จัดอันดับตัวร้ายในภาพยนตร์ชุดJames Bond 007(Daniel Craig) ชุดที่2
Panchud Thammachat 34 14
อันดับ3 Rami Malek
บทบาทที่ได้รับ:Lyutsifer Safin ในภาพยนตร์เรื่องNo Time to Die(2021)
บทบาทที่ได้รับ:Lyutsifer Safin ในภาพยนตร์เรื่องNo Time to Die(2021)
นักแสดงเชื้อสายอียิปต์ เกิดและเติบโตที่อเมริกา มีน้องชายฝาแฝด1คน
ในภาพยนตร์เรื่องNo Time to Dieนั้น พี่Malekรับบทเป็นLyutsifer Safin มือสังหารผู้มีความหลังกับMadeleine Swannช่วงที่เธอยังเด็ก
ในภาพยนตร์เรื่องNo Time to Dieนั้น พี่Malekรับบทเป็นLyutsifer Safin มือสังหารผู้มีความหลังกับMadeleine Swannช่วงที่เธอยังเด็ก
ผลงานก่อนจะมาร่วมงานในภาพยนตร์เรื่องNo Time to Die
พี่Malek เข้าวงการตั้งแต่ปี2004 และ2ปีต่อมา ก็มีผลงานภาพยนตร์เรื่องแรกตามมาก็คือ ภาพยนตร์เรื่องNight at the Museum(2006) โดยรับบทเป็นPharaoh Ahkmenrah ซึ่งเขายังรับบทเดิมอีกครั้งในภาพยนตร์เรื่องNight at the Museum Battle of the Smithsonian และภาพยนตร์เรื่องNight at the Museum Secret of the Tomb
พี่Malek เข้าวงการตั้งแต่ปี2004 และ2ปีต่อมา ก็มีผลงานภาพยนตร์เรื่องแรกตามมาก็คือ ภาพยนตร์เรื่องNight at the Museum(2006) โดยรับบทเป็นPharaoh Ahkmenrah ซึ่งเขายังรับบทเดิมอีกครั้งในภาพยนตร์เรื่องNight at the Museum Battle of the Smithsonian และภาพยนตร์เรื่องNight at the Museum Secret of the Tomb
เวลาต่อมา พี่Malek ก็ได้เป็นที่รู้จักจากบทแฮ็คเกอร์ผู้มีปมนามว่าElliot Alderson จากซีรีส์ดราม่า-ระทึกขวัญเรื่องMr. Robot ซึ่งออกอากาศตั้งแต่ปี2015 จนถึงปี2019
แต่อีกบทบาทของพี่Malek ภูมิใจมากที่สุด ก็คือ การรับบทเป็นFreddie Mercury นักร้องนำผู้ล่วงลับในภาพยนตร์เรื่องBohemian Rhapsody ซึ่งเป็นภาพยนตร์กึ่งชีวประวัติของวงดนตรีQueen
จากการรับบทเป็นFreddie Mercury ที่ใกล้เคียงกับตัวจริง ทำให้ได้รับรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมในงานประกาศรางวัลต่างๆ เช่น รางวัลออสการ์,รางวัลลูกโลกทองคำ และรางวัลSAG Awards
ผลงานหลังร่วมงานกันในภาพยนตร์เรื่องNo Time to Die
พี่Malek ได้ร่วมงานกับผู้กำกับฝีมือดีอย่างลุงDavid O. Russell ในภาพยนตร์แนวคาวบอยที่ไม่มีชื่ออย่างเป็นทางการ โดยกำหนดฉายภายในปี2022
พี่Malek ได้ร่วมงานกับผู้กำกับฝีมือดีอย่างลุงDavid O. Russell ในภาพยนตร์แนวคาวบอยที่ไม่มีชื่ออย่างเป็นทางการ โดยกำหนดฉายภายในปี2022
อันดับ4 Christoph Waltz
บทบาทที่ได้รับ:Ernst Stavro Blofeld จากภาพยนตร์เรื่องSpectre(2015) และNo Time to Die(2021)
บทบาทที่ได้รับ:Ernst Stavro Blofeld จากภาพยนตร์เรื่องSpectre(2015) และNo Time to Die(2021)
ลุงWaltz เป็นนักแสดงลูกครึ่งออสเตรีย-เยอรมันที่มีรางวัลออสการ์2ตัว ในสาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม จากผลงานภาพยนตร์ที่กำกับโดยคุณQuentin Tarantino
ในภาพยนตร์ชุดJames Bond 007 ฉบับคุณDaniel Craig นั้น ลุงWaltz ได้รับบทเป็นErnst Starvo Blofeld หัวหน้าองค์กรSpectre และเพื่อนสมัยเด็กของJames Bond
โดยตัวละครนี้ปรากฎในภาพยนตร์เรื่องSpectre(2015) และเรื่องNo Time to Die(2021)
โดยตัวละครนี้ปรากฎในภาพยนตร์เรื่องSpectre(2015) และเรื่องNo Time to Die(2021)
ผลงานก่อนร่วมงานภาพยนตร์เรื่องSpectre
ลุงWaltz เข้าวงการตั้งแต่ปี1977 มีผลงานเป็นภาพยนตร์และซีรีส์พูดภาษาเยอรมันเป็นส่วนมาก
กระทั่งเมื่อปี2009 ลุงWaltz ก็ฉายแววแจ้งเกิดในช่วงวัยกลางคนจากบทHans Landa จากภาพยนตร์เรื่องInglourious Basterds ซึ่งเป็นภาพยนตร์โดยคุณQuentin Tarantino จนได้รางวัลออสการ์ สาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม
ลุงWaltz เข้าวงการตั้งแต่ปี1977 มีผลงานเป็นภาพยนตร์และซีรีส์พูดภาษาเยอรมันเป็นส่วนมาก
กระทั่งเมื่อปี2009 ลุงWaltz ก็ฉายแววแจ้งเกิดในช่วงวัยกลางคนจากบทHans Landa จากภาพยนตร์เรื่องInglourious Basterds ซึ่งเป็นภาพยนตร์โดยคุณQuentin Tarantino จนได้รางวัลออสการ์ สาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม
ปี2012 ภาพยนตร์เรื่องDjango Unchainsเข้าฉาย โดยลุงWaltz ก็กลับมาร่วมงานกับคุณQuentin Tarantinoอีกครั้ง โดยรับบทเป็นDr. King Schultzผู้รับจ้างวานฆ่าที่เคยเป็นหมอฟัน
จากบทบาทนี้ ทำให้ลุงWaltzได้รับรางวัลต่างๆในสาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมเป็นครั้งที่2
จากบทบาทนี้ ทำให้ลุงWaltzได้รับรางวัลต่างๆในสาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมเป็นครั้งที่2
ปี2014 ลุงWaltz ก็ได้แสดงนำในภาพยนตร์อิงเหตุการณ์จริงเรื่องBig Eyes
ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นเรื่องราวของสามี-ภรรยาตระกูลKeane ที่มีเรื่องโต้เถียงกันกับภาพวาดหญิงตาโตที่ทั้งคู่อ้างสิทธิ์ร่วมกัน
ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นเรื่องราวของสามี-ภรรยาตระกูลKeane ที่มีเรื่องโต้เถียงกันกับภาพวาดหญิงตาโตที่ทั้งคู่อ้างสิทธิ์ร่วมกัน
ผลงานหลังร่วมงานในภาพยนตร์เรื่องSpectre
เริ่มจากปี2016 กับภาพยนตร์เรื่องThe Legend of Tarzan ซึ่งเป็นทาร์ซานฉบับตีความใหม่โดยคุณDavid Yates
โดยลุงWaltz รับบทเป็นLéon Rom ตัวร้ายในภาพยนตรเรื่องนี้
เริ่มจากปี2016 กับภาพยนตร์เรื่องThe Legend of Tarzan ซึ่งเป็นทาร์ซานฉบับตีความใหม่โดยคุณDavid Yates
โดยลุงWaltz รับบทเป็นLéon Rom ตัวร้ายในภาพยนตรเรื่องนี้
ปี2019 กับภาพยนตร์ดัดแปลงจากมังงะเรื่องAlita: Battle Angel ซึ่งหลายเสียงยืนยันว่าใกล้เคียงกับต้นฉบับ
ลุงWaltz รับบทเป็นDyson Ido(ฉบับมังงะมีชื่อว่าDaisuke Ido) ผู้อุปการะชีวิตให้กับAlita
ลุงWaltz รับบทเป็นDyson Ido(ฉบับมังงะมีชื่อว่าDaisuke Ido) ผู้อุปการะชีวิตให้กับAlita
อันดับ5 Matieu Amalric
บทบาทที่ได้รับ:Dominic Greene จากภาพยนตร์เรื่องQuantum of Solace(2008)
บทบาทที่ได้รับ:Dominic Greene จากภาพยนตร์เรื่องQuantum of Solace(2008)
นักแสดงฝีมือดีจากฝรั่งเศส ที่ผลงานเกือบทั้งหมดเป็นภาษาฝรั่งเศส รวมไปถึงการร่วมงานกับคุณWes Anderson ด้วยผลงานภาพยนตร์2เรี่อง
ในภาพยนตร์เรื่องQuantum of Solaceนั้น คุณAmelricรับบทเป็นDominic Greene เจ้าพ่อค้ายาผู้กว้างขวาง และเจ้าชู้ไม่เลือกหน้า
ผลงานก่อนมาร่วมงานในภาพยนตร์เรื่องQuantum of Solace
คุณAmelric เข้าวงการเมื่อปี1984 ซึ่งช่วงระหว่างยุค80s จนถึงยุค90s ได้ร่วมแสดงในภาพยนตร์พูดภาษาฝรั่งเศสเป็นส่วนใหญ่
จนปี2005 ภาพยนตร์ระทึกขวัญอิงเหตุการณ์ก่อการร้ายในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเมื่อปี1972 กับภาพยนตร์เรื่องMunich ก็ทำให้คุณAmelric ได้เป็นที่รู้จักมากขึ้น
คุณAmelric เข้าวงการเมื่อปี1984 ซึ่งช่วงระหว่างยุค80s จนถึงยุค90s ได้ร่วมแสดงในภาพยนตร์พูดภาษาฝรั่งเศสเป็นส่วนใหญ่
จนปี2005 ภาพยนตร์ระทึกขวัญอิงเหตุการณ์ก่อการร้ายในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเมื่อปี1972 กับภาพยนตร์เรื่องMunich ก็ทำให้คุณAmelric ได้เป็นที่รู้จักมากขึ้น
ปี2008 คุณAmelric ก็ได้รับรับรางวัลCésar Awards สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม จากการรับบทเป็นJean-Dominique Bauby ผู้เขียนข่าว และอดีตบรรณธิการนิตยสารELLE ที่ใช้ชีวิตกับอาการเส้นเลือดในสมองแตกจนกลายเป็นอัมพาต จากภาพยนตร์อิงชีวประวัติเรื่องLe Scaphandre et le Papillon(2007)
ผลงานหลังจากร่วมงานในภาพยนตร์เรื่องQuantum of Solace
คุณAmelric ในช่วงนี้จะทำงานเบื้องหลัง เช่น ผู้กำกับภาพยนตร์ และโปรดิวเซอร์ โดยไม่ทิ้งงานด้านการแสดงแต่อย่างใด
ส่วนผลงานภาพยนตร์ของคุณWes Anderson ที่คุณAmelric ร่วมแสดงได้แก่The Grand Budapest Hotel(2014) และThe French Dispatch(2021)
คุณAmelric ในช่วงนี้จะทำงานเบื้องหลัง เช่น ผู้กำกับภาพยนตร์ และโปรดิวเซอร์ โดยไม่ทิ้งงานด้านการแสดงแต่อย่างใด
ส่วนผลงานภาพยนตร์ของคุณWes Anderson ที่คุณAmelric ร่วมแสดงได้แก่The Grand Budapest Hotel(2014) และThe French Dispatch(2021)
นอกจากนี้ คุณAmelric ยังได้ร่วมแสดงให้กับภาพยนตร์ดราม่าจากทางAmazon Prime เรื่องSound of Metal ซึ่งนำแสดงโดยพี่Riz Ahmed และน้องOlivia Cooks
ช่วงปีใหม่ปี2022 เราจะมาเขียนบทความเรื่อง นักแสดงหญิงที่เคยเป็น"สาวบอนด์" ในภาพยนตร์James Bond 007 ฉบับคุณDaniel Craig กันค่ะ
สำหรับวันนี้ ขอลาไปก่อนค่ะ Bye.
ขอขอบคุณข้อมูลจากทางWikipedia
สำหรับวันนี้ ขอลาไปก่อนค่ะ Bye.
ขอขอบคุณข้อมูลจากทางWikipedia