ARgENTUM la lotion infinie hydrating body cream | ฉีกทุกกฎเกณฑ์ เมื่อครีมทาตัวสามารถทาหน้าได้!!
Wanviset 50 12 เค้าแจกฟรี/ มีคนให้มาแหละ :)
เหมือนเราจะเคยพูดไปใน VDO คลิปนึงเมื่อนานมากๆ แล้วว่าที่จริงแล้วผลิตภัณฑ์บำรุงผิวนั้นไม่สามารถแยกแยะได้หรอกว่ามันควรจะต้องเข้าไปดูแลส่วนใดของร่างกาย แต่หลายครั้งที่เราคิดจะทำแบบนั้นแต่พอเอาเข้าจริงๆ กลับทำไม่ได้ด้วยเหตุผลของส่วนผสมที่แตกต่างกัน รวมถึงเนื้อสัมผัสที่ไม่เอื้อต่อการใช้เป็น Facial Cream เอาซะเลย (= =")
แต่ล่าสุดที่เราได้ลองผลิตภัณฑ์จากแบรนด์ ARgENTUM อย่าง la lotion infinie Body Cream ทำให้เรากล้าพูดได้เลยว่าเขา "ฉีกทุกกฎเกณฑ์" ที่เรามีไปเรียบร้อย ด้วยความที่ทางแบรนด์ใช้ส่วมผสมตัวเดียวกัน กับที่ใส่เข้ามาใน ARgENTUM la potion infinie restorative day & night cream ครีมทาหน้าตัวดั่งของแบรนด์ แถมยังทำเนื้อสัมผัสออกมาได้ดีเกินคาด แต่แน่นอนว่าถ้าจะแค่มาเคลมแบบนี้ก็คงไม่ใช่สไตล์เรา เอาเป็นว่าเราขอมาล้วงแคะแกะเกาะแบบจัดเต็มให้เพื่อนๆ ได้ชมกันดีกว่าฮะ...
แต่ล่าสุดที่เราได้ลองผลิตภัณฑ์จากแบรนด์ ARgENTUM อย่าง la lotion infinie Body Cream ทำให้เรากล้าพูดได้เลยว่าเขา "ฉีกทุกกฎเกณฑ์" ที่เรามีไปเรียบร้อย ด้วยความที่ทางแบรนด์ใช้ส่วมผสมตัวเดียวกัน กับที่ใส่เข้ามาใน ARgENTUM la potion infinie restorative day & night cream ครีมทาหน้าตัวดั่งของแบรนด์ แถมยังทำเนื้อสัมผัสออกมาได้ดีเกินคาด แต่แน่นอนว่าถ้าจะแค่มาเคลมแบบนี้ก็คงไม่ใช่สไตล์เรา เอาเป็นว่าเราขอมาล้วงแคะแกะเกาะแบบจัดเต็มให้เพื่อนๆ ได้ชมกันดีกว่าฮะ...
ARgENTUM la lotion infinie
hydrating body cream (200ml./3,650.-)
ผลิตภัณฑ์ la lotion infinie ของ ARgENTUM เป็นครีมบำรุงผิวตัวแบบธรรมชาติที่ใช้คุณสมบัติพิเศษของโลหะเงิน มีความสามารถในการปกป้องและให้ความชุ่มฉ่ำแก่ผิว โดยใช้ส่วนผสมจดสิทธิบัตรที่เกิดจากการวิจัยทางด้านผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ซึ่งส่วนผสมนี้มีส่วนประกอบสำคัญสองอย่าง คือ ซิลเวอร์ไฮโดรซอล (Silver Hydrosol) และ DNA HP ซึ่งเป็นส่วนผสมเดียวกับผลิตภัณฑ์ครีมบำรุงผิวหน้า la potion infinie ที่ได้รับรางวัล Beauty Award Winner ในปี 2014 แถมทางแบรนด์ยังเลือกใช้ส่วนประกอบจากธรรมชาติสูงถึง 99.5%
Texture / Scent / Packaging
Texture : เนื้อผลิตภัณฑ์ในรูปแบบ Gel-Based ที่มีความเข้มข้นสูง มอบความชุ่มชื้นให้ผิวได้เป็นอย่างดี แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่ทำให้รู้สึกเหนอะหนะผิว ส่วนตัวแล้วเราที่เริ่มจะเป็นนมุษย์ผิวค่อนข้างชอบเนื้อแบบนี้มากทีเดียวหละ
Scent : หากเพื่อนๆ ติดตามเราจะรู้ว่าถ้าเป็นไปได้เราก็ไม่ค่อยชอบสกินแคร์ที่มีกลิ่นเท่าไหร่นัก แต่ต้องขอยกเว้นให้กลิ่นโทน Woody ที่หอมเท่ห์ เป็นเอกลักษณ์ขวดนี้จริงๆ เป็นกลิ่นโทนที่เราเลิฟเป็นการส่วนตัวอยู่แล้วด้วยแหละครับ
Scent : หากเพื่อนๆ ติดตามเราจะรู้ว่าถ้าเป็นไปได้เราก็ไม่ค่อยชอบสกินแคร์ที่มีกลิ่นเท่าไหร่นัก แต่ต้องขอยกเว้นให้กลิ่นโทน Woody ที่หอมเท่ห์ เป็นเอกลักษณ์ขวดนี้จริงๆ เป็นกลิ่นโทนที่เราเลิฟเป็นการส่วนตัวอยู่แล้วด้วยแหละครับ
Packaging : บรรจุภัณฑ์ในรูปแบบขวดแก้วสีดำ ที่นอกจากจะดูเลอค่าและมินิมอลแล้ว ตัววัสดุยังมีคุณสมบัติ ultra-violet proof ช่วยปกป้องผลิตภัณฑ์จากรังสี UV และความร้อน เพื่อคงประสิทธิภาพของสารสกัดให้ได้ยาวนานขึ้น
Active Ingredients
นอกจากความน่าสนใจเรื่องเนื้อสัมผัส กลิ่น บรรจุภัณฑ์แล้วสิ่งสำคัญที่ปล่อยผ่านไม่ได้จริงๆ คือ Active Ingredients ที่ทางแบรนด์ใส่เข้ามา ซึ่งเรียกว่าถอดแบบฉบับมาจาก ARgENTUM la lotion infinie ซึ่งเป็น Facial Cream อันโด่งดังของแบรนด์ไม่ว่าจะเป็น
- Colloidal Silver (Silver Hydrosol) : สารสกัดจากแร่เงินหนึ่งในโลหะที่ถูกใช้มาอย่างยาวนาน และเป็นสารที่ทรงประสิทธิภาพในด้านการต่อต้านการอักเสบ ยับยั้งแบคทีเรีย ช่วยกระตุ้นกระบวนการเกิดใหม่ของเนื้อเนื่อ อีกทั้งยังมีส่วนช่วยลด Oxidative Stress ในผิวได้อีกด้วย
- Sodium DNA (DNA HP) : สารตัวนี้หลายคนอาจรู้จักในชื่อ Deoxyribonucleic acid ที่ได้จากเยื่อหุ้มอสุจิปลาแซลมอน ซึ่งทางผู้ผลิตได้เคลมเอาไว้ว่า ช่วยในเรื่องการเพิ่มความยืดหยุ่นของผิว เพิ่มปริมาณน้ำในชั้นผิว ส่งผลให้ผิวกระชับ-อิ่มฟูขึ้น แถมยังช่วยเพิ่มการสร้าง Hyaluronic acid ในชั้นผิวได้อีกด้วย
- Caffeine : อีกหนึ่งสารสกัดที่ถูกใช้อย่างแพร่หลายมายาวนานในวงการสกินแคร์ ซึ่งส่วนมากจะพบในกลุ่มผลิตภัณฑ์รอบดวงตา เนื่องจากมีคุณสมบัติในการกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ช่วยลดรอยคล้ำและอาการบวม อีกทั้งยังอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่เป็นประโยชน์ต่อผิว
นอกจากนี้ยังมีสารให้ความชุ่มชื้น เพิ่มความนุ่มลื่นให้ผิวและช่วยปลอบประโลมผิวไม่ว่าจะเป็น Glycerin, Butyrospermum Parkii Butter, Caprylic/Capric Triglyceride, Hydrogenated Vegetable Glycerides, Aloe Barbadensis Leaf Extract และ Tocopherol แถมยังอัดแน่นไปด้วยน้ำมันสกัดจากธรรมชาติอีกหลายชนิดที่นอกจากจะมีคุณสมบัติในการเพิ่มความชุ่มชื้นแล้วยังเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ทรงพลังอย่าง Argania Spinosa Kernel Oil, Sweet Almond Oil และ Sunflower Oil
Applied
ช่วงที่เราเริ่มใช้ ARgENTUM la lotion infinie hydrating body cream เป็นช่วงที่เรามีสิวและรอยสิวอยู่พอดี เลยขอใช้โอกาสนี้ในการทดสอบไปด้วยในตัวว่าจะช่วยลดการอักเสบของสิว และช่วยให้รอยสิวจางลงได้ไหม....
จากที่เราลองใช้อย่างต่อเนื่องมาประมาณ 2 สัปดาห์พบว่า....อาการอักเสบของสิวลดลงตามลำดับ โดยไม่ทำให้เกิดอาการระคายเคืองหรือแห้งลอก เหมือนการใช้ผลิตภัณฑ์รักษาสิวกลุ่มที่เป็นยารักษาสิว ซึ่งนับว่าเป็นผลลัพธ์ที่ค่อนข้างน่าสนใจทีเดียวเมื่อพิจารณาจากระยะเวลาเพียง 2 สัปดาห์ แถมในแง่ของความชุ่มชื้นและความยืดหยุ่นบนผิวก็ทำออกมาได้ค่อนข้างดี ผิวโดยรวมนุ่ม-ชุ่มชื้น และไม่ทำให้ผิวมันเพิ่มมากขึ้น
ในแง่ของรอยคล้ำใต้ตาหากใครได้ติดตามเราทาง Instagram คงจะพอเห็นแล้วว่าในช่วงที่ผ่านมาเรามีการไลฟ์อยู่บ้าง ซึ่งถ้าเพื่อนๆ ได้รู้จักเราน่าจะพอรู้ว่าเวลาที่เราไลฟ์นั้นจริงๆ แล้วเป็นเวลานอนของเราแล้ว และในบางไลฟ์ก็ซัดโหกลากยาวไปเต็มๆ ถึง 2 ชั่วโมงด้วยกัน แต่เป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจว่าใต้ตาเรากลับไม่มีรอยคล้ำเพิ่มขึ้นเลย (OMG!)
ในแง่ของรอยคล้ำใต้ตาหากใครได้ติดตามเราทาง Instagram คงจะพอเห็นแล้วว่าในช่วงที่ผ่านมาเรามีการไลฟ์อยู่บ้าง ซึ่งถ้าเพื่อนๆ ได้รู้จักเราน่าจะพอรู้ว่าเวลาที่เราไลฟ์นั้นจริงๆ แล้วเป็นเวลานอนของเราแล้ว และในบางไลฟ์ก็ซัดโหกลากยาวไปเต็มๆ ถึง 2 ชั่วโมงด้วยกัน แต่เป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจว่าใต้ตาเรากลับไม่มีรอยคล้ำเพิ่มขึ้นเลย (OMG!)
Conclusion
โดยรวมเรามองว่า ARgENTUM la lotion infinie hydrating body cream เป็นมอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่ชนะใจเราในหลายๆ ด้านไม่ว่าจะเป็นการนำส่วนผสมที่อยู่ใน Facial Cream อันโด่งดังถ่ายทอดมาสู่ Body Cream อย่างไม่มีกั๊ก แถมเนื้อสัมผัสยังบางเบาสบายผิวแต่กลับมอบความชุ่มชื้นได้ดี แม้เราจะนอนในห้องแอร์ก็ยังคงรักษาความชุ่มชื้นไว้ได้ดีทีเดียว
อีกประเด็นที่ไม่พูดถึงคงไม่ได้คือบรรจุภัณฑ์ทั้งในแง่ของดีไซน์ที่ถูกจริตเราสุดๆ และทางแบรนด์ยังเลือกใช้ บรรจุภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติ Ultra-Violet Proof ที่สามารถปกป้องผลิตภัณฑ์จากรังสี UV และความร้อน เพื่อคงประสิทธิภาพของสารสกัดต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพยาวนานขึ้น
สุดท้ายคือเรื่อง Scent (กลิ่น) จริงอยู่ที่เราไม่ชอบผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของน้ำหอมสังเคราะห์ หรือน้ำมันหอมระเหย เพราะต่างก็มีโอกาสก่อให้เกิดการระคายเคืองได้ทั้งสิ้น แต่จากที่เราใช้บอดี้ครีมขวดนี้ในช่วงที่ผิวเรากำลังเป็นสิวก็ไม่พบอาการแพ้/ระคายเคืองใดๆ แถมโทนกลิ่นยังเป็นในแบบที่เราชอบ เป็นกลิ่นแนว Woody ที่หอมเป็นเอกลักษณ์ ให้ความรู้สึกโปร่งสบาย ผ่อนคลาย จึงไม่แปลกที่เราจะเทใจให้น้องคนนี้ขอรับ
แต่อย่างที่เราพูดเสมอว่าผลลัพธ์ที่เพื่อนๆ ได้เห็นในบทความนี้ Based-on สภาพผิวในปัจจุบัน, การดูแลตัวเอง, Lift Style รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่ใช้ร่วมกันเป็นหลัก ดังนั้นผลลัพธ์ย่อมแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคลครับ // ส่วนคำถามว่าใช้แล้วจะแพ้ไหม สิวจะขึ้นหรือไม่ ? เป็นสิ่งที่ไม่สามารถตอบให้ได้เนื่องจากสภาพผิวและปัจจัยที่ก่อให้เกิดอาการแพ้ของแต่ละคนล้วนแตกต่างกัน ดังนั้นเราแนะนำว่าก่อนจะทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ใหม่ ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ใดก็ตาม ควรทดสอบอาการแพ้ที่บริเวณท้องแขนหรือลำคอก่อนทุกครั้งครับ
อีกประเด็นที่ไม่พูดถึงคงไม่ได้คือบรรจุภัณฑ์ทั้งในแง่ของดีไซน์ที่ถูกจริตเราสุดๆ และทางแบรนด์ยังเลือกใช้ บรรจุภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติ Ultra-Violet Proof ที่สามารถปกป้องผลิตภัณฑ์จากรังสี UV และความร้อน เพื่อคงประสิทธิภาพของสารสกัดต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพยาวนานขึ้น
สุดท้ายคือเรื่อง Scent (กลิ่น) จริงอยู่ที่เราไม่ชอบผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของน้ำหอมสังเคราะห์ หรือน้ำมันหอมระเหย เพราะต่างก็มีโอกาสก่อให้เกิดการระคายเคืองได้ทั้งสิ้น แต่จากที่เราใช้บอดี้ครีมขวดนี้ในช่วงที่ผิวเรากำลังเป็นสิวก็ไม่พบอาการแพ้/ระคายเคืองใดๆ แถมโทนกลิ่นยังเป็นในแบบที่เราชอบ เป็นกลิ่นแนว Woody ที่หอมเป็นเอกลักษณ์ ให้ความรู้สึกโปร่งสบาย ผ่อนคลาย จึงไม่แปลกที่เราจะเทใจให้น้องคนนี้ขอรับ
แต่อย่างที่เราพูดเสมอว่าผลลัพธ์ที่เพื่อนๆ ได้เห็นในบทความนี้ Based-on สภาพผิวในปัจจุบัน, การดูแลตัวเอง, Lift Style รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่ใช้ร่วมกันเป็นหลัก ดังนั้นผลลัพธ์ย่อมแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคลครับ // ส่วนคำถามว่าใช้แล้วจะแพ้ไหม สิวจะขึ้นหรือไม่ ? เป็นสิ่งที่ไม่สามารถตอบให้ได้เนื่องจากสภาพผิวและปัจจัยที่ก่อให้เกิดอาการแพ้ของแต่ละคนล้วนแตกต่างกัน ดังนั้นเราแนะนำว่าก่อนจะทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ใหม่ ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ใดก็ตาม ควรทดสอบอาการแพ้ที่บริเวณท้องแขนหรือลำคอก่อนทุกครั้งครับ