รายงานร้อนๆ 2022 SAG Awards
candy 51 13Award Season ในช่วงต้นปีได้หวนกลับมาสร้างความตื่นเต้นให้กับคอหนังและซีรีส์คุณภาพอีกครั้ง แม้ชาวHollywoodจะลุกขึ้นมาประท้วงความไม่โปร่งใสของ HFPA จนถึงขั้นที่ต้องยกเลิกการถ่ายทอดสด Golden Globe awards แต่หลายคนก็ยังมีความคาดหวังในงานประกาศรางวัลที่มีชื่อเสียงที่เหลืออยู่ ทั้ง SAG Awards และOscar ที่เหล่านักแสดงA List ตบเท้าเข้างานกันคับคั่ง
มาติดตามรายชื่อผู้คว้ารางวัลและเรื่องราวที่น่าสนใจในงานกับเราได้เลยค่ะ
รางวัลหมวด Television
เมื่อพูดถึงบรรดาซีรีส์ที่เข้าชิงรางวัลใหญ่อย่าง SAG Awards, Golden Globe และ Emmy ผู้ชมในบ้านเราอาจจะไม่คุ้นหูกันอยู่หลายเรื่องเลยทีเดียว นั่นไม่ใช่เรื่องชวนฉงน นั่นเป็นเพราะว่า ผลงานส่วนใหญ่มาจากสถานีโทรทัศน์ของอเมริกา อาจจะมีซีรีส์ดังฝั่งอังกฤษมาร่วมประชันด้วย แม้จะมีซีรีส์ที่ฉายผ่าน TV streaming service เข้าชิงในยุคหลังๆ แต่สำหรับเมืองไทย app ที่ได้รับความนิยมนั้นมีอยู่ไม่กี่เจ้า คอ TV หลายคนยอมรับว่า หากไม่ใช่ซีรีส์ที่ลง Netflix, HBO และ Disney+ Hotstar ก็นึกไม่ออกนัก หรืออาจจะใช้โอกาสจากงานประกาศรางวัลเหล่านี้ตามเก็บซีรีส์คุณภาพไว้เตรียมชมกันยาวๆ
Michael Keaton สอยรางวัลไปตามความคาดหมายของนักวิจารณ์ ด้วยบทบาทของหมอ Samuel แห่ง Dopesick ซีรีส์ที่สะท้อนวิกฤติการเสพติด opioid ที่เลื่อลือว่า ดูสมจริงจนสะเทิอนขวัญ ซึ่งไม่นานมานี้ เขาก็ชนะรางวัล Golden Globe มาแล้ว แม้ Michael จะรับรางวัลด้วยความยินดี แต่เมื่อเขาอุทิศรางวัลให้กับหลานชายที่เสียชีวิตด้วยการเสพยาเกินขนาดไปหลายปีก่อน บรรยากาศก็เงียบงันลงไปด้วยความสลดใจ และนี่ยังเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้เขาเข้าร่วมสร้างสรรค์ผลงานที่ทำให้สังคมเกิดawareness ต่อปัญหาการเสพติดอันเลวร้าย
(สามารถชม Dopesick ได้ที่Disney+Hotstar ค่ะ)
ส่วนรางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมของ Kate Winslet นั้น เรียกว่าเป็นการแสดงศักดาในการ switch เข้าวงการ TV อีกครั้งหลังจากที่สร้างชื่อเสียงจากจอใหญ่มายาวนาน บทบาทนักสืบสาวMare of Easttow เป็นการกลับมาร่วมงานกับ HBO นับจาก 11 ปีก่อนที่กวาดรางวัลใหญ่จากซีรีส์ Mildred Pierce มาได้ครบทั้ง Emmy Golden Globe และ SAG Awards และผลงานเรื่องล่าสุดนี้ก็ได้พิสูจน์ว่าเหล่า voter รัก Kate กันจริงๆ เพราะทิ้งช่วงไปร่วมศตวรรษ เธอก็กลับมาสอยได้ครบ 3 รางวัลใหญ่อีกแล้ว!
เสียงวิจารณ์ผลงานการแสดงของKate ในเรื่องนี้ดีมากจริงๆค่ะ มีผู้ลงความเห็นตรงกันว่า นี่คือหนึ่งในผลงานที่ดีที่สุดในอาชีพนักแสดงของเธอ อยากอยากลองพิสูจน์ก็ชมได้ที่ HBO GO
สาวก Squid Game ได้เฮอีกครั้งเมื่อทั้งสองนักแสดงนำได้หิ้วน้องรางวัลกลับบ้านกันอย่างเบิกบานใจ เมื่อมองชื่อผู้เข้าชิงทั้งหมดแล้วอาจจะมีการเปรียบเทียบว่านี่คือการล้มยักษ์ แต่ไม่เพียงจะประสบความสำเร็จระดับมโหฬารสร้างประวัติศาสตร์ Hollywood ยังเลิฟๆ Squid Game ไม่ต่างจากแฟนทั่วโลก นับจากรางวัลGolden Globe สาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมของคุณตา O Yeong-Su มาถึงรางวัลนักแสดงชาย/หญิงยอดเยี่ยมของ Lee Jung-jae /Jung Ho-yeon เตรียมทำนายโผรางวัล Emmy ที่จะจัดขึ้นในเดือนกันยายนข้างหน้านี้ได้เลยว่าจะต้องมีทีมปลาหมึกเข้าชิงชัยแน่ๆ!
อีกไฮไลท์หนึ่งคือการขึ้นกล่าวขอบคุณทั้งน้ำตาของ Jung Ho-yeon ที่สร้างความสำเร็จชั่วข้ามคืนก้าวมาถึงรางวัลเกียรติยศจากผลงานแสดงเรื่องแรกในชีวิต เธอเปิดเผยถึงอดีตที่เคยเฝ้าชมดาราชั้นนำจากในจอด้วยความชื่นชม ใฝ่ฝันว่าสักวันจะกลายมาเป็นนักแสดง และแน่นอนว่าเธอจะต้องขอบคุณทีมงาน Squid Gameที่ทำให้ฝันของเป็นจริงเพื่อเปิดประตูสู่อาชีพนักแสดงต่อไป เป็นวินาทีที่ Jung Ho-yeon พยายามรวมคำพูดจากอารมณ์พลุ่งพล่านไปด้วยความปลาบปลื้มซาบซึงใจ ทั้งชาว Hollywood และเพื่อนนักแสดงเกาหลีก็เอาใจช่วยเธออย่างเต็มที่
Ted Lasso เคยสร้างความประหลาดใจให้กับนักวิจารณ์มาตั้งแต่ออนแอร์ในปี 2020 อารมณ์ว้าววู้ว ซีรีส์ที่ดูตลกโชว์ความบ๊องบวมของโค้ช 'อเมริกันฟุตบอล'ที่ได้มีโอกาสไปคุมทีมฟุตบอลในPremier Leagueทั้งๆที่ไร้ประสบการณ์เรื่องฟุตบอลเสียงวิจารณ์มีปะปนกันไป ทั้งคนที่ติดหนึบจากอารมณ์ขันที่contrast กันของคนอังกฤษและอเมริกัน และคนที่มองว่ามุกตลกดูไม่ค่อยร่วมสมัย ซ้ำซากจำเจ overrated แต่ถ้าถามถึงความรู้สึกจาก voters จากเวทีประกาศรางวัลชั้นนำ ก็เป็นอันชี้ชัดเจนว่าพวกเค้าปลาบปลื้มซีรีส์ตลกเรื่องนี้อย่างแรง กวาดรางวัลมาอื้อซ่าตั้งแต่ปีที่แล้ว และดูเหมือนว่าปีนี้ก็ไม่แผ่วแต่อย่างใด นี่คือ SAG award ตัวที่ 2 ของ Jason ไม่ปล่อยให้ใครคว้าไปสองปีติดกันแล้วค่ะ
(ชมได้ที่Apple TV ส่วนตัวแล้วชอบเลย ไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะมีคนนำ premiere league มานำเสนอแนวนี้ได้ )
อีกหนึ่งความสำเร็จจาก HBO คือรางวัลนักแสดงหญิงสาขาcomedy ยอดเยี่ยมของ Jean Smart ซึ่งในเรื่องนี้ เธอรับบทเป็นนักแสดงตลกเดี่ยวไมโครโฟนในตำนานจอมหยิ่งยโสที่ต้องดิ้นรนเพื่อดึงดูดกลุ่มผู้ชมรุ่นใหม่ จนต้องมาพบจุดเปลี่ยนของอาชีพจากการร่วมงานกับนักเขียนตลกรุ่นลูกที่ผลัดยิงมุกจิกกัดใส่กันตลอดเวลา มาในสไตล์สาวต่าง generation ทั้งฉลาดเฉลียวและปากคอเราะร้ายอย่างกินกันไม่ลง ไม่ต่างจากนักแสดงนำที่ได้รางวัลสาขาอื่นค่ะ เธอคว้าทั้ง Emmy และ Golden Globe มาก่อนแล้ว ซีซันนี้ ถ้าเป็นหมวด TV votersใจตรงกันเป๊ะหลายสาขาเลยเชียว
HBO ยังแรงต่อได้อีกกับรางวัลสาขาคณะนักแสดงดราม่ายอดเยี่ยมจาก Succession หากจะเปรียบเทียบว่าเป็นชัยชนะแบบนอนมาออาจจะฟังดูเกินจริงไปบ้าง แต่นี่คือซีรีส์ระดับตำนานที่มีรางวัลพ่วงมาเยอะจริงๆ นับตั้งแต่ออนแอร์ในปี 2018 ก็สะสมไปเกินสามสิบรางวัล แม้จะไม่ใช่ซีรีส์ที่เรตติ้งพุ่งสูงปรี๊ดเหมือนกับคู่แข่งอย่าง Yellowstone หรือสร้างปรากฏการณ์ความนิยมระดับโลกอย่าง Squid Game แต่ก็มีเสน่ห์ดึงดูดผู้ชมทำให้รักษาความนิยมได้อย่างเสมอต้นเสมอปลาย นี่คือ comedy ที่ตลกเจ็บแสบจนน้ำตาหลั่งริน เต็มไปความรุนแรงของสงครามภายในครอบครัวมหาเศรษฐีทรงอิทธิพลนั้นอาจจะเปรียบได้กับสงครามกลางเมือง ทั้งการใช้สติปัญญาและอำนาจเพื่อห้ำหั่นกันในการสืบทอดธุรกิจมูลค่ามหาศาล และมั่นหมายความว่า หากพลาดพลั้งขึ้นมา ก็อาจจะกลายเป็นความเสียหายที่ประเมินมูลค่าไม่ได้เช่นเดียวกัน
ความเข้มข้นของซีรีส์เรื่องนี้อยู่ในระดับที่ Forbes magazine จะพยายามคำนวณตัวเลขทรัพย์สินของครอบครัว Roy ว่าจะมีตัวเลขเท่าใดในชีวิตจริง (อยู่ในหลักหมื่นล้านดอลลาร์ นับเลขศูนย์กันเหนื่อยไปเลย) แต่ตัวเลขอาจจะฟังดูเลื่อนลอย หากไร้ดราม่าการหักเหลี่ยมเฉือนคม แน่นอนว่าบทแรงถึงใจ โดยเฉพาะการพ่นคำด่าให้ดูดิบและปราดเปรื่องไปในเวลาเดียวกัน นักแสดงนำทุกคนต้องฝีมือถึง หากซีรีส์ยังไม่จบ พวกเค้าก็คงต้องเตรียมตัวขึ้นเวทีรับรางวัลกันต่อไป
รางวัลหมวด Motion Picture
พระเอกผู้ทรงอิทธิพลมานานหลายปีอย่าง Will Smith เป็นอีกคนที่ขึ้นมารับรางวัลด้วยความซาบซึ้งจนน้ำตาซึม เขากล่าวยกย่อง Richard Williams และลูกสาวนักเทนนิสชื่อดังทั้งสองที่เป็นแรงบันดาลใจต่อการแสดงของเขาจนได้ก้าวมารับรางวัลที่สร้างความปลื้มปีติที่สุด แม้แต่ตอนให้สัมภาษณ์รอบสื่อ Will ก็น้ำตาไหลตลอดค่ะ ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะถ่ายทอดความสวยงามแข็งแกร่งของผู้หญิงผิวดำที่ฟันฝ่าอุปสรรคจนทำฝันให้เป็นจริงได้สำเร็จ รางวัลใหญ่จาก project นี้จึงมีความหมายเหลือล้น เห็นแล้วอินไปกับหยดน้ำตาเลยล่ะ
มาทางผู้ชนะฝ่ายหญิงกันบ้างค่ะ ที่ผ่านมาเราจะได้เห็นสื่อชูประเด็นเรื่อง Kristen ไม่ได้เข้าชิง SAG Awards กันครึกโครม แต่ในขณะเดียวกัน กลุ่มนางเอกที่ติดโผลุ้นรางวัลนั้นคือสายแข็งกันทั้งนั้น และเป็นอีกครั้งที่ผู้ชนะมาจากหนังชีวประวัติ ผลของการทุ่มเทของJessica Chastain เพื่อสวมบทบาทTamara Faye Messner พิธีกรและนักจัดรายการทางศาสนา The PTL Club (Praise The Lord) ที่ก้าวสู่จุดสูงสุดเจากการร่วมงานคียงข้างสามีนักเทศน์จนเป็นที่รักในกลุ่มชาวคริสเตียนในอเมริกา งานTV นำรายได้หลั่งไหลเข้ามาจนกลายเป็นคนดังฐานะมั่งคั่ง แต่ก็ชีวิตต้องพลิกผันจากคดีฉ้อโกงและล่วงละเมิดทางเพศสุดอื้อฉาวของสามี
Jessica ช็อคไปเลยกับ SAG award แบบโซโล่ตัวแรก (เธอเคยได้รางวัลร่วมกับคณะนักแสดง The Help มาแล้ว) ก่อนหน้านี้เราเคยได้ยินใครบางคนวิจารณ์ว่า งานประกาศรางวัลที่จัดก่อน Oscar ก็เหมือนกับการอุ่นเครื่อง ยังไงก็ไม่ถึงขั้นสุดยอดแห่งความฝันนักแสดงเหมือนกับเจ้ารูปปั้นสีทอง แต่หากได้ชม reaction ของผู้ชนะแต่ละคน บอกเลยว่านักแสดง A List เหล่านี้ต่างตื่นเต้นดีใจ หลายคนน้ำตาไหล เรียบเรียงคำพูด (ที่เตรียมไว้ล่วงหน้า)ไม่ถูก ซึ่งความน่ามหัศจรรย์ของผลงานเรื่องนี้ก็คือ Jessica เตรียมพร้อมกับ project นี้ถึงสิบปี! บริษัท productionของเธอได้ร่วมสร้างหนังเรื่องนี้ ต้องวิ่งเต้นยื่นขอสิทธิ์ในการถ่ายทอดเรื่องราวของ Tammy Faye Bakker ตั้งแต่ปี2012 และเตรียมตัวเต็มที่เพื่อแสดงให้เหมือนต้นแบบให้มากที่สุด
ว่ากันว่า CODA อาจจะเป็นหนังม้ามืดที่สร้างมิติใหม่ให้กับวงการ และในเวที SAG awards ในปีนี้ก็ได้ต้อนรับ Troy Kotsur ผู้ชนะที่เป็นนักแสดงสมทบชายผู้พิการหูหนวกแบบโซโล่เป็นครั้งแรก ยิ่งฟังคำขอบคุณที่เผยอดีตที่เคยต้องอาศัยนอนในรถหรือตามห้องแต่งตัวหลังเวทีจนได้สัมผัส SAG award ในวันนี้ก็ยิ่งชวนประทับใจ
มายังฝั่งนักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยมกันบ้าง นางเอกสาวงามวัย 31 ผู้นี้เป็นนักเต้นตัวจริงที่เริ่มต้นสร้างชื่อเสียงจากรายการ So You Think You Can Dance และก้าวเข้าสู่วงการmusical ของ Broadway การก้าวข้ามจากละครเวทีมายังหนังเพลงฟอร์มยักษ์ด้วยบท Anita แห่ง West Side Story ถือเป็นการเปิดประตูบานใหญ่ในฐานะดาวรุ่งที่น่าจับตามอง จากการสร้งประวัติศาสตร์เป็นนักแสดงละติน่าคนแรกที่ได้ครอบครอง SAG award และยังรับรางวัล Golden Globe มาก่อนหน้านี้ ลำดับต่อไปคือ Oscar ที่เธอมีหวังลุ้นเต็มตัว
สำหรับหนังที่คว้ารางวัลสาขาคณะนักแสดงหนังแอ็คชั่นยอดเยี่ยมนั้นไม่เกินความคาดหมาย แม้จะมีคู่แข่งเป็นหนังไซไฟสุดอลังการอย่าง Dune , The Matrix และหนัง superhero ชื่อดัง แต่พี่007และทีมต่างวาดลวดลายบู๊จบ franchise ไปท่ามกลางเสียงชื่นชม
จากความสำเร็จของ CODA เริ่มมีเสียงวิเคราะห์เรื่องหนังม้ามืดที่จะล้มยักษ์ตัวเก็งกันมากขึ้น
CODA นำเสนอเรื่องราวของลูกสาวครอบครัวชาวประมงที่ดูเหมือนกับวัยรุ่นทั่วไป เธอเป็นเพียงผู้เดียวในบ้านที่สามารถได้ยินเสียงและพูดได้ตามปกติ ทั้งพ่อแม่และพี่ชายของเธอเป็นผู้พิการหูหนวก เธอจึงทำหน้าที่เปรียบกับสื่อกลางที่จะช่วยให้ครอบครัวสื่อสารกับโลกภายนอกได้ พื้นเพที่แตกต่างจากเด็กคนอื่นในโรงเรียนทำให้เธอต้องรู้สึกแปลกแยกเดียวดายเสมอ แต่เมื่อได้ค้นพบว่าตัวเองมีความสุขเต็มไปด้วยชีวิตชีวาจากการร้องเพลง ก็ต้องรับมือกับการตัดสินใจที่กดดัน เพื่อความฝันที่จะเป็นนักร้อง เธอจำเป็นต้องละทิ้งหน้าที่ช่วยเหลือครอบครัวที่พึ่งพาความสามารถในการได้ยินของเธอในการทำอาชีพประมง เธอจะตัดใจปล่อยครอบครัวให้พบกับความลำบากได้จริงหรือ?
หลายคนคงเดาทางออกว่าเป็นหนัง feel good ที่เติมเต็มจิตใจด้วยความรักที่แม้จะเจ็บปวดแต่ก็ซาบซึ้งตรึงใจ หนังครอบครัวแนว coming of age โดนใจ voters มานักต่อนัก ในกลุ่มหนังเข้าชิงSAG Awards ก็มี Belfast ซึ่งเป็นหนัง coming of age ที่ได้รับreview ดีเยี่ยมรวมถึงชนะรางวัลจากเทศกาลภาพยนตร์และสมาคมต่างๆมาไม่แพ้กัน แต่ชัยชนะของ CODA ทำให้มีผู้มองว่า หนังฟอร์มเล็กเรื่องนี้มีโอกาสสูงขึ้นที่จะคว้ารางวัลOscar สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ในขณะที่ตัวเก็งยังเป็น The Power Of Dog ที่ดูจะถูกจริตของ Oscar voters จากการเข้าชิงถึง 12 รางวัล
(รับชมCODA ได้ที่Apple TV)
เพิ่มเติม
เราเคยเห็นการตั้งคำถามกันเรื่อยมาว่า ผลรางวัลจากงานประกาศรางวัลชั้นนำอย่าง Golden Globe และ SAG Awards จะเป็นสัญญาณหรือตัวช่วยทำนายถึงผู้ชนะรางวัล Oscar ได้อย่างแม่นยำหรือไม่ มีผู้วิเคราะห์แตกต่างกันไป เราขอให้ข้อสังเกตไว้ดังนี้
- ก่อนถึง awards season จะมีกระแสจากการทำ campaign ต่างๆของนักสร้างหนังให้เราทำนายกันได้ล่วงหน้าแล้วว่า นี่คือหนังที่จะผู้สร้างหมายมั่นปั้นมือจะให้เข้าชิง Oscar โดยที่รายชื่อผู้เข้าชิงรางวัลแต่ละเวทีจะคล้ายคลึงกัน
- แต่ก็ไม่สามารถฟันธงได้ว่า ผู้ที่ชนะรางวัลใดรางวัลหนึ่งไว้อยู่แล้วจะมีโอกาสสูงกว่าในการคว้า Oscar มาครอง ที่สำคัญ รายชื่อผู้เข้าชิงในแต่ละเวทีก็แตกต่างกัน ดังกรณีของ Kristen Stewart ที่มีกระแสแรงมาหลายเดือนว่า เธอคือตัวเก็งรางวัลOscar สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม แต่เธอกลับไม่ผ่านเข้าชิง SAG Awards จนแฟนหนังออกมาโวยเกลื่อน Twitter ว่าเป็นการตัดสินที่ไม่เป็นธรรม แต่ในที่สุดเธอก็ติดอยู่ในโผรายชื่อนางเอกผู้เข้าชิง Oscar ในขณะที่ชื่อของ Lady Gaga หายไปจาก list ทั้งๆที่เธอได้เข้าชิงทั้ง Golden Globe และ SAG awards
- คำว่าม้ามืดและเหนือความคาดหมายเกิดขึ้นได้เสมอ และต้องยอมรับว่าผลการตัดสินรางวัลคงไม่ตรงใจของผู้ชมที่คอยลุ้นให้นักแสดงคนโปรดเป็นผู้ชนะไปได้หมด นั่นอาจจะเป็นเหตุผลที่อธิบายได้ว่า Glenn Close ยังเป็นนางเอกฝีมือฉกาจฉกรรจ์ที่ไร้รางวัล Oscar แม้ว่าจะเคยเข้าชิงถึง 8 ครั้ง และทำให้แฟนหนังของเธอใจสลาย โดยเฉพาะปี 2019 ที่สื่อพร้อมใจตีข่าวว่า เป็น Oscar Snub ครั้งใหญ่ที่สุด