8 ไอเท็มกู้ชีพให้ผิว ลองแล้วโคตรจะเลิฟ

50 15

สวัสดีทุกคน วันนี้ไม่มีอะไรมาก แค่อารมณ์ดี เลยอยากมาเมาธ์ด้วย >__<

จริง ๆ คือตั้งแต่ช่วงปลายปีที่แล้ว (เดือนพฤศจิกายน) เราพบว่าสภาพผิวของตัวเอง 'พัง' มากกก คือตอนอายุเรายังไม่ถึงเลข 3 เราค่อนข้างมั่นใจว่าผิวเราดีนะ เลยค่อนข้างปล่อยปะละเลย ไม่ค่อยบำรุงเท่าไร ขึ้นเลข 3 มา 2 ปีเท่านั้นแหละ เหมือนกรรมตามทันอะ ผิวเราทั้งแห้งกร้าน รูขุมขมกว้าง สิวผุดใต้คาง ปากก็แห้ง ก็คล้ำ แถมริ้วรอยก็เยอะ ผิวของคนอายุเลข 3 ทำไมน่ากลัวขนาดนี้ แง~ ก็เลยตัดสินใจว่า ไม่ได้แล้ว ต้องหันกลับมาดูแลตัวเองแบบจริงจังขึ้นกว่านี้ค่ะ

จากวันนั้นจนมาถึงวันนี้ ผิวของเราเปลี่ยนไปมากจนอยากกราบขอบคุณตัวเองสุด ๆ ที่ตัดสินใจกู้ชีพผิวตัวเอง บอกตรง ๆ ว่าตอนนี้เราโคตรชอบสภาพผิวของตัวเองที่สุดเลยค่ะ โพสต์นี้เลยอยากมาชวนคุยและแชร์กันว่า ปกติแล้วใช้สกินแคร์ตัวไหนยังไงกันบ้าง

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ขอแชร์แค่ในส่วนของการบำรุงยามค่ำคืนอย่างเดียวก่อนนะคะ สำหรับเรานั้น จะใช้ผลิตภัณฑ์ที่อยู่ในรูปนั่นทั้งหมดเลยค่ะ เดี๋ยวจะไล่เรียงให้ดูกันอีกทีเป็น Step นะคะ

** รูปที่ลงมีการปรับเพิ่มความสว่างของรูปนิดหน่อยนะคะ เลยอาจจะดูขาวโอโม่กว่าตัวจริงไปบ้าง เพราะตอนถ่ายห้องมันมืดไปหน่อย =w=; **

Step 1 

หลังล้างหน้าเสร็จเราจะเริ่มต้นด้วยการใช้โทนเนอร์เช็ดวนรอบใบหน้าก่อน 1 ครั้งค่ะ ซึ่งตัวที่เราใช้อยู่จะเป็น Mamonde Rose Water Toner โทนเนอร์ที่คนนิยมกันมากตั้งแต่ปีที่แล้วค่า เขาจะมีกลิ่นกุหลาบแบบฟุ้งมาก ๆ หอมสุดไรสุดเลย ซึ่งจริง ๆ ตัวนี้เอามาใช้เป็นมาสก์หน้าได้ด้วยนะคะ

Step 2

หลังจากใช้โทนเนอร์แล้ว เราจะใช้ Olay White Radiance Niacinamide Vitamin C Super Serum เพื่อฟื้นฟูสภาพผิวหน้าก่อนค่ะ โดยจะทาทั้งหน้าและคอเลย ตัวนี้ทางแบรนด์เคลมว่าเน้นเรื่องลดจุดด่างดำกับปรับสภาพผิวให้เรียบเนียนนะคะ ตัวนี้เคยรีวิวไปแล้ว (ตอนช่วงแรก ๆ เราไม่ได้ใช้ตัวนี้ค่ะ ใช้อีกตัวนึง แต่เป็นของ Olay เหมือนกัน)

Step 3 

หลังรอสักแป๊บให้เซรั่มซึมเข้าผิวหน้าแล้ว เราจึงจะเริ่มลงครีมบำรุงตัวต่อไปค่ะ ซึ่งเราจะใช้ Trylagina ผสมกับ The Sun Society Hyaluronic Acid (หัวเชื้อไฮยาลูรอนตัวดังจากญี่ปุ่น) แล้วทาเบา ๆ ให้ทั่วใบหน้าและลำคอ ตัว Trylagina นี่จะเน้นเรื่องลดริ้วรอยค่ะ สามารถใช้ได้ทั้งเช้าและเย็นเลย (แต่ส่วนใหญ่เราใช้ทาตอนเย็นเป็นหลัก เพราะราคาแอบแรง ครีมบำรุงตอนเช้าเลยใช้ตัวอื่นแทน แหะ ๆ ๆ) รูปที่ถ่ายมาลงจะเป็นกระปุกเล็กที่ได้มาตอนซื้อเซตนะคะ

Step 4

นอกจากทาครีมบำรุงในแต่ละวันแล้ว เรายังใช้พวก Sleeping Mask ด้วยค่ะ โดยจะใช้ของ Laneige Water Sleeping Mask และ Huxley Sleeping Mask สลับกันไปมา อาทิตย์ละ 2-3 ครั้งค่ะ ส่วนตัวแอบชอบของ Huxley มากกว่านิดนึงเพราะรู้สึกว่าเขาชุ่มชื้นกว่า แถมกลิ่นหอมมาก ๆ ด้วยค่ะ

Step 5

และไม่ใช่แค่ Sleeping Mask บนหน้าอย่างเดียว เรายังใช้ Laneige Lip Sleeping Mask กับ Mentholatum Lip Care เพื่อมาสก์ริมฝีปากในยามค่ำคืนด้วยค่ะ เนื่องจากเราเป็นคนปากแห้งง่ายมาก ๆ แถมริมฝีปากแอบคล้ำด้วย เลยต้องหาทางบำรุงไว้หน่อย ตัว Laneige นี่ไม่ต้องพูดถึง เขาเป็นที่สุดแห่งลิปมาสก์แล้วค่ะ เราใช้มาหลายตัว ยังไม่เจอตัวไหนสู้เขาได้เลยจริง ๆ ส่วนของ Mentholatum เขาจะเน้นความชุ่มชื้น และช่วยให้ริมฝีปากดูอิ่มฟูค่ะ จริง ๆ จะมีหลายรุ่น หลายกลิ่นมาก แต่ตัวที่ใช้อยู่ล่าสุดนี่เป็นกลิ่นชานมไข่มุก ซึ่งจะเป็นรุ่นลิมิตเต็ทค่ะ แบบว่าหอมมาก ใช้แล้วหิวชานมจริง ๆ เลย ฮา XD

ทั้งนี้ทั้งนั้น ขอแอบลงรูปให้ดูสภาพผิว ณ ปัจจุบันของเราสักนิดเนอะ :P

(แปะเทียบไว้ เวอร์ชั่นปรับความสว่างของรูป กับเวอร์ชั่นไม่ได้ปรับค่ะ)

ตอนนี้สภาพผิวอยู่ในระดับที่พึงพอใจมากแล้ว อันดับต่อไป เราจะโฟกัสเรื่องการบำรุงผมกันต่อค่ะ (จากในรูปจะเห็นเลยว่า ผมค่อนข้างแห้งฟูและแอบผมบางด้วยอะ เศร้าาา) ถ้าใครมีเคล็ดลับบำรุงผมดี ๆ ช่วยแนะนำเราบ้างนะคะ _/|\_


maronchan

maronchan

สวัสดีค่ะ โบว์ลิ่งนะคะ ชอบรีวิวเอวี่ติงจิงกาเบลที่ถูกใจ (หรือไม่ค่อยถูกใจ ฮา) ให้คนอื่นฟัง ง่ายๆ คือชอบเมาธ์อะแหละ ส่วนใหญ่สินค้าที่รีวิวคือออกเงินซื้อเองนะคะ นานๆ ทีถึงจะมีคนส่งของมาให้ลองเทสค่ะ >__<

FULL PROFILE