จริงหรือที่ Johnny Depp จะไร้ที่ยืนในวงการแสดง

51 9
หลังจาก Johnny Depp พ่ายแพ้ให้กับ The Sun  จากคดีฟ้องร้องหมิ่นประมาท    นอกจากสื่อแทบลอยชื่อดังสามารถเรียกเขาว่า Wife Beater  ในหัวข้อข่าว gossip เพื่อตอกย้ำชัยชนะแล้ว    ไม่กี่วันต่อมา  พระเอกหนุ่มใหญ่ก็เปิดเผยว่าค่ายหนัง Warner Bros. ได้ "ขอ" ให้เขาถอนตัวจากหนังตระกูล Fantastic Beasts   อันเป็นประวัติศาสตร์ที่ซ้ำรอยกับ การถูกไล่ออกจาก  Pirates of the Caribbean





ทั้งทนาย นักประชาสัมพันธ์ รวมไปถึงนักข่าวจากสื่อโด่งดังต่างวิเคราะห์เรื่องอนาคตของ JD ไว้หลากหลายแง่มุม รวมไปถึงความเห็นของทนายดังจากอังกฤษที่เชื่อมั่นว่า หากเขาพิสูจน์ตัวเองด้วยการรับบำบัด ก็คงไร้ที่ยืนในวงการหนัง Hollywood


และนั่นก็ได้จุดกระแสคำถามว่าความรุ่งโรจน์ในอาชีพนักแสดงของเขาจะดับสิ้นลงแล้วจริงหรือ?




ความพ่ายแพ้จากศาลประเทศอังกฤษ


ผู้พิพากษาเชื่อถือในพยานหลักฐานจาก Amber Heard และให้ความเห็นยอมรับว่า JD ได้ทำร้ายร่างกายอดีตภรรยา 12 ครั้งจากที่เธอระบุว่าถูกทำร้าย 14 ครั้ง ส่วนผู้พิพากษาตัดอีก 2 เหตุการณ์ออกไป แต่ก็ไม่ได้ชี้ว่า เธอให้การเท็จใน2 เรื่องนั้น

ส่วนการตัดสินว่า พระเอกดังได้ทำร้ายร่างกายภรรยาถึง 12  ครั้ง  มาจากการชั่งน้ำหนักในความเป็นไปได้ตามมาตรฐานการพิสูจน์ทางแพ่ง


หลังจากที่มีการเปิดเผยคำตัดสินคดีนี้ออกมา เสียงตอบรับจากสังคมได้แบ่งเป็นฝักฝ่าย มีทั้งเสียงที่แสดงความยินดีกับนางเอกสาวสวยที่ต่อสู้เพื่อความเป็นธรรม หลังจากที่เธอเคยเปิดเผยว่า อดีตสามีใช้บารมีพระเอกระดับ top star ตัวเอง บีบให้เธอกระเด็นจากงานที่วาดหวังไว้


แต่เสียงอีกฝั่งหนึ่ง คือกลุ่มfanclub ของ JD ที่ร่วมกันต่อต้านคำตัดสินอันนี้ ชาวเน็ทจำนวนมากแสดงความค้างคาใจถึงหลักฐานของนางเอกที่ถูกระบุว่าเป็นเหยื่อความรุนแรงจากน้ำมือไอดอลที่พวกเค้าชื่นชม และตั้งคำถามเกี่ยวกับการตัดสิน ที่แม้ทีมกฎหมายของ JD จะนำพยานหลักฐานต่างๆมาโต้แย้ง แต่ก็ดูไม่มีน้ำหนักในสายตาผู้รักษาความยุติธรรม

ความไม่พอใจของแฟนๆ JD  ได้บานปลายออกไปเป็นความอาฆาตแค้น   บางคนสาปแช่งให้เธอตายๆไปซะ   บ้างก็พาดพิงไปถึงแม่ที่เพิ่งจากโลกนี้ไปว่า   วิญญาณของแม่เธอคงละอายแก่ใจที่ได้รู้พฤติกรรมของลูกสาว


ผู้พิพากษายืนยัน  Johnny Depp ทำผิดจริง
ผุ้พิพากษา Andrew Nicol  ได้ชี้ถึงประเด็นสำคัญที่ทำให้เขาเชื่อมั่นทางฝ่าย Amber   โดยมีเหตุการณ์ความรุนแรงที่ Australia   เขาไม่เห็นด้วยว่า   Amber  เป็นผู้ก่อความผิดจนต้องรับผิดชอบอาการบาดเจ็บของ JD ที่ปลายนิ้วถูกของมีคมเฉือนขาด

" หลังจากที่ได้รวบรวมหลักฐานเข้าด้วยกันแล้ว ศาลเห็นด้วยว่าเธอเป็นเหยื่อจากความรุนแรงจากคุณ Depp ที่ใช้ยาเสพติดใน Australia"


"สิ่งที่แสดงของโทสะของเขาคือการใช้เลือดจากนิ้วที่บาดเจ็บเขียนgraffiti ไม่เพียงเท่านั้น เขายังจุ่มนิ้วที่บาดเจ็บอย่างรุนแรงลงไปในสีเพื่อเขียนข้อความและทำสิ่งอื่นๆ"


"ศาลยอมรับหลักฐานว่าเธอถูกเขากระทำด้วยความรุนแรง พวกเค้าต้องพบกับความประหวั่นพรั่นพรึง ศาลเห็นด้วยว่าคุณ Depp ทำให้เธอตกอยู่ความหวาดกลัวว่าจะถึงแก่ชีวิต"









highlight หนึ่งจากผู้พิพาษาคือ ข้อความที่ถูกระบุว่า JD ได้ส่งถึงเพื่อนว่า Amber

"อยากจะได้รับความอับอายขายขี้หน้าไปทั่วโลก แล้วเธอก็จะได้รับมัน" พร้อมกับเรียกเธอว่านักขุดทอง

ผู้พิพากษายังเห็นค้านต่อข้อกล่าวหาว่านางเอกสาวเป็นนักขุดทองมีเจตนาหลอกลวงเพื่อเรียกเงินว่า ไม่ใช่เรื่องถูกต้องที่จะบรรบายลักษณะให้เธอเป็นเช่นนั้น และยังไม่เชื่อถือว่า คำกล่าวอ้างของ JD เรื่องที่ถูก Amber หรือเพื่อนของเธอกลั่นแกล้งด้วยการขับถ่ายของเสียใส่เตียงของเขาจะเป็นเรื่องจริง

ผู้พิพากษาได้สรุปผลการตัดสินว่า JD ไม่สามารถฟ้องร้อง The Sun ที่เปรียบเทียบว่าเขาเป็น wife beater ได้ เพราะคำพูดนั้นมีมูลความจริงเพียงพอ


ในตอนนี้ ไม่ได้มีแต่ The Sun เท่านั้นที่เรียกเขาว่า Wife Beater แต่สื่อกอสสิปเจ้าอื่นๆก็ร่วมวงด้วยเช่นกัน

แม้ว่าตัวแทนของ JK Rowling จะเข้าร่วมฟังการไต่สวนและคำตัดสินใกล้กับฝ่าย JD ซึ่งดูจะเป็นการแสดงออกว่า  เธอยังสนับสนุนให้ JD วาดลวยลายการแสดงในบท Grindelwald ต่อไป   แต่เมื่อกระแสต่อต้านที่ทวีสูงขึ้นเรื่อยๆ    ผู้บริหาร Warner Bros ก็ต้องลงมติบีบให้ JD  ถอนตัวจาก franchise  หนังดัง   แต่ก็ตามมาด้วยเสียงวิจารณ์อื้ออึงว่า   หากหนังจะวุ่นวายมากถึงขนาดนี้  ก็ควรจะพับโครงการสร้างไปซะ   เพราะแม้ว่าการถอด JD ออกจากบทนำ   แม้จะเป็น move ที่ตรงใจกับแฟนหนังที่ต่อต้านเขาจากข้อกล่าวหาเรื่องความรุนแรงในครอบครัว    แต่ยังมีคนอีกจำนวนมากที่ยืนหยัดเชื่อมั่นว่าเขาเป็นผู้บริสุทธิ์ที่ถูกใส่ร้าย  และจะเหลียวแลหนังเรื่องนี้อีกหากไม่มี JD ในบทGrindelwald 

ทนายชั้นนำจากอังกฤษซัด   :  Johnny Depp จะหางานจากวงการ Hollywood  ไม่ได้อีก


Mark Stephens ทนายที่สร้างชื่อเสียงจากการว่าความให้กับคนดังและผยู่ในบอร์ดบริหารระดับสูงได้วิจารณ์พระเอกดังอย่างเผ็ดร้อนว่า วลี "คนตีเมีย" จะติดตัวเขาไปจนถึงป้ายหลุมศพ!

"ผูพิพากษาเชื่อว่า เขาเป็นขี้เมาที่มีปัญหาติดยางอมแงม นั่นไม่ใช่ภาพลักษณ์ที่เข้ากับ Disney, JK Rowling หรือว่าจะเป็นใครก็ตาม พวกเค้าเหล่านั้นจะต้องเลี่ยงความเสี่ยงไปก่อน และสามารถอ้างได้ว่า เมื่อนักแสดงกลายเป็นพวกที่มีข้อด่างพร้อยในเรื่องศีลธรรมจรรยา ก็สามารถตัดหางปล่อยวัดจากผลงานหนังต่างๆที่เคยติดต่อให้เขามารับแสดง"

" นอกเหนือไปจากว่า Depp จะเข้ารับการบำบัดและหาความช่วยเหลือที่เขาควรจะได้รับ เขาไม่มีทางหางานใน Hollywood ได้"






ทนายจาก firm ดังได้ชี้ว่า  การเดินเกมจากทีมกฎหมายของ JD ที่พยายามจะแสดงให้สังคมเห็นว่า Amber คือหญิงหลายใจที่หลอกใช้สามีวัยกลางคนนั้นมีความเสี่ยง  เพราะเหตุการณ์ทำร้ายร่างกายผู้หญิงจำนวนมากจะเกิดขึ้นมาจากความหึงหวงและข้อกล่าวหาว่าฝ่ายหญิงนอกใจ    และนั่นอาจจะทำให้ผู้พิพากษายิ่งปักใจว่า   JD โกรธแค้นที่ Amber แอบนัดพบกับชายอื่นจนลงไม้ลงมือกับเธอหลายโอกาส  

ส่วนเรื่องการตั้งฉายาว่านักขุดทองนั้น หากมองอย่างเป็นกลาง เธอเป็นนักแสดงหญิงที่สามารถหาเลี้ยงตัวเองได้ และยังแสดงให้เห็นว่าเธอไม่ได้ใช้ข้อกล่าวหาเรื่อง
ถูกทำร้ายมาเรียกเงินก้อนโตเข้ากระเป๋าตัวเอง เพราะเชื่อว่าเงินจากการหย่าหลายล้านเหรียญไม่บริสุทธิ์จนเต็มใจบริจาคเงินให้กับการกุศลไปหมด


Mark Borkowski   กูรูแห่งวงการ PR อังกฤษชี้ว่า  ความพ่ายแพ้จากการต่อสู้ทางกฎหมายครั้งนี้ ถือเป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งของคนบันเทิง   และมันกลายเป็นตราบาปที่ไม่สามารถลบเลือนออกไปจากตัวพระเอกหนุ่มใหญ่   เขาทำให้ Amber ดูเหมือนผู้สละชีพเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม  แต่แบรนด์ของเขาอยู่เฉียดกับปากหุบเหว และจากภาพของพระเอกแสนดีก็กลายมาเป็นคนร้ายที่ทารุณภรรยา

อย่างไรก็ตาม เขาได้ให้ความเห็นว่า แฟนๆผู้ภักดีต่อ JD อาจจะเป็นส่วนช่วยสำคัญเพื่อให้เขากลับหวนคืนสู่ความสำเร็จในอาชีพได้อีกครั้ง

" พวกเค้าจะไม่ยอมรับการพิพากษาครั้งนี้ หากคุณมีผู้สนับสนุนที่หนักแน่นมั่นคง คุณสามารถสร้างตัวเองขึ้นมาใหม่ได้"





นอกจากนั้น ยังมีการตั้งข้อสังเกตว่า มีคนดังที่ต้องคดีทำร้ายร่างกายผู้หญิงที่กลับมาประสบความสำเร็จได้ อย่าง Chris Brown , Ryan Phillippe และ Mel Gibson

Steven Gaydos executive editor แห่ง Variety วิจารณ์ว่า การตัดสินใจเพื่อต่อสู้ทางกฎหมายนี้สร้างข้อโต้แย้งในสังคม แต่ยังไม่สรุปให้เห็นอย่างกระจ่างชัด เขาเชื่อว่าเรื่องนี้จะไม่ทำให้ JD ถูก cancel ไปจากวงการ แต่ก็สร้างความเสียหายใหญ่หลวง ส่วน Dennis Davidson ผู้ก่อตั้งPR firm ชื่อดังก็ได้ให้ความเห็นสอดคล้องกันว่า แม้ JD จะเผชิญกับความยากลำบาก แต่เขาจะได้รับความเห็นใจจากทั่วทิศ








JD ยังไม่ยุติการต่อสู้เพื่อพิสูจน์ว่าตนเป็นผู้บริสุทธิ์ ทั้งการฟ้องอดีตภรรยาข้อหาหมิ่นประมาทที่อเมริกาและการเดินหน้ายื่นอุทธรณ์ที่อังกฤษหลังจากที่พ่ายแพ้ต่อ The Sun ท่ามกลางสายตาที่จับจ้องความเคลื่อนไหวหลังจากต้องสูญเสียบทนำในหนัง fantastic Beasts ไป เขายังต้องทุ่มเงินให้กับทีมกฏหมายที่ยิ่งนานวันก็ยิ่งมีค่าใช้จ่ายบานปลาย และในตอนนี้ ก็ยังไม่มีใครยืนยันได้ว่า เหล่านักสร้างหนังจะเดิมพันกับความเสี่ยงเพื่อเรียกตัวเขามาแสดงหนังอีกหรือไม่ หรือว่าเขาจะหันมาแสดงหนังอินดี้ทุนต่ำในระหว่างที่ยังถูกโจมตี ที่แน่ๆ เขาได้ประกาศเจตนารมณ์ไว้แล้วว่า ยิ่งได้ต่อสู้ในสงครามที่สาหัสสากรรจ์มาเท่าไร ชัยชนะก็จะยิ่งใหญ่มากขึ้น



เชื่อว่า ผู้คนมากมายคงอยากให้ผลการตัดสินคดีในอเมริกาสร้างข้อสรุปที่กระจ่างชัดและเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย
แล้วคุณผู้อ่านล่ะคะ ความรู้สึกที่มีต่อการตัดสินคดีที่อังกฤษเป็นเช่นไรบ้าง?



The End


candy

candy

ติดตาม Mouth On The Web แล้วอย่าลืม Mouth On The Face นะคะ ^ ^

FULL PROFILE