วัยสี่สิบ กับปัญหาสุขภาพที่เลี่ยงไม่ได้ ต้องไปต่อกับร่างกายที่เสื่อมลงอย่างไร!?!
หลักสี่ รีวิว 34 13
ฮัลโหล หลักสี่รีวิว กลับมาอีกแล้วจ้า วันนี้อยากจะมาแชร์ข้อมูลเชิงสุขภาพ ที่ต้องพบเจอในวัยใกล้สี่สิบ และผ่านจุดวิกฤตนั้นมาได้แล้ว เลยอยากจะมาแชร์เพื่อเป็นประโยชน์ต่อสาวๆยุคใหม่จ้า ดิฉัน ในวัย 38ปี น้ำหนักตัวอยู่ที่ 65กก. จริงๆมันค่อยๆขึ้นมาตั้งแต่อายุ 36แล้วแหละ เพราะว่าใช้ชีวิตกับการกินบุฟเฟ่ต์เพื่อคลายเครียดเป็นหลักเลยก็ว่าได้ ความสุขหนึ่งเดียวในชีวิตตอนนั้นคือการไปกินของอร่อยทุกอาทิตย์ 55555 และเป็นคนไม่ออกกำลังกายเลยจ้าา เรื่องมันจึงเลยเถิดจาก 48กก. ไปถึง 65กก. เมื่อไหร่ก็ไม่สนใจจำ
แต่ชีวิตมันก็สู้เรากลับทุกคน เนื่องจากเป็นคนตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกปี ช่วงปีที่อายุ 38 คุณหมอบอกว่าเรามีภาวะไขมันพอกตับระดับ 1 ซึ่งถ้าไม่เริ่มลด น้ำหนัก และเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน จะเลยเถิดเป็นตับแข็งได้ ยังไงหล่ะทีนี้ วิญญาณกลับเข้าร่างเลย เวรกรรมจะตายมั้ยเนี่ย
คุณหมอบอกว่าใจเย๊นนนน ไม่ตายง่ายๆเท๊อ แต่หนทางหลังจากนี้มันจะยาวไกลมาก และขอให้เริ่มต้นที่ 10กก. ก่อนต้องลดให้ได้ จากนั้นคุณหมอก็แนะนำ และให้พยายามทำตามอย่างเคร่งครัด ดิฉันผู้ซึ่งเป็นคนเชื่อคุณหมอมาก จึงทำตามอย่างตั้งใจ น้ำหนักจึงลดลงมาเรื่อยๆ จนวันนี้ดิฉัน นน. เหลือ 46กก. แล้วค่ะคุณขา
ประเด็นเต้ยมีปัญหาต้องลดแป้งถึงขั้นห้ามกินเด็ดขาดได้จะดีมาก น้ำตาล ครีมเทียม ห้ามกินเลย ของทอดเช่นกัน คุณหมอบอกว่าให้เต้ยกิน 3มื้อปกติ กินข้าวกล้องแค่ตอนกลางวันเท่านั้นครึ่งทัพพี มื้ออื่นๆเป็นโปรตีน50% ผัก50% ของปริมาณอาหาร แล้วคือต้องออกกำลังกายอย่างน้อยอาทิตย์ละ 180นาที ไปคิดเอาเองเลยว่าจะกี่วัน แต่ครั้งนึงห้ามน้อยกว่า 30นาที แต่....ดิช้านนเป็นคนไม่ออกกำลังหนักเพราะมีปัญหาปวดเข่ามาตั้งกะตอนน้ำหนักขึ้นจ้าาาา ดิชั้นจึงทำได้แค่เพียงเดิน30นาที กับโยคะคลายกล้ามเนื้อเท่านั้น
คุณหมอบอกว่าใจเย๊นนนน ไม่ตายง่ายๆเท๊อ แต่หนทางหลังจากนี้มันจะยาวไกลมาก และขอให้เริ่มต้นที่ 10กก. ก่อนต้องลดให้ได้ จากนั้นคุณหมอก็แนะนำ และให้พยายามทำตามอย่างเคร่งครัด ดิฉันผู้ซึ่งเป็นคนเชื่อคุณหมอมาก จึงทำตามอย่างตั้งใจ น้ำหนักจึงลดลงมาเรื่อยๆ จนวันนี้ดิฉัน นน. เหลือ 46กก. แล้วค่ะคุณขา
ประเด็นเต้ยมีปัญหาต้องลดแป้งถึงขั้นห้ามกินเด็ดขาดได้จะดีมาก น้ำตาล ครีมเทียม ห้ามกินเลย ของทอดเช่นกัน คุณหมอบอกว่าให้เต้ยกิน 3มื้อปกติ กินข้าวกล้องแค่ตอนกลางวันเท่านั้นครึ่งทัพพี มื้ออื่นๆเป็นโปรตีน50% ผัก50% ของปริมาณอาหาร แล้วคือต้องออกกำลังกายอย่างน้อยอาทิตย์ละ 180นาที ไปคิดเอาเองเลยว่าจะกี่วัน แต่ครั้งนึงห้ามน้อยกว่า 30นาที แต่....ดิช้านนเป็นคนไม่ออกกำลังหนักเพราะมีปัญหาปวดเข่ามาตั้งกะตอนน้ำหนักขึ้นจ้าาาา ดิชั้นจึงทำได้แค่เพียงเดิน30นาที กับโยคะคลายกล้ามเนื้อเท่านั้น
แต่จุด climax ของเรื่องนี้คือ ดิชั้นกินอาหารครบ 3มื้อไม่เคยขาด แต่ใช้การบริหารแคลลอรี่ โดยดิชั้นกินอาหารแค่วันละ800กิโลแคลจ่ะ เนื่องจากดิชั้นทำงานที่บ้าน ไม่ได้มีการเคลื่อนไหวร่างกายมากมาย เพราะฉะนั้นเพื่อนๆต้องดูการคุมแคลจากการเคลื่อนไหว และเผาผลาญของตัวเองเปนหลักนะคะ
ส่วนใหญ่อาหารที่กิน จะเน้นโปรตีน เพราะการลดน้ำหนักที่ไม่ได้ผล และโยโย่ เป็นเพราะร่างกายได้รับปริมาณโปรตีนไม่เพียงพอจ้า เราเลือกกินโปรตีนที่แคลลอรี่ต่ำ ซึ่งปัจจุบันมีให้เลือกเยอะแยะ อกไก่รสชาติต่างๆมากมายก่ายกอง ผลิตภัณฑ์จากไข่ ก็ครีเอทเมนูได้มากมาย แถมยังมีโปรตีนเชคต่างๆมากมายหลายยี่ห้ออีกแกร๊ ชีวิตมันง่ายขึ้นเยอะ ชั้นทำได้ พวกเทอก็ทำได้ เราต้องเป็นกำลังใจให้กันและกันจ่ะ
มาถึงวันนี้ชั้น นน.ลงมาเป็นปีแล้ว ไม่มีการโยโย่ใดๆ ตอนนี้ชั้นมีวันที่ต้องคุมการกิน และวันที่ปล่อยใจฝันได้เหมือนมนุษย์คนอื่นๆแล้ว หากวันใดเทอท้อแท้ ปรึกษากันได้จ้า วันนี้ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่าน และกดหัวใจ กดติดตามให้กำลังกันนะคะ พวกคุณคือผู้ที่ทำให้คนเขียนมีกำลังใจทำงานต่อไปจ้า วันนี้ลาไปก่อน จนกว่าจะว่าเขียนใหม่จ้าทุกโคนนนน บะบัย