ครีมกันแดด 4 ตัวสุดฮิต มาดูกันสักนิด ปกป้องผิวดีจริงไหม? ( 𝟭 𝙃𝙤𝙪𝙧𝙨 𝙎𝙪𝙣𝙨𝙘𝙧𝙚𝙚𝙣 𝙬𝙚𝙖𝙧 𝙩𝙚𝙨𝙩 )

82 31


สวัสดีค่ะทุกคนน กลับมาเจอกันอีกแล้ว 


เป็นยังไงกันบ้างคะ? เข้าสู่ปี 2021 แล้วน้าา ☺ ไวมากก 

แปปเดียวปีใหม่แล้ววว



แต่ไม่ว่าเวลาจะผ่านสักแค่ไหน มีหนึ่งสิ่งที่ชีวิตของวิขาดไม่ได้ และต้องใช้ทุกวัน! ทุกเดือน และทุกปี นั่นก็คือ “ครีมกันแดด” นั่นเองค่า 


เริ่มต้นปีแบบนี้ ก็จับครีมกันแดดมารีวิวกันสักหน่อยค่ะ :) ซึ่งครีมกันแดดที่วิชอบในกรุหลากหลายตัวด้วยกัน เคยรีวิวไปแล้วบ้าง หรือบางตัวก็ยังไม่เคย แต่วันนี้จะหยิบตัวที่เรียกได้ว่า Hot hit  มาเล่าสู่ทุกคนฟัง และรีวิวกันแบบพลีชีพไปเลย!!!



ใครๆก็บอกว่ากันแดดที่ดี ต้องมีคุณสมบัติที่น่าสนใจ และ SPF สูงๆ ... แต่ความจริงแล้วเราก็ไม่รู้จริงๆว่าที่ทาลงไปนี่ เค้าจะสามารถกันแดดได้ดีแค่ไหนกันเชียว?


วันนี้ วิเลยจะทดสอบประสิทธิภาพของครีมกันแดดเหล่านี้ ด้วยการพลีชีพตากแดดแบบจริงจังเป็นเวลา 1 ชั่วโมงเต็มค่ะ แต่ก่อนอื่น วิขอแนะนำแต่ละตัวที่วินำมาพลีชีพวันนี้ก่อน ว่าตัวไหนน่าสนใจยังไงบ้าง ตามไปดูกันค่า



1. Anessa Perfect UV sunscreen skincare milk SPF50+ PA++++


Texture : กันแดดเนื้อน้ำนม เกลี่ยง่าย ซึมไว ไม่เหนอะหนะค่ะ เบาสบายผิว ไม่เป็นคราบ กันน้ำและเหงื่อ


กันแดดตัวนี้ บอกเลยว่าอัดเทคโนโลยีต่างๆมาแบบจุกมากก

  • เทคโนโลยี Triple Defense Technology ค่ะ ทางแบรนด์เค้าบอกว่า ยิ่งโดนน้ำหรือเหงื่อ ก็ยิ่งมีความสามารถในการกันแดดเพิ่มยิ่งขึ้น 

  • Very Water Resistant พัฒนามาเพื่อให้กันน้ำได้ดีมากยิ่งขึ้น 

  • Aqua Booster EX Technology ปกป้องผิวจากแสงแดด

  • เทคโนโลยี Thermo Booster เมื่ออุณหภูมิสูงยิ่งขึ้น ก็ยิ่งปกป้องผิวมากยิ่งขึ้น


และเหมาะกับการพกไปเที่ยวทะเลมากค่ะตัวนี้ เพราะสามารถป้องกันทรายไม่ให้ติดผิวได้ไปอีก เป็นไพรเมอร์เตรียมผิวก่อนแต่งหน้าก็เริ่ดค่ะ กลิ่นหอมดีนะคะ แต่ถ้าใครแพ้น้ำหอม วิอยากให้ทดสอบการแพ้ดูก่อนค่ะ 


ปราศจากการแต่งสีและไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน สาวผิวมันน่าจะชอบสูตรนี้เลย เพราะซึมไว ชุ่มชื้น แต่มาเหนอะหนะ เบาสบายผิว 


 ความรู้สึกหลังใช้ : วิชอบที่ตัวนี้เนื้อบางเบาดีค่ะ เกลี่ยง่ายและสบายผิว ส่วนตัวชอบกลิ่นมาก ใช้แล้วรู้สึกผ่อนคลาย แต่ใครแพ้น้ำหอม ลองทดสอบก่อนนะคะ 55555 ใช้ก่อนแต่งหน้าแล้วหน้าดูผ่องขึ้นนิดหน่อยค่ะ แต่ดีที่กันน้ำกันเหงื่อ และไม่อุดตันผิวด้วย



2. Biore UV Watery Essence SPF50+ PA++++


Texture : กันแดดเนื้อ Essence ให้ความชุ่มชื้นสูง แตกตัวเป็นน้ำ เย็นสบายผิว เบาบาง ไม่เหนอะหนะมาก


ทางแบรนด์บอกเล่ามาว่า สามารถปกป้องผิวจากแดดได้อย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยสูตร Micro Defense คืออนุภาคเล็กมาก ทาแล้วซึมลึก ปกปิดทุกอณูผิว  ป้องกันรังสีทั้ง UVA และ UVB เพื่อไม่ให้แสงแดดทำร้ายผิว 


สูตรนี้เป็นสูตรใหม่ ที่พัฒนามาเพื่อให้กันน้ำ กันเหงื่อได้ดีมากยิ่งขึ้นและสามารถทาทับเมคอัพได้เลยระหว่างวัน ดังนั้นเหมาะแก่การพกพามากเลยงับ


 ความรู้สึกหลังใช้ : วิชอบที่เค้าทิ้งความชุ่มชื้นหลังทาไว้ เนื่องจากเค้ามี Hyaluronic Acid ผสมอยู่ด้วย แต่ส่วนตัวรู้สึกว่าไม่ค่อยเหมาะกับคนผิวมัน ถึงผิวมันมากสักเท่าไหร่ เพราะค่อนข้างจะเหนอะหนะ และอาจะเกิดการอุดตันได้ มีแอลกอฮอล์เป็นส่วนผสมแบบรู้สึกได้ ใครแพ้ก็ต้องทดสอบก่อนใช้บนผิวหน้านะคะ



3. Banana Boat Simply Protect Aqua Daily Moisture UV Protection Sunscreen Lotion SPF50+ PA++++


Texture : กันแดดเนื้อโลชั่น บางเบาและนุ่มลื่นสบายผิว บางเบามากจริงๆค่ะ ทาลงผิวแล้วไหลลงมาเป็นน้ำเลย หลังทาไม่ทิ้งความมันไว้ ซึมไปกับผิว


พูดถึงกันแดด จะไม่มีแบรนด์ระดับโลกอย่าง Banana Boat ไม่ได้เลย สูตรใหม่ตัวนี้ ทางแบรนด์เคลมว่าเป็นสูตรที่อ่อนโยนต่อผิวมากค่ะ และมาพร้อมคุณสมบัติขั้นสุดจาก Banana Boat


  • ปกป้องผิวด้วย SPF50+ และPAสูงสุดถึงสี่บวก ป้องกันรังสี UVB ลดอาการรู้สึกโดนแดดเผา พร้อมทั้งปกป้องผิวจาก UVA ไปในตัว มากไปกว่านั้นคือ บานาน่าโบ๊ทไม่แตกตัวเมื่อเจอแสงแดดค่ะ 

  • Provides Broad Spectrum ช่วยปกป้องผิวจากรังสี UVA /UVB มากกว่า 50 เท่า 

  • มี Hyaluronic Acid ในกันแดดสูตรนี้ มอบความชุ่มชื่นให้ผิวยาวนานแต่ไม่เหนอะหนะผิว

  • ช่วยปรับสภาพผิว ช่วยล็อคเมคอัพหมู่หมัด 

  • กันน้ำ และเหงื่อดีเยี่ยม 

ปราศจาก Oxybenzone, Parabens, Alcohol,Micro Plastic, Colorant และOil จึงไม่ก่อให้เกิดการแพ้ หรือสิวอุดตัน


 ความรู้สึกหลังใช้ : เป็นกันแดดที่วิชอบมากตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้ เพราะใช้ได้ทั้งผิวหน้าและผิวตัวในหลอดเดียวจบ แถมสูตรใหม่ตัวนี้ยังพัฒนามาได้ถูกใจสาวแอบแพ้ง่ายแบบวิด้วย คือทาไปแล้วไม่เหนอะหนะเลย สาวผิวผสม-ผิวมันรักแน่นอน เนื้อเกลี่ยง่ายมาก เพราะลักษณะของเนื้อผลิตภัณฑ์ดีมาก เกลี่ยแล้วแตกตัวเป็นน้ำทันที บางเบา ซึมไปกับผิว ส่วนตัวชอบกลิ่นของตัวนี้มากเช่นกันค่ะ เหมาะมากสำหรับผิวสาวเอเชียขี้ร้อนอย่างเรา เพราะมันไม่ไหล ไม่เยิ้ม แต่... ใครแพ้น้ำหอม ทดสอบก่อนน้า



4.NIVEA SUN PROTECT&WHITE OIL CONTROL SERUM 

SPF50+ PA+++


Texture : กันแดดผิวหน้าเนื้อเซรั่มสีขาว  บางเบา เกลี่ยง่าย ไม่เหนอะหนะผิว 

กันแดดอันเป็นที่เลื่องลือของ Nivea ค่ะทุกคน ตัวนี้เป็นกันแดดเพื่อผิวหน้าอย่างเดียว 


  • มาพร้อมกับเทคโนโลยี Double UV protection ปกป้องผิวด้วย SPF50+ และ PA+++ ป้องกันได้ทั้งรังสี UVA  และ UVB 

  • Licorice Extract สารสกัดจากธรรมชาติ ฟื้นบำรุงผิวให้ดูขาวกระจ่างใส*

  • ผสาน L-Carnitine ลดความมันในรูขุมขน** ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของสิวได้ถึง 86% ไม่มันต่อเนื่องยาวนานถึง 8 ชั่วโมง แม้อยู่ในสภาพอากาศร้อนชื้น


*ดูขาวกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ เครื่องสำอางไม่สามารถเปลี่ยนแปลงสีผิว
ผลลัพธ์ที่ได้ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล
**การทดสอบประสิทธิภาพของครีมที่มีส่วนประกอบของCarnitine
ในอาสาสมัคร21คนโดยไบเออร์สด๊อรฟ เอจี เยอรมนี 2555 
+จากผลการทดสอบความพึงพอใจของอาสาสมัคร400คน
โดยบ.อิปซอสส์ จำกัด เดือน ม.ค. 2562


 ความรู้สึกหลังใช้ : ก็สมคำเคลมอยู่นะคะตัวนี้ คือคุมมันได้ดีค่ะ แต่งหน้าติดทนจริง แต่สูตรนี้เค้าไม่ได้ออกแบบมาเพื่อผิวแพ้ง่ายค่ะ ดังนั้นคือน้ำหอมและแอลกอฮอล์ ก็คือรู้สึกได้เลย ดังนั้นใครผิวแพ้ง่ายควรทดสอบก่อนนะคะ แต่ยืนยันได้ว่าเมคอัพติดทนและค่อนข้างคุมมันดีค่ะ 



ขอขอบคุณ ข้อมูลของผลิตภัณฑ์ทุกตัวที่วินำมาเล่าให้ทุกคนฟังวันนี้ จากเว็บไซต์ของแต่ละแบรนด์เลยนะคะ สนใจตัวไหนเป็นพิเศษ สามารถเข้าไปอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้เลยค่ะ 


-------------------------------------------------------





เอาหละ จบพาร์ทเล่าถึงคุณสมบัติกันไปแล้ว 

เรามาพิสูจน์กันดีกว่า ว่าแต่ละตัวจะสามารถกันแดดได้ดีแค่ไหน?




เป็นกันแดด สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คงหนีไม่พ้น   ประสิทธิภาพในการปกป้องและดูแลผิวจากแสงแดด  วันนี้วิเลยทาทั้งสี่ตัวลงบนแขนซ้าย และตากแดดทิ้งไว้เป็นเวลา 1 ชั่วโมงค่ะ




โดยวิใช้การจับเวลา ร่วมกับการดูเวลาเริ่มต้น และสิ้นสุดการทดลอง 

และเมื่อครบระยะเวลา 1 ชั่วโมงในการตากแดด 



ผลลัพธ์ที่ได้ก็คือออ …




จะเห็นถึง ความไหลเยิ้มของครีมกันแดด  มากน้อย แตกต่างกันออกไปค่ะ ซึ่งวิขอเรียงลำดับจากมาก ไปน้อยสุด ดังนี้นะคะ


1.Biore : มีการไหลเยิ้มของครีมกันแดดมากที่สุดเลยค่ะ

2.Anessa : ด้วยความที่เค้าเป็นเนื้อน้ำนม จึงทำให้มีการไหลของครีมกันแดดพอสมควรค่ะ

3.Nivea Sun : ตัวนี้มีความลื่นไหลเพียงเล็กน้อย เป็นคราบเกิดขึ้นเล็กน้อยค่ะ

4.Banana Boat : หลังทาแล้วซึมเลย พอตากแดดแล้วคือไม่รู้สึกถึงความเยิ้มของกันแดดแต่อย่างใดค่ะ



และนอกจากการไหลของครีมกันแดดแล้ว สิ่งที่น่าสนใจที่สุดคือ ความหมองคล้ำที่เกิดขึ้น หลังจากที่ตากแดด  ซึ่งสีของผิวในแต่ละจุดที่ทาครีมกันแดด ก็คล้ำแตกต่างกันออกไปค่ะ



ซึ่งวิเรียงลำดับจุดที่ทาครีมกันแดดแล้วผิว คล้ำมากที่สุด ไปน้อยที่สุด โดยเทียบจากความคล้ำของผิว ในบริเวณที่ ไม่ได้ทาครีมกันแดด (Bare Skin) ดังนี้นะคะ


1.Biore จุดนี้คือผิวคล้ำเสียเห็นได้ชัดมากค่ะ แถมยังมีผื่นขึ้น ซึ่งเกิดจากที่ผิวโดนแดดเผาอีกด้วยค่ะ

2.Anessa จุดนี้คือผิวคล้ำรองลงมาเลย สังเกตเห็นสีผิวที่คล้ำขึ้นค่ะ

3.Bana Boat และ Nivea Sun วิให้สองตัวนี้ ปกป้องผิวจากความหมองคล้ำได้ดีสูสีกันเลยค่ะ เรียกได้ว่าสีผิวเปลี่ยนแปลงน้อยมากๆ



เทียบสีผิวที่เกิดการเปลี่ยนแปลงให้ทุกคนได้เห็นกันชัดๆอีกครั้งนึงค่ะ



ทั้งนี้ทั้งนั้น การทากันแดดก็ดีกว่าที่ไม่ทาเป็นอย่างมาก เพราะที่วิทดลองนี่มันแค่ 1 ชั่วโมง แต่สีผิวเปลี่ยนไปขนาดนี้ และในบริเวณที่ไม่ทากันแดดคือสีผิวเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัดเลยค่ะ


ซึ่งในชีวิตประจำวันเราโดนแสงแดดและรังสียูวีทำร้ายผิวนานกว่านี้หลายชั่วโมงมาก จึงเป็นเหตุผลที่ว่า เราควรทากันแดดในทุกๆวันนั่นเองง



หวังว่ากระทู้นี้จะเป็นประโยชน์แก่ผู้ที่กำลังหาครีมกันแดดดีๆสักตัวไว้ในกรุนะคะ และอยากให้ทุกคนตระหนักถึงความสำคัญของครีมกันแดดจริงๆค่ะ :) 




สำหรับวันนี้วิขอตัวลาไปก่อน 

พบกันใหม่กระทู้หน้านะคะ 

สวัสดีค่าา




W-wi Rujira

W-wi Rujira

สวัสดีค่ะทุกคน ชื่อวินะค้า จะมาแชร์สิ่งที่ใช้แล้วชอบให้ทุกๆคนได้เข้ามาอ่านนะค้า สามารถแสดงความคิดเห็นได้นะคะ :)

Playhard, Work harder ?⚡️

ยินดีที่ได้รู้จักทุกคนค่ะ ?

:: Contact ::
Line id : wirujirab.

FULL PROFILE