นักแสดงเจ้าของผลงานสุดปังจนเป็นที่ต้องการสูงใน Hollywood

45 15
มาพบกับรายชื่อนักแสดงที่ฝากฝีมือการแสดงเก่งฉกาจจนก้าวเข้ามาอยู่ในทำเนียบ   in-demand actors  จะมีคนโปรดของคุณรึเปล่า  มารอชมกันเราได้เลยค่ะ



Anya Taylor-Joy


ไม่ได้โด่งดังชั่วข้ามคืน   แต่บทจะปัง ก็ไม่มีใครหยุดยั้งเธอได้

จากนักแสดงสมทบที่ไม่ได้แม้จะมีชื่อขึ้นโชว์ใน creditหนัง Vampire Academy     นางเอกสาวเจ้าของสามสัญชาติผู้นี้ได้ผงาดเก้าขึ้นสู่แวดวงนักแสดง A List อย่างภาคภูมิ     ในวัย 25 ปี  Anya กลายมาเป็นนางเอกเนื้อหอมที่ผู้กำกับชั้นนำต้องการร่วมงานด้วย  และผลงานที่ผ่านมาของเธอก็เป็นสิ่งที่การันตีแฟนๆว่า  เส้นทางความสำเร็จของเธอยังทอดตัวไปได้อีกยาวไกล 

หลังจากบทนำในหนัง The VVitch ทำให้เธอเป็นที่รู้จักกว้างขวางมากขึ้นในภาพของนางเอกวัยทีนที่น่าจับตามอง แต่ทั้งๆที่การแสดงของเธอจากหนังเรื่องนี้จะได้รับคำชื่นชมจนคว้ารางวัลนักแสดงหน้าใหม่ยอดเยี่ยมจากe Gotham Independent Film Awardและ Empire Award แต่ครั้งแรกที่เธฮได้ชมหนังเต็มๆ กลับวิตกกังวลอย่างหนักว่าจะทำได้ไม่ดีพอจนทุกคนผิดหวัง และหวาดหวั่นว่านี เธอจะไม่มีโอกาสกลับมารับงานแสดงได้อีก

The VVitch ไม่ได้กอบโกยรายได้แบบอลังการเหมือนหนังทุนสร้างสูง แต่จากเงินลงทุน 4 ล้านเหรีญญก็ขายไปได้ถึง40 ล้าน


Anya ไม่ได้ดังชั่วข้ามคืนจนเป็น talk of the town ก็จริง แต่ก็ค่อยๆสั่งสมชื่อเสียงด้วยการคว้าบทท้าทายความสามารถหลากหลายแนว และเปล่งประกายความสามารถจากกลุ่มนักแสดงรุ่นราวคราวเดียวกันอันโดดเด่นในบทหนักๆทั้งแนว thriller และ drama





จุดแข็งหนึ่งที่อาจจะทำให้Anya ได้เปรียบคู่แข่งในวงการคือความพริ้วไหวเรื่องภาษา จาก background ครอบครัวที่มาจาก Argentina และมีเชื้อสายอังกฤษ การใช้ชีวิตในสองประเทศทำให้เธอสามารถพูดได้คล่องแคล่วทั้งสเปนและอังกฤษ และมีสำเนียงเก๋ไก๋ที่หลายคนในวงการชื่นชม แม้จะมีผู้ให้ความเห็นว่า สำเนียงของเธอฟังดูเป็นอังกฤษซะส่วนมาก แต่บางครั้งจะมีอเมริกันปนมา ซึ่งเจ้าตัวได้อธิบายว่า วิธีการพูดของเธอจะยืดหยุ่นไปตามสิ่งแวดล้อม ภาษาอังกฤษไม่ใช่ภาษาแรกที่เธอเรียนรู้ ทั้งยังต้องย้ายที่อยู่มาตั้งแต่เด็ก เธอพูดสำเนียงอังกฤษกับแม่และครอบครัวฝั่งอังกฤษ แต่เมื่อไปเยือนต่างประเทศ สำเนียงจะเปลี่ยนไปตามคนรอบข้างโโยไม่รู้ตัว

และนี่เองที่เป็น quality ที่นักแสดงชั้นนำปรารถนา    เพราะแม้แต่นักแสดงชื่ดังมีรางวัลการันตีหลายคนก็ยังต้องรับมือกับความท้าทายในการการเปลี่ยนสำเนียงให้เป๊ะตามบท  แม้จะมี  dialect coach มาช่วยฝึกฝนให้ตัวต่อตัว ก็อาจจะเจเกัย limit ในสำเนียงที่เลียนแบบยาก ส่งผลให้ถูกวิจารณ์ยับเยินในภายหลัง

ในที่สุดความโดดเด่นของเธอไปสะดุุดตาผู้สร้าง The Queen's Gambit ซีรีส์ที่ยังตรึงตราใจผู้ชม แม้แต่คนจำนวนมากที่ไม่เคยสนใจหมากรุกมาอ่อนก็สามารถชมแบบยาวรวดไม่ต้องหยุดพัก

มันคงไม่ใช่การอวยเกินไปหากจะบอกว่า เพียงแค่ตอนแรกที่ได้ชมซีรีส์เรื่องนี้คุณสามารถจินตนาการภาพของ Anyaที่ปรากฏตัวใน Emmy Award และ Golden Globe Award ในฐานะผู้เข้าชิงรางวัลนักแสดงนำซีรีส์ดราม่าหญิงยอดเยี่ยม
เธอแจ้นไปพบScott Frank ผู้กำกับและนักเขียนบทหนังชื่อดังทันทีรู้ว่าเขาสนใจจะพบกับเธอเพื่อตัดสินใจเฟ้นหานางเอกสาวที่จะมารับบท Beth อย่างสมบูรณ์แบบ

และพวกเค้าทำได้...   The Queen's Gambit กลายมาเป็นหนึ่งในซีรีส์โกยเรตติ้งติดระดับtop ของ Netflix โดยที่ไม่ได้ดึงนักแสดง   แฟนๆหลายคนยืนยันตรงกันว่า ดูครั้งเดียวไม่พอต้องขอซ้ำ  สื่อหลายแขนงแข่งกันส่ง content  เกี่ยวกับผลงานเรื่องนี้ทุกแง่มุม  แม้แต่รายละเอียดเล็กๆน้อยๆก็สามารถดึงดูดความสนใจให้แฟนๆให้เข้ามาติดตามอย่างเพลิดเพลิน    และแม้ว่าจะมีการลงความเห็นตรงกันว่า  ฉากจบได้ให้ความรู้สึกที่ complete ไปแล้ว  แต่ก็ยังมีเสียงเรียกร้องให้สร้าง season 2    ของเค้าดีจริงๆ!

แม้สถานการณ์โรคระบาดจะทำให้อุตสาหกรรมหนังชะลอตัวอย่างน่าใจหาย แต่ Scott Frank ผู้กำกับและนักเขียนบทมือทองที่ทำให้ทั่วโลกได้ประจักษ์ถึงทักษะการแสดงเลิศเลอของ Anya จากThe Queen's Gambit ก็ได้เผยว่า พวกเค้ากำลังมี project ใหม่ร่วมกันอีกครั้ง เป็นผลงานที่สร้างจากบทประพันธ์เช่นกัน นั่นคือนวนิยายเรื่องธ Laughter in the Dark จากฝีมือนักประพันธ์ชาวรัสเซียน Vladimir Nabokov จากเนื้อหาย่อๆที่ได้ทราบมา หาก Anya เป็นนางเอกก็นับว่าท้าทายเลยทีเดียว เพราะเป็นนางเอกแบบร้ายๆที่ฉาวโฉ่ฉีกแนวที่เราเคยได้เห็นมา

งานหนังที่จองคิวของ Anya ไว้ยังมีอีกหลายเรื่อง   แฟนๆอาจจะต้องรอคอยกันนานกว่าเดิม เพราะข้อจำกัดจากวิกฤติโรคระบาดนั่นเอง   



Regé-Jean Page

แม้แต่คนดังก็ยังต้องออกมาตัดพ้อเมื่อรู้ว่าพระเอกสุดhotผู้นี้จะไม่กลับมาแสดงใน Bridgerton

นักแสดง Hollywood หลายคนต้องวนเวียน casting เพื่อโอกาสในการแจ้งเกิดจนวัยล่วงเข้าเลข 3    แต่บทคนจะดัง ก็ดังแบบพลิกผันชั่วข้ามคืน   ชื่อเสียงที่ถาโถมมาสู่พระเอกอังกฤษที่แซ่บจนน้ำลายไหลผู้นี้ก็กลายเป็นประเด็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันหนักเช่นกัน

คำยืนยันจาก Regé-Jean ว่าจะไม่หวนคืนไปรับบทดยุคแห่ง Hastings  ใน Bridgerton Season2  ทำให้แฟนๆจำนวนมากมายออกอาการใจสลาย    แม้คำอธิบายจากผู้สร้างและตัวเขาเองจะฟังดูสมเหตุสมผล  เพราะแม้จะสร้างปรากฏการณ์ความฟินให้กับแฟนซีรีส์  แต่เขาเซ็นสัญญารับบทเพียง season เดียว  ทั้งเนื้อหาตามบทประพันธ์ที่จะนำมาสร้างใน season ต่อมานั้น  ตัวท่านดยุคมีบทบาทเบาบางมากเพราะจะ focus ที่ตัวคุณพี่ Anthony   หากจะกลับมาจริงๆ ก็น่าจะเป็นการแต่งเติมเสริมแต่งบท service แฟนคลับท่านดยุคซะมากกว่า  

การโบกมือลาซีรีส์ที่กวาดเรตติ้งสูงสุดของ Netflix นั้นเป็นเรื่องที่หลายฝ่ายไม่ได้คาดการณ์ไว้ เพราะสิ่งที่พบได้จากผลงานยอดนิยมเรื่องอื่นๆนั้น นักแสดงนำมักกลับมาร่วมแสดงหลาย season ติดต่อกัน เพราะนั่นคือสิ่งการันตีทั้งรายได้และชื่อเสียงจากการรับบทนำในผลงานที่มีแฟนๆมากมายรอคอย และยังเป็นช่องทางให้ผู้สร้างหนังและนายทุนได้เห็นศักยภาพว่าสามารถดึงดูดผู้ชมได้มากแค่ไหน เปรียบกับการเปิดประตูไปสู่ความสำเร็จในอนาคต

หลายคนเชื่อว่า  Bridgerton ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงนั้นได้ focus ไปยังตัวพระเอกจนอาจจะพูดได้ว่าออร่ากลบสมาชิกครอบครัว Bridgerton ไปไม่น้อย   แฟนๆหลายคนพร่ำเพ้อหา Rege-Jean   ตั้งแต่ความหล่อสมบูรณ์แบบ   แรงดึงดูดทางเพศ   sex scene ที่ทำให้อ้าปากค้าง  แล้วยังมีการเลิกคิ้วแบบร้ายๆที่เครื่องมือขโมยใจสาวๆ    เมื่อเขายืนยันว่า bye bye   สื่อดังเจ้าหนึ่งก็ปล่อยข่าวออกมาว่า  เป็นการจากลาที่จบไม่สวย เพราะ Rege-Jean  เข้าสู่ mode  'ดังแล้วลืมตัว'   จากกระแสความสนใจที่โถมเข้ามาล้นหลาม ทำให้เขามั่นใจว่าตัวเองอยู่ในระดับที่เหนือกว่าซีรีส์อื้อฉาวแนว Gossip Girl ยุค Regency  
ตัว Shonda Rhimes ผู้เป็น executive producer ก็ยอมรับว่ารู้สึกตกใจที่ได้เห็นกระแสโลกออนไลน์ว่าแฟนๆซีรีส์รู้สึกโศกเศร้ากับข่าวนี้มากแค่ไหน   เพราะทั่วไปแล้ว เธอจะเห็น reaction แบบนี้เมื่อตัวละครนำตาย  แต่สำหรับ Bridgerton   บทบาทของพระนางใน season แรกนั้นอบอวลไปด้วย happy ending    จึงรู้สึกเกินคาดไปบ้าง     อย่างไรก็ตาม เธอต้องทุ่มเทให้ความสำคัญกับพระนางคู่ใหม่ในseasonต่อๆไปเพื่อสร้างความจิ้นให้ถ้วนหน้า



 บทดยุคแห่ง Hastings ทำให้ Rege-Jean   ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลใหญ่ของคนวงการ TV ในสาขานักแดงชายยอดเยี่ยมทั้ง  Emmy Award และ SAG award  พร้อมกับข่าวลือว่า เขาอาจจะเป็นผู้ท้าชิงบท James Bond คนต่อไป  ซึ่งมักจะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับพระเอกอังกฤษที่ก้าวขึ้นมาสู่ระดับ A List      เรื่องหนัง James Bond อาจจะมาจากแรงเชียร์ของแฟนๆกลุ่มหนึ่ง   แต่ที่ยืนยันแน่นอนคือบทเด่นแห่งหนังfantasy ฟอร์มยักษ์  Dungeons & Dragons   กระทบไหล่กับนัดแสดงดังที่มีประสบการณ์ผลงานหนัง blockbuster อย่างโชกโชน ทั้ง Chris Pine  Michelle Rodriguez และ Hugh Grant


Millie Bobby Brown


จากดาราเด็กซีรีส์ดังก้าวเข้าสู่ดาราอายุน้อยกว่า 18  ค่าตัวสูงสุด


นักแสดงเด็กที่แจ้งเกิดจากผลงานนิยมมักต้องพบกับอุปสรรคสำคัญ เมื่อพวกเค้าเริ่มเติบโต ภาพเมื่อเป็นนักแสดงวัยใสอาจจะติดตาผู้ชมไปจนแยกแยะไม่ออก แม้จะหันมารับบทที่แตกต่างจากเดิมอย่างสุดขั้วก็ตาม เมื่อกลายเป็นผู้ใหญ่ หลายคนก็เริ่มเงียบหายไป แม้ว่าจะยังวนเวียนรับงานในวงการ แต่กลับไม่โด่งดังสร้างเสียงกล่าวขวัญเหมือนในอดีต


แต่พัฒนาการทางการแสดงของ Millie Bobby Brown  น่าจะทำให้แฟนๆมั่นใจได้ว่า  เธอจะสามารถเติบโตจากบท Eleven แห่ง  Stranger Things เพื่อก้าวไปสู่ความสำเร็จทัดเทียมกับนักแสดงชั้นนำคนอื่นๆ 

บทบาทสาวน้อยพลังจิตที่ถูกโกนหัวสั้นเกรียนเปลี่ยนชีวิตนางเอกวัย 12จากอังกฤษให้กลายมาเป็นดาวรุ่งเนื้อหอม   มีรายงานว่า   ค่าตอบแทน Stranger Things ที่ Millie ได้รับใน season3 สูงถึงตอนละ 350,000 ดอลลาร์  และเมื่อวัดจาดดีกรีความโด่งดังในฐานะหัวใจของเรื่องราวแล้ว  Millie น่าจะเป็นนักแสดงที่กอบโกยรายได้จาก Stranger Things สูงกว่าเพื่อนร่วมงาน    จากเรตติ้งสวยงามตั้งแต่  season แรก  Millie ในวัย 17 ถูกยกให้เป็นนางเอกวัยทีนค่าตัวสูงสุด  และยังเป็นคนดังอายุน้อยที่สุดที่นิตยสาร TIME จัดให้อยู่ในกลุ่มผู้ทรงอิทธิพลในวงการ

คุณอาจจะเคยได้ยินเรื่องราวพิษสงของวงการHollywood ที่ส่งผลกระทบต่อคนดังวัยใสท่ามกลางสายตาจ้องจับผิด อดีตดาราเด็กจำนวนไม่น้อยที่ต้องเผชิญกับความบีบคั้นและยังมีสิ่งยั่วยุดึงดูดให้หลงทาง Millie คืออดีตนักแสดงเด็กอีกคนที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงดราม่าเรื่องชีวิตส่วนตัวไปไม่ได้ นางเอกสาวน้อยที่ค่อยๆเติบโตจากการใช้ชีวิตในกองถ่ายนั้นถูกพิพากษาซ้ำแล้วซ้ำเล่า แม้ว่าจะสร้างรายได้มากมายจากอาชีพนักแสดง แต่ก็ต้องแลกกับชีวิตที่ถูกกดดันด้วยคาดหวังให้วางตัวเป็นแบบอย่างอันดีงามของเยาวชน เสียงวิจารณ์ในเรื่องชีวิตส่วนตัว ไม่ว่าจะเป็นมีแฟนเร็วไป แต่งตัวเป็นสาวไป และยังมีเรื่องของ cyberbullyด้วยการใส่ร้ายก็ทำให้เธอท้อถอยไปหลายครั้ง

"ฉันใส่เสื้อ crop แล้วก็มีคนวิจารณ์ว่าอายุแค่10ขวบยังริจะใส่อยู่นั่น ไม่ใช่นะ ฉันอายุ 17เ ด็กสาวก็ใส่ชุดแบบนี้กันทั่วไปทั้งนั้น ทั้งเรื่องใส่รองเท้าส้นสูง หรือไม่ก็แต่งตัวไปงานประกาศรางวัลแล้วก็ถูกจิกว่า ดูเหมือนผู้หญิงอายุ 50 ไม่ค่ะ ที่คุณมองแบบนั้นเพราะเห็นฉันมาตั้งแต่เป็นเด็ก 10 ขวบ ทำให้คุณคิดว่าฉันเด็กซะเต็มประดา"


"หลายคนไม่ยอมรับว่าฉันโตขึ้นแล้ว แต่ฉันพร้อมสำหรับสิ่งพวกนี้ มันก็ผ่านมานานพอสมควรแล้ว ปล่อยให้ฉันใส่รองเท้าส้นสูงบ้างเถอะ ฉันโตเกินจะกลับไปแสดงบทเด็กหญิงแล้วนะคะ"


ในขณะที่มีเสียงเรียกร้องไม่ให้เธอโตไวเกินไป และยังมีความเห็นร้ายกาจที่ด้อยค่านางเอกสาว17 ด้วยข้อกล่าวหาว่าเธอดูไม่ใสซื่อบริสุทธิ์มากพอ

แต่หากเป็นเรื่องการงาน Millieได้พุ่งทะยานสู่ความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง หนังตระกูล
Godzilla vs. Kong ทุบหลายสถิติของหนังที่เข้าโรงในช่วงโรคระบาดด้วยรายได้ $467.8 ล้าน แม้ว่าจะเป็นหนังทุนสร้างสูง หักทุกอย่างแล้วอาจจะทำกำไรเฉียดๆ ร้อยล้านเท่านั้น แต่ก็เป็นจำนวนเงินที่สร้างความหวังให้กับคนทำหนัง เนื่องจากข้อจำกัดของกฎเกณฑ์การป้องกันการติดต่อของไวรัสจากที่ผู้ชมยังไม่อาจเข้าถึงความบันเทิงจากโรงภาพยนตร์ได้เต็มที่เหมือนเมื่อก่อน แม้แต่หนังฟอร์มยักษ์ที่หวังกอบโกยรายได้ก็ต้องผ่านสภาวะ'หืดขึ้นคอ' ไปตามๆกัน

การเข้าร่วมแสดงในหนังสัตว์ประหลาดฟาดฟันกันอาจจะยังไม่เปิดโอกาสให้เธอฉายแสงความสามารถได้ชัดเจนนัก   แต่ Millie ก็ได้พิสูจน์ความสามารถจาก Enola Holmes   หนังที่ดูเผินๆเหมือนจะเบาสมอง เต็มไปด้วยความน่ารักน่าเอ็นดูของนางเอก แต่แฝงด้วยการเสียดสีแนวคิดชายเป็นใหญ่ได้อย่างเจ็บแสบและทรงพลัง   สื่อรายงานว่าเสน่ห์ของหนังที่ดึงดูดยอดผู้เข้าชมจนติดอันดับ 7 ของ Netflix Original Movies   การประกาศสร้างภาค 2 จึงไม่สร้างความแปลกใจให้ผู้ชมเลย

Millie ยังมีโพรเจ็คท์ The Girls I’ve Been ผลงานหนัง Netflix ที่ยังไม่ได้ประกาศออกมาเป็นทางการ และมีรายงานว่า เธอจะเข้าเป็นหนึ่งในทีม producer ไม่ต่างจาก Enola Holmes  (ใช่แล้วล่ะ เธอเป็น producer หนังวัยทีน)  ยังมีDamsel และ The Thing About Jellyfish ทางNetflix ช่นกัน  เห็นแบบนี้อาจจะทำให้หลายคนเชื่อได้ว่า   หากนางเอกเป็น Millie    streaming service แห่งนี้ก็พร้อมเปิดไฟเขียว!



Timothée Chalamet


พระเอกสายรางวัล


พระเอกหนุ่มตาสวยTimothée  คนนี้อาจจะยังไม่คว้ารางวัล Oscar    แต่หลายคนมองว่าออร่าของเขาสร้างความรู้สึกไม่แตกต่างกับช่วงที่  Jennifer Lawrence กวาดรางวัลการแสดงรัวๆ     สื่อหลายเจ้ายกให้เขาเป็นนักแสดงเปี่ยมพรสวรรค์แห่ง generation นี้

  จากนักแสดงหนุ่มหน้าใสผอมบางที่ไม่ได้เป็นที่รู้จักระดับ mainstream   หนัง Call Me By Your Name  ไม่เพียงทำให้สื่อรุมให้ความสนใจและอวยจนออกนอกหน้า  การเข้าชิง Oscar ในวัยเพียง 22ย่อมดึงดูดให้ผู้กำกับหันมาพิจารณาฝีมือของเขาอย่างถี่ถ้วน  เขาได้พิสูจน์ตัวเองจากผลงานเรื่องต่อๆมาที่ถูกใจนักวิจารณ์  ส่งผลให้ติดอยู่ในกลุ่มผู้เข้าชิงรางวัลการแสดงยอดเยี่ยมแบบยาวเหยียด        หากเปรียบว่าเป็นพระเอกสายรางวัลก็คงไม่เกินไปนัก

เมื่อมีการประกาศสร้างหนัง Little Women เวอร์ชั่นใหม่ บางคนอาจจะถอนหายใจเพราะเป็นหนังที่ remake มาแล้วหลายกัน แต่เมื่อผู้สร้างได้เผยภาพนิ่งจากซีนอารมณ์ของ Laurie และ Jo ก็สร้างความตื่นเต้นให้กับผู้ชมขึ้นมา เพราะเรากำลังพูดถึง Saoirse Ronan นางเอกสาวไอริชผู้มีชื่อเสียงเลื่องลือเรื่อง acting skill มาตั้งแต่เด็ก (เธอเข้าชิงOscar มาแล้ว 4 ครั้ง) แล้วจะมีพระเอกวัยใกล้เคียงกันคนใดที่จะสามารถประชันฝีมือกันได้อย่างสูสี?   ทั้งๆที่แฟนๆรู้เรื่องราวบทสรุปของหนังกันมาก่อนแล้ว  แต่ก็ยังมีอารมณ์ร่วมแบบพร่างพรู   บ้างก็เปรียบเทียบว่าทั้งคู่เป็นKate Winslet และ Leonardo DiCaprio ในยุคใหม่ 

 หลายคนอาจจะสังเกตได้ว่า Timothée Chalamet  ไม่ได้เปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ให้เข้ากับ beauty standard ของพระเอก Hollywood ที่ฟิตกล้ามเนื้อให้ใหญ่ล่ำ    เพื่อรับบทหนุ่มติดยาเสพติดใน  Beautiful Boy จากที่ดูผอมอยู่แล้วก็ซูบลงไปมากจนทำให้แม่กังวล   เจ้าตัวยอมรับว่า เคย audition บท Spider-Man แต่ก็พลาดหวัง  จึงให้ความสำคัญกับการค้นหาข้อมูลของบทที่เล็งไว้ และพิสูจน์ต่อผู้กำกับว่า เขาพร้อมจะทุ่มเทเพื่อแสดงออกมาให้เป๊ะจริงๆ
แฟนๆอาจจะคุ้นเคยกับบทบาทของ Timothéeในหนังดราม่า  แต่ในเร็วๆนี้ แฟนๆจะได้พบกับการพลิกมารับบทนำใน Dune หนังไซไฟต้นทุนสูงที่จะเข้าโรงหนังให้ชาวอเมริกันได้ชมและยังรับชมได้ผ่าน HBO Max  


ตามแบบฉบับของนักแสดง A List  Timothéeได้รับ script มาพิจารณาไม่ว่างเว้น   project ที่น่าสนใจอีกอันคือหนัง Don't look Up ที่ได้ร่วมประชันฝีมือการแสดงกับ Leonardo DiCaprio และ Jennifer Lawrence (ที่ออกอาการคลั่งไคล้เขาแบบไม่ปิดบัง) และจ่อ streaming ที่ Netflix เร็วๆนี้ 

นอกจากจะเป็นพระเอก  In-Demand ในช่วงวัย 20s    เจ้าตัวยังมีชื่อเสียงจากการเป็นขวัญใจมวลชน  ทั้งกิริยาสุภาพกับแฟนๆ และยังเป็นที่ชื่นชอบในหลุ่มนักแสดงอาวุโส   เมือ่ได้ให้สัมภาษณ์ในรายการ TV ก็มีmoment น่าเอ็นดู    ทำให้เราเชื่อได้ว่า  ทั้งการแสดงอันโดดเด่นผสานกับการวางตัวที่น่าชื่นชมจะทำให้เขายึดตำแหน่งพระเอกขายดีไปได้อีกยาวนาน


candy

candy

ติดตาม Mouth On The Web แล้วอย่าลืม Mouth On The Face นะคะ ^ ^

FULL PROFILE