เมื่อแฟนคลับก้าวก่ายความสัมพันธ์ของคนดัง

52 10
เส้นทางอันเจิดจรัสของศิลปินชื่อดังในวงการบันเทิงนั้นก่อร่างสร้างตัวมาจากความรักจากแฟนๆจำนวนมากมาย   แต่ภายใต้เส้นทางความรัก ก็ยังเต็มไปด้วยความหวงแหนจนกลายเป็นความเกลียดชังคนที่ก้าวเข้ามาใกล้ชิลศิลปินที่พวกเค้าคลั่งไคล้    บางคนใช้คำว่ารักเป็นข้ออ้างในการคุกคามบุคคลที่เป็นเป้าหมายจนได้รับความเสียหายทางจิตใจ



Justin Bieber   ถึงกับจิตตกเมื่อแฟน Selena ประกาศปลุกระดมคนให้มาbully ภรรยา



" เราต้องช่วยกันรุมถล่มนังคนทีมายุ่งกับ Jelena และประกาศว่า Jelena ดีกว่ามันยังไง  พวกเราทุกคนต้องช่วยกันจัดการนังนั่นนะ"  
  แฟนเดนตายของ Jelena (่Justin + Selena) ประกาสผ่าน social media  และนี่อาจจะทำให้คุณงงงันถึงความยึดติดของคนรุ่นใหม่ที่หวงแหนไอดอลยิ่งกว่าคนในครอบครัวซะอีก

 "แฟนคลับระดับเดนตาย"  เป็นสิ่งที่ไอดอลหลายคนต้องรับมือมาแล้ว     บางคนไม่แบ่งเส้นเรื่องชีวิตส่วนตัวไอดอลไม่พอ ยังพาลไปทำร้ายคนรักของเค้า   อย่างแฟน Selena Gomez คนนี้ที่แม้จะรู้ทั้งรู้ว่าฝ่ายชายก็มีสถานะสามีของคนอื่นและยืนยันชัดเจนว่า มีความสุขในชีวิตคู่อย่างไม่เคยรู้สึกมาก่อน    แต่เธอคนนี้ก็ยังประกาศให้แฟน Jelena ทุกคน " ไปถล่มนังนี่กัน!"

ใช่แล้วค่ะ Hailey Bieber ได้ตกเป็นเป้าหมายของเหล่าแฟน Jelena อีกครั้ง แม้ว่าไอดอลที่พวกเค้าคลั่งไคล้จะเลิกรากัน (แบบจบไม่สวย) มานานกว่าสองปีแล้ว แต่สำหรับบางคน มันอาจจะยากเย็นเหลือเกินที่จะยอมรับว่า ชีวิตจริงไม่ใช่หนัง romantic comedy ที่แฟนเก่าที่รักๆเลิกๆกันตอนเป็นวัยรุ่นจะหวนคืนกลับมามีความสุขแบบ ever after แต่แท้จริงแล้ว พวกเค้าอาจจะเรียนรู้ในที่สุดว่า ไม่สามารถมีความสัมพันธ์แบบ toxic ได้อีกต่อไปและ move on ในที่สุด


ในเมื่อแฟนคลับไม่ move on ไอดอลมีสิทธิ์ move on รึเปล่า


Justin รู้สึกอย่างไรกับเรื่องนี้ ?


"คนๆนี้ได้ชักชวนคนอื่นให้มาไล่ล่าทำลายภรรยาของผมด้วยข้ออ้างที่น่าสมเพชว่าความสัมพันธ์ครั้งก่อนของผมนั้นดียิ่งกว่า ที่ผมปชร์เรื่องนี้ก็เพื่อให้ทุกคนรู้ว่าพวกเราต้องเจอกับเรื่องอะไรบ้างทุกๆวันนี้"

"การเลือกว่าจะก้าวไปยังเส้นทางใดต่อไปนั้นช่างยากเย็น เมื่อได้เห็นว่ามีคนพยายามรวมตัวกันเพื่อทำร้ายคนที่ผมรักที่สุดในโลก มันไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้อง"


"หลังจากผมได้ดูวีดีโอนั่นแล้ว ผมอาจจะปล่อยให้มันทำลายความสุขของตัวเองไปได้ง่ายๆ แต่พอผมได้คิดได้ว่าชีวิตของเธอคนนั้นจะน่าสังเวชเพียงใดเมื่อต้องใช้ชีวิตอู่ด้วยการทำให้คนอื่นรู้สึกต้อยต่ำ ก็ทำให้รู้ว่าเธอต่างหากที่เป็นฝ่ายเสียชาติเกิด!"
แม้จะมีรายงานจากสื่อตรงกันว่า  Hailey เป็นคนสำคัญที่ทำให้ Justin ถอนตัวจากยาเสพติด และพฤติกรรมเจ้าปัญหาต่างๆที่สร้างความฉาวโฉ่ในอดีต  และยังคอยสนับสนุนให้เขาต่อสู้กับความเจ็บป่วยทางจิตจนกลับมามีความสุขได้อีกครั้ง  แต่แฟนคลับ Jelena หลายคนพยายามยัดเยียดภาพสาวจอมตามตื๊อที่คลั่งคู่ Jelena มากและพยายามทำลายความรักของคู่รักไอดอล   และพยายามจับปิดหาหลักฐานที่เธอเคยเข้าไปดูในเพจของ Selena มายืนยันว่ามันดูรุนแรงราวกับเป็นโรคจิต!  

ทั้งๆที่ทุกคนต่างก็รู้แก่ใจหรือแม้กระทั่งเคยผ่านประสบการณ์  "ส่องsocial media"  ของแฟนเก่า/แฟนใหม่ของคนที่คบกันมาทั้งนั้น...
แม้ว่า Selena และ Hailey จะเป็นหญิงสาวที่ดูแตกต่างกันอย่างชัดเจน แ แฟนๆผู้ภักดีต่อ Jelena ก็เชื่อมั่นว่าภรรยาไอดอลหนุ่มกำลังลอกเลียนแบบแฟนเก่าของเขาอยู่

เมื่อถูกว่าร้ายมานาน แม้ว่าสามีจะออกมาปกป้องเธอหลายครั้ง Hailey ก็ออกมาโต้ตอบว่า

"เรื่องนี้บานปลายไปถึงระดับที่ชวนให้ช็อคและทำให้เสียสุขภาพจิตและน่าเศร้ามากค่ะ     ชั้นไม่มีวันอยากให้ใครถูกปฏิบัติด้วยวิธีนี้   ชั้นไม่มีวันยอมรับการกระทำที่เปี่ยมไปด้วยความเกลียดชังเช่นนี้เด็ดขาด"






หลินซินหรู  นางเอก A List  ที่ถูกกล่าวหาว่าใช้การตั้งท้องเพื่อจับผู้ชาย

เรื่องราวความรักของคู่นักแสดง A List ที่ต้องปิดเป็นความลับสุดยอดอาจจะฟังเหมือนกับพล็อทเรื่องซีรีส์     แต่สำหรับฮั่วเจี้ยนหัวและหลินซินหรู     ชีวิตแต่งงานของพวกเค้าตามาด้วยเสียงติฉินนินทา   ทั้งๆที่เป็นคนดังภาพลักษณ์ดีมายาวนาน  ว่ากันว่า  อคติที่มีต่ออายุของฝ่ายหญิงเป็นต้นเหตุที่ทำให้ชาเน็ทไม่เชื่อว่า พวกเค้าได้สร้างชีวิตครอบครัวด้วยกันจากพื้นฐานแห่งความรัก  และกล่าวหาว่าหลินซิงหรูบีบให้อีกฝ่ายแต่งงานจากการจงใจตั้งท้อง


Fact 1  หลินซินหรูท้องเมื่อเธออายุสี่สิบ  

Fact 2 พวกเค้า เป็นเพื่อนกันมายาวนานตั้งแต่ยังเป็นหนุ่มสาว 

ชาวเน็ทจาจีนและไต้หวันบางคนแสดงความไม่เชื่อถือในเรื่องความรักของคู่นี้   เห็นได้จากวัฒนธรรมของชาวเอเชียตะวันออกที่ไม่ได้เชิดชูผู้หญิงที่ผ่านวัยเจริญพันธุ์    การเลือกเฟ้นเจ้าสาวให้ครอบครัวฝ่ายชายพอใจนั้น มักจะมีข้อแม้เรื่องวัยมาเป็นตัวแปรสำคัญ    ไม่ต่างพล็อทต่างๆในซีรีส์จีน      ผู้หญิงวัยเพียง 25 จะต้องรับฟังคำพร่ำบ่นจากพ่อแม่ให้รีบหาสามีดีๆก่อนที่จะ "แก่" เกิน      และนั่นทำให้ชาวเน็ทเกิดความคลางแคลงใจว่า พระเอกหนุ่มหล่อเหลาที่สาวๆต่างคลั่งไคล้ไม่น่าจะตัดสินใจเข้าพิธีวิวาห์กับนางเอกวัยหลักสี่   แต่หลังจากที่เธอให้กำเนิดบุตรสาวหลังจากที่แต่งงานกันไปได้ประมาณหกเดือน ก็เกิดเสียงร่ำลือหนาหูว่า  ฮั่วเจี้ยนหัวไม่ได้เต็มใจแต่งงานกับหลินซิงหรูที่อายุมากกว่าสี่ปี    หลายคนวิจารณ์ภาพงานแต่งงานของพวกเค้าว่า เจ้าบ่าวดูอมทุกข์อย่างชัดเจน

ใบหน้าที่ไม่ได้พร่างพราวไปด้วยรอยยิ้มเพียงไม่กี่ช็อทของเจ้าบ่าวสร้างเสียงโจษจันจากชาวเน็ทว่าเขาทำท่าฝืนใจ บ้างก็เชื่อว่าเขากลายเป็นเหยื่อที่สาวมีอายุจับ แต่กลับเมินเฉยต่ออีกหลายภาพเจ้าตัวเต็มไปด้วยความปลาบปลื้ม

นี่คือคำพูดจากการแลกเปลี่ยนคำสาบานของฮั่วเจี้ยนหัวและหลินซินหรูค่ะ

เจ้าบ่าว - " ผมรู้จักคุณมานานมาก แต่ก่อนก็เป็นได้แค่เพื่อน ถึงเพียงแค่นั้นก็ทำให้ผมมีความสุขแล้ว แต่ตอนนี้เราได้กลายมาเป็นสามีภรรยากัน ผมยิ่งรู้สึกปลาบปลื้มยินดีขึ้นไปอีก ในอนาคตอาจจะมีเรื่องต่างๆเข้ามา และอาจจะมีอุปสรรคเข้ามาทดสอบพวกเรา แต่ผมหวังว่าเราจะจับมือกันไว้แล้วก้าวผ่านสิ่งต่างๆไปด้วยกัน"

เจ้าสาว -  " ขอบคุณที่คุณดีต่อกันเสมอมา ชอบคุณที่คอยอดทนและดูแลฉัน  นับจากวันนี้ เราเป็นครอบครัวกันแล้ว  ก็เหมือนที่คุณว่าไว้ เราอาจจะต้องเจอเรื่องดีบ้างร้ายบ้างในอนาคต  แต่เราจะจับมือกันไว้และเผชิญกับสิ่งเหล่านั้นไปด้วยกัน  เมื่อใดที่คุณรู้สึกเหนื่อยล้า อย่าลืมว่าฉันจะรอคุณที่บ้านเสมอ รักคุณค่ะ"




 (บุคลิกของฮั่วเจี้ยนหัวที่ตัวภรรยาและเพื่อนบรรยายไว้คือ เป็นคนที่เก็บความรู้สึก  ดูเย็นชา ไม่ร้อนแรงหวือหวา  ไว้ตัวซะด้วยซ้ำ   หากมองจากสายตาคนนอก เราก็ได้แต่เดาว่า เค้าน่าจะเป็นพวกพิสูจน์ด้วยการกระทำมากกว่าถ้อยคำเอาใจ  ไม่งั้นก็คงไม่แอบชอบหลินซิงหรูได้นานขนาดนั้นโดยที่ไม่พยายามก้าวมาจาก friendzone )
สื่อหนึ่งในจีนประกาศอย่างมั่นใจว่า หลินหซิงหรูเป็นฝ่ายที่รักสามีมากกว่าจากท่าทางที่มีความสุขเปี่ยมล้น ในขณะที่เขามีสีหน้าเศร้าซึมทั้งในงานแต่งและhoneymoon  แต่แท้จริงแล้ว  ฮั่วเจี้ยนหัวเป็นฝ่ายขอแต่งงานเธออย่างเอิกเกริกต่อหน้าคนใกล้ชิดหลายคน  และการแสดงในงานก็ไม่ได้ฉีกจากบุคลิกที่ดูเยือกเย็นสักเท่าใด  ที่สำคัญ แม้จะมีการเปิดเผยภาพในงานแต่งออกมาทั้งพิธีแบบคริสต์ พิธียกน้ำชา และงานเลี้ยง  


หลังจากที่ใช้ชีวิตคู่กันมาได้เพียงไม่นาน สื่อและชาวเน็ทก็เริ่มวิจารณ์ว่าความสัมพันธ์ของทั้งคู่คงไปไม่รอด แม้จะมีภาพกิจกรรมของครอบครัวอบอุ่นอย่างไม่ขาด แต่กลับถูกกล่าวหาว่าเป็นการสร้างภาพ สื่อไต้หวันเคยรายงานด้วยความมั่นใจว่า ทั้งคู่แยกกันอยู่แล้ว และอาจจะหย่าในไม่นานนี้ หลังจากจับภาพวีดีโอตอนที่ทั้งสองอยู่ด้วยกันริมถนน และแยกย้ายกันกลับบ้าน ไม่ได้นั่งรถคันเดียวกัน นอกจากจะปฏิเสธเรื่องนี้ ทั้งคู่ก็ใช้ชีวิตไปตามปกติ และเมื่อเดือนที่แล้วก็ไปร่วมงานเลี้ยงวันเกิดของพ่อของหลินซิงหรูด้วยความสวีทจนคนในงานปลื้มตามไปด้วย ทำให้ข่าวลือเรื่องหย่าเงียบหายไป


ฮั่วเจี้ยนหัวเป็นฝ่ายเปิดใจว่า เป็นฝ่ายตัวเขาเองที่แอบมีใจให้กับหลินซิงหรูมาอย่างลับๆข้างเดียว แต่ช่วงที่ได้ทำความรู้จักกันเมื่อสิบกว่าปีก่อน ฝ่ายหญิงนั้นโด่งดังในระดับซุปตาร์ไปแล้ว ( และเธอยังเคยเป็นเป็นแฟนหลินจื้ออิ่ง ไอดอลที่สร้างปรากฏการณ์ในยุค90sอีกด้วย) แม้ว่าเขาจะชอบเธอมากแค่ไหน แต่ก็หวาดหวั่นว่า หากสานต่อความสัมพันธ์เกินเพื่อนแล้วอาจจะเป็นการทำลายมิตรภ่พ เขาจึงไม่กล้าบอกความรู้สึกต่อเธอมาเป็นสิบปี จนกระทั่งที่เขารู้สึกว่าตัวเองประสบความสำเร็จมากพอในวงการบันเทิง เขาจึงได้รับความมั่นใจที่จะสารภาพความรู้สึกกับเธอ





เขาเล่าถึงความลำบากในการปิดบังความสัมพันธ์ไว้ว่า
"ตอนที่เรานัดเจอกัน มันเหนื่อยน่าดูครับ เราต้องเดทกันแบบหลบๆซ่อนๆ "
เมื่อได้ประกาศว่าคบกันออกไปจนสั่นสะทือนวงการ ความกดดันที่พวกเค้าต้องแบกไว้หายไป และฉลองกันด้วยการไปกินชาบูและสามารถจับมือกันได้ตามประสาคู่รักท่ามกลางสายตาผู้คนสักที

หลินซินหรูได้เล่าถึงนิสัยที่ไม่ค่อยเหมือนใครของสามีว่า  เขาเป็นคนที่หวงความส่วนตัว และไม่พูดเล่นหัวกับคนอื่นมากนักหากไม่สนิทสนม    เธอจึงประหลาดใจมากที่ได้พบการขอแต่งงานที่ "เล่นใหญ่" อย่างการจุดเทียนไว้อย่างสวยงามและเชิญคนเยอะแยะมาเป็นสักขีพยาน
ดูเหมือนว่าชีวิตรักของทั้งคู่จะดูหวานชื่นกันตามปกติ  แต่ว่ากันว่ากำแพงความริษยานั้นยาวไร้ที่สิ้นสุด   หลังจากที่เคยโพสต์ภาพที่ปรากฏเห็นท้องกลมเมื่อที่ท้องได้หกเดือน เธอก็ต้องลบภาพนั้นออก หลังจากมีชาวเน็ทตามคอมเมนท์จิกกัดว่า เธอใช้ลูกในท้องมามาเป็นข้ออ้างในการโอ้อวดความสัมพันธ์กับพระเอกผู้แสนหล่อเหลา   แต่เธอเป็นผู้หญิงแถวหน้าที่ขึ้นชื่อเรื่องความมั่นใจในตัวเอง  เมื่อถูกกัดก็ไม่ได้อดทนเป็นเป้านิ่งฝ่ายเดียว เมื่อมีคนดึงลูกของเธอมาเกี่ยวข้อง เธอก็ยิงกลับว่า

"ช่วยพูดดีๆด้วยค่ะ ฉันเพียงแค่อยากรักษาความเป็นส่วนตัวให้กับลูกในท้อง ไม่ได้มีอะไรเกินไปกว่านั้น"



พอเธอไม่โพสต์ภาพโชว์สวีทกับสามี ก็มีคนจับผิดว่ากำลังเจอปัญหาชีวิตคู่จนใกล้หย่า และต้องชี้แจงแบบเพลียๆว่า โปรดอย่าสร้างเรื่องกันขึ้นมาเอง ดูเหมือนว่า หลินซินหรูคงต้องเจอการจับผิดแบบโพสต์ก็ด่า ไม่โพสต์ก็จิกต่อไป







ความสองมาตรฐานของแฟน (บางกลุ่ม)ของ R Patz 


ยังจำกระแสโจมตีเมื่อ Robert Pattinson เดท FKA Twigs ได้มั้ยคะ  มีคนปล่อยข่าวว่าร้ายเธอว่าทำตัวเป็นศัตรูกับ Kristen Stewart  
นี่คือถ้อยคำเหยียดผิวรุนแรงส่วนหนึ่งที่ Twigs ต้องเจอ  ย้ำว่าส่วนหนึ่ง  นอกจากจะถูกเปรียบว่าเป็นลิงแล้ว ยังมีคนแช่งชักให้ตายๆไป  ทั้งๆที่หนัง Twilight ก็หมดกระแสไปนาน  รวมไปถึงการ move on ไปคบหากับแฟนสาวหลายคนของ Kristen  แต่ก็ยังมีแฟน Twilight ที่ยึดมั่นสโลแกน  Robsten is unbroken ไว้ไม่ยอมปล่อยวาง  

ในขณะที่คู่รักในดวงใจของพวกเค้าเหล่านี้แตกหักกันไปนานแล้ว และ Rob เองก็ดูชัดเจนกับแฟนสาวลูกครึ่ง แต่เพราะอคติที่แรงกล้ากับรูปลักษณ์ของเธอ ก็ทำให้แฟนเหล่านี้ทำยิ่งกว่าล้ำเส้น ในหลายประเทศ การใช้คำพูดเหยียดผิวคือสิ่งที่ผิดกฎหมาย แต่เพื่อความสะใจ ชาวเน็ทเหล่านี้ได้โยนเรื่องความมีมโนธรรมทิ้ง และคุกคามเป้าหมายอย่างร้ายกาจ


สิ่งที่เธอเจอนั้น ทั้งถูกวิจารณ์ว่าไม่สวยคู่ควรกับพระเอกหนุ่มสุดฮ็อท คบกับเขาเพื่อเงิน และแรงไปจนถึงเหยียดหยามด้วยความคิดเหยียดผิว ด่ากันแรงถึงขั้น "นังลิงอัปลักษณ์" ทำให้ Rob รับไม่ได้ และออกมาโต้กลับติ่งจอมเหยียดเลยทีเดียว


Rob เป็นคนดังที่ขึ้นชื่อเรื่องหวงความเป็นส่วนตัว เขาแทบจะไม่ตอบคำถามเรื่องแฟนสาวเพราะเชื่อว่า หากปล่อยให้คนอื่นมาก้าวก่าย จะทำให้คุณค่าความรักลดลง เขาเคยเปรียบเทียบว่า หากคนแปลกหน้าตามถนนมาถามเรื่องความสัมพันธ์กันดื้อๆ มันก็เป็นสิ่งที่ไร้มารยาทเป็นอย่างยิ่ง มันจึงดีกว่าที่จะตั้งกำแพงไว้ไม่ให้ใครมาคอยเซ้าซี้

" จะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามที่เกี่ยวข้องกับTwilight ไม่รู้ว่าเป็นที่ผู้ชมเฉพาะกลุ่ม มันจะมีคนหลุดโลกกลุ่มหนึ่งที่คิดว่าทุกการกระทำของผมเป็นเรื่องทฤษฎีสมคบคิด มันทำให้อยากจะปกป้อง (เรื่องความสัมพันธ์)ไว้ ผมอยากจะสร้างขอบเขตป้องกันไว้ครับ" 

แต่กระนั้น เรื่องที่แฟนถูก bully ก็ทำให้เขาเปิดปากพูดจนได้
"ผมได้คุยกับพ่อในเรื่องนี้ และเชื่อเลยว่าเขาจะต้องเปิดวีดีโองานศพของ Nelson Mandela บน YouTube ความเห็นเหยียดผิวจะขึ้นมาเป็นลำดับแรก และมีคนกด like เป็นล้าน สิ่งที่ผมไม่ get คือ คนปกติทั่วไปส่วนมากไม่มาคอมเมนท์แบบหรอกครับ คนที่ผมเคยเจอไม่เห็นจะมาคอยคอนเมนท์อะไรเลย มีแค่พวกสัตว์ประหลาดที่อาศัยในห้องใต้ดินเท่านั้นแหละ มันสร้างความรู้สึกพิลึกพิลั่นหากคุณต้องมาคอยต่อสู้กับพวกที่ปิดบังตัวตน ยิ่งคุณเกลียดชังเรื่องแบบนี้มากเท่าไร มันก็ยิ่งเพิ่มพลังขยายตัวขึ้นไปอีก"
Rob และ  Twig อาาจจะเลิกกันสมใจกองแช่ง    และเธอก็ถูกปลดปล่อยจากการจองล้างจองผลาญของแฟนคลับที่หวงแหนของอดีตแฟน    แต่มันกลับเป็นเรื่องสองมาตรฐานเมื่อ Rob เริ่มต้นคบหา Suki Waterhouse อย่างเปิดเผย     นางแบบสาวรายนี้กลับไม่ต้องพบกับกระแสกดดันจากชาวเน็ทแต่อย่างใด

เธอทั้งสองคนมีความรักกับพระเอกหนุ่มผู้โด่งดังเหมือนกัน

แล้วอะไรล่ะที่ทำให้อีกคนหนึ่งได้รับการปฏิบัติที่แตกต่าง ?

หรืออย่างน้อยๆ Suki ก็ไม่ถูกขู่ฆ่าหรือถูกเรียกว่านังลิง เธอสามารถคบหากับ Rob โดยไม่ถูกมองเป็นนางร้ายหรือเปรียบเทียบรูปโฉมกับ Kristen ไม่ต้องเจอคำกล่าวหาว่าเป็น gold digger ที่หวังปอกลอกแฟนหนุ่ม

นั่นเป็นเพราะอะไร ?
อย่างไรก็ตาม   FKA Twigs ก็รู้ตัวว่า สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้เกิดขึ้นจากการกระทำของเธอ (แต่เป็นความคิดในแง่ร้ายของคนอื่น)   สิ่งดีๆที่เธอได้รับจากความสัมพันธ์ครั้งที่แล้วมาก็คุ้มค่ากับประสบการณ์ที่ถูกคุกคาม      ส่วน Rob นั้น ถึงจะไม่เปิดปากพูดเรื่องส่วนตัวง่ายๆ  แต่ก็ได้ตอบรับสั้นๆว่า  หลังจากเลิกรากันไปแล้ว ก็ยังพูดจากันกับอดีตแฟนสาวอยู่


แม้ไม่อาจชี้ชัดได้ว่า   พฤติกรรมของแฟนคลับจะเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้พวกเขาต้องเลิกรากันหรือเปล่า   แต่หากคิดถึงใจเขาใจเรา  มันย่อมเป็นสถานการณ์ที่ยากลำบากและไม่ใช่ว่าทุกคนจะฟันฝ่าไปได้


เซเลบคนอื่นๆที่ต้องปวดหัวเมื่อคนรักถูกแฟนคลับbully




คนดังเหล่านี้ได้สร้างชื่อเสียงและเงินทองมากมายจากความนิยมที่พุ่งสูงในหมู่แฟนๆ แต่บางคนวัดความหลงไหลคลั่งไคล้ให้เป็นสิ่งที่ไอดอลของตัวเองจะต้องตอบแทน แท้จริงแล้ว ในโลกที่มีความเสรี ไม่ว่าจะเป็นคนธรรมดาหรือsuperstar ก็มีสิทธิ์จะดำเนินความสัมพันธ์ตามที่ใจพวกเค้าปรารถนาโดยไม่ต้องให้มีใครมาคอยกำกับว่า คนรักคู่ควรกับพวกเค้าหรือไม่ แม้คนดังเหล่านั้นจะไม่ยอมนิ่งเฉยให้คนที่รักต้องคอยทนกับเรื่องไม่ fair แต่ความหวงแหนเกินขอบเขตของแฟนผู้หมกมุ่นนี้ก็ยังไม่เคยจางหายไป และคงต้องใช้ความเข้มแข็งเกินร้อยกว่าจะรับมือกับความเกลียดชังนี้ไปได้ เจอเรื่องแบบนี้เมื่อใด ก็ได้แต่ถอนใจหนักๆ ทุกที



The End


candy

candy

ติดตาม Mouth On The Web แล้วอย่าลืม Mouth On The Face นะคะ ^ ^

FULL PROFILE