Chrissy เจอ Cancel : วีรกรรมbullyในอดีตหวนมาเล่นงาน

52 15
Cyberbully  ไม่ใช่ปัญหาที่ควรปล่อยผ่านไปได้ง่ายๆ   ความรุนแรงที่เกิดขึ้นผ่านตัวอักษรทางหน้าจอเกิดขึ้นแทบทุกวินาทีและทำร้ายผู้คนไปแล้วมากมาย


แต่เมื่อคนดังที่ประกาศจุดยืนต่อต้านการ bully และเคยเปิดเผยถึงความเจ็บปวดเมื่อถูกโจมตีด้วยถ้อยคำร้ายกาจจนต้องหยุดการใช้ Twitter ถูกประจานด้วยหลักฐานมัดตัวว่า ในอดีต ได้แสดงคำพูดร้ายกาจอย่างการบอกให้เด็กสาววัยทีนที่ไม่ชอบขี้หน้าให้ "ตายไปซะ" หรือเอาเรื่องการกรีดข้อมือมาถากถางนางเอก Hollywood เพื่อความสะใจอย่างหน้าตาเฉย


หลายคนอาจจะแสดงความผิดหวัง แต่ก็มีบางคนที่ออกปากว่า " ไม่แปลกใจเลยสักนิด"  ที่ได้รู้ว่า  คนๆนั้นคือ   Chrissy Teigen ...

หลังจากที่ Chrissy มักจะกลายมาเป็น topic ที่สื่อสนใจจากการโต้ตอบกับบรรดา troll ที่เล่นงานเธอด้วยคำพูดรุนแรงและอคติในทึกความเคลื่อนไหวจนทำให้เธอตัดสินหยุดใช้ Twitterเพราะต้องพักใจจากบรรดา hate comment ที่ทำให้จิตตกไม่เว้นแต่ละวัน


ที่ผ่านมานั้น แฟนๆที่ติดตามเธอหลายคนได้แสดงคำชื่นชมถึงการอารมณ์ขันอันเจ็บแสบผ่านsocial media และการเปิดเผย lifestyle ของคนดังที่ฉีกแนวออกไป ไม่ว่าจะเป็นเรื่องbody positivity การศัลยกรรมเพื่อความงาม การเผชิญหน้ากับความสูญเสียและ mental health หลายต่อหลายครั้ง ทั้งสื่อและชาวเน็ทได้ชื่นชมในการแสเงทัศนคติแบบโปร่งใสสไตล์ Chrissy และส่งกำลังใจให้เธอเมื่อต้องผจญกับ cyberbully แม้ว่าเธอจะถูก call out มาหลายครั้งเรื่องคำพูดที่ไม่เหมาะสม   แต่พวกเราต่างรู้ดีว่า ไม่มีใครที่สมบูรณ์แบบ 


แต่เมื่อดารา reality สาวรายหนึ่งประกาศว่า เคยถูก Chrissy คุกคามถึงขั้นที่บอกให้เธอไปตาย เรื่องราวต่างๆก็ดูพลิกผันไปอย่างสิ้นเชิง




ตามว่าร้ายดารา reality วัยทีน ผ่าน social mediaติดต่อกันหลายปี


เรามารู้จัก Courtney Stodden ผู้จุดประเด็นฉาวครั้งนี้กันก่อนค่ะ


ราวๆ 9 ปีก่อน เธอเป็นสาว16 ที่ทำให้สังคมวิพากษ์วิจารณ์ด้วยความรู้สึกที่หบากหลาย นั่นเป็นเพราะว่า เธอได้ตัดสินใจเข้าพิธีวิวาห์กับนักแสดงรุ่นพ่อวัย 50 ตามกฎหมายแล้ว เธอยังเป็นผู้เยาว์ที่จำเป็นต้องได้รับการลงชื่ออนุญาตเป็กลายลักษณ์อักษรจากพ่อแม่ ในขณะนั้น ทั้งแม่ของเธอที่ถูกกล่าวหาว่าเป็น Kris Jenner wannabe และตัวสามีหนุ่มใหญ่ก็ถูกสังคมตัดสินด้วยอารมณ์โกรธเกรี้ยว เพราะแม้ว่ารูปลักษณ์ภายนอกของเธอจะดูเป็นผู้ใหญ่กว่าวัยแค่ไหน แต่เธอก็เป็นเพียงเด็กสาวที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะที่อาจจะถูกชักจูงให้เดินทางผิด Courtney เข้าสู่วงการ reality โดยมีแม่ทำหน้าที่เป็นผู้จัดการส่วนตัว แต่เส้นทางสู่ความโด่งดังนั้นไม่ได้พุ่งไปสูงสุดเหมือนบ้าน Kardashian เธอยังวนเวียนรับงาน reality show รักๆเลิกๆกับสามี และสุดท้ายก็ตัดสินใจหย่าขาดกันหลังจากใช้ชีวิตคู่กัยราวๆ 7 ปี และสังคมก็ไม่ได้เพ่งเล็งเธออีกต่อไป


แต่การออกมาเปิดเผยว่าถูก Chrissy Teigen  ตามด่าว่าแรงๆ  ก็ทำให้ทุกคนกลับมานึกถึงเรื่องราวของเธออีกครั้ง




ส่วนหนึ่งของ tweet ของ Chrissy ที่ไม่ปกปิดความเกลียดชังในตัวดารา reality สาว 16


Courtney เปิดใจ   "เหมือนตลกร้ายที่จอม bully ตัวแม่ คร่ำครวญว่าตัวเองถูก bully จนต้องปิด Twitter"
ข้อมูลจาก Courtney

  • รู้สึกพูดไม่ออกบอกไม่ถูกเมื่อเห็น Chrissy ระบายเรื่องที่ถูกชาวเน็ทตามระรานด้วยคำพูดว่าร้าย  เพราะเธอเป็นเหยื่อที่ถูก Chrissy กระทำมาก่อน
  •  Chrissy  ไม่แต่เพียงเคยบอกว่า คิดจินตนาการอยากให้Courtneyนอนในหลุมฝังศพ หรือหลับไปตลอดกาลเท่านั้น       แต่ยังมีส่งข้อความอื่นๆมาถึงอีกเยอะทั้งDM และ Tweet จนถึงเมื่อราวๆสองปีก่อน และเคยเจอข้อความบอกให้ไปฆ่าตัวตาย หรือคำพูดประเภท "ฉันอยากให้เธอตายๆไปซะ"
  • ยืนยันว่า เรื่องนี้ส่งกระทบต่อจิตใจอย่างหนัก จึงตัดสินใจออกมาเปิดเผยเรื่องราว 


ไม่มีการเปิดเผยว่า ทั้งสองคนมีเรื่องราวใดต่อกันมาก่อนหรือไม่ เพราะเป็นเรื่องเริ่มขึ้นเกิดราวๆ 9-10 ปีก่อน แต่ยังไม่มีใครหาหลักฐานมาแชร์ได้ว่า Courtney เคยโต้ตอบ หรือเคยพบกับ Chrissy ตัวเป็นๆหรือไม่ ในขณะนั้น Chrissy ยังเดทกับ Johnได้ไม่กี่ปีและยังไม่ได้มีชื่อเสียงโด่งดังเป็นที่รู้จักในวงกว้าง ส่วน Courtney อาจจะถูกโจมตีจากเรื่องชีวิตส่วนตัวว่ามีภาพของเด็กสาวใจแตกที่แต่งงานกับชายแก่เพราะอยากดัง แต่นั่นก็ไม่สามารถบิดเบือนความจริงไปได้ว่า Courtneyเป็นเพียงสาว 16 ที่หลายคนมองว่ายังเด็กอยู่มาก และทาง Chrissy นั้นก็เป็นผู้ใหญ่ที่ควรจะมีวุฒิภาวะแล้ว




เจ้าตัวยอมรับผิด  "เป็นพวกขาดความมั่นใจ ร้ายใส่คนอื่นเพราะหิวแสง"


การ "แฉ" ของ Courtney ก็ไม่ต่างจากการทิ้งระเบิดอานุภาพสูง เพียงไม่นานนัก Chrissy ก็ได้ประกาศขอโทษด้วยน้ำเสียงที่ยอมรับผิดทุกกรณี เธอระบุว่า

  • ตัวตนในอดีตทำให้เธอรู้หวาดหวั่นและเศร้าเสียใจ  เธอทั้งขาดความมั่นใจและด่าว่าคนอื่นเพระาหิวแสง   พฤติกรรมนี้ทำให้เธออับอาย  แต่ก็รู้ดีว่า คงเปรียบเทียบกับความรู้สึกของ Courtney  ที่ถูกเธอกระทำไม่ได้เลย
  • เธอรู้สึกย่ำแย่ที่ทำให้ทุกคนผิดหวัง  แต่จะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อเปลี่ยนแปลง
  • เธอพยายายามจะติดต่อ Courtney เพื่อขอโทษเป็นการส่วนตัว  แต่เธอเห็นว่า tweet เก่าของตัวเองเป็นต้นเหตุของเรื่องราวจึงต้องการขอโทษออกสื่อ และหวังว่า Courtney จะรู้สึกดีขึ้นจากคำขอโทษจากเธอ





คู่กรณีโต้ นี่เป็นคำขอโทษที่ขาดความจริงใจ



"ขอโทษผ่าน Twitter แต่กลับบล็อคคนถูกกระทำไม่ให้เห็น Twitter"    Courtney ตอบกลับนิ่มๆ และยืนยันว่า ถึงป่านนี้ ไม่ว่าจะเป็น Chrissy หรือทีมของเธอก็ไม่ได้ติดต่อเพื่อขอโทษตามที่อ้างไว้   เพราะเธอถูก Chrissy บล็อค จึงไม่สามารถอ่านคำขอโทษจากบัญชีตัวเองได้ ต้องดูจากแหล่งอื่น   และเธอตั้งข้อสังเกตว่า  นี่อาจจะเป็นความพยายามในการแก้ไขสถานการณ์เพราะคำนึงถึง deal กับแบรนด์ต่างๆมากกว่า


ถูกขุดซ้ำรัวๆ   จิกเรียกดารา reality ว่านังโส  แดกดัน Lindsay Lohan เรื่องกรีดข้อมือ
เมื่อเริ่มถูกขุดจนเจอcapture   คำพูดที่เธอโจมตี  Farrah Abraham    ดารา reality ที่ถ่าย sex tape และผันตัวไปรับงานหนังผู้ใหญ่ว่าเป็น "นังโสเภณี"   และ "ทุกคนเกลียดหล่อน"     ชาวเน็ทก็เริ่มจับทางได้ว่า เป้าหมายที่ Chrissy  จ้องโจมตีจะอยู่กลุ่มไหน   และเมื่อถูกทักท้วงว่า ไม่ควรไปตัดสินชีวิตคนอื่นด้วยความคิดแบบ slut-shaming  เธอก็แย้งว่า การโจมตีผู้ที่ตั้งใจสร้างกระแสให้ตัวเองด้วย sex tape ที่จัดฉากเอง และยังติดต่อ paparazzi มาติดตามถ่ายภาพตอนกำลังซื้อที่ตรวจการตั้งครรภ์ไม่เห็นจะเป็น slut-shaming ตรงไหน    

แต่นั่นอาจจะนำไปสู่คำถามว่าเกี่ยวข้องกับความสองมาตรฐานหรือไม่ ? จากเสียงร่ำลือเรื่อง sex tape ที่ทำให้ Kim Kardashianแจ้งเกิดในวงการและกรุยทางสู่ความโด่งดังในทุกวันนี้ว่าเป็นเรื่องที่จงใจถ่ายทำขึ้นมาเพื่อจุดประสงค์บางอย่าง sex tape นี้เป็นที่รู้จักแพร่หลายเพราะเจ้าตัวได้ตกลงยอมรับค่าทำขวัญหลายล้านจากเว็บโป๊ชื่อดังเมื่อหลายปีก่อน (เจ้าเดียวกับที่ได้ซื้อลิขสิทธิ์tapeของ Farrah) เมื่อ Kim กลายมาเป็นเซเลบที่เนื้อหอมสุดๆในวงการ ก็ได้ผูกมิตรสนิทสนมกับ Chrissy เพราะสามีของทั้งสองเป็นเพื่อนกันมาก่อนแล้ว


และเรื่องที่แรงหนักขึ้นไปอีก คือการยกเอาเรื่องการทำร้ายตัวเองมาเยาะเย้ย นางเอก Hollywood ที่มีปัญหาอื้อฉาว


เธอ tag Lindsay Lohan ว่า

"จะเพิ่มรอยกรีดทีข้อมือตอนที่เจอ Emma Stone "


นั่นน่าจะพาดพิงถึงปัญหาส่วนตัวของ Lindsay ที่ทำให้เธอต้องพบกับภาวะขาลง และเคยสื่อปล่อยข่าวว่า เธอเคกรีดข้อมือทำร้ายตัวเอง และเย้ยหยันว่าเธอไม่สามารถยอมรับในความสำเร็จของ Emma Stone ได้จนต้องไปกรีดแขนเพิ่ม







แม่ Mariah ยังไม่รอด


ทุกครั้งที่ Chrissy ต่อกรกับ body-shaming ในโลกออนไลน์นั้น สื่อหลายเจ้าและบรรดาผู้ติดตามได้เลือกสนับสนุนเธอเพื่อต่อต้านอคติที่เกิดจากค่านิยมความงาม เพื่อส่งเสริมให้ทุกคนยอมรับความแตกต่าง และเคารพในตัวตนของผู้อื่นโดยไม่เอาความคิดเห็นของตัวเองไปตัดสินและทำร้ายจิตใจกัน บางสื่อได้รวบรวมคำพูดแสบสันที่เธอใช้ตอบโต้ชาวเน็ทที่วิจารณ์เรื่องรูปลักษณ์อย่างเสียหายๆ

แต่เมื่อหลายปีก่อน  ไซส์ของ Mariah Carey ในขณะตั้งครรภ์ก็ดูจะเป็นเรื่องขบขันของ Chrissy  

คำพูดที่ Chrissyบอกว่า Mariah ที่กำลังตั้งท้องลูกแฝดดูเหมือนจะมีทารกมากถึง 15 คนอยู่ในท้อง หรือมุกเรื่องลูกโตสามขวบแล้ว แต่ดูเหมือนยังไม่ได้คลอด เป็นเรื่องที่คุณแม่หลายคนเคยต้องอดทนฟังเพราะมันเป็นแค่ "เรื่องตลก" หรือคนพูดมีเจตนาเพียง "หยอกกันเล่นๆ"
เมื่อมีคน bully เธอเรื่องน้ำหนักตัวหรือรูปร่าง Chrissy มักจะได้รับคำชมจากสื่อว่า มีการโต้กลับที่ยอดเยี่ยมและเป็นแบบอย่างที่สร้างแรงบันดาลใจ เธอใช้สถานะคนดังพูดถึงเรื่อง body positivity อยู่หลายครั้ง และหลายคนอาจจะไม่คาดว่า เมื่อย้อนไปตอนที่เธอยังไม่เป็นที่รู้จัก ก็เคยมีพฤติกรรม body-shaming ต่อdivalผู้โด่งดังมาแล้ว




แสดงความหมั่นไส้นักแสดงเด็กวัยแค่ 9 ขวบอย่างเปิดเผย
คนเราสามารถเติบโตและเปลี่ยนแปลงจากตัวตนในอดีตกันได้ใช้คำพูดรุนแรงไล่คนที่ไม่ชอบหน้าให้ไปตายอาจจะเป็นพฤติกรรมที่สร้างความอับอายให้กับภรรยานักร้องชื่อดัง และทำให้เธอตั้งปณิภาณว่าจะไม่ทำผิดพลาดเช่นเดิม แต่ก็มีผู้ทักท้วงว่า พฤติกรรมที่เธอระบุว่าเป็นเรื่องของอดีตนั้น ยังปรากฏเป็นส่วนหนึ่งในตัวตนปัจจุบันหรือไม่ เธอก็ยังไม่ได้ส่งคำขอโทษไปถึงผู้ที่ถูกพาดพิงครบทุกคน และมีเสียงเรียกร้องให้เธอยอมรับผิดในกรณีอื่นๆด้วย  ดังกรณีของ อดีตนักแสดงเด็กที่Chrissy เสียดสีว่าหลงตัวเอง

Chrissy ไม่ได้บรรยายรายละเอียดว่า เคยพบกับนักแสดงเด็ก Quvenzhané Wallis  ที่สร้างชื่อเสียงจากการเข้าชิงรางวัล Oscar ด้วยวัยเพียง 9 ขวบหรือไม่ แต่เรื่องความหมั่นไส้นั้น เรียกได้ว่ามาเต็ม  เธอถามผู้ติดตามอย่างกวนๆว่า  ต้องฝืนใจชอบอีกฝ่ายเเพียงเพราะเป็นเด็กเท่าน้้นรึไง และหลังจากที่บอกว่า Quvenzhané เป็นเด็กหลงตัวเองแล้วมีคนทักท้วง เธอก็ปรับคำเรียกใหม่ว่า เด็กตัวแสบ  และเย้ยไม่เห็นว่ามันจะแรงตรงไหน



ชาวเน็ทเกรี้ยวกล่าวหาว่าจงใจสร้างกระแสด้วย jokeเล่นคำตอนที่ Megan Thee Stallion ถูกยิงที่เท้า

คนดังทั่ววงการได้แสดงจุดยืนเพื่อสนับสนุน women empowerment และต่อต้านความรุนแรง หลายครั้งเราจะได้พบกับเหตุการณ์ที่ผู้หญิงออกโรงปกป้องเหยื่อที่ถูกกระทำ แต่เมื่อ rapper สาวเผ็ด Megan Thee Stallion ต้องผ่านวินาทีเฉียดตายเพราะถูกเพื่อนชายยิงหลังจากมีปากเสียงกันในรถ และทำให้เธอบาดเจ็บที่เท้า แต่กลับมีกระแสโจมตีคนถูกยิงอย่างไม่น่าเชื่อ ทั้งการแสดงความคลางแคลงใจต่อเรื่องราวที่ยังคลุมเครือ และยังมีเรื่อง victim blaming กล่าวหาว่าเธอเอาตัวไปเสี่ยงเอง ร้ายไปกว่านั้นยังมีการเยาะเย้ยเห็นว่า ผู้หญิงที่ถูกยิงเป็นเรื่องตลก

และหนึ่งในคนที่ถูกชาวเน็ทกล่าวหาว่าล้อเลียน Meghan เรื่องถูกยิงคือ Chrissy นั่นเอง     ที่จริงแล้ว เธอรู้ตัวอยู่แล้วด้วยซ้ำว่า จะต้องเจอกระแสโต้กลับหลังจากที่ tweet มุกนี้    เพราะได้ออกตัวไว้ว่า  " ก่อนที่จะมาว่าอะไรกัน  บอกไว้ก่อนเลยนะว่าฉันปลื้มMegan"

การเล่นคำต่อกันเป็นทอดๆ นั้นเป็นกิจกรรมแสนสนุกที่กลายเป็น viral ได้หลายครั้ง แต่เมื่อ Chrissy ได้ยกชื่อ Megan มาเล่นคำในจังหวะต่อกับคนที่พูดถึงการฆาตกรรมในช่วงเดียวกับข่าวที่เธอถูกยิงกำลังเป็นประเด็นร้อนแรงก็ถูก call out ทันที ในตอนแรก เธอเหวี่ยงใส่ชาวเน็ทที่รุมตำหนิว่า จะลบ tweet ก็ได้เพราะ "พวกคุณมันน่ารำคาญฉิบ... ก็กดเลิกติดตามฉันซะสิพวกงี่เง่าเอ๊ย"

แต่ Chrissy อาจจะไปใคร่ครวญอีกทีแล้วคิดว่าเป็น wrong move จึงออกมาขอโทษอย่างทันใจว่า เธอควรจะรู้ตัวว่ามุกตลกเรื่องMegและการเต้น twerk ที่นำมาใช้ใน joke เล่นคำนั้นไม่เหมาะสม และยังเป็น joke ที่งี่เง่าและเปล่าประโยชน์อีกด้วย

" การตอกย้ำให้ใครบางคนนึกถึงเรื่องราวเลวร้ายและการที่ทำให้พวกคุณต้องผิดหวังนั้นเป็นสิ่งที่ทำให้ฉันรู้แย่มากเลยค่ะ ฉันต้องขอโทษMeganและไม่ว่าใครก็ตามที่คิดว่าฉันพาดพิงเหตุการณ์นั้น"

Chrissy ยืนยันว่า ไม่ได้ตั้งใจลากเอาเรื่องMeganเป็นเหยื่อความรุนแรงมาล้อเลียน เพราะคิดแต่เรื่องท่าเต้น twerk เท่านั้น แต่ที่มีดราม่าตามมาเพราะpost มุกตลกผิดที่ผิดเวลา ซึ่งในขณะนั้น ไม่น่าแปลกใจที่เธอถูกรุมกดดันหนัก เพราะยังเพื่อนร่วมวงการคนอื่นที่เล่น joke เรื่องนี้ ( 50 Cent, Draya Michele และ Cam’ron ) ส่วนโลกออนไลน์ก็โหดร้ายขนาดมีคนทำ meme ล้อเลียน Megan เพื่อความสะใจ




Megan ได้เปิดเผยภายหลังว่า เธอรู้สึกย่ำแย่มาก เพราะถูกยิงจนบาดเจ็บทั้งสองเท้าและต้องผ่าตัดเพื่อเอากระสุนออก มันทั้เป็นความโหดร้ายฝังใจ แต่ยังมาถูกซ้ำเติม

" มันน่ากลัวเหลือเกิน เป็นประสบการณ์ที่เลวร้ายที่สุดในชีวิตฉัน มันไม่ใช่เรื่องตลก ไม่มีอะไรที่เอาเป็นสร้างมุกขำขันได้เลย และไม่ใช่เรื่องที่คนอื่นจะเอาไปปล่อยข่าวหลอกลวง ฉันไม่ได้เป็นฝ่ายผิด ฉันไม่สมควรจะถูกยิงแบบนี้"





ผลกระทบจาก cancel culture
หลังจากที่ Chrissy มีชื่อเสียงและมักเป็นที่กล่าวขวัญในหมู่สื่อบันเทิงแล้ว เธออาจจะไม่ได้จิกกัดใครด้วยคำพูดแรงๆเหมือนกับที่ปรากฏใน tweet เก่า นอกจากการเปิดศึกกับ Donald Trump หรือ troll ที่ด่าเธอก่อน แต่ดราม่าจากการถูกขุดว่าเคยบอกให้สาววัยทีนไปตาย ก็กลายมาเปิดโอกาสให้นักการเมืองอนุรักษ์นิยมถล่มเธออย่างไม่ปราณี  แน่นอนว่าอดีตประธานาธิบดีจะต้องร่วมวงจิกกัดเธออย่างเจ็บแสบ

ส่วน Candace Owens ตัวแทนสื่อฝ่ายอนุรักษ์นิยมก็ได้กลายมาเป็น trending ทาง Twitter หลังจากที่เรียกร้องให้แบรนด์ต่างๆแบน Chrissy และแนะนำให้เธอแสดงคำขอโทษผู้หญิงทุกคนที่ถูก bully แน่นอนว่า Candaceได้หยิบยกเรื่องที่ Chrissy บอกว่าอยาก Sarah Palin อดีตผู้ว่าการจากพรรค Republican ยิงปืนใส่หน้าตัวเองมาตอกย้ำว่านางแบบสาวมีพฤติกรรม abusive และเป็นพวกมือถือสากปากถือศีล




คุณคงข้ามอริเก่าแก่อย่าง Piers Morgans ไปไม่ได้เลย  เขาได้ทีซ้ำเติมว่า cancel คนอื่นมาแล้ว เจอเองก็ตัวบ้างแล้วรู้สึกอย่างไร!

เมื่อศัตรูของChrissy รวมพลังโจมตีอย่างพร้อมเพรียงก็ยิ่งชี้ให้เห็นว่า ในวงการนี้ จะพลาดถูกแฉเรื่องพฤติกรรมไมไ่ด้เลย มีคนรอซ้ำอยู่เต็มไปหมด!


เธอจะถูกแบนตามแคมเปญของนักการเมืองฝ่ายอนุรักษ์นิยมจริงหรือ ?

มีรายงานว่า deal ในการวางจำหน่ายสินค้าเครื่องครัวของ Chrissy กับMacy และ Bloomingdale ถูกพับไป  และยังสามารถซื้อหากันได้ใน website ของเธอโดยตรงและshop อื่นๆ และหลังจากที่ประกาศขอโทษผ่าน social media ก็เก็บตัวเงียบเดินหน้าทำหนังสือคู่มือทำอาหารต่อไป      บน Instagram ของเธอก็ยังเต็มไปด้วยข้อความโจมตีจากชาวเน็ทยาวเหยียด


ไม่เพียงแต่กระทบไปที่แบรนด์สินค้าตัวเอง จากที่Chrissyถูกวางตัวให้เป็นผู้บรรบายซีรีส์รักวัยรุ่นเรื่อง “Never Have I Ever” ของ Netflix  ก็ต้องถอนตัวออกไปตามที่หลายคนคาดหมาย


เคยมีคนวิจารณ์ว่า cancel culture ไม่สามารถทำอะไรคนดังทรงอิทธิพลได้ แต่เพียงไม่นานก่อนหน้านี้ การประกาศยุติรายการของ Ellen DeGeneres นั้นน่าจะพิสูจน์ถึงพลังแรงกดดันจากสังคมต่อคนดังที่ถูกกล่าวหาเรื่องพฤติกรรม bully แม้ว่าพิธีกรดังจะยังได้รับเสียงสนับสนุนจากคนบันเทิงและประกาศว่าจะปฏิรูปวัฒนธรรมในที่ทำงานและปลดproducer ออก แต่เมื่อถูกสื่อไล่จับผิดและมีกระแสโจมตีไม่หยุดหย่อนจากชาวเน็ท รายการที่ประสบความสำเร็จต่อเนื่องเข้าสู่ปีที่ 19 ก็ต้องปิดฉากลงในเร็วๆนี้ Ellen อาจจะให้เหตุผลว่า เลิกทำรายการเพราะไม่รู้สึกถึงความท้าทายอีกต่อไป แต่ผู้คนจำนวนมากเชื่อว่า นี่คือกรณีตัวอย่างของคนดังที่ต้องพบวิกฤติจาก cancel culture นั่นเอง






Chrissy เจอ cancel อย่างหนักหน่วงจริงหรือไม่ ? เธอจะออกมาเปิดใจอีกครั้งหรือเปล่า ติดตามกันต่อไปค่ะ


The End


candy

candy

ติดตาม Mouth On The Web แล้วอย่าลืม Mouth On The Face นะคะ ^ ^

FULL PROFILE