เหตุใด คนดังจึงเริ่มหันมาเอาFiller ออก

45 18

พวกเรามักจะได้ยินคำชื่นชมความงามที่ดูเป็นธรรมชาติมานับครั้งไม่ถ้วน แนวคิดที่ว่า ผู้ที่เกิดมาสวยเป๊ะประเภท I woke up like this ช่างฟังดูน่าอิจฉา แต่ในระยะเวลาไม่กี่ปีที่ผ่านมา filler ได้กลายเป็น topic ที่ดึงดูดความสนใจจากผู้คนได้เสมอ หลายคนมองว่า นีคือวิธีมหัศจรรย์ที่ช่วย'ปั้น' ใบหน้าในฝันโดยไม่ต้องพึ่งพามีดผ่าตัด กระแสความสนใจต่อ filler ยิ่งร้อนแรง เมื่อ Kylie น้องคนเล็กแห่งบ้าน KarJenner ที่เคยถูกมองว่าขาดความโดดเด่นไม่ทัดเทียมกับบรรดาพี่สาวได้กลายมาเป็นผู้นำด้านความงามและสร้างธุรกิจที่มีมูลค่านับพันล้าน โดยที่มีจุดเปลี่ยนสำคัญคือการเพิ่มขนาดริมฝีปากด้วย filler แม้จะมีกระแสความนิยมริมฝีปากอวบอิ่มอยู่ก่อนหน้านี้มาหลายปีแล้ว แต่ในยุคแห่ง social media ปากแบบ Kylie ก็ได้จุดประกายความปรารถนาของอีกมากมายหลายคน ถึงจะมีเสียงจิกกัดกระหึ่มว่าดูปลอมเกินคำว่าสวย แต่ความสำเร็จอย่างก้าวกระโดดที่ทำให้เธอเป็นมหาเศรษฐีตั้งแต่วัยยี่สิบนิดๆก็น่าจะพิสูจน์ความนิยมของเทรนด์ปากใหญ่ได้ชัดเจน



แต่กระทั่งตัว Kylie เองก็เคยสร้างความฮือฮาด้วยการฉีดสลาย filler หวนกลับไปสู่ลุคที่ดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น เธออาจจะเลือกเติมfiller ให้ปากกลับมาอวบอิ่มดังเดิม แต่ก็มีเซเลบรายอื่นๆที่เปิดใจเรื่องการลดและเลิกฉีด filler กันมากขึ้น

เพราะอะไรพวกเค้าจึงตัดสินใจเช่นนั้น  มาติดตามกันเลยค่ะ




คนดังทดลองใช้   Pillow Face filter โชว์ภาพหน้าแน่น filler บน Instagram


Filter 'Pillow Face' ได้รับการออกแบบจาก Jonathan Augustoที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเทรนด์ความงามในปัจจุบัน

"ผมเห็นหลายเพจบนหน้า Instagram ที่เปิดเประเด็นเรื่องการทำศัลย.กรรมพลาสติก เว็บข่าวซุบซิบที่ยกเอาเรื่องของพวกคนดังและอินฟลูเอนเซอร์ทำหน้าและโฆษณาจากแพทย์ที่โชว์ภาพเปรียบเทียบก่อนทำและหลังทำ ยิ่งได้เห็นบ่อย มันก็ยิ่งกลายเป็นกระแสโด่งดัง ตอนนี้มันจึงได้รับความนิยมเอามากๆ"

"ผู้ใช้ filter อันนี้จะทำให้หน้าดูเปลี่ยนเยอะ ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากศัพท์ที่แพทย์เรียกกันว่า หน้าที่ฉีดเยอะเกินไป คนดังอย่างMadonna, Courtney Cox, Dolly Parton และคนอื่นก็มีลุคแบบ pillow face จากการฉีด filler แบบแย่ๆ พวกเค้าต่างลงเอยด้วยหน้าตาแบบเดียวกันคือปากที่ผิดส่วนและช่วงแก้มที่พองเป่ง"




 

creator ผู้นี้ แสดงความเห็นว่า Pillow Face filter ที่หลายคนนำมาใช้กันสนุกานานนั้น ดูจะเป็นการประชดประชันหรือเข้าขั้น call out เทรนด์ filler ที่พบได้มากขึ้นเรื่อยๆตามหน้าจอ TV และ social media


"ผมคิดว่าคนที่ใช้filter ตัวนี้ต้องการจะวิพากษ์วิจารณ์กระแสการทำหน้าที่พวกเราได้เห็นกันเกลื่อน social media ผมบอกเลยว่า ผมไม่ได้ต่อต้านเรื่อง filter เพราะผมคือผู้ออกแบบมันเอง แต่คิดว่านี่คือการต่อต้านเรื่องลุคทึ่ดูไม่เป็นธรรมชาติในหมู่คนดังและบรรดาผู้ใช้Instagram"




Courtney Cox : ช่วงที่ทำ ไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองดูแปลกไปมากแค่ไหน


แฟนๆซีรีส์ Friends ย่อมจดจำภาพของ Monica สาวงามผมเข้มตาสีฟ้าสดใสได้เสมอ แต่วันเวลาที่เปลี่ยนแปลงไปมากกว่าสองทศวรรษ แรงกดดันจากแนวคิดความงามอ่อนวัยก็ทำให้ Courtney Cox ใช้เวลาหลายปีวนเวียนเข้าตลีนิคเพื่อชะลอริ้วรอยไว้ เมื่อทำไปเรื่อยๆก็ถึงจุดที่ลืมตัวว่า เธอดูไม่เหมือนคนเดิมอีกต่อไป

"มันเป้นช่วงเวลาที่รู้สึกตระหนกว่า โอ้ ฉันกำลังเปลี่ยนแปลง ฉันดูแก่ลง และฉันพยายามไขว่คว้าหาความอ่อนเยาว์มาเป็นปีๆ"

Courtney ได้บรรยายความรู้สึกในช่วงนั้นกับ Sunday Times Style ต่อว่า

"และฉันก็ไม่ได้รู้ตัวเลยว่า ฉันดูแปลกไปมากๆจากการฉีดอะไรต่อมิอะไรที่หน้า ซึ่งตอนนี้ฉันไม่มีทางจะแตะต้องมันอีกต่อไป"

เธอยอมรับว่า มารู้สึกตัวก็ตอนที่เพื่อนฝูงเริ่มทัก (ถึงเรื่องหน้าเปลี่ยน) "มันมาถึงจุดที่ฉันคิดได้ว่า จะต้องหยุดได้สักที มันบ้าไปแล้ว"




"พอรู้ตัวอีกที คุณก็ฉีดทับเพิ่มชั้นไปมากขึ้นเรื่อยๆ   ก่อนนี่จะไม่รู้เลยเพราะฉีดไปทีละน้อย จนกระทั่งได้สังเกตุว่า โอ๊ย ตายแล้ว นี่มันดูไม่ไหวนะนี่   ยิ่งเป็นภาพถ่ายก็ดูน่าเกลียดกว่าในชีวิตจริงค่ะ   มีเพื่อนคนหนึ่งขอรอ้งฉันเลย  โห   อย่าฉีดเพิ่มเลยนะเธอ  ฉันจึงไม่ฉีดอีกเลยค่ะ"


"ฉันเติบโตขึ้นมาด้วยแนวคิดที่ว่า รูปลักษณ์คือสิ่งที่สำคัญที่สุด   ถ้าฉันดูดี  ฉันก็จะไม่เป็นอะไร  แต่แนวคิดนี้ทำให้ฉันตกอยู่ในสถานการณ์แย่ๆ"




ลุคที่เปลี่ยนแปลงไปทำให้สื่อหันมาเล่นงาน



ในขณะที่ดาว Hollywood บางคนยอมรับเรื่องการใช้ fillers เพื่อแก้ไขปัญผิวริ้วรอยร่องลึก   และแนะนำว่า  ควรฉุดรั้งตัวเองไม่ฉีดกระหน่ำจนเกิด effect ที่ทำให้ใบหน้าดูแข็งแน่นหรือดูบวม ที่เรียกกันว่า pillow face  ซึ่งลุคนี้เองที่ทำให้ Courtney ตกเป็นเป้าหมายของบรรดาสื่อบันเทิง

"ฉันเอา fillerอออกจนหมดแล้ว และมีความเป็นธรรมชาติมากที่สุดเท่าที่ทำได้ ฉันรู้สึกดีขึ้น เพราะเมื่อได้มองเห็นตัวเองก็เห็นตัวตนที่เป็นแบบเดิม ฉันหวังว่างั้นนะคะ แต่ทุกอย่างก็มีวันเปลี่ยนแปลง ทุกอย่างจะหย่อนยานลง ฉันพยายาจะหาทางหยุดมัน แต่ก็ทำให้ฉันดูปลอม หน้าของเราจำเป็นจะต้องแสดงอาการเคลื่อนไหวได้ โดยเฉพาะคนที่มีผิวบางเหมือนฉัน เส้นเหล่านั้นไม่ใช่รอยเหี่ยวย่น และแต่เส้นที่เกิดจากการยิ้มต่างหาก ฉันได้เรียนรู้ที่จะเปิดใจยอมรับรอยเส้นจากการเคลื่อนไหว และพบว่า fillers ไม่ได้เป็นมิตรกับฉันเลยค่ะ"



Courtneyในวัย 57 อาจจะโบกมือลา filler ไป  แต่เธอไม่ได้ถอดใจหยุดสวย  ยังปลาบปลื้มกับเลเซอร์ Clear and Brilliant (C&B) และ microneedling     คุณคงเห็นด้วยกับเราว่าเธอดูดีสุดๆ



Molly Mae Hague : เอาออกแล้ว ดูเด็กลง 5 ปี


เมื่อพูดถึงวงการ reality show ของอังกฤษ คุณก็ฟันธงได้เลยว่า filler เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้จากนักแสดงสาวๆแห่งรายการชือดังต่างๆ แทบทุกคนจะภาพ before - after จากช่วงแจ้งเกิดเปรียบเทียบกับปัจจุบันที่แตกต่างไปเหมือนกับเป็นคนละคน ยิ่งนานวัน ปากของพวกเธอก็ดูใหญ่มากขึ้น รวมไปถึงโหนกแก้มพุ่งที่ได้กลายมาเป็นสัญลักษณ์ประจำของวงการนี้ เมื่อต่อยอดความสำเร็จด้วยอาชีพ influencer ก็มักพบกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์เรื่องfiller ที่ดูไม่เป็นธรรมชาติ ดาราreality show บางคนก็เคยยอมรับว่า เสียดายรูปลักษณ์เดิมของตัวเองที่ดูสวยอยู่แล้ว แต่มีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่ตัดสินใจฉีดสลาย filler



Molly Mae influencer สาววัย 22 ที่เพิ่มพูนความโด่งดังจากรายการ Love Island เป็นอีกหนึ่งคนที่เปิดเผยเรื่องการฉีด filler แบบแจ่มแจ้ง เธอฉีดครั้งแรกเมื่ออายุ 17 (วัยใกล้เคียงกับครั้งแรกของ Kylie Jenner ซึ่งมีรายงานว่า เด็กสาววัยทีนในอังกฤษหันมาฉีดปากกันมากขึ้นในช่วงหลายปีมานี้จากอิทธิพลของ influencer นั่นเอง) เธอเติม filler เรื่อยๆแต่เมื่อรู้ตัวอีกทีก็...

"ตอนที่ฉันทำงานโชว์ตัวที่คลับก็ได้ยกกล้องมาถ่าย selfie พอได้เห็นตัวเองจึงได้แต่นึกว่า นี่ฉันทำอะไรกับหน้าตัวเองไปเนี่ย"

"จากที่ดูเหมือนกับสาววัยทีน ฉันกายมาเป็นคนที่ดูเหมือนกับคนที่ออกรายการ Botched ฉันไม่เคยคิดเลยว่าตัวเองเป็นคนขาดความมั่นใจ แต่ฉันก็คงจะขาดความมั่นใจไปจริงๆถึงทำมันไปขนาดนั้น"


"เราจำเป็นต้องหยุดทำเหมือนว่าการฉีดfiller เป็นเรื่องธรรมดา อย่างการนำเสนอแพคเกจKylie Jenner อะไรแบบนั้น"

"ฉันอายุ 17 ตอนที่ฉีดปากเป็นครั้งแรก เมื่อคิดถึงว่า ถ้าฉันมีลูกสาว มันก็ทำให้ฉันกลัวว่า อีกสิบปีต่อมามันจะเกิดอะไรขึ้นกับลูก"


  


"ฉันไม่ชอบที่มองรูปพวกนั้น (รูปบน ในช่วงที่ฉีดfiller ปากเยอะจนถูกล้อเลียน) พอได้คิดถึงสิ่งที่ทำกับตัวเองลงไปก็ทำให้ฉันอยากแหวะ"

"เรามีชีวิตและต้องเรียนรู้"

แม้ Molly Mae Hague จะผยประสบการณ์ว่า ต้องนัดพบแพทย์เพื่อรับบริการฉีดสลาย filler หลายครั้ง และเรียกร้งให้ทุกคนอย่าทำผิดพลาดแบบเธอ เพราะต้องพบกับความรู้สึกเสียใจที่ฉีดปากเร็วเกินไปและมากเกินไป แต่ยังมีเด็กสาวอีกหลายคนที่่ยังปักใจกับเทรนด์ความงามนี้ และชื่นชมว่า ยิ่งปากใหญ่อวบอิ่มมาแค่ไหน ก็ยิ่งทำให้พวกเธอดูดี และเปรียบเทียบการฉีดปากจนบวมเจ่อไว้ว่า 'ปากแนว Love Island'  ซึ่งมีอิทธิพลต่อสาวน้อยสาวใหญ่ทั่วประเทศ  โดยเฉพาะเด็กสาววัยทีนในอังกฤษหันมาฉีดปากกันมากขึ้น ส่งผลให้มีเสียงเรียกร้องให้ห้ามไม่ให้ผู้ที่อายุต่ำกว่า 18 ฉีด filler   ซึ่งในขณะนี้ก็ ban ไปแล้วเรียบร้อยทั้ง Botox และ filler เพื่อตอบรับความเดือดเนื้อร้อนใจของพ่อแม่ที่ได้หวั่นเกรงว่าลูกจะไปฉีดกับหมอกระเป๋า หรือจำใจยอมให้ลูกฉีดทั้งๆที่ยังเป็นวัยที่ขาดวุฒิภาวะ  การ ban นี้ยังหมายความว่า พ่อแม่ไม่สามารถเป็นผู้ให้ความยินยอมเพื้อให้ลูกได้เข้ากระบวนการความงามนี้ด้วยค่ะ


Amy Schumer : ฉีด filler แก้มจนดูเหมือน Maleficent



เมื่อพูดถึง filler ในวงการ Hollywood  หลายคนอาจจะนึกถึงการฉีดปากที่ฮิตสุดๆ  แต่filler ก็ถูกนำมาใช้ด้วยจุดประสงค์อื่นนอกจากการเพิ่มไซส์ ทั้งเพิ่มมิติให้กับใบหน้า ชะลอริ้วรอย   และยังปรับเปลี่ยนโครงหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัด  จึงกลายมาเป็นตัวเลือกที่เชื้อเชิญให้คนอยากสวยได้เข้ามาลองสัมผัส  ที่สำคัญยังเป็นกระบวนการที่ไม่ได้ให้ผลถาวร  หากไม่ถูกใจก็อาจจะปล่อยให้สลายไปตามเวลา หรืออาจจะเลือกการฉีดสลาย filler เหมือนกับ Am Schumer
นักแสดงสาวเผยความรู้สึกโล่งใจปนตลกจิกกัดตัวเองไว้ว่า

"ฉันลองฉีด filler ดู แต่กลายเป็นว่า ตัวของฉันนั้นอิ่มเต็มอยู่แล้ว ขอบคุณพระเจ้าที่เราสามารถสลายมันออกไปได้ ฉันดูเหมือน Maleficent เลย"




แพทย์ผิวหนังที่เป็นผู้ดูแลเคสของเธอได้บรรยายว่า ตำแหน่ง filler แก้มของAmy คือปัญหา การใช้ dermal filler เป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมเพื่อนำมาทดแทนความอิ่มเต็มที่หายไปปและปรับปรุงใบหน้า แต่ตำแหน่งการฉีดมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง เมื่อพบว่าตำแหน่ง filler บนใบหน้า Amy ดูไม่น่าประทับใจ จึงใช้ hyaluronidaseเพื่อสลายกรด hyaluronic อันเป็นวิธีที่ไม่ยากเย็นและรวดเร็ว





Brielle Biermann: เอาออกแล้วดูเด็กลง


เทรนด์ฉีด filler ไม่ได้ฮ๋อตฮิตแต่ในแต่วงการ reality show ของอังกฤษเท่านั้น ฝั่งอเมริกาก็ไม่ได้น้อยหน้า เป็นเรื่องปกติหากเหล่าสาววัยรุ่นจะยกใง Kylie Jenner เป็น idol ในดวงใจ ริมฝีปากเล็กกลายมาเป็นปมด้อยที่หลายคนรู้สึกหมกมุ่นวิตกกังวล ดัง Brielle Biermann ลูกสาวของ Kim Zolciak-Biermann แห่ง Real Housewives of Atlanta และ Don’t Be Tardyที่เริ่มฉีดปากมาตั้งแต่อายุ 18 เธอเคยออกตัวปกป้อง Kylie ที่ถูกโจมตีเรื่องรูปร่างหน้าตาที่เปลี่ยนไปคนละคนไว้ว่า

"เธอดูสวยเริ่ดจะตายไป ถ้าใครไม่ชอบใจก็แสดงว่าอิจฉาน่ะแหละ เลิอกอ้างเหลวไหลสักทีว่าความสวยจะต้องมาจากธรรมชาติเท่านั้น ใครสวยแบบธรรมชาติได้ก็ยิรดีด้วยนะ แต่ฉีดปากแค่นิดหน่อยก็ไม่เห็นจะเป็นไร"




Brielle ควงแม่บินข้ามรัฐไปใช้บริการของหมอOurian (หมอที่บ้านKarJenner ไว้วางใจ) หลังจากนั้นก็จัดตารางบินวนเวียนไปเติมปากอีกเรื่อยๆจนจำไม่ได้แล้วว่าฉีดไปกี่ครั้งในระยะเวลา5-6 ปี ด้วยความปลาบปลื้มปากใหญ่ แม้จะมีเสียงคนรอบข้างทัดทานว่า ริมฝีปากบนดูอิ่มเจ็มที่แล้ว ควรจะเติมแค่ริมฝีปากล่างก็พอ เธอก็ยืนยันว่า จะทำให้ได้ในแบบที่ชอบ แต่ยิ่มเติมก็เลยเถิด เพราะไม่รู้ตัวเลยว่า ปากเริ่มดูประหลาดแล้ว


เธอตัดสินใจฉีดสลาย filler ในปี 2020ซ ซึ่งหมอThuydoan rที่เป็นผู้ให้บริการได้ชี้ว่า ปากของเธออวบอิ่มเอามากๆทำให้ปากรับน้ำหนักที่เพิ่มขึ้น และปรากฏอาการ filler เคลื่อนตัวไปที่ขอบปากด้านบน เกิดกับผู้ที่ฉีดปากอีกหลายคน ซึ่งทำให้ปากดูบวมยื่น หรือที่ถูกเรียกว่า ปากเป็ด หรือหนวดสีขาว เพราะขอบปากที่นูนขึ้นซ้อนอีกชั้นเหนือริมฝีปากบน ซึ่งจะมีสาเหตุมาจาก ทักษะและเทคนิคการฉีดของหมอ, ประเภทของ filler และการฉีดfiller มาก-เติมปากเร็วเกินไป




เพียงเดือนเดียวหลังจากฉีดสลาย filler Brielle ก็ตัดสินใจเติม filler กลับเข้าไป ในคราวนี้เธอเลือกปริมาณแต่น้อยด้วยเหตุผลว่า เมื่อสลาย filler ไปในตอนแรก ริมฝีปากดูไม่เท่ากัน ซึ่งเป็นผลมาจากการฉีดfiller อย่างต่อเนื่องมานาน เธอจึงใช้ filler แก้ไขให้รูปทรงปากดูใกล้เคียงกับปากเดิมตามธรรมชาติ และแนะนำแฟนๆว่า Less is more


เมื่อถามความคิดเห็นของคุณแม่ที่โด่งดังจากรายการ RHOA ก็ต้องบอกเลยว่าสนับสนุนลูกสาวให้ฉีด filler ปากอย่างเต็มที่ เพราะเมื่อลูกสาวทั้งสองอายุถึง18 ปี ก็เปิดไฟเขียวให้ทำได้ตามความปรารถนา 



Huda Kattan: ผลกระทบจาก filler ที่ไม่สามารถแก้ไขให้กลับมาเหมือนเดิม


influencer สาวผู้ก่อตั้งแบรนด์ Huda เปิดใจว่า เธอเริ่มฉีดปากมาก่อนที่จะกลายมาเป็นเทรนด์ดังในปี 2009 เธอเติม filler ปีละครั้งและเลือกทำกับหมอที่โด่งดังเท่านั้น แต่เพราะยังไม่ได้ศึกษาเรื่องประเภทของfiller และผลข้างเคียงต่างๆที่อาจจะเกิดขึ้น แม้จะพอใจกับผลลัพธ์อยู่หลายปี แต่ในที่สุด เธอก็ตัดสินใจฉีดสลายfiller ทั้งหมดที่ริมฝีปากบน และส่วนใหญ่ที่ริมฝีปากล่าง และแนะนำว่า สามารถใช้เทคนิคการแต่งหน้าที่ช่วยให้ปากดูอวบอิ่มขึ้นมาได้ไม่แพ้กัน




เหตุผลที่ Huda ฉีดสลาย filler ปาก
  •  แรงกดดันจากความเห็นโจมตีรุนแรงจากชาวเน็ทมีส่วนไม่น้อยเลย มันทำให้เธอหวนคิดว่า หรือฉีดปากจนใหญ่เกินไป    แม้แต่หมอก็ยังให้ความเห็นว่า ปากใหญ่จาก filler ของเธอทำให้ดูมีอายุและปลอม   จึงเริ่มรู้สึกกยาดจะได้ลุคที่ดูนุ่มนวลเป็นธรรมชาติกลับมา
  • ประสบการณ์ที่ไม่ค่อบโสภาจากการฉีดปากที่เกิดขึ้นตั้งแต่ครั้งแรกในการรับบริการที่ดูไบ  แต่ต้องเหนื่อยใจกับfiller  ที่จับตัวเป็นก้อนสี่จุด และเสาะหาคลีนิคเพื่อแก้ไขให้ดูดีขึ้นมาตลอดสิบปี
  • เธอไม่เคยเห็นใครที่ฉีดปากมานานๆแล้วยังดูดีไม่เปลี่ยน ตอนฉีดแรกๆอาจจะสวย แต่เธอพบปัญหา filler เคลื่อนตัวจนดูเจ่อเป็นปากเป็ด และเชือว่า การฉีดปากทำให้รูปปากเธอเสียจนมาถึงปัจจุบันนี้



"ฉันคิดไปเองว่าปากของตัวเองเล็กทั้งที่ความจริงแล้วไม่ได้เล็กสักหน่อย  ฉันอยากจะมีปากเย้ายวนแบบ Angelina Jolie การฉีดปากเป็นการตัดสินใจที่แย่ที่สุดของฉัน หมอคนนั้นทำให้ปากฉันพัง ฉันไม่ควรจะทำเลย น่าจะใช้ลิปลายเนอร์แต่งเอาจะดีกว่า"




Huda ไม่ได้เรียกร้องให้คนอื่นเลิกตามเทรนด์ปากอวบอิ่มด้วย filler จากประสบการณ์ถึงสิบปี (และเลือกทำกับหมอเซเลบ) เธอได้แนะนำไว้ว่า

  • ศึกษาข้อมูลเรื่องหมอให้แน่ใจถึงผลงาน  เพราะการฉีปากครั้งแรกของเธอที่ดูไบนั้นให้ผลลัพธ์เข้าขั้นหายนะเนื่องจากฉีด filler มากเกินไปจนทำให้ปากดูไม่เท่ากัน  แม้จะใช้บริการจากหมอชื่อดังเพื่อแก้ไขเรื่อยมาก็ยังรู้สึกไม่พอใจ
  • อย่าใจร้อนฉีดทีละมากๆ  เพราะถ้าปากยังไม่ใหญ่ดังที่หวังไว้ ก็สามารถเติมได้  หากจัดหนักไปทีเดียวก็อาจจะมานึกเสียใจภายหลังก็เป็นได้
  • ถามใจตัวเองว่า อยากได้ปากที่ดูอิ่มขึ้นเป็นธรรมชาติ หรือใหญ่ตู้มเย้ายวนใจ
  • ศึกษาfiller ชนิดต่างๆว่าจะให้ผลลัพธ์ตรงกับรูปปากหรือไม่ และพูดคุยกับหมอให้มั่นใจ
  • ตระหนักเสมอว่าอาจจะมีผลข้างเคียงตามมา



The End


candy

candy

ติดตาม Mouth On The Web แล้วอย่าลืม Mouth On The Face นะคะ ^ ^

FULL PROFILE