รวบรวมนักแสดง"คุณป้า" ที่มีฝีมือการแสดงไม่ธรรมดา #4
Panchud Thammachat 46 6
7.Glenn Close
เกิด:19 มีนาคม 1947(ปัจจุบันอายุ73ปี)
บ้านเกิด:กรุงGreenwich รัฐConnecticut สหรัฐอเมริกา
เข้าวงการตั้งแต่ปี1974
เกิด:19 มีนาคม 1947(ปัจจุบันอายุ73ปี)
บ้านเกิด:กรุงGreenwich รัฐConnecticut สหรัฐอเมริกา
เข้าวงการตั้งแต่ปี1974
นักแสดงหญิงเจ้าบทบาท ที่ไม่ว่าจะบทที่ได้รับมาจะยากแค่ไหน ป้าก็เอาอยู่ จนได้เข้าชิงรางวัลออสการ์ถึง7ครั้ง แต่ได้รับรางวัลลูกโลกทองคำไป3รางวัล และรางวัลEmmy Awardsถึง3 รางวัล
ชีวิตก่อนเข้าวงการ
ป้าClose เป็นลูกสาวของนายแพทย์และนักสังคมสงเคราะห์ มีพี่น้องทั้งหมด4คน ซึ่งมีทั้งพี่น้องร่วมสายเลือดกับน้องที่ได้รับอุปการะ
ช่วงที่ป้าClose อายุได้7ขวบนั้น เจ้าตัวก็ไปเป็นสมาชิกกลุ่มMRA(Moral Re-Armament) ซึ่งเป็นกลุ่มฟื้นฟูศีลธรรมโดยได้เข้าร่วมตามพ่อแม่ และได้อยู่กลุ่มนี้จนถึงอายุ22ปี
ป้าClose จบการศึกษาระดับประถมที่โรงเรียนSt. George ในประเทศสวิสเซอร์แลนด์ จนได้มาเป็นสมาชิกคณะประสานเสียงUp With People และจบการศึกษาจากโรงเรียนRosemary Hall(ปัจจุบันคือChoate Rosemary Hall)เมื่อปี1965
ด้านวิชาการแสดงนั้น ป้าClose จบการศึกษาระดับวิทยาลัยจากThe College of Williams & Mary จนได้เริ่มต้นอาชีพนักแสดงตั้งแต่นั้นมา
ป้าClose เป็นลูกสาวของนายแพทย์และนักสังคมสงเคราะห์ มีพี่น้องทั้งหมด4คน ซึ่งมีทั้งพี่น้องร่วมสายเลือดกับน้องที่ได้รับอุปการะ
ช่วงที่ป้าClose อายุได้7ขวบนั้น เจ้าตัวก็ไปเป็นสมาชิกกลุ่มMRA(Moral Re-Armament) ซึ่งเป็นกลุ่มฟื้นฟูศีลธรรมโดยได้เข้าร่วมตามพ่อแม่ และได้อยู่กลุ่มนี้จนถึงอายุ22ปี
ป้าClose จบการศึกษาระดับประถมที่โรงเรียนSt. George ในประเทศสวิสเซอร์แลนด์ จนได้มาเป็นสมาชิกคณะประสานเสียงUp With People และจบการศึกษาจากโรงเรียนRosemary Hall(ปัจจุบันคือChoate Rosemary Hall)เมื่อปี1965
ด้านวิชาการแสดงนั้น ป้าClose จบการศึกษาระดับวิทยาลัยจากThe College of Williams & Mary จนได้เริ่มต้นอาชีพนักแสดงตั้งแต่นั้นมา
ละครเวที จุดเริ่มต้นการเป็นนักแสดงที่มีชื่อเสียงของป้าClose
ป้าClose เริ่มต้นจากการเป็นนักแสดงละครเวที โดยในปี1974นั้น ป้าClose กลายเป็นนักแสดงที่มีผลงานละครเวทีต่อเนื่องถึง3เรื่อง โดยละครเวทีเรื่องSunset Boulevard เป็นละครเวทีที่ป้าClose ร่วมงานบ่อยที่สุดถึง4ครั้ง นับตั้งแต่ปี1993(ล่าสุดละครเวทีเรื่องนี้จะกลายเป็นภาพยนตร์แล้ว)
ป้าClose เริ่มต้นจากการเป็นนักแสดงละครเวที โดยในปี1974นั้น ป้าClose กลายเป็นนักแสดงที่มีผลงานละครเวทีต่อเนื่องถึง3เรื่อง โดยละครเวทีเรื่องSunset Boulevard เป็นละครเวทีที่ป้าClose ร่วมงานบ่อยที่สุดถึง4ครั้ง นับตั้งแต่ปี1993(ล่าสุดละครเวทีเรื่องนี้จะกลายเป็นภาพยนตร์แล้ว)
เอาดีกับผลงานภาพยนตร์ในช่วงยุค80s
หลังจากสั่งสมประสบการณ์กับผลงานละครเวที ป้าClose ก็ได้แสดงให้กับภาพยนตร์ทางโทรทัศน์ก่อน จนเมื่อปี1982 ก็ได้ข้ามขั้นมาแสดงภาพยนตร์ที่ฉายในโรงภาพยนตร์
จนกระทั่งปี1983 ป้าClose ได้แจ้งเกิดในผลงานภาพยนตร์เรื่องThe Big Chill ภาพยนตร์ตลก-ดราม่า ที่รวมนักแสดงชื่อดัง ได้แก่ ลุงTom Berenger,ลุงJeff Goldblum,ลุงWilliam Hurt และลุงKevin Kline
หลังจากสั่งสมประสบการณ์กับผลงานละครเวที ป้าClose ก็ได้แสดงให้กับภาพยนตร์ทางโทรทัศน์ก่อน จนเมื่อปี1982 ก็ได้ข้ามขั้นมาแสดงภาพยนตร์ที่ฉายในโรงภาพยนตร์
จนกระทั่งปี1983 ป้าClose ได้แจ้งเกิดในผลงานภาพยนตร์เรื่องThe Big Chill ภาพยนตร์ตลก-ดราม่า ที่รวมนักแสดงชื่อดัง ได้แก่ ลุงTom Berenger,ลุงJeff Goldblum,ลุงWilliam Hurt และลุงKevin Kline
หลังจากนั้น ป้าClose ได้เข้าชิงรางวัลออสการ์เป็นครั้งที่3จากบทIris Gaines ในภาพยนตร์เรื่องThe Natural(1984) ในสาขานักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม
ต่อมา ป้าClose ได้เลือกบทบาทที่ท้าทายมากขึ้น จากภาพยนตร์2เรื่องนี้ที่ทำให้ป้าClose ถูกพูดถึงในด้านการแสดง ดังนี้
- Fatal Attraction(1987) รับบทเป็นAlex Forrest พนักงานบริษัทสิ่งพิมพ์ที่มีอาการทางจิต จนทำให้ชีวิตครอบครัวของDan Gallagher(รับบทโดยลุงMichael Douglas) ต้องประสบกับหายนะ ด้วยการแสดงที่ตีบทแตกกับการต้องรับบทเป็นผู้มีอาการทางจิต ทำให้ได้เข้าชิงรางวัลออสการ์ สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม ในงานประกาศรางวัลออสการ์ครั้งที่60
- Dangerous Liaisons(1988) รับบทเป็นคุณหญิงIsabelle de Merteuil หญิงม่ายสุดแสบที่ได้พนันกับเสือผู้หญิงตัวพ่อ(รับบทโดยลุงJohn Malkovich)
การแสดงภาพยนตร์ทางโทรทัศน์ที่ทำให้ป้าClose ได้รับรางวัลEmmy Awards
Serving in Silence: The Margarethe Cammermeyer Story(1995) เป็นภาพยนตร์ทางโทรทัศน์ฉายทางช่องNBC ซึ่งสร้างจากเรื่องจริงของอดีตทหาร พันเอกหญิงMargarethe Cammermeyer กับประสบการณ์ด้านการทำงาน และความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับทหารหญิงที่เป็นมากกว่า"เพื่อนร่วมงาน"
โดยผลงานภาพยนตร์เรื่องนี้ ทำให้ป้าClose ได้รับรางวัลEmmy Awards สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม ประเภทมินิซีรีส์และภาพยนตร์ทางโทรทัศน์ได้สำเร็จ
Serving in Silence: The Margarethe Cammermeyer Story(1995) เป็นภาพยนตร์ทางโทรทัศน์ฉายทางช่องNBC ซึ่งสร้างจากเรื่องจริงของอดีตทหาร พันเอกหญิงMargarethe Cammermeyer กับประสบการณ์ด้านการทำงาน และความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับทหารหญิงที่เป็นมากกว่า"เพื่อนร่วมงาน"
โดยผลงานภาพยนตร์เรื่องนี้ ทำให้ป้าClose ได้รับรางวัลEmmy Awards สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม ประเภทมินิซีรีส์และภาพยนตร์ทางโทรทัศน์ได้สำเร็จ
Cruella วายร้ายตัวจิ๊ด เล่นใหญ่มาก
101 Dalmatians ฉบับคนแสดง(1996) ดัดแปลงมาจากภาพยนตร์แอนิเมชั่นที่ฉายเมื่อปี1961 ป้าClose รับบทเป็นCruella de Vil ซึ่งเป็นตัวร้ายที่ไม่ต้องกลัวองค์กรPeTA จะมาเคาะประตูถึงหน้าบ้าน เพราะตามฉบับแอนิเมชั่นนั้น Cruella เป็นคนที่ชอบเสื้อผ้าที่ใช้ขนสัตว์มากๆ
101 Dalmatians ฉบับคนแสดง(1996) ดัดแปลงมาจากภาพยนตร์แอนิเมชั่นที่ฉายเมื่อปี1961 ป้าClose รับบทเป็นCruella de Vil ซึ่งเป็นตัวร้ายที่ไม่ต้องกลัวองค์กรPeTA จะมาเคาะประตูถึงหน้าบ้าน เพราะตามฉบับแอนิเมชั่นนั้น Cruella เป็นคนที่ชอบเสื้อผ้าที่ใช้ขนสัตว์มากๆ
ซึ่งป้าClose แสดงบทบาทนี้ได้เล่นใหญ่จนนอกจากทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ทำรายได้เป็นกอบเป็นกำแล้ว เจ้าตัวยังได้เข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำ สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม ประเภทภาพยนตร์ตลกหรือเพลง จากบทบาทนี้
ด้วยความสำเร็จของภาพยนตร์เรื่องนี้ ทำให้มีภาคต่อก็คือ ภาพยนตร์เรื่อง102 Dalmatians ซึ่งเข้าฉายเมื่อปี2000
ด้วยความสำเร็จของภาพยนตร์เรื่องนี้ ทำให้มีภาคต่อก็คือ ภาพยนตร์เรื่อง102 Dalmatians ซึ่งเข้าฉายเมื่อปี2000
ผลงานภาพยนตร์นอกกระแส ที่ถูกใจเหล่านักวิจารณ์
เรื่องแรกคือภาพยนตร์เรื่องAlbert Nobbs(2011) เป็นภาพยนตร์ดราม่าเรื่องราวของหญิงที่ปลอมเป็นชายเพื่อทำงานเป็นพ่อบ้าน โดยการแสดงของป้าCloseที่โดนใจเหล่านักวิจารณ์ซึ่งสวนทางกับคำวิจารณ์ต่อตัวภาพยนตร์ที่ไปในทางก้ำกึ่ง ทำให้เจ้าตัวได้เข้าชิงทั้งรางวัลออสการ์ สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม,รางวัลลูกโลกทองคำ สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม ประเภทภาพยนตร์ดราม่า และSAG Awards สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม
เรื่องแรกคือภาพยนตร์เรื่องAlbert Nobbs(2011) เป็นภาพยนตร์ดราม่าเรื่องราวของหญิงที่ปลอมเป็นชายเพื่อทำงานเป็นพ่อบ้าน โดยการแสดงของป้าCloseที่โดนใจเหล่านักวิจารณ์ซึ่งสวนทางกับคำวิจารณ์ต่อตัวภาพยนตร์ที่ไปในทางก้ำกึ่ง ทำให้เจ้าตัวได้เข้าชิงทั้งรางวัลออสการ์ สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม,รางวัลลูกโลกทองคำ สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม ประเภทภาพยนตร์ดราม่า และSAG Awards สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม
ปี2018 ภาพยนตร์นอกกระแสเรื่องThe Wife ส่งผลให้ป้าClose ได้รับรางวัลลูกโลกทองคำด้านภาพยนตร์เป็นครั้งแรก
ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับคู่สามี-ภรรยา ซึ่งฝ่ายชายเป็นนักเขียน ส่วนฝ่ายหญิงเป็นคนสนับสนุน แต่เมื่อทั้งคู่ได้เดินทางที่สวีเดนเพื่อมารับรางวัลโนเบล ความขมขื่นก็ปรากฎออกมา
ซึ่งการรับบทเป็นภรรยานักเขียนของป้าCloseนั้น ได้กระแสชื่นชมจากนักวิจารณ์ จนได้รับรางวัลเกือบทุกงาน
ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับคู่สามี-ภรรยา ซึ่งฝ่ายชายเป็นนักเขียน ส่วนฝ่ายหญิงเป็นคนสนับสนุน แต่เมื่อทั้งคู่ได้เดินทางที่สวีเดนเพื่อมารับรางวัลโนเบล ความขมขื่นก็ปรากฎออกมา
ซึ่งการรับบทเป็นภรรยานักเขียนของป้าCloseนั้น ได้กระแสชื่นชมจากนักวิจารณ์ จนได้รับรางวัลเกือบทุกงาน
ผลงานภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ นอกเหนือจากที่กล่าวมา มีดังนี้
- Air Force One(1997) จะบอกว่าเป็นนักแสดงที่เคยรับบทเป็นรองประธานาธิปดีหญิง"ผู้มาก่อนกาล" ก็คงไม่ผิดนัก เพราะหลังจากที่อเมริกามีผู้หญิงที่ดำรงตำแหน่งเป็นรองประธานาธิปดี ตัวละครตัวนี้ที่ป้าClose เคยรับบทก็ถูกพูดถึงอีกครั้ง
- Guardians of the Galaxy(2014) ไม่น่าเชื่อว่าป้าClose เคยร่วมงานกับทางMarvel Studio มาแล้ว โดยเจ้าตัวรับบทเป็นหัวหน้าหน่วยรบNova Prime นอกจากนี้ ยังสวมบทบาทเป็นมนุษย์ต่างดาวซึ่งมาไม่ถึง30วิซะด้วยซ้ำ
- What Happened to Monday(2017) ภาพยนตร์ที่ฉายทางNetflix เฉพาะฝั่งอเมริกา,ประเทศแถบละตินอเมริกา และอังกฤษ ซึ่งเป็นแนวDystopia จิกกัดประชากรโลก โดยป้าClose รับบทเป็นประธานองค์กรC.A.B. ซึ่งเป็นองค์กรควบคุมประชากร
ปี2020 ป้าClose มีผลงานภาพยนตร์ทางNetflix เรื่องHillbilly Elegy ซึ่งดัดแปลงจากบันทึกของนามปากกาJ. D. Vance เรื่องราวความไม่ลงรอยกันระหว่างแม่ตัวนักเขียนเองกับคุณยายในช่วงที่กลับมายังรัฐOhio ซึ่งตัวภาพยนตร์เรื่องนี้มีคำวิจารณ์ที่"เสียงแตก"มากพอสมควร คือ นักวิจารณ์ให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ไปในทางแย่ แต่ผู้ชมทั่วไปกลับชื่นชอบ
ป้าClose รับบทเป็นMamaw Vance คุณยายของผู้เขียนบันทึกเรื่องนี้อย่างนามปากกาJ. D. Vance ซึ่งทางทีมงานได้แปลงโฉมป้าClose ให้คล้ายกับคุณยายMamawมากที่สุด
ป้าClose รับบทเป็นMamaw Vance คุณยายของผู้เขียนบันทึกเรื่องนี้อย่างนามปากกาJ. D. Vance ซึ่งทางทีมงานได้แปลงโฉมป้าClose ให้คล้ายกับคุณยายMamawมากที่สุด
ล่าสุด ป้าClose ได้เข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำครั้งที่78 ในสาขานักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม ประเภทภาพยนตร์ จากบทบาทนี้
ผลงานซีรีส์ทีวีแบบเต็มตัว
ป้าClose เคยรับบทนำให้กับซีรีส์ทางโทรทัศน์มาแล้ว
Damages เป็นซีรีส์แนวดราม่า-กฎหมายเรื่องราวของทนายความหญิงกับการทำงานด้านกฎหมาย ซึ่งออกอากาศตั้งแต่ปี2007 จนถึงปี2012 รวมทั้งหมด5ซีซั่น
ซีรีส์เรื่องนี้คว้ารางวัลEmmy Awards ถึง4รางวัล โดยป้าClose ได้รับรางวัลนี้ในสาขานักแสดงนำหญิงซีรีส์ดราม่าถึง2ครั้ง นอกจากนี้ เจ้าตัวก็ยังได้รับรางวัลลูกโลกทองคำ สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม ประเภทซีรีส์ดราม่า จากผลงานซีรีส์เรื่องนี้อีกด้วย
ป้าClose เคยรับบทนำให้กับซีรีส์ทางโทรทัศน์มาแล้ว
Damages เป็นซีรีส์แนวดราม่า-กฎหมายเรื่องราวของทนายความหญิงกับการทำงานด้านกฎหมาย ซึ่งออกอากาศตั้งแต่ปี2007 จนถึงปี2012 รวมทั้งหมด5ซีซั่น
ซีรีส์เรื่องนี้คว้ารางวัลEmmy Awards ถึง4รางวัล โดยป้าClose ได้รับรางวัลนี้ในสาขานักแสดงนำหญิงซีรีส์ดราม่าถึง2ครั้ง นอกจากนี้ เจ้าตัวก็ยังได้รับรางวัลลูกโลกทองคำ สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม ประเภทซีรีส์ดราม่า จากผลงานซีรีส์เรื่องนี้อีกด้วย
ชีวิตคู่ที่ล้มเหลวถึง3ครั้ง
ป้าClose เคยแต่งงานมาแล้วถึง3ครั้ง ดังนี้
ป้าClose เคยแต่งงานมาแล้วถึง3ครั้ง ดังนี้
- ครั้งแรก แต่งงานกับลุงCabot Wade มือกีตาร์และนักเขียนเพลงของคณะประสานเสียงUp With People เมื่อปี1969 สุดท้ายได้หย่ากันเมื่อปี1971
- ครั้งที่2 แต่งงานกับลุงJames Marlas นักธุรกิจเมื่อปี1984 หย่ากันเมื่อปี1987
- ครั้งที่3 แต่งงานกับDavid Evans Shaw เมื่อปี2006 หย่ากันเมื่อปี2015
8.Frances McDormand
เกิด:17 มิถุนายน 1957(ปัจจุบันอายุ63ปี)
บ้านเกิด:นครGibson รัฐIllinois สหรัฐอเมริกา
เข้าวงการตั้งแต่ปี1982
เกิด:17 มิถุนายน 1957(ปัจจุบันอายุ63ปี)
บ้านเกิด:นครGibson รัฐIllinois สหรัฐอเมริกา
เข้าวงการตั้งแต่ปี1982
นักแสดงหญิงฝีมือดีที่มีรางวัลมากมาย การันตีความสามารถจากงานประกาศรางวัลด้านการแสดงต่างๆที่ได้รับรางวัลครบทั้ง3งาน ได้แก่ รางวัลออสการ์,Emmy Awards และTony Awards นอกจากนี้ยังเป็นภรรยาของผู้สร้างภาพยนตร์อีกด้วย
ชีวิตก่อนเข้าวงการ
ป้าMcDormand มีชื่อจริงตามใบเกิดว่า"Cynthia Ann Smith" ได้รับการอุปถัมป์จากสามี-ภรรยาตระกูลMcDormandตั้งแต่อายุ1ขวบครึ่ง เนื่องจากถูกแม่แท้ๆทอดทิ้ง
ป้าMcDormand กับครอบครัวอุปถัมป์ ย้ายที่เป็นว่าเล่น ตั้งแต่รัฐIllinois,รัฐGeorgia,รัฐKentucky และรัฐTennessee จนได้ไปอยู่อาศัยที่เมืองMonessen รัฐPennsylvaniaซึ่งที่นั่นเจ้าตัวก็ได้เรียนที่โรงเรียนไฮสคูลในเมืองนี้จนจบการศึกษาเมื่อปี1975
ป้าMcDormand จบการศึกษาระดับวิทยาลัยจากBethany College คณะศิลปศาสตร์ด้านการแสดงสำหรับเวทีเมื่อปี1979 และจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยYale สำหรับการละคร เมื่อปี1982 ซึ่งในช่วงที่ป้าMcDormand กำลังศึกษาที่มหาวิทยาลัยYale อยู่นั้น เจ้าตัวก็มีเพื่อนร่วมห้องก็คือ ป้าHolly Hunter
ป้าMcDormand มีชื่อจริงตามใบเกิดว่า"Cynthia Ann Smith" ได้รับการอุปถัมป์จากสามี-ภรรยาตระกูลMcDormandตั้งแต่อายุ1ขวบครึ่ง เนื่องจากถูกแม่แท้ๆทอดทิ้ง
ป้าMcDormand กับครอบครัวอุปถัมป์ ย้ายที่เป็นว่าเล่น ตั้งแต่รัฐIllinois,รัฐGeorgia,รัฐKentucky และรัฐTennessee จนได้ไปอยู่อาศัยที่เมืองMonessen รัฐPennsylvaniaซึ่งที่นั่นเจ้าตัวก็ได้เรียนที่โรงเรียนไฮสคูลในเมืองนี้จนจบการศึกษาเมื่อปี1975
ป้าMcDormand จบการศึกษาระดับวิทยาลัยจากBethany College คณะศิลปศาสตร์ด้านการแสดงสำหรับเวทีเมื่อปี1979 และจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยYale สำหรับการละคร เมื่อปี1982 ซึ่งในช่วงที่ป้าMcDormand กำลังศึกษาที่มหาวิทยาลัยYale อยู่นั้น เจ้าตัวก็มีเพื่อนร่วมห้องก็คือ ป้าHolly Hunter
เริ่มต้นกับการร่วมงานกับพี่น้องตระกูลCoen จนได้รับรางวัลออสการ์ครั้งแรก
ป้าMcDormand เข้าวงการตั้งแต่ปี1982 กับการแสดงละครเวที จนกระทั่งได้แสดงภาพยนตร์เรื่องแรกคือ ภาพยนตร์เรื่องBlood Simple(1984) ซึ่งเป็นผลงานภาพยนตร์เรื่องแรกของสองพี่น้องตระกูลCoen
ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นแนวระทึกขวัญสไตล์ฟิล์มนัวร์ ใช้ตัวละครไม่มาก แต่เป็นที่ถูกอกถูกใจจากเหล่านักวิจารณ์
ป้าMcDormand เข้าวงการตั้งแต่ปี1982 กับการแสดงละครเวที จนกระทั่งได้แสดงภาพยนตร์เรื่องแรกคือ ภาพยนตร์เรื่องBlood Simple(1984) ซึ่งเป็นผลงานภาพยนตร์เรื่องแรกของสองพี่น้องตระกูลCoen
ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นแนวระทึกขวัญสไตล์ฟิล์มนัวร์ ใช้ตัวละครไม่มาก แต่เป็นที่ถูกอกถูกใจจากเหล่านักวิจารณ์
จนกระทั่งการรับบทนำของป้าMcDormand ในภาพยนตร์เรื่องFargo(1996) ทำให้เจ้าตัวได้รับรางวัลออสการ์ครั้งแรก
ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นแนวอาชญากรรม-ตลกร้าย เรื่องราวของเซลขายรถยนต์ที่มีปัญหาด้านการเงิน จึงได้จ้างชาย2คนมาช่วยวางแผนปล้นเงินจากพ่อตา ด้วยการลักพาตัวภรรยา แต่เรื่องราวก็อีรุงตุงนังกลายเป็นเรื่องใหญ่ที่มีผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องต้องถูกสังเวยชีวิต
ป้าMcDormand รับบทเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจหญิงท้องแก่ ซึ่งการรับบทเป็นตัวละครที่ต้องทำงานแม้ต้องตั้งท้องก็ตาม และการแสดงที่ใส่มุขตลกเล็กๆลงไป ส่งผลให้ป้าMcDormand คว้ารางวัลออสการ์สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม จากการเข้าชิงเป็นครั้งที่2
ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นแนวอาชญากรรม-ตลกร้าย เรื่องราวของเซลขายรถยนต์ที่มีปัญหาด้านการเงิน จึงได้จ้างชาย2คนมาช่วยวางแผนปล้นเงินจากพ่อตา ด้วยการลักพาตัวภรรยา แต่เรื่องราวก็อีรุงตุงนังกลายเป็นเรื่องใหญ่ที่มีผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องต้องถูกสังเวยชีวิต
ป้าMcDormand รับบทเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจหญิงท้องแก่ ซึ่งการรับบทเป็นตัวละครที่ต้องทำงานแม้ต้องตั้งท้องก็ตาม และการแสดงที่ใส่มุขตลกเล็กๆลงไป ส่งผลให้ป้าMcDormand คว้ารางวัลออสการ์สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม จากการเข้าชิงเป็นครั้งที่2
นอกจากนี้ ป้าMcDormand ยังร่วมงานกับภาพยนตร์ที่สร้างโดยสองพี่น้องตระกูลCoen ได้แก่
- Raising Arizona(1987) ปล.นี่คือผลงานภาพยนตร์สุดครื้นเครงที่สุดของคุณNicolas Cage ก็ว่าได้
- The Man Who Wasn't There(2001) ปล.ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นภาพยนตร์ภาพขาว-ดำ เรื่องแรกของสองพี่น้องตระกูลCoen
- Burn After Reading(2008) ปล.คุณBrad Pitt เล่นใหญ่แบบไม่ห่วงหล่อ แต่น้อยกว่าตอนแสดงภาพยนตร์เรื่อง12 Monkeys นิดนึง
- Hail,Ceasar(2016) ปล.มิวสิคัลในรูปแบบตลกร้ายตามสไตล์พี่น้องตระกูลCoen
Three Billboards Outside Ebbing,Missouri กับการแสดงที่สร้างมาตรฐานสูงของป้าMcDormand จนได้รางวัลด้านการแสดงมากมาย
ภาพยนตร์เรื่องThree Billboards Outside Ebbing,Missouri(2017) เป็นภาพยนตร์ดราม่าขายการแสดงที่ทำให้ป้าMcDormandได้รับรางวัลด้านการแสดงทั้งรางวัลลูกโลกทองคำ,SAG Awards,รางวัลออสการ์ และBAFTA Awards
ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นเรื่องราวของแม่วัยกลางคนที่ได้เช่าป้ายบิลบอร์ดทั้ง3ป้าย เพื่อเรียกร้องสังคมให้ความสนใจเกี่ยวกับคดีฆาตกรรมลูกสาวของตัวเธอเอง
ภาพยนตร์เรื่องThree Billboards Outside Ebbing,Missouri(2017) เป็นภาพยนตร์ดราม่าขายการแสดงที่ทำให้ป้าMcDormandได้รับรางวัลด้านการแสดงทั้งรางวัลลูกโลกทองคำ,SAG Awards,รางวัลออสการ์ และBAFTA Awards
ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นเรื่องราวของแม่วัยกลางคนที่ได้เช่าป้ายบิลบอร์ดทั้ง3ป้าย เพื่อเรียกร้องสังคมให้ความสนใจเกี่ยวกับคดีฆาตกรรมลูกสาวของตัวเธอเอง
ซึ่งนอกจากป้าMcDormandแล้ว ยังร่วมด้วยลุงWoody Harrelson และคุณSam Rockwell
ด้วยการแสดงที่เป็นมืออาชีพของMcDormand ทำให้เป็นที่ถูกอกถูกใจจากเหล่านักวิจารณ์จนได้เป็นตัวเต็งในงานประกาศรางวัลด้านภาพยนตร์ และได้รับรางวัล ดังนี้
ด้วยการแสดงที่เป็นมืออาชีพของMcDormand ทำให้เป็นที่ถูกอกถูกใจจากเหล่านักวิจารณ์จนได้เป็นตัวเต็งในงานประกาศรางวัลด้านภาพยนตร์ และได้รับรางวัล ดังนี้
- รางวัลลูกโลกทองคำ สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม ประเภทภาพยนตร์ดราม่า
- SAG Awards สาขานักแสดงนำหญิง
- รางวัลออสการ์ สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม
- BAFTA Awards สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม
ผลงานภาพยนตร์เรื่องอื่นๆที่มีป้าMcDormand ร่วมแสดง มีดังนี้
- Darkman(1990) ภาพยนตร์แอนตี้ฮีโร่ที่กำกับและร่วมเขียนบทโดยลุงSam Raimi เรื่องราวของนักวิทยาศาสตร์ที่ฟื้นจากความตายมาเป็นแอนตี้ฮีโร่เพื่อทวงความยุติธรรม นำแสดงโดยลุงLiam Neeson และป้าFrances McDormand
- Almost Famous(2000) ภาพยนตร์ดราม่า-ตลก ที่กำกับโดยลุงCameron Crowe เรื่องราวของเด็กวัยรุ่นที่ได้มาเป็นนักข่าวเพื่อติดตามวงร็อคที่เขาชอบ ที่ถึงแม้จะทำรายได้แบบขาดทุน แต่ด้วยเนื้อหาที่สนุกและได้ข้อคิด จึงทำให้กลายเป็นภาพยนตร์ขวัญใจหลายๆคน
- Transformers:Dark of the Moon(2011) ภาพยนตร์เรื่องที่3 ของภาพยนตร์ตระกูลTransformers และเป็นการรับบทนำครั้งสุดท้ายของพี่Shia LaBeouf
ปี2020 ป้าMcDormand ได้แสดงนำให้กับภาพยนตร์ดราม่าเรื่องNomadland ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้กำกับโดยพี่Chloé Zhao ซึ่งเป็นผู้กำกับภาพยนตร์หญิงชาวจีนที่ทำงานในอเมริกา
เรื่องราวของหญิงวัยกลางคนที่ต้องออกเดินทางเองด้วยรถบ้านหลังจากมีปัญหาด้านเศรษฐกิจ ซึ่งภาพยนตรเรื่องนี้ได้เป็นตัวเต็งที่จะได้รับรางวัลด้านภาพยนตร์ในสาขาใหญ่ๆ หลังจากเปิดตัวในเทศกาลภาพยนตร์เมืองเวนิส
ภาพยนตร์เรื่องนี้จะเข้าฉายในอเมริกาแบบจำกัดโรงในเดือนกุมภาพันธ์นี้
เรื่องราวของหญิงวัยกลางคนที่ต้องออกเดินทางเองด้วยรถบ้านหลังจากมีปัญหาด้านเศรษฐกิจ ซึ่งภาพยนตรเรื่องนี้ได้เป็นตัวเต็งที่จะได้รับรางวัลด้านภาพยนตร์ในสาขาใหญ่ๆ หลังจากเปิดตัวในเทศกาลภาพยนตร์เมืองเวนิส
ภาพยนตร์เรื่องนี้จะเข้าฉายในอเมริกาแบบจำกัดโรงในเดือนกุมภาพันธ์นี้
ได้รับรางวัลกับมินิซีรีส์สุดยอดเยี่ยม
Olive Kitteridge(2015) มินิซีรีส์4ตอนจบ ออกอากาศทางช่องHBO ที่ดัดแปลงมาจากฉบับนิยาย โดยมินิซีรีส์เรื่องนี้การันตีด้วยรางวัลลูกโลกทองคำ,SAG AwardsและEmmy Awards ซึ่งป้าMcDormand ได้รับรางวัลทั้งEmmy Awards สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม ประเภทซีรีส์แบบจำกัดหรือภาพยนตร์ทางโทรทัศน์ และSAG Awards สาขานักแสดงนำหญิง ประเภทมินิซีรีส์หรือภาพยนตร์ทางโทรทัศน์
Olive Kitteridge(2015) มินิซีรีส์4ตอนจบ ออกอากาศทางช่องHBO ที่ดัดแปลงมาจากฉบับนิยาย โดยมินิซีรีส์เรื่องนี้การันตีด้วยรางวัลลูกโลกทองคำ,SAG AwardsและEmmy Awards ซึ่งป้าMcDormand ได้รับรางวัลทั้งEmmy Awards สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม ประเภทซีรีส์แบบจำกัดหรือภาพยนตร์ทางโทรทัศน์ และSAG Awards สาขานักแสดงนำหญิง ประเภทมินิซีรีส์หรือภาพยนตร์ทางโทรทัศน์
ชีวิตครอบครัว
ป้าMcDormand แต่งงานกับลุงJoel Coen(Coenคนพี่) ตั้งแต่ปี1984(ปีเดียวกับภาพยนตร์เรื่องBlood Simple เข้าฉาย) โดยในปี1995 ทั้งคู่ก็ได้อุปการะเด็กชายชาวปารากวัยมาเป็นลูกบุญธรรม
ป้าMcDormand แต่งงานกับลุงJoel Coen(Coenคนพี่) ตั้งแต่ปี1984(ปีเดียวกับภาพยนตร์เรื่องBlood Simple เข้าฉาย) โดยในปี1995 ทั้งคู่ก็ได้อุปการะเด็กชายชาวปารากวัยมาเป็นลูกบุญธรรม
ขอขอบคุณข้อมูลจากWikipedia