มุมเภสัชกับปัญหาสาวสาว : เสนอตอน : ปัสสาวะอักเสบ!

40 9
สวัสดีค่ะ วันนี้โพชั่นจะมาพูดถึงปัญหาที่สาวๆหลายคนมาปรึกษาที่ร้านยากันเยอะ นั่นก็คือปัญหา “ปัสสาวะอักเสบ” ค่ะ

เป็นปัญหาที่ลำบากและทรมานมาก ที่สำคัญคือหลายคนเป็นซ้ำบ่อยมากๆ ก็เลยมาขอคำปรึกษาค่ะ 

    โพชั่นก็เลยสรุปง่ายๆสั้นๆมาให้เพื่อนๆทุกคนได้อ่าน และดูแลตัวเองกันค่ะ

ซึ่งการรักษาให้หายขาด หรือป้องกันที่ดีนั้น ต้องเริ่มต้นจากรู้สาเหตุก่อนค่ะ

    สาเหตุเกิดจากการที่เชื้อแบคทีเรียที่อยู่ในระบบทางเดินปัสสาวะยึดติดกับเนื้อเยื่อในท่อทางเดินปัสสาวะ หรือกระเพาะปัสสาวะ ทำให้เกิดอาการอักเสบตามมาค่ะ

    อาการแรกๆอาจจะรู้สึกปัสสาวะขัดนิดๆ แสบหน่อยๆ เหมือนจะปัสสาวะแล้ว แต่ก็ยังไม่สุด

    พอสักพัก อาการแรงขึ้น ก็เลยแสบสุดๆ แทบร้องไห้ตอนปัสสาวะ

    แถมบางคนรุนแรงจนปวดบั้นเอว หรือปัสสาวะเป็นสีขาวขุ่นด้วยค่ะ

โดยสาเหตุที่พบบ่อยในร้านยา มี 3 ข้อค่ะ นั่นก็คือ

1.ดื่มน้ำน้อย

เรื่องของเรื่องก็คือเพื่อนๆหลายคนต้องยืนทำงาน หรือนั่งทำงานในออฟฟิสติดต่อกันนานหลายชั่วโมง ขี้เกียจไปห้องน้ำบ่อยๆ ก็เลยแก้ปัญหาด้วยการดื่มน้ำน้อยๆเสียเลย!
ผลก็คือปัสสาวะแช่ค้างในกระเพาะปัสสาวะ หรือท่อปัสสาวะนาน ทำให้เชื้อเจริญเติบโตได้ดี เกิดเป็นอาการอักเสบตามมานั่นเองค่ะ

2.กลั้นปัสสาวะ

บางคนไม่กล้าลุกไปเข้าห้องน้ำบ่อยๆ หรือบางคนไม่อยากลุกไปห้องน้ำ ทำให้ต้องกลั้นกันไปยาวๆเป็นชั่วโมงๆ (บางคนเกือบทั้งวัน!)

การกลั้นปัสสาวะนี่ ก็เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ปัสสาวะแช่ค้างในกระเพาะปัสสาวะ หรือท่อปัสสาวะนาน ทำให้เชื้อเจริญเติบโตได้ดี เกิดเป็นอาการอักเสบตามมาเช่นเดียวกันค่ะ 

ดังนั้น ใครที่ชอบอั้นๆกลั้นๆ ต้องมีสะดุ้งแล้วนะคะ

3.มีเพศสัมพันธ์

ผ่างงงง!!!

อ่านถูกต้องแล้วค่ะ

เรื่องของเรื่องก็คือการมีเพศสัมพันธ์ จะทำให้โอกาสที่เชื้อจะแพร่กระจายเข้าไปสู่กระเพาะปัสสาวะได้นั้น มีเพิ่มมากขึ้นได้ค่ะ

นำไปสู่การเจริญเติบโตของเชื้อ ทำให้เกิดการอักเสบได้ในที่สุดค่ะ

ยิ่งมีเพศสัมพันธ์บ่อย ก็จะยิ่งเพิ่มโอกาสการอักเสบได้มากขึ้นค่ะ

การป้องกันและรักษา

หากเป็นไม่รุนแรงมาก สามารถรักษาโดยไม่พึ่งยาได้ค่ะ นั่นก็คือดื่มน้ำมากๆ และปัสสาวะบ่อยๆ อย่ากลั้นปัสสาวะ จะทำให้เชื้อโรคไม่แช่ค้างอยู่ในระบบทางเดินปัสสาวะค่ะ อาการจะค่อยๆดีขึ้น และหายดี ในประมาณ 1-7 วันค่ะ


แต่หากเป็นรุนแรงมากขึ้น ทรมานจริงๆ ทนไม่ไหวแล้ว ต้องพึ่งยาค่ะ

  • ยาฆ่าเชื้อแบคทีเรีย : วิธีการกินยา ขึ้นกับชนิดยาที่ได้รับจากแพทย์/เภสัชค่ะ ต้องทานให้ครบขนาดต่อวัน และครบจำนวนวันค่ะ ซึ่งปกติจะทาน 3-7 วัน (ขึ้นกับชนิดยา) ต้องทานให้ครบจนหมดนะคะ ต่อให้อาการจะหายดีตั้งแต่ตอนที่กินไปเพียงเม็ดสองเม็ดแล้วก็ตาม! ไม่อย่างนั้นเชื้อจะดื้อยา ทำให้รักษาหายยากในครั้งถัดๆไปค่ะ อันตรายมากๆๆ

  • ยาลดการหดเกร็ง : ช่วยลดการหดเกร็งกล้ามเนื้อหูรูดปัสสาวะ ทำให้ปัสสาวะได้ง่ายมากขึ้นค่ะ


**ทั้งนี้ โปรดตรวจสอบว่าไม่แพ้ยาชนิดนั้นๆค่ะ**



คำเตือน

-การที่ปัสสาวะอักเสบบ่อยๆ ถือว่าอันตรายและมีความเสี่ยงที่จะเป็นรุนแรงมากยิ่งขึ้นในครั้งถัดๆไปค่ะ

เพราะยิ่งเป็นบ่อย เชื้อก็จะยิ่งลามไปอักเสบที่กรวยไตได้ ทำให้ปวดบั้นเอว ปัสสาวะขาวขุ่นเป็นหนองได้ค่ะ เพราะฉะนั้น ต้องดูแลตัวเอง อย่าให้เป็นบ่อยๆนะคะ


-กรณีปัสสาวะขาวขุ่น

ถ้าปัสสาวะขาวขุ่น ปวดบั้นเอว แสดงว่าเชื้อลามไปที่กรวยไตแล้ว แนะนำปรึกษาแพทย์ค่ะ หรือในบางคน อาจจะเป็นเพราะติดเชื้ออื่นจากเพศสัมพันธ์ แนะนำให้ไปตรวจและปรึกษาแพทย์ เพื่อที่จะได้ทราบชนิดเชื้อโรคนั้นๆได้แม่นยำ และได้รักษาถูกต้องค่ะ


สรุปแล้วใจความสำคัญก็คือ

ดื่มน้ำเยอะๆ อย่ากลั้นปัสสาวะ และดูแลตัวเองอย่าให้เป็นบ่อยๆค่ะ ไม่อย่างนั้นจะยิ่งมีอาการรุนแรงขึ้น และรักษายากค่ะ

สนับสนุนให้สาวๆทุกคนดื่มน้ำ เข้าห้องน้ำ ไม่ต้องเกรงใจใครที่เราต้องลุกไปเข้าห้องน้ำบ่อยๆค่ะ (แต่งานที่ต้องทำส่ง ก็ต้องเสร็จด้วยนะคะ ฮ่าาา)

สนับสนุนให้ทุกคนดูแลสุขภาพตัวเองค้า


หวังว่าโพสต์นี้จะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อยนะคะ

ขอบคุณมากๆค่ะที่แวะมาอ่าน ไว้เจอกันใหม่ครั้งหน้าค่ะ


PotionPharmacy

PotionPharmacy

เป็นเภสัชกร ที่เชื่อว่าความรู้ ความงาม ไลฟสไตล์ คือสิ่งเดียวกันค่ะ
และตั้งใจจะนำเกร็ดความรู้ดีๆมานำเสนอเพื่อนๆค่ะ

FULL PROFILE