Night Skincare Routine สำหรับคนผิวแห้งแพ้ง่ายที่การ์ดไม่ตกในการใส่ใจดูแลผิว ✨
Triam Chit 63 21สวัสดีค่ะเพื่อนๆทุกคน ช่วงนี้เป็นยังไงกันบ้างคะ ? อย่างที่เราทราบกันดีว่าสถานการณ์ COVID-19 ในช่วงนี้ยังคงน่าเป็นห่วง จนส่งผลต่อสุขภาพกายและใจของพวกเราเป็นอย่างมาก เพราะฉะนั้น ห้ามการ์ดตกทั้งสุขภาพกายและใจกันนะคะ ต้องเพิ่มการดูแลตัวเองกันมากขึ้น แต่ก็ไม่ลืมที่จะผ่อนคลายบ้าง วางการรับรู้ที่หนักๆหรือหดหู่ลงสักหน่อย เพื่อหาอะไรที่เติมกำลังใจของตัวเราเองให้จิตใจได้รับการฟื้นฟูแข็งแรง เพื่อที่เราจะได้มีพลังให้ตัวเองและคนรอบข้างับสถานการ์ในช่วงนี้ เจเองขอเป็นกำลังใจกอดเพื่อนๆที่น่ารักของบ้านรักนี้ทุกคนเลย พวกเราต้องผ่านกันไปให้ได้ค่ะ ! ^^
.
.
.
ซึ่งอีกสิ่งหนึ่งที่เชื่อว่าเพื่อนๆในบ้านหลังนี้
- ไ ม่ ก า ร์ ด ต ก -
อย่างแน่นอน ก็คือ การดูแลสุขภาพผิวพรรณของตัวเองนั่นเอง ^^
วันนี้เจเลยอยากมาแชร์ items การ์ดไม่ตกของเจ
สำหรับ ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าในช่วงกลางคืน
( Night Skincare Routine ) ที่เจงัดมาดูแลและป้องกันผิวหน้า บอกเลยว่า
อ่อนโยน
ผิวแพ้ง่ายใช้ได้
ตอบโจทย์ผิวแห้ง ผิวเป็นสิวแน่นอนค่ะ
.
.
.
Momonde Centella Trouble Toner 150 ml.
อย่างที่หลายคนทราบว่าแบรนด์มามอนด์เขามีผลิตภัณฑ์โทนเนอร์ที่ได้แรงบันดาลใจจากมวลหมู่ดอกไม้ออกมาถึง 5 สูตรแตกต่างตามสภาพผิว ซึ่งเจเองสนใจอยู่มากแต่ก็ไม่เคยได้มีโอกาสใช้จนกระทั่งเขาออกสูตรน้องใหม่ล่าสุด คือ Momonde Centella Trouble Toner
เป็นสูตรที่ใช้ทุกส่วนของต้นใบบัวบก จนได้สารสกัดจากใบบัวบก เป็นน้ำใบบัวบก 98.32% ที่ช่วยชำระล้างสิ่งสกปรก
ปลอบประโลมผิวที่ได้รับการระคายเคืองจากปัจจัยภายนอก
ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวเป็นพิเศษ
ช่วยควบคุมความมัน
ช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว พร้อมเผยผิวใหม่ที่ดูอ่อนเยาว์ สุขภาพดี
ปราศจากส่วนผสมจากสัตว์ / น้ำมันแร่ / น้ำหอม / polyacrylamide / สีสังเคราะห์ / imidazolidinyl urea / triethanolamine และน้ำมันซิลิโคน
ความประทับใจคือ : ถึงเนื้อของเขาจะเข้มเข้นแต่ตอนที่ใช้ทำความสะอาดผิว เขา ให้ความรู้สึกเบาสบายมากๆค่ะทุกคน ไม่ต้องเอาไปแช่เย็นแต่กับรู้สึกดีต่อผิวมากๆแบบบอกไม่ถูกประมาณว่าอยากเช็ดหน้าตลอด 55 5 55 และความอ่อนโยนนี้แม้กับผิวเป็นสิวอักเสบก็ไม่ระคายเคืองค่ะ หลังจากที่ใช้เขาเสร็จผิวของเราเพิ่มได้เพิ่มความสะอาดมากขึ้น และพร้อมสำหรับขั้นตอนการบำรุงต่อไปค่ะ หมดขวดนี้เจจะขยับไปตุนขวดปริมาณ 250 ml แล้ว ติดใจมาก ><
- ราคา 250 บาท -
Institut Esthederm Cellular Water Mist 200 ml.
เป็นแบรนด์ผลิตภัณฑ์จากประเทศฝรั่งเศส เจใช้ Water Mist ของเขาซ้ำมาขวดที่ 3 มีช่วงที่หยุดใช้ไป แต่ช่วงนี้ก็วนกลับมาใช้ซ้ำเหมือนเดิม เขาขึ้นชื่อเรื่องความเป็นมิสส์หน้าเด็ก
เป็นผลิตภัณฑ์ Anti-Aging Mist ที่มีไฮยาลูรอนเข้มข้นกว่า Serum ปกติเน้นๆถึง 25 เท่า ! เพราะด้วยคุณค่าจากไฮยาลูรอนโมเลกุลเล็กผสานกับสารแอนตี้ออกซิแดนซ์และเกลือแร่ในปริมาณที่พอเหมาะ
Biomimetic มีค่า pH, rH2 และ Resistivity ที่ใกล้เคียงกับผิวจึงเข้ากับผิวได้เป็นอย่างดี
ใช้ได้ในขั้นตอนหลังทำความสะอาดผิว ก่อนลงผลิตภัณฑ์บำรุงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบำรุง ใช้หลังแต่งหน้าเพื่อเซ็ตเมคอัพ หรือใช้เพื่อเพิ่มความสดชื่นและชุ่มชื้นได้ตลอดวัน
- ปราศจากน้ำหอม และสารกันเสีย
ความประทับใจ : ต้องบอกว่าเจชอบ Packaging ของเขาแบบนี้มากค่ะ ดูทันสมัย ดูคงประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ได้ดี มันให้ความรู้สึกปลอดภัยต่อผิว ส่วนเนื้อผลิตภัณฑ์ของเขา เมื่อฉีดออกมาจะเป็นละอองสเปรย์ที่ละเอียดมาก กระจายได้ดีทั่วผิวหน้า ตกกระทบผิวได้อย่างนุ่มนวล ไม่มีกลิ่นให้ความรู้สึกเหมือนน้ำเปล่า เบาสบายผิว ซึมลงผิวได้ดี เติมความชุ่มชื้นให้ผิวได้ทันทีค่ะ สายเมคอัพนี้ต้องมีค่ะ ช่วยล็อคเมคอัพได้ดีเลย เติมความชุ่มชื้นลดการระคายเคืองระหว่างวันได้่ดีอีกด้วยค่ะ- - ราคา 1,700 บาท -
Clinique Moisture Surge Hydrating Lotion 200 ml.
อีกกลุ่มไลน์ที่เด่นไม่แพ้ไลน์อื่นๆของ Cliniqe ก็คือ Moisture Surge ซึ่งในไลน์นี้อีกผลิตภัณฑ์ที่เจชอบมากก็คือ Moisture Surge Hydrating Lotion
เป็นโลชั่นที่มอบความชุ่มชื้นเร่งด่วน
สามารถปลอบประโลมผิวหลังการทำความสะอาดอย่างล้ำลึก
ช่วยเตรียมผิวเพื่อรับการบำรุงจากเซรั่มและครีมในขั้นตอนต่อไป
ยังผิวแลดูฉ่ำน้ำเปล่งปลั่ง สดชื่น โดยผลิตภัณฑ์ผ่านการทดสอบการแพ้ ปราศจากน้ำหอม 100% ไม่มีส่วนผสมของสารก่อให้เกิดสิว
ผ่านการทดสอบจากแพทย์ผิวหนัง
ความประทับใจ : เขาให้ความรู้สึกเย็นสบายมากๆเวลาทาลงบนผิว ถึงแม้ว่าเนื้อของเขาจะเข้มข้นมากๆ แต่เขาจะค่อยๆซึมลงผิวโดยที่ไม่ทำให้ผิวเหนอะหนะ และเมื่อซึมลงสู่ผิวแล้ว จะสังเกตุเห็นผิวที่ดู Fresh ขึ้นค่ะ และด้วยปริมาณที่คุ้มค่าคุ้มราคา 1 ขวดนี้สามารถใช้ได้ยาวนานเลยค่ะ
- ราคา 1,500 บาท -
LANCOME Advanced Genifique 30 ml.
เซรั่มตัวเด็ดที่เชื่อว่าเพื่อนๆในบ้านมีติดไว้ใน skincare routine อย่างแน่นอน สำหรับเจแล้วเป็นเซรั่มที่ขาดไม่ได้ ถึงจะหยิบมาใช้ในบางช่วง แต่หมดแล้วต้องมีไว้ค่ะ >< เขาเป็นเซรั่มบำรุงผิวหน้ายอดขายอันดับ 1 ของลังโคม โด่งดังเรื่องการฟื้นฟูผิวแบบเร่งด่วน
ด้วยมีเทคโนโลยี Microbiome ช่วยปรับสมดุลแก่ผิว เพื่อผิวที่แข็งแรง อ่อนเยาว์ เรียบเนียน และสวยอย่างที่เคย
พร้อมฟื้นบำรุงผิวอย่างรวดเร็ว กว่าปกติถึง 3 เท่า และใช้เวลาเพียง 4 ชั่วโมงเท่านั้น
นอกจากนี้เพียง 1 หยดของเซรั่ม Advanced Genifique มี Microbiome มากถึง 30 ล้าน Microbiome ที่จะช่วยฟื้นบำรุงผิวและมอบผิวที่อ่อนเยาว์ให้แก่ทุกสภาพผิวและทุกช่วงวัย
ความประทับใจ : ในช่วงที่ผิวอ่อนแอ หรือช่วงที่ต้องการการดูแลแบบเร่งด่วน เจจะหยิบเขามาใช้เป็นหนึ่งใน skincare routine เพราะเขาสามารถใช้ร่วมกับ skincare routine ตัวอื่นๆได้ดีค่ะ อีกทั้งยังสามารถใช้ผสมกับรองพื้นได้อีกด้วยไม่ไปรบกวนประสิทธิภาพของรองพื้น แต่ยังไปเพิ่มเป็นการบำรุงของขั้นตอนนั้นค่ะ
- ราคา 2,880 บาท -
Abib Yuja Essence Vitalizing Pump 50 ml.
เป็นแบรนด์ผลิตภัณฑ์ที่โด่งดังจากฝั่งเกาหลีอีกแบรนด์ที่เจชอบมากๆ เพราะสะดุดตากับ Package Design ที่สุดแสนจะ Minimal และตัวผลิตภัณฑ์ก็เน้นสารสกัดดที่ได้จากธรรมชาติ และในตัว Abib Yuja Essence Vitalizing Pump เขาเองมีส่วนผสมของ Citrus junos ( สารสกัดจากส้มยูจาหรือส้มยูซุ ) ที่เข้มข้นถึง 82.54%
ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว ทำให้ผิวเต่งตึง มีความยืดหยุ่น
ช่วยลดริ้วรอยก่อนวัย มีส่วนช่วยในการต่อต้านอนุมูลอิสระ
ช่วยทำให้ผิวขาวกระจ่างใส ลดเลือนจุดด่างดำ
โดยผ่านการทดสอบจากแพทย์ผิวหนังแล้วว่าไม่ทำให้เกิดอาการแพ้หรือก่อให้เกิดการระคายเคือง ใช้ได้กับทุกสภาพผิว
ความประทับใจ : ก่อนหน้านี้เจเองได้หยุดใช้ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มของ Vitamin สกัดจากธรรมชาติไปค่ะ เพราะมีทั้งสิวอักเสบ ผิวอุดตัน และรู้สึกว่าผิวบางลง ยิ่งบำรุงยิ่งแพ้ค่ะ เจจึงต้องการที่จะดูแลผิวให้แข็งแรวก่อน พอผิวเริ่มดีขึ้น เจก็มาโดนตกที่ Abib Yuja Essence Vitalizing Pump จากที่กังวลว่าจะยิ่งทำให้ผิวบางลงหรือเปล่า ? แต่ไม่เลยค่ะ ไม่ได้อวยมากนะคะ เขาอ่อนโยนมากจริงๆ และช่วยทำให้ผิวสดใส เจรู้สึกว่าเขาอ่อนโยนเหมือนตัว Vitamin Nectar Glow Juice Antioxidant Face Serum เพราะตัวนั้นเจก็ชอบมาก และผลลัพธ์เหมือนกันค่ะ
- ราคา 650 บาท -
Water Bank Hydro Essence 30 ml.
ก่อนที่เจจะตำขวดนี้มาลอง เจเคยลองตัวเทสของเขา แล้วรู้สึกว่าชอบมาก ผิวดูชุ่มชื้นขึ้น ในช่วงนั้นใช้ก่อนแต่งหน้าผิวออกมาสวย พอช่วงที่ผิวแห้งมากๆและมีโปร 5.5 เจเลยตกลงปลงใจกับ Water Bank Hydro Essence
เขาเป็นเอสเซนส์ ที่อุดมด้วยขุมพลังของน้ำแร่ Green Mineral Water ที่มาจากสารสกัดจากพืชพรรณธรรมชาติ ช่วยให้ความชุ่มชื้น พร้อมสร้างเกราะป้องกันผิว เผยผิวสุขภาพดี
เทคโนโลยี Water zipper ช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้นเข้าสู่ผิวคุณอย่างตรงจุด ด้วยเทคโนโลยีเฉพาะจาก LANEIGE ที่ประกอบด้วย 3 กลไกการให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวอย่างสมบูรณ์แบบ ( เติมเต็ม กักเก็บ ฟื้นฟู )
สารสกัดจาก Garden Cress หรือผักเทียนแดง ที่มีคุณสมบัติในการต่อต้านอนุมูลอิสระ เผยผิวสว่าง กระจ่างใสยิ่งขึ้น
ความประทับใจ : เป็นเอสเซนส์ที่เติมความชุ่มชื้นให้ผิวได้ดีค่ะ เนื้อของเขาเข้มข้น แต่เกลี่ยง่าย สบายผิวมากค่ะ เขาใช้ร่วมกับSkincare ตัวอื่นๆได้ดีเลย ใครมองหาความชุ่มชื้นให้ผิว เจว่าเอสเซนส์ตัวนี้เป็นอีกตัวที่ราคาไม่แรงและควรมีเลยค่ะ
- ราคา 720 บาท -
Institut Esthederm Cellular Water Cream 50 ml.
ครีมบำรุงตัวนี้ของ Institut Esthederm เจใช้มา 3 กระปุกแล้วค่ะ 1 กระปุกของเขาใช้ได้นาน ตอนแรกที่เริ่มใช้ เจมีผิวที่แห้งมากๆ และพอใช้อย่างต่อเนื่องก็วาวกับผลลัพธ์ เป็นครีมที่ทำให้เจเริ่มใส่ใจในการหาครีมบำรุงตัวอื่นๆมาใช้และเห็นความสำคัญของการที่ไม่ควรลืมขั้นตอนการครีมบำรุงเป็น 1 skincare routine เป็นอีกตัวที่บอกเลยค่ะว่าคุ้มค่าแก่การลงทุนกับครีมบำรุงดีดีสักตัว
ครีมบำรุงที่ช่วยปรนนิบัติผิวให้สัมผัสนุ่มดั่งแพรไหม
เติมความชุ่มชื้นให้ผิวจากภายใน
ปกป้องผิวจากมลภาวะอันเป็นสาเหตุหนึ่งของริ้วรอย
มีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยจัดการต้นเหตุของความโรยราของผิว
ปกป้องผิวไม่ให้มลภาวะสามารถลงมาสัมผัสได้โดยการสร้างฟิล์มบางๆ เคลือบผิว
ความประทับใจ : เนื้อของเขาเนียนละเอียด ซึมไว และสบายผิว ผลลัพธ์ของสภาพผิวเจชัดเจนมากในช่วงที่ผิวโทรม หรือผิวอ่อนแอ แห้งมากๆ หยิบมาใช้ติดต่อกัน 2-3 สัปดาห์จะเห็นว่าผิวชุ่มชื้นขึ้น ดูสดใสขึ้น ไม่อุดตันผิว ไม่ระคายเคือง ใช้ได้ทั้งเช้า-เย็นในทุกสภาพผิวเลยค่ะ
- ราคา 2,200 บาท -
Abib Hydration Cream Water Tube 75 ml.
มาอีกแล้วกับแบรนด์ Abib ( บอกแล้วว่าเจชอบแบรนด์นี้จริงจังค่ะ >< ) เป็นครีมบำรุงที่ใช้เทคโนโลยี Polymer network system เนื้อครีมซึมผ่านเข้าผิวได้ลึกช่วยให้ผิวที่แห้งขาดน้ำได้รับสารอาหารผิวได้อย่างเต็มที่
ฟื้นฟูเซลล์ผิวที่อ่อนแอเติมน้ำให้ผิวทันที ทำให้ผิวกลับมาแข็งแรง ยืดหยุ่น อิ่มน้ำ เหมือนปลุกผิวขึ้นใหม่อีกครั้ง
เมื่อใช้อย่างต่อเนื่อง ผิวจะดูสดใสมีชีวิตชีวา
ให้ผิวละเอียดเนียนเรียบ นุ่มน่าสัมผัส
ปราศจากสิ่งต่างๆที่ทำร้ายผิว
ความประทับใจ : จริงๆแล้วเจใช้ทั้ง 2 สูตร คือ Hydration Cream Water Tube ( สำหรับผิวแห้ง-แห้งมาก ) ในช่วงเวลากลางคืน และ Hydration Gel Water Tube ( สำหรับผิวผสม-ผิวมัน ) ในช่วงเวลากลางวัน สูตรเจลนี้ใช้ก่อนแต่งหน้าแล้วผิวสวยมากจริงๆทุกคน ผิวจะอิ่มพร้อมลงเมคอัพที่สุด เราชอบมาก !!! และสูตรครีมถึงแม้ว่าเนื้อของเขาจะเป็นเนื้อครีมที่เข้มข้นมากๆ แต่ไม่หนักผิวเลยค่ะ เหมือนไปเคลือบบนผิวเราไว้ ที่สำคัญไม่อุดตันผิวด้วยค่ะเจคอนเฟิร์ม !! เจจะใช้เป็นตัวสุดท้ายของ Night Skincare Routine โบกทับการบำรุงตัวอื่นๆไปเลย ตื่นมาผิวอิ่มแน่นอน
- ราคา 760 บาท -
Clinique Moisture Surge™ Eye 96-Hour Hydro-Filler Concentrate 15 ml.
เป็นอายครีมที่เจพึ่งลองครั้งแรก กับคำเคลมที่ว่า สามารถช่วยหยุดวงจรความอ่อนล้า คืนความสว่างสดใสให้ดวงตา โดยมีกลไก เติม-ล็อก-ปล่อย ความชุ่มชื้นยาวนานต่อเนื่องถึง 96 ชม. ด้วยเทคโนโลยี Auto-Replenishing Lipid-Sphere ที่เราสามารถเห็น Lipid Spheres สีชมพูและเขียวนี้ลอยกระจายอยู่ในเนื้อผลิตภัณฑ์
มีประสิทธิภาพการเติมความชุ่มชื้นที่เกิดจากกลไกตั้งแต่การดึงน้ำจากสภาพแวดล้อมเข้าสู่ผิว ไปจนถึงการเข้าไปเติมความชุ่มชื้นเอง
กลไกต่อมาคือการล็อกที่เรียกว่า Moisture-Holding Super Matrix เปรียบเสมียนตาข่ายปกคลุมผิวไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้ความชุ่มชื้นระเหยออก
นอกจากจะช่วยรักษาให้ความชุ่มชื้นอยู่อย่างยาวนาน ก็ยังส่งเสริมการสังเคราะห์ของระบบการสร้างความชุ่มชื้นตามธรรมชาติของผิวอีกด้วย
ไม่มีส่วนผสมของพาราเบน, พาธาเลต และน้ำหอม