั่นสุดมันส์ ที่80% ของสถานที่ถ่ายทำในภาพยนตร์เรื่องนี้ ถ่ายทำที่ประเทศไทย นำแสดงโดย คุณHwang Jung-min และคุณLee Jung-jae ทำรายได้ไป24.1ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สามารถขายตั๋วล่วงหน้าไปถึง2.5ล้านใบ
ก็หวังว่า Space Sweeper ภาพยนตร์ไซไฟที่นำแสดงโดยพี่Song Joong-ki ซึ่งจะเข้าฉายปลายปีนี้ จะมาสร้างปรากฎการณ์มากกว่านี้นะคะ
ทางฝั่งญี่ปุ่น เจ้าแห่งการ์ตูนมังงะก็ได้เปิดโรงภาพยนตร์อีกครั้งเมื่อเดือนพฤษภาคม แต่ได้กู้หน้าจริงๆก็ช่วงเดือนกรกฎาคมค่ะ
ประการแรกก็คือ ภาพยนตร์เรื่องDoraemon the Movie:Nobita no Shin Kyouryou ภาพยนตร์แอนิเมชั่นจากตัวการ์ตูนขวัญใจคนญี่ปุ่นและทั่วโลก หลังจากเข้าฉายตั้งแต่วันที่7 สิงหาคม จนถึงตอนนี้ ก็ทำรายได้ไปทั้งหมด2.8พันล้านเยน(26ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) ซึ่งสำหรับคนญี่ปุ่นแล้ว เป็นรายได้ที่คุ้มทุนพอสมควร
ประการแรกก็คือ ภาพยนตร์เรื่องDoraemon the Movie:Nobita no Shin Kyouryou ภาพยนตร์แอนิเมชั่นจากตัวการ์ตูนขวัญใจคนญี่ปุ่นและทั่วโลก หลังจากเข้าฉายตั้งแต่วันที่7 สิงหาคม จนถึงตอนนี้ ก็ทำรายได้ไปทั้งหมด2.8พันล้านเยน(26ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) ซึ่งสำหรับคนญี่ปุ่นแล้ว เป็นรายได้ที่คุ้มทุนพอสมควร
ประการที่2คือ ภาพยนตร์ปิดไตรภาคของFate/Stay Night รูทHeaven's Feel ในชื่อว่าFate/Stay Night : Heaven's Feel III[Spring Song] ที่หลังจากเลื่อนวันฉายไป2รอบจนมาลงตัวในวันที่15 สิงหาคม ก็ทำรายได้ไปมากกว่า1พันล้านเยน จากแฟนๆอะนิเมะซีรีส์Fate ทั่วญี่ปุ่น
ประการที่3คือ ภาพยนตร์ที่ต่อยอดจากทีวีซีรีส์ชื่อดัง และฉบับคนแสดงดัดแปลงจากมังงะ ก็ถูกอกถูกใจแฟนๆ จนทำรายได้เป็นกอบเป็นกำ และขึ้นBox Officeเป็นอันดับต้นๆ ดังนี้
- The Confident Man JP:Princess hen ภาพยนตร์เรื่องที่2ที่ต่อยอดจากความสำเร็จของซีรีส์ตลก-โจรกรรมสุดฮิตเมื่อปี2018 นำแสดงโดย พี่Masami Nagasawa,พี่Masahiro Higashide และลุงFumiyo Kohinata เข้าฉายไปเมื่อวันที่23 กรกฎาคม ก็ขึ้นBox Officeเป็นอันดับ2 นาน2สัปดาห์
- Kyo Kara Ore wa! ภาพยนตร์ตลกที่ดัดแปลงจากมังงะ หลังจากเข้าฉายเมื่อวันที่17 กรกฎาคม ด้วยมุกตลกสุดคลาสสิคที่ดูได้ทุกเพศทุกวัย บวกกับอินเนอร์ของเหล่านักแสดงที่แสดงได้เวอร์จนไม่ห่วงความหล่อความสวย จึงได้ขึ้นBox Office อันดับ1 นาน3สัปดาห์
แต่ ประเทศอินเดียเพิ่งเปิดโรงภาพยนตร์อีกครั้งเมื่อวันที่1ตุลาคมที่ผ่านมา ท่ามกลางสถานการณ์COVID-19 ที่ยังไม่ดีขึ้น บวกกับเรื่องฉาวๆในวงการBollywood จนชาวทวิตเตอร์ตั้ง#BoycottBollywood และวิจารณ์อย่างเผ็ดร้อน
ซึ่งสาเหตุที่อุตสาหกรรมภาพยนตร์ฝั่งเอเชียฟื้นตัวเร็วกว่าฝั่งยุโรป,อเมริกาเหนือ,อเมริกาใต้ และแถบโอเชียเนีย ในช่วงการระบาดของไวรัสCOVID-19 มาจากการเข้มงวดระหว่างเจ้าของกิจการ,พนักงาน และลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ ใช้มาตรการแบบ"วิถีชีวิตใหม่"แบบเข้มข้นและเข้าถึง ทำให้ลูกค้าที่มาใช้บริการในโรงภาพยนตร์รู้สึกสบายใจ
ชาติตะวันตกควรเอาวิธีแบบชาติเอเชียเป็นแบบอย่าง ดีกว่าไปโทษกันไปมา เหยียดกันไปมาจนสถานการณ์แย่ลง ถ้าอยากให้โรงภาพยนตร์อยู่รอดไปอีก100ปี
นี่คือบทความที่เราอยากให้ชาวจีบันอ่าน เพื่ออุดหนุนโรงภาพยนตร์ให้ควบคู่กับการดูภาพยนตร์ทางสตรีมมิ่ง แล้วพบกันใหม่ค่ะ Bye.
นี่คือบทความที่เราอยากให้ชาวจีบันอ่าน เพื่ออุดหนุนโรงภาพยนตร์ให้ควบคู่กับการดูภาพยนตร์ทางสตรีมมิ่ง แล้วพบกันใหม่ค่ะ Bye.