ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวกายและเส้นผมทั้งหมดที่ใช้ในปี 2020 #เครื่องสำอาง2020
iamsomsom
44
11
รีวิว #เครื่องสำอาง2020 ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ ไม่ใช่แค่เมคอัพกับสกินแคร์เพียงอย่างเดียว แต่ยังมีผลิตภัณฑ์สำหรับผิวกายและเส้นผมตัวเด็ดๆ อีกว่ามีตัวอะไรกันบ้าง เราไปดูพร้อมกันเลยค่าาา
กลุ่มที่ 1 ทำความสะอาดผิวกาย
1. DMP Double Milk & Vitamin E Baby Bath for Dry Skin (139 บาท)
ครีมอาบน้ำสูตรน้ำนมและวิตามินอี สำหรับผิวแห้ง สีนี้หอมแบบแป้งๆ กลิ่นของนางจะเหมือนโลชั่นน้ำนมขวดสีชมพูเป๊ะเลย เพราะเป็นซีรี่ส์เดียวกัน เนื้อของเขาจะแตกต่างจากสูตรอื่นตรงที่เป็นเนื้อน้ำนมสีขาวเข้มข้น เวลาอาบผิวจะมีความลื่นๆ แต่ไม่แห้งตึง เป็นสีที่หลายคนน่าจะชอบกัน นอกจากเอามาอาบแล้ว ยังเอามาล้างหน้า ล้างแปรง ล้างพัฟ รวมถึงส่วนนั้นๆ ด้วย อเนกประสงค์ในขวดเดียว แถมคุ้มค่าคุ้มราคา มีโปรแพคคู่ตลอด ต้องตุนติดบ้านไว้แล้วค่ะ
2. Parrot Oil in Bath White Perfect (129 บาท)
ตัวนี้เคยได้รางวัลจากบ้านจีบันให้มาลอง จะบอกว่าใช้แล้วชอบมากๆๆๆ กลิ่นหอมหวานละมุนๆ แบบลูกคุณๆ ปลื้มมากๆๆๆ ตรงที่อาบพร้อมบำรุงผิวไปในตัว คือมันเป็นแบบ 2in1 ในขวดเดียว เนื้อครีมเข้มข้นเหมือนอาบน้ำนม อาบแล้วฟินมากๆๆ ตัวนี้เป็นสูตรผิวกระจ่างใส สำหรับส้มใช้แล้วขาวขึ้นจริง แถมผิวนุ่มชุ่มชื่นทุกครั้งหลังอาบด้วย ตอนนี้ใช้หมดแล้ว ซื้อซ้ำแน่นอนค่ะ
3. Benice Anti Bacteria Aroma (ซื้อ1แถม1 จาก Tops แต่จำราคาไม่ได้อ่า55)
ปกติส้มใช้ครีมอาบน้ำ Anti-Bacteria ทีไร มักจะเจอปัญหาผิวแห้งทุกครั้งหลังอาบ แถมกลิ่นที่ดูแปลกๆ อาบแล้วไม่ฟิน จนได้มาเจอครีมอาบน้ำที่มีทั้งปกป้องผิวจากแบคทีเรียพร้อมบำรุงและหอมผ่อนคลาย ส้มใช้มาหมดแล้วทั้ง 2 สูตร ผลลัพธ์คือ ผิวไม่แห้งตึงทุกครั้งหลังอาบ แถมกลิ่นหอมติดผิวนานด้วย
สูตร Energy สำหรับผิวอ่อนล้า ด้วยกลิ่นส้มยูซุและน้ำผึ้ง กลิ่นนี้จะออกแนวๆ เกรฟฟรุตๆ สดชื่นๆ รู้สึกกระปรี้กระเปร่า ดูมีพลังในการทำงานมากยิ่งขึ้น พร้อมเผยผิวที่ดูเนียนสดใส เปล่งปลั่ง
สูตร Relaxing สำหรับผิวขาดชีวิตชีวา ด้วยกลิ่นดอกลาเวนเดอร์และเชอรี่ กลิ่นนี้จะหอมแบบผ่อนคลายๆ แฝงความละมุนๆ ใครที่รู้สึกเครียดจากการทำงาน มาใช้กลิ่นนี้แล้วรู้สึกอารมณ์ดี ผ่อนคลาย พร้อมบำรุงผิวนุ่มชุ่มชื่น ไม่แห้งตึง
ถามว่าส้มชอบ 2 สีไหนมากกว่ากัน คำตอบคือ ส้มชอบทั้งคู่ หอมทั้งคู่เลยค่าาา
4. อิงอร สบู่สมุนไพร สูตรมะขามแท้ (ประมาณ 33-38 บาท)
ก้อนนี้ส้มซื้อแพคคู่จากโลตัสเอกเพรสมาค่ะ เป็นแบรนด์โปรดของส้มที่ใช้แล้วชอบม๊ากมากๆๆ ข้อดีของเขาก็คือ ฟองเยอะ อาบสะอาด ผิวดูขาวใสขึ้นจริง แต่ข้อเสียคือ หลังอาบเสร็จผิวจะแห้งตึงทุกครั้งที่อาบ ต้องโบกโลชั่นเพื่อให้ผิวชุ่มชื่น ไม่แห้งตึงด้วย แนะนำเวลาอาบอย่าไปพอกทิ้งไว้ ไม่งั้นผิวมันจะแห้งสากด้วยน้าา
กลุ่มที่ 2 สครับผิวกาย
1. Yoko Spa Milk Salt (39 บาท)
ใช้แล้วชอบมากเลยค่ะ ตอนหลังอาบน้ำถูสบู่เสร็จ ส้มจะใช้เกลือน้ำนมขัดผิวทิ้งไว้ 3 นาทีแล้วล้างออก หลังใช้ผิวส้มชุ่มชื่น นุ่มเด้งเหมือนเต้าหู้ ผิวดูกระจ่างใสขึ้น แถมกลิ่นหอมหวานละมุนจากนมด้วย ราคาสุดคุ้ม มีโปรแพคคู่1แถม1บ่อยมากๆๆๆ แต่ขอหักเรื่องแพคเกจจิ้งที่เป็นซิปล็อค คือหลังเปิดใช้เสร็จซิปมันไม่ปิดเลย ต้องใช้ถุงก๊อบแก๊บช่วยอีกแรง ถ้าปรับปรุงเรื่องซิปล็อคจะยิ่งดีมาก
2. A Bonne Triple White Spa Milk Salt (38 บาท)
เกลือน้ำนมขัดผิวอีกยี่ห้อนึง แพคเกจจิ้งมาในถุงใหญ่มากๆๆ มีฝาเปิด-ปิดใช้งานสะดวกแถมใช้นานเกือบครึ่งปีด้วย ข้อดีของเขาคือ คุณสมบัติจะคล้ายๆ โยโกะเลยค่ะ คือส้มจะใช้ถูขัดตอนตัวเปียกหลังอาบน้ำ ทิ้งไว้ 3 นาทีแล้วล้างออก ผลลัพธ์ก็คือ ผิวส้มมีความชุ่มชื่น นุ่มลื่น ดูเนียนใสขึ้น แต่ข้อเสียคือ เม็ดสครับมันจะบาดผิวบริเวณส่วนที่บอบบาง เช่น ขาหนีบใกล้ๆ กับจุดซ่อนเร้น มันจะแสบมากๆๆ เวลาขัดถูส่วนนั้นต้องระวังหน่อย
กลุ่มที่ 3 บำรุงผิวกาย
1. Vaseline Intensive Care Deep Restore (จำราคาไม่ได้ แงๆๆ55)
ตัวนี้ส้มใช้หมดไปหลายขวดแล้ว ใช้ดีมากๆๆๆ กลิ่นหอมละมุนติดผิวนาน ให้ความชุ่มชื่นได้ดี รู้สึกผิวนุ่มเด้ง เรียบเนียน เนื้อโลชั่นค่อนข้างเข้มข้น ซึมค่อนข้างไว ไม่เหนอะหนะ แต่ถ้าใครมีสภาพผิวแห้งมากๆๆ ถึงกับกร้านเลย สีนี้จะให้ความชุ่มชื่นยังไม่พอ คือต้องกดซัก 5 ปั๊ม จะสยบผิวแห้งกร้านได้เลยค่าา แถมราคาดีงามมาก ใช้แล้วไม่แพ้ ไม่คัน เป็นโลชั่นสามัญประจำบ้านที่สามารถใช้ได้ทุกวัยด้วยค่ะ
2. Jergens Ultra Healing Extra Dry Skin Moisturizer
ตัวนี้พี่ชายส้มซื้อมาใช้เองแล้วส้มเห็นเลยแอบจิ๊กมาใช้บ้าง5555 เห็นแล้วอยากลอง มันดีมากๆๆๆ เนื้อโลชั่นเข้มข้นมาก แนะนำให้บีบหยดเดียวแล้วทาทั่วทั้งแขน ขา และลำคอเลยแบบไม่ต้องบีบเพิ่ม แต่บำรุงชุ่มชื่นได้ดีมาก เพราะส้มมีผิวกายที่แห้งมากด้วย คือตัวนี้ใช้แค่หยดเดียวก็เอาอยู่จริงๆ หลังใช้ไม่ทำให้ผิวแห้งกร้านอีก แถมผิวนุ่มชุ่มชื่นน่าสัมผัสด้วย ดีจริงๆ ตามที่เขาเคลมไว้เลยค่ะ แถมขวดเดียวใช้ได้นาน ประหยัด คุ้มค่าคุ้มราคาด้วย
3. DMP Double Milk & Vitamin E Body Lotion (199 บาท)
ส้มซื้อเซ็ตนี้มาเป็นแพคคู่ มีทั้งขวดใหญ่ฝาปั๊มและขวดเล็กฝาเปิด-ปิดในแพคเดียวกัน และมีการแถมถุงผ้ามาด้วย สุดคุ้มไปอีก ตัวนี้เป็นซีรี่ส์เดียวกันกับครีมอาบน้ำขวดฟ้าที่ส้มกล่าวมาข้างต้นเลย แถมมีกลิ่นเดียวกัน กลิ่นเขาจะหอมแบบแป้งๆ คู่แฝดน้ำหอมกลิ่นแป้งเด็กแบรนด์ดังด้วย แต่อยู่ในราคาถูกกว่า หาซื้อได้ง่ายตามซูเปอร์ เนื้อโลชั่นสีขาวน้ำนมเข้มข้น ซึมไว ไม่เหนียวเหนอะหนะ คือให้ความชุ่มชื่นได้ดี ผิวนุ่มน่าสัมผัส แต่ให้ความรู้สึกเบาสบายผิว ไม่ทำให้ผิวแห้งกร้าน แถมกลิ่นหอมติดผิวค่อนข้างนานด้วย นอกจากนี้ยังเอามาทาบริเวณรักแร้แทนโรลออนได้อีกด้วยน้าา
4. Vaseline Super Vitamin Whitening Serum Cranberry & Vitamin B3 (199 บาท)
สีนี้จะเน้นผิวโกลว์กระจ่างใส ด้วยแครนเบอร์รี่และวิตามินบี 3 จะบอกว่าสีนี้หอมมากๆๆๆ หอมที่สุดในบรรดาโลชั่นวาสลีนทั้งหมดเลยนะ แต่กลิ่นอื่นก็หอมเหมือนกัน หอมแบบหวานๆ ฟรุตตี้ๆ ดูแพงๆ (แต่ราคาไม่แพงตามนะจ๊ะ) เนื้อเซรั่มซึมไวเวอร์ ไม่เหนียวเหนอะหนะ ทารู้สึกเบาสบาย ผิวดูใสวิ้งขึ้นจริง แถมกลิ่นหอมติดผิวนาน ส่วนตัวส้มชอบใช้ทาหลังอาบน้ำเสร็จทันทีแล้วค่อยทาตัวนี้จะได้ประสิทธิภาพดีกว่า ถามว่าสีอื่นน่าลองมั้ย คำตอบคือน่าลองเช่นกันค่ะ
5. อิงอร ไวท์เทนนิ่ง โลชั่นสมุนไพร (ขวดละ 125 บาท)
ตอนนี้อิงอรมีโลชั่นสมุนไพรแล้วน้าา ไม่ต้องกลัวว่าอาบสบู่อิงอรเสร็จแล้วผิวแห้งอีกต่อไป ทางแบรนด์อิงอรส่งมาให้ส้มลองถึง 2 สูตรเลยค่ะ ว่ามันดีอย่างไร
มะขามและขมิ้นชัน สูตรนี้เน้นผิวกระจ่างใส แลดูอ่อนเยาว์ เนื้อโลชั่นบางเบา ซึมไว ไม่เหนอะ กลิ่นหอมค่อนไปทางสดชื่นๆ ดูเป็นสมุนไพร ส้มใช้ทาหลังจากอาบด้วยสบู่อิงอรมะขามเสร็จปุ๊ป แล้วทาโลชั่นมะขามทันที จะบอกว่าเนื้อบางเบา ให้ความชุ่มชื่นได้โอเค ผลลัพธ์ที่ใช้ติดต่อกัน สังเกตว่าผิวส้มดูกระจ่างใสขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
น้ำนมข้าว สูุตรนี้เน้นบำรุงผิวนุ่มชุ่มชื่น ส้มใช้สูตรมะขามแล้วยังให้ความชุ่มชื่นไม่พอ ระหว่างวันมีผิวแห้งกร้านเลยต้องมาซบขวดสีนี้เพราะเขาจะเน้นการบำรุงชุ่มชื่นได้ดีกว่า สาวๆ คนไหนที่มีปัญหาผิวแห้งแบบส้ม สูตรน้ำนมข้าวคือตอบโจทย์เลย เนื้อจะเข้มข้นกว่าสูตรมะขาม แต่ซึมไวเหมือนเดิม กลิ่นหอมแบบนมๆ ละมุนๆ ผลลัพธ์ก็ไม่ต่างจากสูตรมะขาม แต่สูตรนี้จะให้ความชุ่มชื่นได้ดีกว่า
6. Cute Press Peony Paradise 8hr Moisturizing Body Cream (159 บาท)
สีนี้ส้มชอบที่สุดในบรรดา 3 กลิ่นทั้งหมดในกลุ่มนี้เลย แถมเป็นกลิ่นที่ขายดีที่สุด กลิ่นนี้ไปทางหอมสดใสๆ แฝงผลไม้สดชื่นๆ เนื้อเข้มข้น แต่บางเบา พอเวลาทามันจะแตกตัวเป็นน้ำๆ ฉ่ำๆ เหมือนทาน้ำผลไม้ที่ผิว ให้ความชุ่มชื่นได้โอเค หอมติดผิวซักประมาณ 4-5 ชั่วโมงเท่านั้น ขวดใหญ่มาก ใช้ได้นานด้วย ถ้าเพิ่มความชุ่มชื่น หอมนาน แนะนำให้ทาหลังอาบน้ำ ครั้งละ 5 ปั๊มเลยจ้าา
7. Cute Press Glow With Happiness Fragrance Body Cream (111 บาท)
โลชั่นน้ำหอมรุ่นใหม่ล่าสุดจากคิวท์เพรส มาพร้อมกับลายเจ้าหญิงดิสนีย์สุดน่ารัก และส้มชอบ Rapanzel ด้วย กลิ่นนี้ออกไปทางแอปเปิ้ลๆ คล้ายๆ กับ oriental princess เลยค่ะ เนื้อโลชั่นเข้มข้น ให้การบำรุงชุ่มชื่นกับผิวได้ดี กลิ่นหอมติดทนมากๆๆ คือเราทาตอนกลางคืนแล้วหอมจนถึงวันรุ่งขึ้นเลยค่ะ
8. Biore UV Anti-Pollution Body Cream Serum SPF 50+ PA+++ Intensive White (239 บาท)
โลชั่นกันแดดตัวโปรดของส้ม ใช้แล้วติดใจมากๆๆ จนในที่สุดได้สอยหลอดใหญ่จากบิวเทรี่ยมมาแล้วจ้าาา เนื้อเซรั่มบางเบา แต่บำรุงเข้มข้น ทำให้ผิวนุ่มชุ่มชื่น ดูขาวกระจ่างใส กันแดดได้ยอดเยี่ยมมาก เมื่อเราไปออกเที่ยวกลางแจ้งที่มีแดดเปรี้ยงๆ แถมกลิ่นหอม ไม่เหนียวเหนอะหนะ ไม่เลอะเสื้อผ้า เหมาะมากกับสภาพอากาศตอนนี้ที่เผชิญกับฝุ่นและแสงแดด
กลุ่มที่ 4 เพิ่มความมั่นใจและความหอม
1. Nivea Whitening Deep Serum Hokkaido Rose (79 บาท)
ซื้อตอนลดราคาพิเศษในโลตัส แตกต่างจากนีเวียโรลออนที่เราใช้ตรงที่เป็นเนื้อเซรั่มบางเบา กลิ่นหอมละมุนๆ ติดทนนาน ระงับกลิ่นกายได้ดีมาก ทาหลังอาบน้ำตอนเช้าจนตกเย็นกลิ่นก็ยังติดทนอยู่ แต่ขนขึ้นเร็วมาก เรื่องหนังไก่อาจไม่ช่วยเท่า ผิวเนียนขึ้น นุ่มขึ้นด้วย
2. Cute Press Sea Me Sparkle Deodorant (74 บาท)
โรลออนระงับกลิ่นกายลายเจ้าหญิงแอเรียล กลิ่นนี้ออกดอกไม้ๆ แฝงความสดชื่นจากผลไม้ๆ ซึ่งคล้ายๆ กับแบรนด์ใดแบรนด์นึงอีก เพิ่งลองใช้ กลิ่นหอมมากๆๆๆ ระงับกลิ่นกายได้ดีเลยทีเดียว
3. Cute Press Miss Red Eau de Toilette (499 บาท)
กลิ่นนี้จะมีความเซ็กซี่แฝงความหวานสดใสไปในตัว คือรวมทั้ง 3 กลิ่นในกลิ่นเดียวกัน กลิ่นมันจะดูเป็นผู้ใหญ่ๆ หน่อย ช่วยเปลี่ยนบุคลิกดูเป็นสาวมั่นขึ้น แต่กลิ่นรุ่นนี้ไม่ค่อยติดทนเท่าไร จะหอมติดทนประมาณ 4-5 ชั่วโมงเท่านั้น
4. Cute Press Eau de Toilette 10 มล. (แท่งละ 199 บาท)
Sweet Musk กลิ่นหอมสุดคลาสสิคในตำนาน ที่เคยใช้แพคเกจเก่าที่เป็นสีม่วง พอเปลี่ยนเป็นสีชมพู แต่กลิ่นเหมือนเดิม กลิ่นจะออกหวานๆ ดอกไม้ๆ มีความคลาสสิค แฝงความสดชื่นนิดๆ แต่ออกเลี่ยนไปนิดนึง สำหรับเรานะ ส่วนเรื่องความติดทนก็ไม่ได้ติดทนเท่าไร แต่สามารถพกไปเติมเพิ่มได้ ในขนาดพกพา
I'm Just me กลิ่นนี้ส้มชอบมากๆๆ หอมมากๆๆๆ แถมติดทนด้วย แต่มีการพกไปเติมเพิ่มเล็กน้อย กลิ่นออกแนวๆ วานิลลา แป้งๆ ดูสุขุมนุ่มนวล เสริมความมั่นใจ ดูเป็นตัวเองมากขึ้น จนขึ้นแท่นเป็นกลิ่นน้ำหอมโปรดของส้มไปเลยค่ะ
กลุ่มที่ 5 ดูแลเส้นผม
1. Sunsilk Collagen Filler Super Shampoo Power Shine (135 บาท)
เป็นแชมพูใสสระสะอาด นุ่มลื่น กลิ่นหอมหวานแบบขนมๆ ส่วนตัวใช้ก่อนลงครีมนวดคอลลาเจน เพื่อให้ผมนุ่มลื่น หวีง่าย ไม่พันกัน ขวดปั๊มดูเหมือนใหญ่นะ แต่ของจริง ขวดขนาดพอดี กะทัดรัด
2. Sunsilk Collagen Filler Super Conditioner Power Shine (135 บาท)
ใช้มาหลอดที่ 2 แล้ว รอบนี้มาพร้อมคู่แชมพูใสตัวใหม่ ส่วนตัวชอบกลิ่นนี้ที่สุดในบรรดากลุ่มซันซิลคอลลาเจนทั้งหมด ตัวนี้นวดทุกครั้งหลังสระ ตั้งแต่กลางผมจนเน้นบริเวณปลาย บนฉลากบอกว่าไม่ต้องนวดทิ้งไว้ สำหรับส้มจะนวดทิ้งไว้ซักประมาณ 3-5 นาที เพื่อให้เนื้อครีมซึมเข้าสู่แกนผมอย่างล้ำลึกแล้วค่อยล้างออก แต่ปัญหาคือล้างออกยาก มันต้องใช้เวลาล้างกว่าจะออก ผลลัพธ์คือ จากผมส้มที่ดูฟู พันกัน รู้สึกผมนุ่มลื่นขึ้น ฟูน้อยลง หวีง่ายขึ้นกว่าเดิม น่าสัมผัสตลอดวัน แถมผมหอมติดทนนานข้ามวันด้วยค่ะ
3. Carring Treatment (89 บาท)
Original สำหรับทุกสภาพเส้นผม สีนี้ส้มใช้ครั้งแรกตอนสมัยเรียนมอปลายที่ไว้ผมยาวแล้ว การบำรุงผมสำคัญมาก ทรีทเม้นต์ตัวนี้ส้มใช้หมดไปหลายกระปุกแล้ว กลิ่นหอมละมุนๆ ไม่ฉุน เนื้อเข้มข้น ซึมค่อนข้างไว ไม่ทิ้งความมันไว้กับเส้นผม ผลลัพธ์คือผมนุ่มลื่นขึ้น หวีง่ายขึ้น หอมติดผมนานขึ้น แต่ถ้าผมแห้งเสียมากๆๆ ยังเอาไม่อยู่
AHA สำหรับผมทำสี ตั้งแต่ส้มทำสีผมมา สูตรสีน้ำตาลก็ไม่ได้ช่วยอะไรแล้ว สีนี้เหมาะสำหรับผมแห้งเสียที่ผ่านจากการทำสี ยืด ย้อม ดัด ทั้งหลายแหล่ พอส้มได้มาหมักผมด้วย AHA เปลี่ยนจากผมแห้งเสียกลายเป็นผมนุ่มลื่น หวีง่าย ไม่พันกัน พร้อมกลิ่นหอมแบบฟรุตตี้ๆ ที่หลายคนชื่นชอบกันเยอะ เพราะมันเป็น AHA จากผลไม้ สาวๆ ที่ทำผมที่ร้านบ่อยน่าจะชอบกันเยอะ
4. Pantene Perfec+on Airy Milky Serum (39 บาท)
เกือบลืมไปแล้วว่าแพนทีนมีลีฟออนมอยส์เจอร์ไรเซอร์บำรุงผมแบบไม่ต้องล้างออกเลยอ่ะ จำได้เราเคยใช้ตอนเด็กๆ ที่เคยไว้ผมยาวถักเปียไปโรงเรียน แต่ตอนนี้ยังมีอยู่น้าา ขนาดเหมือนอันเก่าเลย แต่เปลี่ยนแพคเกจจิ้งเป็นสีทองให้ดูแพงขึ้น แต่ราคาถูกเหมือนเดิม เนื้อเข้มข้น กลิ่นก็แนวๆ แพนทีนเลยอ่ะ ส่วนใหญ่ส้มจะลูบตอนผมเปียกหมาดๆ ก่อนไดร์ผม เพราะแชมพู+ครีมนวดและทรีทเม้นต์ยังไม่พอ ต้องมีการบำรุงด้วยมอยส์เจอร์ไรเซอร์เช่นเดียวกันกับผิวด้วย เพราะส้มเป็นคนผมแห้ง ชี้ฟู พันกัน ไฟฟ้าสถิตย์ง่าย ใครว่าลีฟออนไม่สำคัญกับเรา แต่สำหรับเรา สำคัญมาก ผลลัพธ์คือ ผมส้มนุ่มลื่นขึ้น หวีง่ายขึ้น ไม่พันกันจนยุ่งเหยิงแล้ว สำหรับคนที่มีปัญหาผมแบบส้ม แนะนำให้มีลีฟออนเซรั่มติดไว้เลยค่ะ
เป็นอย่างไรบ้างค่ะทุกคน มีใครเคยใช้หรือมีตัวไหนน่าสนใจกันบ้าง มาเม้นกันหน่อยจ้าา หวังว่าเป็นประโยชน์สำหรับทุกคนนะคะ