ป้ายยา /skin regimen/ 1.5 Retinol Booster บูสเตอร์สาย Anti-Aging ที่อ่อนโยนแต่ทรงประสิทธิภาพ!!
Wanviset 60 16
เราเชื่อเหลือเกินว่าต่างคนต่างมีปัญหาหรือความกังวลเรื่องผิวที่แตกต่างกัน บ้างก็เป็นปัญหาสิว บ้างก็ความหมองคล้ำ สีผิวไม่สม่ำเสมอ แต่เราเชื่อว่ายิ่งคุณอายุมากขึ้นปัญหาผิวที่กังวลย่อมไม่พ้นเรื่องริ้วรอยเป็นแน่ ซึ่งส่วนตัวแล้วเรามองว่า "ริ้วรอย" เป็น 1 ในปัญหาคลาสสิกและแก้ไขค่อนข้างยากดังนั้นวันนี้เราเลยหยิบบูสเตอร์ตัวนึงที่เราเพิ่งใช้หมดไปอย่าง /skin regimen/ 1.5 Retinol Booster และรู้สึกว่าเป็นอีกหนึ่งไอเทมของแบรนด์ที่น่าสนใจทีเดียวหละฮะ..
/skin regimen/ 1.5 Retinol Booster (25ml./3,800.-)
The Claim : ซีรั่มบูสเตอร์ที่มี retinol และ sylibin เข้มข้นบรรจุอยู่ในอนุภาคเล็กๆ เพื่อให้ได้ผลแห่งการลดเลือนริ้วรอยและเพิ่มความเต่งตึงยืดหยุ่นของผิวที่ดีจนมองเห็นได้ เป็นทางเลือกที่ปลอดภัยว่าจะไม่ระคายเคืองแทนการใช้กรด retinoic มั่นใจได้ว่าอ่อนโยน ไม่ระคายเคืองผิว แต่ยังได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ
Texture / Scent / Packaging
Texture : เนื้อสัมผัสเมื่อมองด้วยตาอาจจะรู้สึกว่าต้องหนักผิวแน่ๆ แต่ปรากฏว่าพอลองเกลี่ยลงบนใบหน้าแล้วกลับซึมเข้าสู่ผิวได้ค่อนข้างไว ไม่ทิ้งความเหนอะหนะเอาไว้บนผิวเลยแหละ
Scent : ขอชื่นชมที่ทางแบรนด์ไม่ใส่น้ำหอมสังเคราะห์เข้ามาในผลิตภัณฑ์ ทำให้ลดโอกาสที่จะเกิดอาการแพ้/ระคายเคืองไปได้อีกเยอะเลยทีเดียว
Scent : ขอชื่นชมที่ทางแบรนด์ไม่ใส่น้ำหอมสังเคราะห์เข้ามาในผลิตภัณฑ์ ทำให้ลดโอกาสที่จะเกิดอาการแพ้/ระคายเคืองไปได้อีกเยอะเลยทีเดียว
Packaging : ด้วยบรรจุภัณฑ์ในรูปแบบขวดปั๊มสีทึบ ทำให้ลดการปนเปื้อนของสิ่งต่างๆ รวมถึงช่วยคงประสิทธิภาพของ Retinol ไว้ได้ยาวนานขึ้นอีกเยอะเลยแหละครับ
Active Ingredients
ในแง่ของส่วนผสมแน่นอนว่าสารหลักๆ คงไม่พ้น Retinol ที่มีงานวิจัยรองรับและคาดหวังผลได้จริงในแง่ของการเป็น Anti-Aging (ชะรอการเกิดริ้วรอย) รวมถึงยังมีส่วนช่วยในการผลัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพ ช่วยให้โทนผิวดูสม่ำเสมอมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังช่วยลดการอุดตันในรูขุมขนทำให้การเกิดสิวเป็นไปได้ยากขึ้นด้วยนั่นเองฮะ ซึ่ง
นอกจาก Retinol แล้วทางแบรนด์ยังใส่ Sylibin สกัดจาก Milk Thistle ที่มีประสิทธิภาพคล้ายกรด retinoic แต่ความน่าสนใจคือมันไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองแก่ผิว พร้อมช่วยกระตุ้นการสร้างผิวใหม่โดยไม่กระตุ้นให้เกิดการอักเสบเลยนับว่าเป็นสารอีกตัวที่น่าสนใจพอสมควรเลยฮะ
ที่น่าสนใจคือเค้าไม่ได้ใส่มาแค่สารในกลุ่ม Vitamin A แต่ยังมี Spinacia Oleracea Leaf Extract ที่อุดมไปด้วยสารต่อต้านอนุมูลอิสระหลายชนิด มีส่วนช่วยในการชะลอวัยและความเสื่อมของเซลล์เพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิวหนัง อีกทั้งยังมีสารที่เราชื่นชอบอย่าง Carnosine ที่ทางผู้ผลิตเคลมว่าสามารถต้านกระบวนการ Glycation ที่เป็นปัจจัยหนึ่งของผิวหมองคล้ำและริ้วรอย ปิดท้ายด้วยสารสกัดจากธรรมชาติที่เป็นตัวชูโรงของแบรนด์อย่าง Longevity Complex™ ซึ่งอุดมไปด้วย Wild Indigo, Maqui Berry, Organic Spinach และ Carnosine ที่ช่วยต้านผลของความเครียดและตัวเร่งปฏิกิริยาความชราอันก่อนวัยนั่นเองฮะ
นอกจาก Retinol แล้วทางแบรนด์ยังใส่ Sylibin สกัดจาก Milk Thistle ที่มีประสิทธิภาพคล้ายกรด retinoic แต่ความน่าสนใจคือมันไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองแก่ผิว พร้อมช่วยกระตุ้นการสร้างผิวใหม่โดยไม่กระตุ้นให้เกิดการอักเสบเลยนับว่าเป็นสารอีกตัวที่น่าสนใจพอสมควรเลยฮะ
ที่น่าสนใจคือเค้าไม่ได้ใส่มาแค่สารในกลุ่ม Vitamin A แต่ยังมี Spinacia Oleracea Leaf Extract ที่อุดมไปด้วยสารต่อต้านอนุมูลอิสระหลายชนิด มีส่วนช่วยในการชะลอวัยและความเสื่อมของเซลล์เพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิวหนัง อีกทั้งยังมีสารที่เราชื่นชอบอย่าง Carnosine ที่ทางผู้ผลิตเคลมว่าสามารถต้านกระบวนการ Glycation ที่เป็นปัจจัยหนึ่งของผิวหมองคล้ำและริ้วรอย ปิดท้ายด้วยสารสกัดจากธรรมชาติที่เป็นตัวชูโรงของแบรนด์อย่าง Longevity Complex™ ซึ่งอุดมไปด้วย Wild Indigo, Maqui Berry, Organic Spinach และ Carnosine ที่ช่วยต้านผลของความเครียดและตัวเร่งปฏิกิริยาความชราอันก่อนวัยนั่นเองฮะ
Conclusion
เมื่อพิจารณาจากส่วนผสมที่ทางแบรนด์ใส่เข้ามาทั้งหมดแล้วหละก็เราขอสรุปให้เข้าใจง่ายๆ ว่า /skin regimen/ 1.5 Retinol Booster เป็นบูสเตอร์ที่คาดหวังผลในแง่การชะลอการเกิดริ้วรอย ลดการเกิดสิว ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ต้านกระบวนการไกลเคชั่น และช่วยลดผลกระทบจากความเครียดที่เกิดกับผิวได้เป็นอย่างดี ในรูปแบบซีรั่มบูสเตอร์ที่เนื้อบางเบาสบายผิวที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอมสังเคราะห์และซิลิโคน และที่สำคัญคือเลือกใช้ส่วนผสมที่มาจากธรรมชาติซึ่งลดโอกาสในการเกิดการระคายเคืองกับผิวได้ดีทีเดียวหละครับ
และจากที่เราใช้ /skin regimen/ 1.5 Retinol Booster จนหมดขวด โดยเราจะใช้เฉพาะในตอนกลางคืนพบว่าผิวโดยรวมเนียนเรียบขึ้น รอยสิวดูจางลง ไม่ค่อยมีสิวใหม่เกิดขึ้นเท่าไหร่นัก ส่วนในแง่ของริ้วรอยเนื่องจากระยะเวลาในการใช้จนหมดขวดประมาณ 2 เดือนเท่านั้นจึงยังไม่สามารถสรุปได้ชัดเจนเท่าไหร่ครับ แต่อย่างน้อยเราก็สามารถพูดได้ว่าเรายังไม่มีริ้วรอยใหม่ที่เกิดขึ้นมาหลังจากใช้ขอรับ
แต่แน่นอนผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นนี้ Based-on สภาพผิว ไลฟ์สไตล์ การดูแลตัวเอง และผลิตภัณฑ์ที่เราใช้ร่วมกันเป็นหลัก ดังนั้นผลลัพธ์ย่อมแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ส่วนสำถามที่ว่าใช้แล้วจะแพ้ไหม จะอุดตันไหม สิวจะขึ้นหรือไม่นั้น เราไม่สามารถให้คำตอบได้เนื่องจากปัจจัยที่ก่อให้เกิดการแพ้ ระคายเคือง และก่อให้เกิดสิวของแต่ละคนล้วนแตกต่างกัน ดังนั้นเราแนะนำว่าก่อนที่จะใช้ผลิตภัณฑ์ใหม่ ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ใดก็ตาม ควรทดสอบอาการแพ้ที่บริเวณท้องแขน และลำคอก่อใช้ลงบนใบหน้านะขอรับ
และจากที่เราใช้ /skin regimen/ 1.5 Retinol Booster จนหมดขวด โดยเราจะใช้เฉพาะในตอนกลางคืนพบว่าผิวโดยรวมเนียนเรียบขึ้น รอยสิวดูจางลง ไม่ค่อยมีสิวใหม่เกิดขึ้นเท่าไหร่นัก ส่วนในแง่ของริ้วรอยเนื่องจากระยะเวลาในการใช้จนหมดขวดประมาณ 2 เดือนเท่านั้นจึงยังไม่สามารถสรุปได้ชัดเจนเท่าไหร่ครับ แต่อย่างน้อยเราก็สามารถพูดได้ว่าเรายังไม่มีริ้วรอยใหม่ที่เกิดขึ้นมาหลังจากใช้ขอรับ
แต่แน่นอนผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นนี้ Based-on สภาพผิว ไลฟ์สไตล์ การดูแลตัวเอง และผลิตภัณฑ์ที่เราใช้ร่วมกันเป็นหลัก ดังนั้นผลลัพธ์ย่อมแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ส่วนสำถามที่ว่าใช้แล้วจะแพ้ไหม จะอุดตันไหม สิวจะขึ้นหรือไม่นั้น เราไม่สามารถให้คำตอบได้เนื่องจากปัจจัยที่ก่อให้เกิดการแพ้ ระคายเคือง และก่อให้เกิดสิวของแต่ละคนล้วนแตกต่างกัน ดังนั้นเราแนะนำว่าก่อนที่จะใช้ผลิตภัณฑ์ใหม่ ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ใดก็ตาม ควรทดสอบอาการแพ้ที่บริเวณท้องแขน และลำคอก่อใช้ลงบนใบหน้านะขอรับ