สวัสดีค่ะทุกคนน กลับมาเจอกับวิกันอีกแล้วว..

ช่วงนี้เริ่มได้ออกไปใช้ชีวิตข้างนอกบ้านบ้าง น้ำหอมที่มีอยู่ก็เลยได้ถอยออกมาใช้ค่ะ.. แต่ด้วยความที่เป็นคนรีบๆ อยากลดขั้นตอนลง เลยได้ค้นพบไอเท็มที่ช่วยประหยัดเวลาไปได้เยอะ อย่าง 'โลชั่นน้ำหอม' นั่นเองง เป็นอีกตัวเลือกนึงที่วิแนะนำเล้ยยย เพราะอาบน้ำเสร็จ ทาโลชั่นแล้วตัวก็หอมเลย ได้ทั้งบำรุงผิวได้ทั้งความหอมที่ติดผิวไปในขั้นตอนเดียว ประหยัดเวลามากก หลอดเดียวจบ ได้ทั้งความชุ่มชื้นและกลิ่นหอมสดชื่นน นอกจากตัวจะหอมแล้ว ยังทำให้บรรยากาศรอบๆ ตัวสดชื่นไปตามๆ กันค่าา

วันนี้วิเลยอยากมาแนะนำ

 

..โลชั่นน้ำหอม 3 กลิ่นใหม่ล่าสุด..

จากแบรนด์ที่หลายๆคนน่าจะได้เห็นผลิตภัณฑ์ของเค้าอยู่บ่อยๆ นั่นก็คือ..

 Hanasol

ซึ่งเป็นแบรนด์ที่ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ตัวไหน ก็น่าใช้ไปซะทั้งหมด >< พอเค้ามีโลชั่นน้ำหอมออกมาแบบนี้ บอกเลยว่าไม่ควรพลาดดด เพราะจากประสบการณ์ส่วนตัวของวิที่เคยได้ลองโลชั่นน้ำหอมมา บอกเลยว่าตัวนี้เค้าทำออกมา ได้เนื้อสัมผัสที่ดีงามน่าใช้ รวมไปถึงกลิ่นที่กำลังหอมละมุนแบบพอดี ไม่ฉุน แต่ค่อนข้างติดทนเลยย

แค่แพคเกจก็ดูหอมฟุ้งไปหมดดด สีสันสดใส หลอดบีบใช้งานง่าย แถมราคาก็เป็นมิตรมากๆ ฮะ เพราะใน..

ปริมาณ 220ml. แต่ราคาเพียงหลอดละ 129.- เท่านั้นค่ะ

ต้องพูดถึงปริมาณที่จุใจ ในราคาที่น่ารักก่อนเลย เพราะว่าหนึ่งหลอดใช้ได้นานและทาเพลินมากก 55555 ยิ่งถ้าพกไปไหนมาไหนด้วยแล้ว วิจะหยิบออกมาทาตลอดเลย ซึมไว เติมความชุ่มชื้นให้ผิวได้ดี และติดใจในกลิ่นหอมจากดอกไม้นานาพรรณของเค้า แถมยังมีวิตามิน B3 ที่ช่วยบำรุงผิวให้กระจ่างใสและเรียบเนียนไปอีกก

ซึ่งอย่างที่วิได้เกริ่นไปในตอนต้นค่ะ ว่าเค้าออกมาให้เลือกกันถึงสามกลิ่น แต่วิเป็นคนนึงเลยที่เลือกไม่ได้ ;-; และไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน ปกติแล้วเวลาเลือกน้ำหอมจะเลือกกลิ่นที่ติดใจเพียงแค่กลิ่นเดียว แต่โลชั่นน้ำหอมของ hanasol รุ่นนี้ วิไม่สามารถเลือกได้จริงๆ 55555 ด้วยกลิ่นหอมที่แตกต่างกันไป แต่ไม่ฉุน วิเลยสลับๆ กันทาทุกวันเลยฮะ 

แต่พูดมาขนาดนี้แล้ว วิก็จะขอบรรยายความหอมที่แตกต่างกันนี้ ให้ทุกคนได้พอจินตนาการถึงกลิ่นกันออก (ถ้าภาพเหล่านี้มีกลิ่น บอกเลยว่าทุกคนต้องรีบพุ่งตัวไปลองแน่ๆ) 

ปะะ!! ไปดูทีละกลิ่นกันเลยดีกว่าค่าา

I

- Winter Crush -

กลิ่นหลักในโลชั่น : กลิ่นดอกมะลิ และ เลม่อน  

ลักษณะของกลิ่นและความรู้สึกหลังทา : สำหรับกลิ่น Winter Crush ในหลอดสีฟ้า จะให้กลิ่นที่หอมสดชื่นด้วยเลม่อน และผ่อนคลายนิดๆ ด้วยกลิ่นดอกมะลิ เป็นกลิ่นที่ทาได้สบายๆ เหมาะกับทุกๆ วันเลย สำหรับวิคือเหมาะมากก ถ้าวันไหนที่ต้องการความเฟรช กลิ่นนี้จะให้ฟีลพร้อมออกเดินทาง พร้อมทำกิจกรรม ปลุกตัวเองได้ในทุกวันฮะ ด้วยความที่มีกลิ่นเลม่อนเข้ามาด้วยทำให้รู้สึกสดชื่นจริงๆ ไม่น่าเชื่อว่าดอกมะลิกับเลม่อนจะเข้ากันได้ขนาดนี้ hanasol ทำออกมาได้กลิ่นที่พอดีมากกก

 

- Spring Love -

กลิ่นหลักในโลชั่น : กลิ่นดอกเชอร์รี่ บลอสซั่ม และ ราสเบอร์รี่

ลักษณะของกลิ่นและความรู้สึกหลังทา : สำหรับกลิ่น Spring Love มาในหลอดสีม่วงแบบนี้ เป็นกลิ่นที่หอมสดใส มีชีวิตชีวามากค่ะ บอกเลยว่าทาแล้วหอมลื้มมม เหมาะกับสาวๆลุคขี้เล่นซุกซนมากๆเลยค่า อิอิ ด้วยกลิ่นละมุนๆของบลอสซัม บวกกับความสดชื่นของราสเบอร์รี่ ทาทีไรก็อยากจะจิบสมูทตี้โยเกิร์ตเลยฮะ :P ทาแล้วเสริมความสดใสได้ดีจริงงง

- Summer Kiss -

กลิ่นหลักในโลชั่น : กลิ่นดอกมะลิ และดอกลิลลี่

ลักษณะของกลิ่นและความรู้สึกหลังทา : Summer Kiss เป็นกลิ่นที่ทาแล้วน่า Kiss สมชื่อค่ะ เอาใจสาวหวาน แต่ไม่เลี่ยน มีความหอมหวานแบบละมุนละม่อม ตัวเล้กกก น่าทะนุถนอม ไม่หวานจ๋านะคะกลิ่นนี้ ส่วนตัววิเป็นคนไม่ชอบฉีดน้ำหอมกลิ่นหวานเลี่ยน หรือหวานแบบขนม ตัวนี้ตอบโจทย์มากค่ะ เพราะหอมหวานละมุนจากกลิ่นดอกไม้ ไม่ฉุน ไม่เลี่ยน ดีงามมม

..Trick เล็กๆน้อยๆ ในการใช้ ..

- Hanasol Whitening Perfume Lotion -

หลังจากที่วิได้แนะนำให้ทุกคนได้รู้จักกับทั้งสามกลิ่นกันไปแล้ว วิจะมาบอกต่อเคล็ดลับ (ฉบับคนรีบๆ) แบบวิให้ทุกคนฟังค่ะ ว่า ใช้โลชั่นน้ำหอมยังไงให้กลิ่นติดทนนาน

จริงๆแล้วโลชั่นน้ำหอมเค้าก็ใช้ง่ายอยู่แล้ว เพียงแค่.. บีบออกมา และทาไปตามตัว แค่นี้จริงๆค่ะ และด้วยความที่ เนื้อสัมผัสของเค้าจะออกแนวเจลลี่กึ่งน้ำ ทำให้ทาง่ายขึ้นไปใหญ่ ปาดแล้วลูบๆ ปุ้บ ซึมผิวเลย 

ซึ่งทริคที่วิอยากบอกต่อวันนี้ ก็ไม่ได้หวือหวาอะไร คาดว่ามีหลายๆคนน่าจะทำแบบนี้ด้วยน้า..

1.ทาโลชั่นน้ำหอมหลังอาบน้ำ ขณะที่ผิวกำลังแห้งหมาดๆ

: แนะนำให้ทาหลังอาบน้ำทันทีค่ะ เพราะนอกจากกลิ่นจะติดทนนานแล้ว ยังช่วยเติมเต็มและกักเก็บความชุ่มชื้นให้กับผิว

2.หมั่นทาซ้ำ เมื่อรู้สึกว่าผิวเริ่มแห้ง

: Hanasol Whitening Perfume Lotion ตัวนี้ นอกจากจะเด่นเรื่องกลิ่นแล้ว เค้ายังช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้นให้กับผิวด้วยค่ะ ทาแล้วผิวนุ๊มมม ไม่แห้งกรัง55555 ถึงแม้จะไม่ได้ออกไปไหน การอาบน้ำอุ่นหรืออยู่ในห้องแอร์ก็ทำให้ผิวของเราแห้งได้น้า เพราะงั้นเวลาผิวแห้งทาตัวนี้ก็ช่วยได้เหมือนกันค่ะ

 
3.ฉีดน้ำหอมทับโลชั่นลงไปอีกที (สำหรับคนที่ รีบนะ แต่ขอหอมแน่นๆ)

: นอกจากโลชั่นแล้ว ทางแบรนด์เค้าก็มีน้ำหอมทั้งสามกลิ่นนี้ด้วย ส่วนตัววิยังไม่ได้ลองค่ะ แต่คาดว่าถ้าอยากให้หอมไกล หอมนาน ข้ามวันข้ามคืน ควรใช้คู่กัน และฉีดบริเวณจุดสำคัญ ข้อพับต่างๆ ของร่างกายฮะ

 

บอกเลยว่าหอมมากกกจริงๆ เนื้อลื่นๆ ทาง่ายมากก ซึมไว ไม่เหนอะหนะ ประหยัดเวลาไปเยอะเลยค่า

หอมจนน้องมาขอเลียเลย ให้มือด้วยยย เอ็นดูววว55555

Texture ทาง่าย เบาสบายผิว เหมือนกันทุกสูตร

- แต่กลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ที่ต่างกัน -

สรุปให้เห็นกันตรงนี้เลยค่า ว่า Texture เหมือนกันทุกสูตร เนื้อนุ่ม ทาง่าย แตกตัวเหมือนน้ำ ซึมไวมากค่ะ ไม่เหนอะหนะ แต่ให้ความชุ่มชื้นกับผิวได้ดีทั้งสามกลิ่น แตกต่างกันเพียงแค่กลิ่นเท่านั้นน 

วิบอกเลยว่าควรลองน้า พลาดไม่ได้เลย เพราะเป็นโลชั่นน้ำหอม 3 กลิ่นใหม่ล่าสุด ที่วิลองแล้วชอบบบ ราคาน่ารัก ปริมาณจุกๆฮะ หอมจนขนาดที่ว่าแบ่งใส่ขวดปั๊มเล็กๆ พกติดตัวเวลาออกไปข้างนอกเลยฮะ แถมยังมีหลอดใหญ่ติดไว้ในรถด้วย เผื่อต้องการความมั่นใจก็หยิบขึ้นมาทาได้เลย สะดวก รวดเร็ว ประหยัดขั้นตอนค่ะ อิอิ

สำหรับใครที่สนใจ อยากได้ข้อมูลเพิ่มเติมหรือต้องการสั่งซื้อ วิขออนุญาตแปะพิกัดไว้ให้ค่าา ทั้งทาง FB Page : Hanasol Skincare, Line : @hanasol หรือที่หน้าร้าน CJ Supermarket ทุกสาขาค่า

วันนี้ได้มาแนะนำสิ่งดีๆและน่าลองให้กับทุกคนแล้วว อิ่มอกอิ่มใจที่สุดดดด <3
ขอบพระคุณที่ติดตามกันมาจนถึงตรงนี้นะค้า ไว้พบกันใหม่กระทู้หน้าน้าา

สวัสดีค่าา :)