Hada Labo Lotion & Milk บำรุงผิวเตรียมเข้าวัย 30 ที่เราเริ่มทาตั้งแต่อายุ25
NatologyCh 41 11สวัสดี ชาวจีบันนิสต้าทุกคนค่าา ขอเกริ่นด้วยวัยของเราที่เริ่มเข้าใกล้เลข 3 ขึ้นทุกวันๆ และบทเรียนจากช่วงวัยรุ่นที่ไม่เคยทาบำรุงเลย เพราะย่ามใจว่าผิวเรายังดีอยู่ ไม่เห็นต้องทาให้รำคานใจ รำคานผิว สรุปง่ายๆคือ แนตไม่ทาบำรุงผิวเลย จนเรียนจบมหาลัยค่ะ วันนี้แนตเลยตั้งใจอยากจะเอาพฤติกรรมของตัวเองมาแชร์ แถมด้วยการเตือนสติน้องๆให้ขยันทาครีม ก่อนจะเกิดปัญหาผิวอ่อนล้า ตามอายุแบบเรานะคะ มาคุยกันเรื่องของ Skincare ที่ใช้มาประมาณ1ปีแล้ว กันนะคะ
มาถึงวันนี้อายุก็ปาเข้าไป 27 ปี แล้วค่ะ ถึงแม้ว่าเราจะขยันทาครีมมากขึ้น แต่เราเริ่มช้า ผิวที่เปลี่ยนไปจนสังเกตได้ก็คือ
1. ผิวร่องแก้มเริ่มหย่อนเล็กน้อย
2. รูขุมขนกว้างมากขึ้น เยอะขึ้น
3. ทาครีมแล้วไม่ซึมดี ง่าย เหมือนแต่ก่อน
แถมรูปหน้าของเราก็ไม่สดใสเท่าตอนเด็กๆแล้วด้วยค่ะ
วันนี้แนตเลยจะมาพูดถึงบำรุงที่ใช้ทุกวัน หรือคิดได้เมื่อไหร่เป็นต้องหยิบมาทาทุกครั้งไปค่า
จากแต่ก่อนเราทาแค่เรื่องเติมน้ำให้ผิว เพราะเห็นใครๆก็ทากัน กลัวอยู่เรื่องเดียวคือผิวขาดน้ำ เพราะมั่นใจเว่อร์ๆ ว่าผิวชั้นยังเด็ก ไม่เหี่ยวง่ายๆหรอกย่ะ ถึงวันนี้ก็เริ่มขยับขึ่นมาเป็นสกินแคร์ไลน์สีแดงแล้วค่า
จากเดิมเห็นว่าสีแดง หมายถึงดูแลเรื่องผิวผู้ใหญ่ ผิวที่ age แต่ก่อนเราก็เข้าใจว่า ผิวเรายังเต่งตึงใสๆเด็กๆ ไว้ผิวเราแก่แล้วค่อยทา ตอนนี้ยังไม่ถึงอายุซักหน่อย(แล้วก็งก ไม่อยากเสียเงินซื้อบำรุงด้วย) แต่หลังจากเรียนจบ เริ่มทำงาน เริ่มทาครีม และศึกษาข้อมูลมากขึ้น เราก็เริ่มเข้าใจมากขึ้นว่าการป้องกันไว้ก่อน ง่ายกว่ารอให้ผิวเสื่อม แล้วค่อยมาแก้ทีหลังมากๆ
เลยเริ่มขยับขึ้นมาเลือกบำรุงที่อยู่ในโซนสีแดง ดูแลผิวที่มีอายุขึ้นมาอีกนิด แต่ระดับราคาที่จ่ายก็ยังอยู่ในหลักร้อยนะคะ ตามกำลังทรัพย์ของเราเลยค่ะ
เกริ่นมาซะยาว มาเข้าเรื่องกันเลยค่าา วันนี้จะมาพูดถึง Hada Labo Lifting & Firming Lotion และ Hada Labo Lifting & Firming Milk 2 ขวดนี้ สำหรับแนตที่เริ่มทาครีมทุกวัน หยิบคู่นี้มาทาอย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง ตอนนี้อยู่กันมาเกือบ 1 ปีแล้ว เพิ่งจะได้ซื้อขวดใหม่ค่าา เรียกได้ว่าคุ้มค่าจริงๆ นอกจากเรื่องความคุ้มค่าที่ใช้ได้ยาวนานไปแล้ว ทีนี้มาถึงเนื้อของเค้ากันดีกว่าค่ะ ว่ามันดียังไง ทำไมเราถึงหยิบใช้ได้ทุกวัน มาตั้งนาน ไม่เบื่อกันไปซะก่อน
เริ่มที่คุณสมบัติของเค้ากันค่ะ
1. เค้ามี 3D Hyaluronic Acid ที่เมื่อซึมเข้าสู่ผิวจะจับตัวกันเพื่อสร้างตาข่ายกักเก็บความชุ่มชื่นให้อยู่กับผิวได้มากและยาวนานยิ่งขึ้น เหมาะกับผิวที่เริ่มโตขึ้นแบบเรา ที่จะเริ่มกักเก็บความชุ่มชื้นได้น้อยลงตามวัย
2. ส่วนผสม Retinol Vitamin A ช่วยลดเลือนริ้วรอย (ในโอกาสนี้ แนตใช้สำหรับทาป้องกันริ้วรอยที่ยังไม่เกิดนะคะ)
3. เค้ามี Collagen ช่วยกระชับผิว ให้เปล่งประกายความอ่อนเยาว์ (ในส่วนนี้ เราก็ช่วยบำรุงให้ผิวอ่อนเยาว์ ไม่หย่อนคล้อยจนเห็นอาการแก่นะคะ เพราะกว่าเราจะมาเริ่มทา ก็ปล่อยให้ผิวอ่อนล้า ดึงตัวเองให้ตึงเป๊ะๆแบบสมัยวัยรุ่นด้วยตัวเองไม่ได้แล้วค่ะ)
4. นอกจากนี้เนื้อของเค้ายังช่วยบำรุงได้อย่างบางเบา ไม่เหนียวเหนอะหนะ เป็นการเตรียมผิวให้พร้อมสำหรับการทาบำรุงในขั้นตอนต่อไป หรือในตอนเช้า ก็พร้อมรับเมคอัพ ให้ติดผิวได้ดียิ่งขึ้นด้วยนะ
1. เค้ามี 3D Hyaluronic Acid ที่เมื่อซึมเข้าสู่ผิวจะจับตัวกันเพื่อสร้างตาข่ายกักเก็บความชุ่มชื่นให้อยู่กับผิวได้มากและยาวนานยิ่งขึ้น เหมาะกับผิวที่เริ่มโตขึ้นแบบเรา ที่จะเริ่มกักเก็บความชุ่มชื้นได้น้อยลงตามวัย
2. ส่วนผสม Retinol Vitamin A ช่วยลดเลือนริ้วรอย (ในโอกาสนี้ แนตใช้สำหรับทาป้องกันริ้วรอยที่ยังไม่เกิดนะคะ)
3. เค้ามี Collagen ช่วยกระชับผิว ให้เปล่งประกายความอ่อนเยาว์ (ในส่วนนี้ เราก็ช่วยบำรุงให้ผิวอ่อนเยาว์ ไม่หย่อนคล้อยจนเห็นอาการแก่นะคะ เพราะกว่าเราจะมาเริ่มทา ก็ปล่อยให้ผิวอ่อนล้า ดึงตัวเองให้ตึงเป๊ะๆแบบสมัยวัยรุ่นด้วยตัวเองไม่ได้แล้วค่ะ)
4. นอกจากนี้เนื้อของเค้ายังช่วยบำรุงได้อย่างบางเบา ไม่เหนียวเหนอะหนะ เป็นการเตรียมผิวให้พร้อมสำหรับการทาบำรุงในขั้นตอนต่อไป หรือในตอนเช้า ก็พร้อมรับเมคอัพ ให้ติดผิวได้ดียิ่งขึ้นด้วยนะ
จบเรื่อคุณสมบัติไปแล้ว มาดูเนื้อของเค้ากันค่า ด้านซ้ายเป็นเนื้อ Milk ด้านขวาเป็นเนื้อ Lotion ค่ะ เนื้อแตกต่างกันชัดเจนเลยนะคะ เนื้อ lotion ใช้ทาเป็น Step 1 ตามด้วย Step 2 เนื้อ Milk ค่า
ใครที่มีความกัลวงเรื่องผิวคล้ายๆกับแนตก็ตามอ่านกันต่อจ้า เรื่องต่อไปจะเป็นความสบายผิว นะคะ วันนี้ทาลงผิวให้ดู finish กันชัดๆด้วยนะคะ เผื่อว่าใครไม่ชอบทาครีมที่เหนอะหนะขอบอกไว้เลยว่าทาแล้ว สบายผิวม๊ากกกก
ผิวหลังล้างหน้าเสร็จนะคะ คู่กับผิวหลังทาเนื้อโลชั่นค่ะ บอกตามตรงว่าตอนแรกอยากให้เห็นความผิววาวสุขภาพดีหลังทา แต่ถ่ายไม่ทันค่ะเพราะเค้าเซตตัว และ ซึมไวมากก แว๊บเดียว ความผิวดูชุ่มชื้นวาวใสก็หายไปภายในไม่เกิน1 นาทีค่ะ ผิวที่ได้จะดูมีน้ำมีนวลมากขึ้น ใครที่เพิ่งเริ่มทา สกินแคร์แรกๆจริงๆหยุดที่ตรงนี้ได้นะคะ
ผิวหลังล้างหน้าเสร็จนะคะ คู่กับผิวหลังทาเนื้อโลชั่นค่ะ บอกตามตรงว่าตอนแรกอยากให้เห็นความผิววาวสุขภาพดีหลังทา แต่ถ่ายไม่ทันค่ะเพราะเค้าเซตตัว และ ซึมไวมากก แว๊บเดียว ความผิวดูชุ่มชื้นวาวใสก็หายไปภายในไม่เกิน1 นาทีค่ะ ผิวที่ได้จะดูมีน้ำมีนวลมากขึ้น ใครที่เพิ่งเริ่มทา สกินแคร์แรกๆจริงๆหยุดที่ตรงนี้ได้นะคะ
แต่ด้วยความกลัวหน้าเหี่ยวของแนต จะต่อด้วยขั้นตอน Hada Labo Lifting & Firming Milk เลยค่ะ
ปริมาณที่ทาก็ตามนี้เลยค่าา แต้มๆลงไป เหมือนจะเยอะ แต่จริงๆไม่เยอะนะคะ เนื้อเค้าจะเบาลง หลังเราเกลี่ยเนื้อครีมบนผิว จะรู้สึกว่าเนื้อเค้าข้นกว่าเนื้อ Lotion แต่ไม่หนักผิว เหมือนเค้าให้ความชุ่มชื้นมากกว่าค่ะ ผิวดูวาวขึ้นเล็กน้อย เหมือนผิวสุขภาพดี ทาจบขั้นตอนนี้แนตชอบมากค่ะ เพราะรู้สึกเหมือนเราได้ช่วยให้ผิวไม่แห้งกร้าน อ่อนล้าขาดความชุ่นชื้น เลยตั้งใจทาทุกวันๆ ช่วยประคองผิวให้หนีความอ่อนล้า อ่อนแรง และความเหี่ยวค่ะ!
ปริมาณที่ทาก็ตามนี้เลยค่าา แต้มๆลงไป เหมือนจะเยอะ แต่จริงๆไม่เยอะนะคะ เนื้อเค้าจะเบาลง หลังเราเกลี่ยเนื้อครีมบนผิว จะรู้สึกว่าเนื้อเค้าข้นกว่าเนื้อ Lotion แต่ไม่หนักผิว เหมือนเค้าให้ความชุ่มชื้นมากกว่าค่ะ ผิวดูวาวขึ้นเล็กน้อย เหมือนผิวสุขภาพดี ทาจบขั้นตอนนี้แนตชอบมากค่ะ เพราะรู้สึกเหมือนเราได้ช่วยให้ผิวไม่แห้งกร้าน อ่อนล้าขาดความชุ่นชื้น เลยตั้งใจทาทุกวันๆ ช่วยประคองผิวให้หนีความอ่อนล้า อ่อนแรง และความเหี่ยวค่ะ!
เทียบผิวให้เห็นกันชัดๆนะคะ ด้านซ้ายคือทาจบ 2 ขั้นตอนตามด้านบนไปแล้วค่ะ ส่วนด้านขวาคือผิวเปลือยหลังล้างหน้าเสร็จค่ะ ความแตกต่างคือความ Juicy แต่ไม่มัน ไม่เยิ้ม ความดูผิวชุ่มฉ่ำพร้อมรับเครื่องสำอางต่อแบบไม่ต้องกลัวคราบ แบบที่เราพอใจเลยค่าา
ผลลัพธ์หลังจากใช้แบบต่อเนื่องมามากกว่าครึ่งปีแล้ว ถือว่าค่อนข้างพอใจนะคะ ด้วยระดับราคาที่ไม่สูงเกินเอื้อมสำหรับเรา และความสบายผิว และสบายใจค่ะ 555 ตั้งแต่ใช้มา แนตสังเกตว่าผิวไม่มีการ age เพิ่มจากเดิมค่ะ รูขุมขนกว้างไม่เพิ่มขึ้น และรู้สึกว่าผิวแข็งแรงขึ้นน้าา ผิวจะดูมีความเต็มอิ่ม เล่นแสงเหมือนผิวสุขภาพดีมากๆ ทั้งนี้กว่าจะได้ผิวที่รู้สึกเนียน ไม่สากมือ ไม่แห้งตึงนี้ แนตต้องใช้ติดต่อกันไม่ต่ำกว่า 2 สัปดาห์ ผิวถึงค่อยเริ่มเห็นถึงความสุขภาพดี และดูอ่อนเยาว์ลงนิดนึงค่า
ปล.เคยหยุดทาไป1 สัปดาห์ เพราะขี้เกียจมากๆๆๆ ผิวกลับมารู้สึกสาก ไม่สบายผิว แห้งตึง หลายๆอย่างที่ทำให้เราเห็นถึงความเริ่มร่วงโรยค่ะ ฮือออ แนตแนะนำสาวๆต้องทาบำรุงอย่างสม่ำเสมอนะคะ จบแล้วค่าากับการมาพูดถึง Skincare ที่แนตอยากเอามาแนะนำ สำหรับเพื่อนๆที่อาจเริ่มมีความกังวลเกี่ยวกับผิวที่หย่อนคล้อย หรืออาจจะเริ่ม age ได้ในไม่กี่ปีข้างหน้า เพราะแนตขอย้ำไว้ตรงนี้เลยนะคะ ว่าการชะลอ ป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาผิวนั้น ง่ายกว่าการพยายามแก้ไข เมื่อปัญหาผิดนั้นเกิดขึ้นแล้วค่ะ
ปล. แนตเคยหยุดทาไป1 สัปดาห์ เพราะขี้เกียจมากๆๆๆ ผิวกลับมารู้สึกสาก ไม่สบายผิว แห้งตึง หลายๆอย่างที่ทำให้เราเห็นถึงความเริ่มร่วงโรยค่ะ ฮือออ แนตแนะนำสาวๆต้องทาบำรุงอย่างสม่ำเสมอนะคะ จบแล้วค่าากับการมาพูดถึง Skincare ที่แนตอยากเอามาแนะนำ สำหรับเพื่อนๆที่อาจเริ่มมีความกังวลเกี่ยวกับผิวที่หย่อนคล้อย หรืออาจจะเริ่ม age ได้ในไม่กี่ปีข้างหน้า เพราะแนตขอย้ำไว้ตรงนี้เลยนะคะ ว่าการชะลอ ป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาผิวนั้น ง่ายกว่าการพยายามแก้ไข เมื่อปัญหาผิดนั้นเกิดขึ้นแล้วค่ะ
แนตตั้งใจเขียนบทความขี้มาเพราะ อยากจะเอาพฤติกรรมของตัวเองมาแชร์ แถมด้วยการเตือนสติน้องๆให้ขยันทาครีม ก่อนจะเกิดปัญหาผิวอ่อนล้า ตามอายุแบบเรานะคะ เราจะเริ่มจากครีมที่ราคาเบาๆตามกำลังทรัพย์ก่อนก็ได้น้าเพราะความสม่ำเสมอ สำคัญกว่าครีมที่เราทาค่ะไม่ว่าครีมจะแพงลิบแค่ไหน แต่ถ้าเราไม่ทา มันก็ไร้ค่าค่ะ
แนตตั้งใจเขียนบทความขี้มาเพราะ อยากจะเอาพฤติกรรมของตัวเองมาแชร์ แถมด้วยการเตือนสติน้องๆให้ขยันทาครีม ก่อนจะเกิดปัญหาผิวอ่อนล้า ตามอายุแบบเรานะคะ เราจะเริ่มจากครีมที่ราคาเบาๆตามกำลังทรัพย์ก่อนก็ได้น้าเพราะความสม่ำเสมอ สำคัญกว่าครีมที่เราทาค่ะไม่ว่าครีมจะแพงลิบแค่ไหน แต่ถ้าเราไม่ทา มันก็ไร้ค่าค่ะ
ใครที่ชอบรีวิว หรือใช้อยู่ ก็อย่าลืมกดหัวใจ หรือคอมเม้นคุยกันนะคะะ ไว้เจอกันใหม่กระทู้หน้าค่าาา
