แฝดพี่แฝดน้องที่มาแบบแพ็คคู่ผนึกกำลังกันเพื่อช่วยให้ผิวกระจ่างใสใน 7 วัน แฝดคู่นี้แม้ว่าจะเป็น Vit C เหมือนกันแต่ก็ไม่เหมือนกันนะจ๊ะ เขาต่างก็มีคุณสมบัติของตัวเองที่แตกต่างกันออกไปค่ะ มาดูทีละตัวกัน
แฝดพี่ฝั่งเหลืองก่อนเลย Whitamin C Day Cream ไว้ทาตอนเช้า แฝดพี่คนนี้พกเอาคุณสมบัติมาเป็นกระบุงโกย เพราะนอกจากจะมีวิตามินC ที่สูงถึง 16,000 mcg แล้วยังมีสารสกัดจากดอกทานตะวันที่มีวิตามิน E สูงช่วยลดเลือนริ้วรอย และสารสกัดจากดอกคาโมมายด์เอาไว้บำรุงให้ผิวแข็งแรงเพื่อสู้ศึกมลภาวะที่เราต้องเจอในแต่ละวัน ทั้งยังมีคุณสมบัติเป็น UV Protection ได้อีกด้วย
หลายคนอาจสงสัยว่า เอ้า?! วิตามิน C นะ ใช้ตอนกลางวันได้ด้วยเหรอ ? ถ้าให้ lecture กันตอนนี้กลัวว่าฟ้าสางวันรุ่งขึ้นก็น่าจะไม่จบ เอาเป็นว่าแฝดพี่เขามีอนุพันธ์วิตามิน C ธรรมชาติจาก Kakadu Plum ที่มีวิตามิน C สูงมากผสานเข้ากับวิตามิน C นวัตกรรม Encapsulation ที่ช่วยคงประสิทธิภาพของวิตามินให้อยู่ได้ยาวนานขึ้น ไม่ไวต่อแสงแดด และซึมเข้าผิวได้อย่างล้ำลึก
มาต่อกันที่แฝดน้องฝั่งส้ม Whitamin C Spot Serum ไว้ทาตอนกลางคืน แฝดน้องคนนี้ก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าพี่เลยค่ะ เพราะมีวิตามิน C ในนวัตกรรมเดียวกันมากถึง 48,000 mcg นอกจากนี้ยังผสาน 4 ยอดสารบำรุงอย่าง สารสกัดจากชะเอมเทศ กรดโกจิก สารสกัดจาก Bearberry และสารสกัดจากหัวไชเท้า เรียกได้ว่ายิงตรงด้านลดเลือนจุดด่างดำ ฝ้า กระ โดยเฉพาะ พร้อมช่วยเติมความชุ่มชื่นให้ผิวด้วยไฮยาลูรอนอีกด้วยค่ะ
เนื้อสัมผัสของแฝดส้ม Whitamin C Spot Serum จะมีความใสและค่อนข้างเหลว ก่อนนอนพี่ปิ่นจะลงน้องเขาเป็นตัวแรกเลยค่ะ ส่วนของแฝดเหลือง Whitamin C Day Cream จะมีความเข้มข้นขึ้นมาอีกระดับหนึ่ง แต่ทั้ง 2 ก็เกลี่ยได้ง่าย ซึมไว
ด้วยความที่แฝดส้ม Whitamin C Spot Serum เขามีไฮยาลูรอนเมื่อทาแล้วแม้จะซึมไวแต่ก็มีความชุ่มชื้นสูงทีเดียว ไม่แห้ง และไม่แสบแต่อย่างใดเลยค่ะ อันนี้ดี!
ส่วนแฝดเหลือง Whitamin C Day Cream แม้จะเป็นครีมแต่เนื้อเขาบางเบาทีเดียว เป็นครีมที่ไหลเป็นน้ำเลยก็ว่าได้ ซึมไว มีความชุ่มชื้นสูงกว่าแฝดส้มและทาแล้วก็ไม่ได้แสบร้อนผิวด้วยเช่นกันค่ะ