อัปเดต! 5 ไอเทมเด็ด “Night Skincare Routine 2022” ฉบับชะนีวัย30+
Nurse_Janutsaya
53
23
WITH <strong>FYNE</strong> / ขอแนะนำผลิตภัณฑ์ในเนื้อหาบางส่วน ;)
อันยองค่ะเพือนๆทุกคน...
วันนี้กลับมาพร้อมกับอัปเดต Night Skincare routine ฉบับชะนีวัย 30+ ปี 2022 เปิดปีมาก็ขอมาอัปเดตไอเทมที่ทางเราใช้อยู่ตอนนี้หน่อย..ก่อนจะไปดูไอเทมกัน ขอบอกสภาพผิวของเราก่อนเลย สภาพผิวเรา ณ ตอนนี้ จะเป็นลักษณะผิวผสม มันบริเวณ T-zone แห้งบริเวณข้างแก้ม และมีอาการคันบิเวณกรอบหน้า เวลาที่อากาศร้อนๆค่ะ แอบเข้าใจยากนิดนึงเนอะ ฮ่าๆ พออายุเริ่มมากขึ้น นอกจากผิวกระจ่างใสแล้ว เนิสจะมองไปถึงความชุ่มชื้นของผิวหน้ามากกว่า เพราะถ้าพื้นฐานผิวเราดี ผิวหน้าเราก็จะดูดีไปเองค่ะ
My Night Skincare Routine items:
และทั้งหมดนี้เป็น 5 ตัวที่เนิสใช้บ่อยที่สุดในช่วงกลางคืนนะคะ เดี๋ยวเราค่อยๆไล่ดูทีละไอเทมกันเลยดีกว่าว่ามีออะไรกันบ้าง ลุยยยย
Abib
Yuja probiotics blemish pad :)
เริ่มต้นกับตัวแรก Abib Yuja probiotics blemish pad เป็นโทนเนอร์แผ่นแบรนด์เกาหลี ซึ่งมีขายในไทยมาสักพักแล้วค่ะ ตัวนี้มีส่วนผสมของยูจา เน้นช่วยในเรื่องลดเลือนฝ้า กระจจุดด่างดำ รวมไปถึงผิวหน้าที่กระจ่างใสขึ้น
Texture:
วิธีใช้:
ใช้เช็ดผิวหน้าหลังล้างหน้า หรือจะใช้เป็นมาส์กผิวก็ได้ค่ะ สามารถใช้ได้ทั้งเช้า-เย็นเลยค่ะ
SOS
VC X3 Treatment Essence
มาต่อกับตัวที่สอง SOS VC X3 Treatment Essence สกินแคร์สัญชาติญี่ปุ่น สำหรับตัวนี้เป็นเอสเซนส์ที่เน้นช่วยบูสผิวหน้าให้ไบร์ทขึ้น มีส่วนผสมที่เป็นจุดเด่นจากวิตามินซี 3 อนุพันธ์ที่เข้มข้น Niacinamide Hyaluronic Acid แถมยังช่วยในเรื่องของการต้านอนุมูลอิสระด้วยค่ะ
Texture:
วิธีใช้:
เพียงแค่เทเอสเซนส์ลงบนฝ่ามือ จากนั้นทาให้ทั่วใบหน้าและลำคอ สามารถใช้ได้ทั้งช่วงเช้า - เย็นเลยค่ะ
FYNE
Skin Barrier+ Prebiotic Serum in Cream
มาต่อกันกับตัวที่สาม FYNE Skin Barrier+ Prebiotic Serum in Cream สำหรับตัวนี้เป็นสกินแคร์สัญชาติไทยที่เราจะใช้เป็นขั้นตอนการลงเซรั่มนะทุกคน สำหรับตัวนี้เค้าเน้นช่วยในเรื่อง
♡ ฟื้นบำรุงผิวเพื่อให้ดูสุขภาพดี เติมความชุ่มชื้นให้กับผิว
♡ ปลอบประโลมผิวที่ไวต่อการระคายเคือง
♡ เสริมความแข็งแรงของเกราะป้องกันผิว (Skin Barrier)
♡ ปกป้องผิวจากมลภาวะ สารก่อการระคายเคือง และลดปัญหาผิวต่างๆ
ซึ่งส่วนผสมหลักๆของเค้าจะมีเซราไมด์ที่จำเป็น 5 ประเภท (อ้างอิงจากงานวิจัย NP, AS, NS, AP, EOP) คลอเลสเตอรอล
ไตรกลีเซอร์ไรด์ โอเมก้า-3 Natural Moisturising Factors (เช่น ไฮยาลูรอนิคเอสิด 4 ขนาดโมเลกุล, กรดอะมิโน 11 ชนิด เป็นต้น) สารแอนตี้ออกซิเดนท์จากธรรมชาติ (ใบบัวบกเข้มข้น, คาโมมายล์, ว่านหางจระเข้, อัลลันโทอิน)
เรียกว่าเป็นไอเทมกู้หนาพัง เพื่อสร้างเกราะป้องกันผิวให้แข็งแรงสำหรับเราเลย
Texture:
วิธีใช้:
เพียงแค่กดเซรั่มเพียง 1-2 ปั้ม จากนั้นทาให้ทั่วใบหน้า และลำคอ สามารถทาได้ทั้งเช้าเย็นเลยค่ะ
FYNE
Ection Reviving Intense Moisturising Cream
มาถึงตัวที่สี่กันแล้ว FYNE Ection Reviving Intense Moisturising Cream ยังคงเป็นสกินแคร์สัญชาติไททยอีกตัวที่เราใช้อยู่นะคะเราใช้เป็นครีมตัวสุดท้ายที่ทา รวมไปถึงใช้เป็น eye creamไปในตัวเลยค่ะ สำหรับตัวนี้เค้าเป็นครีมที่มาในรูปแบบของ” ครีมเนื้อบาล์ม” จะทาได้ง่ายกว่าเนื้อครีมทั่วไป ไม่เหนียวเหนอะหนะผิวจะเกินไป มีส่วนผสมหลักๆของ 2% เอคโทอิน และ 5% ไนอซินาไมด์ พูดถึงส่วนผสมหลักๆแล้ว จะไม่พูดถึงคุณสมบัติคงไม่ได้นะตัวนี้เน้นเรื่อง...
♡ ฟื้นบำรุงผิวที่ระคายเคือง มีอาการแสบ แดง รวมไปถึงผิวแห้ง ลอก มีอาการผิวขาดน้ำ
♡ช่วยปลอมประโลมผิว เติมความชุ่มชื้น
♡ ช่วยล็อคความชุ่มชื้นให้ผิว
♡ เสริมเกราะป้องกันผิว
♡ช่วยคงความสมดุลชีวนิเวศจุลินชีพของผิว
สำหรับที่รู้จักแบรนด์นี้อยู่แล้ว ก็ต้องบอกได้เลยว่าผิวแพ้ง่ายก็ใช้ได้อย่างแน่นอน เพราะว่าเค้าไม่มีส่วนผสมของซิลิโคน แอลกฮอล์ น้ำหอม สีสังเคราะห์ พาราเบน รวมไปถึงมิเนรัลออยด์ด้วย
Texture:
วิธีใช้:
สำหรับวิธีการทาเจ้าครีมบาล์มตัวนี้ ไม่ยุ่งยากเลยหละทุกคน เพียงแค่บีบครีมออกมาปริมาณเท่าเมล็ดถั่ว จากนั้นวอร์มครีมจนเนื้อดูใส และทาลงให้ทั่วผิวหน้า รอบดวงตา ลำคอ หรือปริมาณผิวที่รูสึกแห้ง ลอกได้ด้วยน๊า
Eucerin
Aquaphor SOS Lip Care
มาถึงตัวสุดท้ายแล้วววว กับ Eucerin Aquaphor SOS Lip Care เป็นแบรนด์ที่ถือกำเนิดที่ประเทศเยอรมัน คือว่าเป็นเวชสำอางตัวเดียวที่เราใช้อยู่แบรนด์เดียวเลยตอนนี้ ตัวนี้เน้นช่วยบำรุงริมฝีปาก ให้เนียนนุ่ม ชุ่มชื้น แถมยังช่วยปลอมประโลมผิวด้วยน๊า บอกเลยว่าใครชอบลิปฉ่ำๆต้องตัวนี้เลย ตื่นเช้ามาปากยังชุ่มชื้นอยู่เลยหละ ซึ่งส่วนผสมหลักๆของตัวนี้มี Vitamin C&E แพนทินอล และบิซาโบลอล
Texture:
วิธีใช้:
เพียงแค่บีบตัวลิปบาล์มออกมาในปริมาณที่ต้องการจากนั้น ทาให้ทั่วริมฝีปากได้เลย ได้ตลอดเวลาตามที่ต้องการได้เลย